逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ห้ามพวกสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในดงอ้อ ห้ามฝูงกระทิงที่อยู่ท่ามกลางกระทิงน้อยของบรรดาชนชาติ พวกที่ใคร่จะได้เครื่องบรรณาการ ก็ขอให้ถูกทำให้ถ่อมลง และขอให้บรรดาชนชาติที่ชอบการสงครามกระเจิดกระเจิงไป
- 新标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊。 把银块踹在脚下; 神已经赶散好争战的列邦。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ; 上帝已经赶散好战的万民 。
- 和合本2010(神版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ; 神已经赶散好战的万民 。
- 当代译本 - 求你斥责那芦苇中的野兽, 斥责成群的公牛和列邦的牛犊, 使他们俯首献上贡银。 求你驱散好战的列邦。
- 圣经新译本 - 求你斥责芦苇中的野兽、 成群的公牛和万民中的牛犊, 并且把 贪爱银块的人践踏在脚下; 求你赶散那些喜爱战争的民族。
- 中文标准译本 - 求你斥责芦苇中的野兽, 斥责壮牛群以及万民中的牛犊; 把贪爱银块的人践踏在脚下 , 驱散那喜好战斗的民众。
- 现代标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊, 把银块踹在脚下; 神已经赶散好争战的列邦。
- 和合本(拼音版) - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊; 把银块踹在脚下, 上帝已经赶散好争战的列邦。
- New International Version - Rebuke the beast among the reeds, the herd of bulls among the calves of the nations. Humbled, may the beast bring bars of silver. Scatter the nations who delight in war.
- New International Reader's Version - Give a strong warning to Egypt, that beast among the tall grass. It is like a herd of bulls among the calves. May that beast bow down before you with gifts of silver. Scatter the nations who like to make war.
- English Standard Version - Rebuke the beasts that dwell among the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those who lust after tribute; scatter the peoples who delight in war.
- New Living Translation - Rebuke these enemy nations— these wild animals lurking in the reeds, this herd of bulls among the weaker calves. Make them bring bars of silver in humble tribute. Scatter the nations that delight in war.
- Christian Standard Bible - Rebuke the beast in the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those with bars of silver. Scatter the peoples who take pleasure in war.
- New American Standard Bible - Rebuke the animals in the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Trampling the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
- New King James Version - Rebuke the beasts of the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Till everyone submits himself with pieces of silver. Scatter the peoples who delight in war.
- Amplified Bible - Rebuke the beasts [living] among the reeds [in Egypt], The herd of bulls (the leaders) with the calves of the peoples; Trampling underfoot the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
- American Standard Version - Rebuke the wild beast of the reeds, The multitude of the bulls, with the calves of the peoples, Trampling under foot the pieces of silver: He hath scattered the peoples that delight in war.
- King James Version - Rebuke the company of spearmen, the multitude of the bulls, with the calves of the people, till every one submit himself with pieces of silver: scatter thou the people that delight in war.
- New English Translation - Sound your battle cry against the wild beast of the reeds, and the nations that assemble like a herd of calves led by bulls! They humble themselves and offer gold and silver as tribute. God scatters the nations that like to do battle.
- World English Bible - Rebuke the wild animal of the reeds, the multitude of the bulls, with the calves of the peoples. Being humbled, may it bring bars of silver. Scatter the nations that delight in war.
- 新標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和羣公牛, 並列邦中的牛犢。 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ; 上帝已經趕散好戰的萬民 。
- 和合本2010(神版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ; 神已經趕散好戰的萬民 。
- 當代譯本 - 求你斥責那蘆葦中的野獸, 斥責成群的公牛和列邦的牛犢, 使他們俯首獻上貢銀。 求你驅散好戰的列邦。
- 聖經新譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸、 成群的公牛和萬民中的牛犢, 並且把 貪愛銀塊的人踐踏在腳下; 求你趕散那些喜愛戰爭的民族。
- 呂振中譯本 - 求你叱責蘆荻中的野獸、 雄壯的公牛羣、別族之民的領主 ; 將貪婪銀子的踹於腳下 ; 趕散喜好接戰的別族之民 。
- 中文標準譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸, 斥責壯牛群以及萬民中的牛犢; 把貪愛銀塊的人踐踏在腳下 , 驅散那喜好戰鬥的民眾。
- 現代標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和群公牛, 並列邦中的牛犢, 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
- 文理和合譯本 - 其叱葦中之獸、牡牛之羣、民眾之犢、踐其銀於足下、驅散好鬥之民兮、
- 文理委辦譯本 - 好鬥之人、如牛如犢、如葦間之獸、爾制伏之、爾離散之、俾輸金以歸附兮。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 願主叱喝葦叢之野獸、與群牡牛、及似牛犢之異邦人、使之皆攜銀叩伏、喜爭鬥之列國、天主均已擊散、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 以爾駐蹕。於我 瑟琳 。萬王賓貢。莫敢不勤。
- Nueva Versión Internacional - Reprende a esa bestia de los juncos, a esa manada de toros bravos entre naciones que parecen becerros. Haz que, humillada, te lleve barras de plata; dispersa a las naciones belicosas.
- 현대인의 성경 - 갈밭의 들짐승과 같은 이집트를 꾸짖으시고 송아지를 거느린 수소떼와 같은 온 세계 민족을 꾸짖어 그들이 은을 바치며 복종할 때까지 낮추소서. 전쟁을 즐기는 모든 민족을 흩으소서.
- Новый Русский Перевод - Я же угнетен и страдаю. Спасение Твое, Боже, пусть возвысит меня!
- Восточный перевод - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Аллах, пусть возвысит меня!
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
- La Bible du Semeur 2015 - depuis ton sanctuaire ╵qui domine Jérusalem ! Des rois t’y apporteront leurs présents.
- リビングバイブル - ああ神よ、敵をしかりつけ、 進んで税を持って来るようにしてください。 争い事を好む連中を追い散らしてください。
- Nova Versão Internacional - Repreende a fera entre os juncos, a manada de touros entre os bezerros das nações. Humilhados, tragam barras de prata. Espalha as nações que têm prazer na guerra.
- Hoffnung für alle - Dein Tempel ragt hoch über Jerusalem. Dorthin bringen dir Könige ihren Tribut.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Xin quở trách đội quân các nước— là những thú dữ trong lau sậy, và đàn bò rừng giữa bò con của các dân tộc. Xin hạ nhục bọn người dâng bạc. Xin đánh tan các đoàn dân hiếu chiến.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขอทรงลงโทษสัตว์ร้ายในพงอ้อ ขอทรงลงโทษฝูงโคถึกในหมู่ลูกวัวแห่งชนชาติทั้งหลาย ขอทรงกระทำให้พวกเขาสยบและนำเงินแท่งมา ขอทรงกระทำให้ชนชาติต่างๆ ที่ใฝ่สงครามกระจัดกระจายไป
交叉引用
- เยเรมีย์ 51:32 - ที่ข้ามธารน้ำถูกยึดหมด ที่ลุ่มถูกไฟไหม้ และบรรดาทหารตื่นตระหนก”
- เยเรมีย์ 51:33 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ “ธิดาแห่งบาบิโลนเป็นเหมือนลานนวดข้าว ในยามที่ถูกเหยียบย่ำ เวลาเก็บเกี่ยวใกล้จะถึงแล้ว”
- 2 พงศาวดาร 14:1 - อาบียาห์สิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิด อาสาผู้เป็นบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน ในสมัยของท่าน แผ่นดินมีความสงบสุขเป็นเวลา 10 ปี
- 2 พงศาวดาร 14:2 - อาสากระทำสิ่งที่ดีและถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
- 2 พงศาวดาร 14:3 - ท่านกำจัดแท่นบูชาของชนชาติอื่น และสถานบูชาบนภูเขาสูง พังเสาหลัก และฟันเทวรูปอาเชราห์ลง
- 2 พงศาวดาร 14:4 - ท่านสั่งให้ชาวยูดาห์แสวงหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และให้รักษากฎบัญญัติและพระบัญญัติของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 14:5 - ท่านกำจัดสถานบูชาบนภูเขาสูงและแท่นสำหรับเครื่องหอมออกไปจากเมืองของยูดาห์ทุกเมือง และอาณาจักรมีความสงบสุขภายใต้การปกครองของท่าน
- 2 พงศาวดาร 14:6 - ท่านสร้างเมืองต่างๆ ที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งในยูดาห์ ในขณะที่แผ่นดินได้หยุดพัก ท่านไม่ต้องทำศึกสงครามในระหว่างนั้น เพราะพระผู้เป็นเจ้าให้ท่านได้รับความสงบ
- 2 พงศาวดาร 14:7 - ท่านกล่าวกับยูดาห์ว่า “เรามาสร้างเมืองเหล่านี้กันเถิด ให้เป็นเมืองที่มีกำแพงและหอคอย ประตูกับดาลประตู แผ่นดินยังเป็นของพวกเรา เพราะเราได้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา เราได้แสวงหาพระองค์ และพระองค์ได้ให้พวกเรามีความสงบรอบด้าน” พวกเขาจึงสร้างและประสบความเจริญรุ่งเรือง
- 2 พงศาวดาร 14:8 - อาสามีทหารจำนวน 300,000 คน จากพงศ์พันธุ์ยูดาห์ซึ่งมีโล่และหอกขนาดใหญ่อย่างพรั่งพร้อม และมีชาย 280,000 คนจากพงศ์พันธุ์ของเบนยามินซึ่งมีโล่และธนู ชายเหล่านี้เป็นนักรบผู้เก่งกล้า
- 2 พงศาวดาร 14:9 - เศรัคชาวคูชออกมาต่อสู้กับพวกเขาด้วยทหารจำนวน 1,000,000 คน กับรถศึก 300 คัน และมาจนถึงเมืองมาเรชาห์
- 2 พงศาวดาร 14:10 - อาสาออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขา โดยตั้งแนวรบในหุบเขาเศฟาธาห์ที่มาเรชาห์
- 2 พงศาวดาร 14:11 - อาสาร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ที่จะช่วยผู้อ่อนกำลังให้ต่อสู้กับผู้มีอำนาจมาก โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา โปรดช่วยพวกเราด้วย เราวางใจในพระองค์ เรามาต่อสู้คนจำนวนมหาศาลในพระนามของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าของพวกเรา อย่าปล่อยให้มนุษย์ชนะพระองค์เลย”
- 2 พงศาวดาร 14:12 - ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าทำให้ชาวคูชพ่ายแพ้ต่อหน้าอาสาและยูดาห์ และชาวคูชหนีเตลิดไป
- 2 พงศาวดาร 14:13 - อาสาและคนที่อยู่กับท่านจึงไล่ตามพวกเขาไปจนถึงเมืองเก-ราร์ และชาวคูชล้มตายกันจนหมด เพราะพวกเขาถูกปราบอย่างราบคาบ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าและกองทัพของพระองค์ คนของยูดาห์ขนของที่ริบมาได้มากมาย
- 2 พงศาวดาร 14:14 - และพวกเขาโจมตีเมืองต่างๆ ที่อยู่รอบเมืองเก-ราร์ ชาวเมืองต่างเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พวกของอาสาริบสิ่งของจากเมืองทุกเมืองได้มากมาย
- 2 พงศาวดาร 14:15 - นอกจากนั้นก็ยังได้โค่นกระโจมของคนเลี้ยงสัตว์ และต้อนแพะแกะและอูฐไปได้เป็นจำนวนมาก แล้วจึงกลับไปยังเยรูซาเล็ม
- โยบ 40:21 - มันนอนอยู่ใต้ต้นไม้หนาม ที่ใต้ดงอ้อและในหนองน้ำ
- สดุดี 120:7 - ข้าพเจ้าเป็นฝ่ายสันติตามที่ข้าพเจ้าพูด แต่พวกเขาเป็นฝ่ายสงคราม
- สดุดี 18:44 - ทันทีที่พวกเขาได้ยินข้าพเจ้า เขาก็เชื่อฟัง ชนต่างชาติยอมสยบต่อหน้าข้าพเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:1 - ต่อมาหลังจากนั้น ชาวโมอับ ชาวอัมโมน และชาวเมอูนบางคนยกทัพมาโจมตีเยโฮชาฟัท
- 2 พงศาวดาร 20:2 - มีคนมารายงานเยโฮชาฟัทว่า “มีกองทัพใหญ่จากเอโดมจะเข้าโจมตีท่าน เขามาจากอีกฟากของทะเล ดูเถิด พวกเขาอยู่ในฮาซาโซนทามาร์” (คือ เอนเกดี)
- 2 พงศาวดาร 20:3 - เยโฮชาฟัทก็ตกใจกลัวมาก และหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า ประกาศให้คนทั่วทั้งยูดาห์อดอาหาร
- 2 พงศาวดาร 20:4 - และชาวยูดาห์ก็เรียกประชุมเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า พวกเขามาจากทุกเมืองของยูดาห์เพื่อแสวงหาพระผู้เป็นเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:5 - เยโฮชาฟัทยืนอยู่ในที่ประชุมของยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ตรงเบื้องหน้าลานใหม่
- 2 พงศาวดาร 20:6 - และกล่าวว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเรา พระองค์เป็นพระเจ้าของฟ้าสวรรค์มิใช่หรือ พระองค์ปกครองทั่วทุกอาณาจักรของบรรดาประชาชาติ อานุภาพและพลังเป็นของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 20:7 - โอ พระเจ้าของเรา พระองค์ขับไล่ผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินนี้ออกไปต่อหน้าคนของอิสราเอล และมอบให้แก่บรรดาผู้สืบเชื้อสายของอับราฮัมสหายของพระองค์ ตลอดไปมิใช่หรือ
- 2 พงศาวดาร 20:8 - และพวกเขาได้อาศัยอยู่ในนั้น และได้สร้างที่พำนักให้แด่พระองค์ในนั้นเพื่อพระนามของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 20:9 - พวกเขาพูดว่า ‘ถ้าความวิบัติมาถึงพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นดาบแห่งการลงโทษ โรคระบาด หรือทุพภิกขภัย เราจะยืน ณ เบื้องหน้าพระองค์ และที่หน้าพระตำหนักนี้ เพราะพระนามของพระองค์อยู่ในพระตำหนักนี้ และเราส่งเสียงร้องต่อพระองค์เพราะเป็นทุกข์ พระองค์จะได้ยินและจะช่วยให้รอดพ้น’
- 2 พงศาวดาร 20:10 - ดูเถิด เวลานี้พวกอัมโมน พวกโมอับ และพวกภูเขาเสอีร์ ที่พระองค์ไม่ยอมให้อิสราเอลบุกรุกขณะที่ออกจากแผ่นดินอียิปต์ อิสราเอลจึงได้หันกลับออกไปและไม่ได้ทำลายพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 20:11 - ดูเถิด เขาเหล่านั้นตอบกลับพวกเราด้วยการมาขับไล่เราให้ออกไปจากแผ่นดินของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่พวกเราเป็นมรดก
- 2 พงศาวดาร 20:12 - โอ พระเจ้าของเรา พระองค์จะไม่ตัดสินโทษพวกเขาหรือ เพราะพวกเราอ่อนกำลังที่จะปะทะกับกองทัพใหญ่ที่กำลังจะโจมตีพวกเรา พวกเราไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร แต่ก็เห็นว่าพระองค์เท่านั้นเป็นที่พึ่งของเรา”
- 2 พงศาวดาร 20:13 - ยูดาห์ทั้งปวงยืนอยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยภรรยา ลูกๆ และเด็กเล็กๆ ของพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 20:14 - และยาฮาซีเอลชาวเลวีผู้สืบเชื้อสายของอาสาฟเปี่ยมด้วยพระวิญญาณพระผู้เป็นเจ้า ในท่ามกลางที่ประชุม ยาฮาซีเอลเป็นบุตรของเศคาริยาห์ เศคาริยาห์เป็นบุตรของเบไนยาห์ เบไนยาห์เป็นบุตรเยอีเอล เยอีเอลเป็นบุตรของมัทธานิยาห์
- 2 พงศาวดาร 20:15 - เขาพูดว่า “ยูดาห์ทั้งปวง ผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็ม และกษัตริย์เยโฮชาฟัท ขอท่านฟังสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวแก่ท่านดังนี้ ‘อย่ากลัวและอย่าท้อถอยเรื่องกองทัพใหญ่นี้ เพราะว่าสงครามครั้งนี้ไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นของพระเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:16 - จงลงไปต่อสู้กับพวกเขาในวันพรุ่งนี้ ดูเถิด พวกเขาจะขึ้นมาทางข้ามที่เนินเขาศิส เจ้าจะพบกับพวกเขาที่ท้ายหุบเขา ทางทิศตะวันออกของถิ่นทุรกันดารเยรูเอล
- 2 พงศาวดาร 20:17 - เจ้าไม่จำเป็นจะต้องต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ จงมั่นใจได้ เข้าประจำที่ และเจ้าจะเห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยเจ้าให้รอดพ้น โอ ยูดาห์และเยรูซาเล็ม’ อย่ากลัวและอย่าท้อถอยเลย จงออกไปต่อสู้กับพวกเขาในวันพรุ่งนี้ และพระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับท่าน”
- 2 พงศาวดาร 20:18 - ครั้นแล้วเยโฮชาฟัทก็ก้มหน้าลง ยูดาห์ทั้งปวงและผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มก็ก้มตัวลงกราบนมัสการพระผู้เป็นเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:19 - ชาวเลวีที่เป็นชาวโคฮาทและชาวโคราห์ก็ยืนขึ้นและสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลด้วยเสียงอันดัง
- 2 พงศาวดาร 20:20 - เขาเหล่านั้นลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และเข้าไปยังถิ่นทุรกันดารเทโคอา ในขณะที่กำลังไป เยโฮชาฟัทยืนขึ้นพูดว่า “ยูดาห์และผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มจงฟังเรา พวกท่านจงเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน แล้วท่านจะยืนหยัดอยู่ได้ จงเชื่อบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ และท่านจะได้รับความสำเร็จ”
- 2 พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ท่านได้ปรึกษากับประชาชนแล้ว ท่านก็กำหนดบรรดาผู้ที่จะร้องเพลงถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า และสรรเสริญพระองค์ในความบริสุทธิ์ของพระองค์ ขณะที่พวกเขาเดินนำหน้ากองทัพออกไป และร้องว่า “จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล”
- 2 พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ พระผู้เป็นเจ้าก็ให้มีกองดักซุ่มออกมาต่อสู้กับชาวอัมโมน โมอับ และภูเขาเสอีร์ ที่มาบุกรุกยูดาห์ พวกเขาจึงถูกตีพ่ายไป
- 2 พงศาวดาร 20:23 - ชาวอัมโมนและโมอับลุกขึ้นต่อสู้กับผู้อยู่อาศัยของภูเขาเสอีร์ และทำลายพวกเขาจนราบคาบ เมื่อกำจัดผู้อยู่อาศัยของภูเขาเสอีร์เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายกลับหันมาต่อสู้กันเอง
- 2 พงศาวดาร 20:24 - เมื่อยูดาห์มาถึงหอคอยในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาก็มองไปทางกองทัพใหญ่ ดูเถิด มีแต่ร่างคนตายนอนอยู่บนพื้นดิน ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตไปได้
- 2 พงศาวดาร 20:25 - เมื่อเยโฮชาฟัทและประชาชนมาเก็บของที่ริบได้จากการสู้รบ ก็พบสิ่งของมากมาย มีสิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า และของมีค่า เขาแบกขนสิ่งเหล่านี้ไปจนแบกกันไม่ไหวเพราะมีมากเหลือเกิน ต้องใช้เวลาถึง 3 วัน
- 2 พงศาวดาร 20:26 - วันที่สี่เขาทั้งหลายประชุมในหุบเขาเบ-ราคาห์ และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าที่นั่น ดังนั้นสถานที่นั้นจึงชื่อว่า หุบเขาเบ-ราคาห์ มาจนถึงทุกวันนี้
- 2 พงศาวดาร 20:27 - แล้วเยโฮชาฟัทก็นำทุกคนของยูดาห์และเยรูซาเล็มกลับบ้านไปที่เยรูซาเล็มด้วยความยินดี พระผู้เป็นเจ้าทำให้เขาทั้งหลายสุขใจที่ชนะพวกศัตรู
- 2 พงศาวดาร 20:28 - เขาทั้งหลายกลับมายังเยรูซาเล็มด้วยพิณสิบสาย พิณเล็ก และแตรยาว มายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:29 - อาณาจักรของแผ่นดินทั้งปวงจึงเกิดความหวาดกลัวพระเจ้า เมื่อพวกเขาทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ต่อสู้กับพวกศัตรูของอิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 20:30 - ดังนั้นอาณาจักรของเยโฮชาฟัทจึงมีสันติสุข เพราะพระเจ้าของท่านให้ท่านได้หยุดพักจากศึกรอบด้าน
- 2 พงศาวดาร 20:31 - เยโฮชาฟัทปกครองยูดาห์ ท่านมีอายุ 35 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ในเยรูซาเล็ม 25 ปี มารดาของท่านชื่ออาซูบาห์บุตรหญิงของชิลฮิ
- 2 พงศาวดาร 20:32 - ท่านดำเนินชีวิตตามแบบอย่างอาสาบิดาของท่าน ท่านไม่ได้หันเหไปจากนั้น กระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:33 - แต่อย่างไรก็ดี สถานบูชาบนภูเขาสูงยังไม่ถูกกำจัดไป และประชาชนก็ยังไม่มีจิตมุ่งมั่นในพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 20:34 - กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของเยโฮชาฟัทตั้งแต่ต้นจนจบ ก็มีเขียนไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของเยฮูบุตรฮานานี ซึ่งมีบันทึกไว้ในหนังสือของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 20:35 - ต่อมาหลังจากนั้น เยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์สัญญาร่วมกับอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งอิสราเอลผู้ประพฤติชั่ว
- 2 พงศาวดาร 20:36 - เยโฮชาฟัทร่วมกับอาหัสยาห์ในการต่อกองเรือเดินทะเลเพื่อไปยังเมืองทาร์ชิช ท่านทั้งสองใช้เอซีโอนเกเบอร์เป็นสถานที่ต่อเรือ
- 2 พงศาวดาร 20:37 - เอลีเอเซอร์บุตรโดดาวาหุแห่งเมืองมาเรชาห์เผยความต่อต้านเยโฮชาฟัทว่า “เพราะท่านได้ร่วมงานกับอาหัสยาห์ พระผู้เป็นเจ้าจะทำลายสิ่งที่ท่านได้สร้างไว้” แล้วเรือก็แตกและแล่นไปยังเมืองทาร์ชิชไม่ได้
- โรม 7:22 - ด้วยว่าส่วนลึกในใจของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้ายินดีในกฎบัญญัติของพระเจ้า
- อิสยาห์ 37:1 - ทันทีที่กษัตริย์เฮเซคียาห์ได้ยินเรื่องทั้งหมด ท่านก็ฉีกเสื้อของท่าน นุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ และเข้าไปในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
- อิสยาห์ 37:2 - ท่านใช้เอลียาคิมผู้บริหารวัง เชบนาเลขาของกษัตริย์ และบรรดาปุโรหิตอาวุโส ซึ่งต่างก็นุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ ให้ไปหาอิสยาห์บุตรอามอส ผู้เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
- อิสยาห์ 37:3 - พวกเขาบอกท่านว่า “เฮเซคียาห์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแห่งความทุกข์ การถูกลงโทษ และความอับอาย ลูกๆ ถึงกำหนดคลอด แต่ไม่มีแรงเบ่งให้คลอด
- อิสยาห์ 37:4 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอาจจะได้ยินทุกถ้อยคำที่กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเจ้านายของผู้บังคับกองพัน ใช้เขาให้มาพูดดูหมิ่นพระเจ้าผู้ดำรงชีวิตอยู่ และพระองค์จะลงโทษเขาในสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้ยิน ฉะนั้น ขอท่านอธิษฐานเพื่อคนที่มีชีวิตเหลืออยู่”
- อิสยาห์ 37:5 - เมื่อบรรดาผู้ปฏิบัติงานของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาหาอิสยาห์
- อิสยาห์ 37:6 - อิสยาห์ตอบพวกเขาว่า “จงบอกเจ้านายของท่านว่า ‘พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “อย่าให้สิ่งที่คนของกษัตริย์แห่งอัสซีเรียพูดหมิ่นประมาทเรา ซึ่งเจ้าได้ยินนั้นเป็นเหตุทำให้เจ้ากลัว
- อิสยาห์ 37:7 - ดูเถิด เราจะดลใจเขา จะทำให้เขาได้ยินข่าวลือ และกลับไปยังแผ่นดินของเขา และเราจะทำให้เขาล้มลงด้วยคมดาบในแผ่นดินของเขาเอง”’”
- อิสยาห์ 37:8 - ผู้บังคับกองพันกลับไปยังลาคีช และก็พบว่ากษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้ออกจากลาคีชแล้ว และกำลังต่อสู้กับลิบนาห์
- อิสยาห์ 37:9 - เมื่อกษัตริย์ทราบเรื่องทีร์หคาห์กษัตริย์แห่งคูชที่พูดว่า “เขาได้ยกทัพมาโจมตีท่าน” เมื่อท่านได้ยินเช่นนั้น ท่านจึงใช้คนถือสาสน์ไปยังเฮเซคียาห์ว่า
- อิสยาห์ 37:10 - “จงบอกเฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า ‘อย่าให้พระเจ้าที่ท่านไว้วางใจหลอกลวงท่านด้วยคำสัญญาที่ว่า เยรูซาเล็มจะไม่ตกอยู่ในมือของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย
- อิสยาห์ 37:11 - ดูเถิด ท่านได้ยินแล้วว่า บรรดากษัตริย์แห่งอัสซีเรียกระทำสิ่งใดบ้างต่อแผ่นดินทั้งปวง และพวกเขาถูกกำหนดให้พินาศ แล้วท่านจะได้รับความช่วยเหลือให้รอดหรือ
- อิสยาห์ 37:12 - ปวงเทพเจ้าของบรรดาประชาชาติเช่น เมืองโกซาน ฮาราน เรเซฟ และชาวเอเดนที่อยู่ในเทลอัสสาร์ ซึ่งบรรพบุรุษของเราทำให้พินาศไปแล้วนั้น ช่วยพวกเขาให้รอดแล้วหรือ
- อิสยาห์ 37:13 - กษัตริย์แห่งฮามัท กษัตริย์แห่งอาร์ปัด กษัตริย์แห่งเสฟาร์วาอิม กษัตริย์แห่งเฮนา และกษัตริย์แห่งอิฟวาห์ อยู่ไหนล่ะ’”
- อิสยาห์ 37:14 - เฮเซคียาห์ได้รับจดหมายจากมือของผู้ถือสาสน์ แล้วก็อ่านข้อความ เฮเซคียาห์ขึ้นไปยังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และคลี่จดหมายออกที่เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
- อิสยาห์ 37:15 - และเฮเซคียาห์อธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าดังนี้
- อิสยาห์ 37:16 - “โอ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอล ผู้สถิตบนบัลลังก์เหนือตัวเครูบ พระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวของอาณาจักรทั้งปวงในโลก พระองค์ได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
- อิสยาห์ 37:17 - โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์เงี่ยหูฟัง โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์มองดู และฟังสิ่งที่เซนนาเคอริบใช้ให้มาพูดเพื่อดูหมิ่นพระเจ้าผู้ดำรงชีวิตอยู่
- อิสยาห์ 37:18 - โอ พระผู้เป็นเจ้า เป็นความจริงที่บรรดากษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้ทำลายชนชาติทั้งปวงและแผ่นดินของพวกเขา
- อิสยาห์ 37:19 - และได้เผาเทวรูปของพวกเขา เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เทพเจ้า แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทำขึ้นด้วยไม้และหิน ฉะนั้นจึงถูกทำลายเสีย
- อิสยาห์ 37:20 - บัดนี้ โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ช่วยพวกเราให้รอดจากเงื้อมมือของเขาเถิด โอ พระผู้เป็นเจ้า เพื่ออาณาจักรทั้งปวงในโลกจะทราบว่า พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
- อิสยาห์ 37:21 - อิสยาห์บุตรอามอสจึงส่งสาสน์ไปถึงเฮเซคียาห์ว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้คือ เพราะเจ้าได้อธิษฐานต่อเราเรื่องเซนนาเคอริบกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย
- อิสยาห์ 37:22 - พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวเกี่ยวกับเขาว่า ‘ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนดูถูกเจ้า และเหยียดหยามเจ้า ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม สั่นศีรษะอยู่ข้างหลังเจ้า
- อิสยาห์ 37:23 - เจ้าเหยียดหยามและพูดหมิ่นประมาทผู้ใด เจ้าขึ้นเสียง และใช้สายตา ที่เย่อหยิ่งคัดค้านผู้ใด ต่อองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลน่ะสิ
- อิสยาห์ 37:24 - เจ้าได้ดูหมิ่นพระผู้เป็นเจ้าด้วยผู้ถือสาสน์ของเจ้า และเจ้าพูดดังนี้ เราได้ขึ้นไปบนภูเขาสูงสุดด้วยรถศึกมากมาย ไปยังที่ห่างไกลแห่งเลบานอน เราโค่นต้นซีดาร์ที่สูงสุด และต้นสนที่งามสุด เราเข้าถึงจุดสูงสุดที่อยู่ห่างไกล เราเข้าถึงป่าไม้อันอุดมที่สุด
- อิสยาห์ 37:25 - เราขุดบ่อและดื่มน้ำ เราเหยียบธารน้ำทั้งหมดของอียิปต์ ซึ่งเราทำให้แห้งลงได้
- อิสยาห์ 37:26 - เจ้าไม่รู้เลยหรือว่า เรามุ่งหมายเรื่องนี้มานานแล้ว เราวางแผนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ สิ่งใดที่เป็นไปในเวลานี้ก็เนื่องมาจากเรา เจ้าทำให้เมืองที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง ต้องล้มลงเป็นกองซากปรักหักพัง
- อิสยาห์ 37:27 - ผู้อยู่อาศัยของเมืองหมดกำลัง หวั่นกลัวและอับอาย กลายเป็นเหมือนพืชในทุ่งนา และเหมือนหญ้าอ่อน เหมือนหญ้าบนหลังคา ซึ่งถูกเผาก่อนที่จะงอกโตขึ้น
- อิสยาห์ 37:28 - แต่เรารู้เวลาที่เจ้านั่งลง เวลาที่เจ้าไปไหนมาไหน และเวลาที่เจ้าเกรี้ยวกราดต่อเรา
- อิสยาห์ 37:29 - เพราะเจ้าได้เกรี้ยวกราดต่อเรา และเราได้ยินถึงการสบประมาทของเจ้า เราจะใช้เบ็ดคล้องจมูกเจ้า และใส่เหล็กขวางปากเจ้า และเราจะให้เจ้าหันกลับไปทางที่เจ้ามา’
- อิสยาห์ 37:30 - และหมายสำคัญสำหรับเจ้าก็คือ ปีนี้เจ้าจะกินสิ่งที่งอกขึ้นเอง ปีที่สองก็จะเป็นสิ่งที่งอกเหมือนเดิม ปีที่สาม เจ้าจงหว่านและเก็บเกี่ยว ปลูกสวนองุ่น และกินผลของมัน
- อิสยาห์ 37:31 - และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ที่รอดชีวิตและยังเหลืออยู่ ก็จะเจาะรากลึกลงไป และออกผลขึ้นมา
- อิสยาห์ 37:32 - ด้วยว่า บรรดาผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่จะออกไปจากเยรูซาเล็ม นั่นก็คือ กลุ่มที่รอดชีวิตจะออกไปจากภูเขาศิโยน ความรักอันแรงกล้าของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะกระทำการนี้
- อิสยาห์ 37:33 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวถึงกษัตริย์แห่งอัสซีเรียดังนี้คือ เขาจะไม่เข้ามาในเมืองนี้ หรือยิงลูกธนูเข้าไปในนั้น หรือถือโล่มาประจัญเมือง หรือก่อเชิงเทินประชิดเมือง
- อิสยาห์ 37:34 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เขามาจากทางใด เขาก็จะกลับออกไปทางนั้น และเขาจะไม่เข้ามาในเมืองนี้
- อิสยาห์ 37:35 - เพราะว่าเราจะปกป้องเมืองนี้ให้รอดปลอดภัยเพื่อนามของเรา และเพื่อดาวิดผู้รับใช้ของเรา”
- อิสยาห์ 37:36 - ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าไปที่ค่ายของชาวอัสซีเรีย และสังหารทหาร 185,000 คน และเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นประชาชนก็พบว่า ทหารเหล่านั้นเป็นศพไปหมดแล้ว
- อิสยาห์ 37:37 - แล้วเซนนาเคอริบกษัตริย์แห่งอัสซีเรียก็ยกทัพกลับบ้านไป และอาศัยอยู่ที่นีนะเวห์
- อิสยาห์ 37:38 - วันหนึ่งเมื่อท่านกำลังนมัสการอยู่ในวิหารของนิสโรคเทพเจ้าของท่าน อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์บุตรของท่านใช้ดาบฆ่าท่าน แล้วหนีเข้าไปในแผ่นดินอารารัต และเอสาร์ฮัดโดนบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน
- อิสยาห์ 34:7 - กระทิงป่าจะล้มลงพร้อมกับพวกมัน และโคหนุ่มพร้อมกับบรรดาผู้ที่แข็งแรง แผ่นดินของพวกเขาจะดื่มเลือดจนอิ่ม และผืนดินของเขาจะเกลื่อนกลาดไปด้วยไขมัน
- ยากอบ 4:1 - อะไรเป็นเหตุให้พวกท่านสู้รบและทะเลาะวิวาทกัน เหตุนั้นไม่ได้มาจากความต้องการอันเร่าร้อนในตัวท่านหรือ
- 2 ซามูเอล 8:1 - หลังจากนั้น ดาวิดสู้รบชนะชาวฟีลิสเตีย และปราบพวกเขาไว้ได้ และดาวิดยึดเมืองเมเธกฮัมมาห์ได้จากมือชาวฟีลิสเตีย
- 2 ซามูเอล 8:2 - ท่านสู้รบชนะชาวโมอับ ท่านสั่งให้พวกเขานอนราบลงกับพื้นเป็นสามแถว ฆ่าเสียสองแถว และไว้ชีวิตเต็มหนึ่งแถว ชาวโมอับจึงมาเป็นข้ารับใช้ดาวิดและนำเครื่องบรรณาการมาถวาย
- 2 ซามูเอล 8:3 - ดาวิดสู้รบชนะฮาดัดเอเซอร์บุตรของเรโหบกษัตริย์แห่งโศบาห์ เมื่อคราวไปฟื้นอำนาจของท่านที่แม่น้ำยูเฟรติส
- 2 ซามูเอล 8:4 - และดาวิดยึดสารถี 1,700 คน และทหารราบ 20,000 คน และดาวิดทำให้ม้าประจำรถศึกของพวกเขาพิการหมด เพียงแต่เหลือไว้สำหรับรถศึก 100 คัน
- 2 ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัม แห่งอาณาเขตดามัสกัสมาช่วยฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์แห่งโศบาห์ ดาวิดฆ่าชายชาวอารัมจำนวน 22,000 คน
- 2 ซามูเอล 8:6 - แล้วดาวิดตั้งด่านทหารชั้นนอกที่อาณาจักรอารัมแห่งอาณาเขตดามัสกัสไว้หลายด่าน และชาวอารัมมาเป็นข้ารับใช้ดาวิด และนำเครื่องบรรณาการมาถวาย และไม่ว่าดาวิดไปรบที่ใด พระผู้เป็นเจ้าก็ให้ท่านมีชัยชนะเสมอ
- 2 ซามูเอล 8:7 - ดาวิดยึดโล่ทองคำที่บรรดาผู้รับใช้ของฮาดัดเอเซอร์ถือ และนำไปที่เมืองเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดเอาทองสัมฤทธิ์เป็นอันมากไปจากเมืองเบทาห์และเมืองเบโรธัย เมืองของฮาดัดเอเซอร์
- 2 ซามูเอล 8:9 - เมื่อโทอิกษัตริย์แห่งฮามัททราบว่า ดาวิดรบชนะกองทัพของฮาดัดเอเซอร์ทั้งกองทัพ
- 2 ซามูเอล 8:10 - โทอิจึงให้โยรัมบุตรของตนไปหากษัตริย์ดาวิด เพื่อถามถึงพลานามัย และเพื่ออวยพรท่าน เพราะท่านได้สู้รบกับฮาดัดเอเซอร์ และได้ชัยชนะ เนื่องจากฮาดัดเอเซอร์เคยทำสงครามกับโทอิเสมอมา และโยรัมก็ได้นำเครื่องเงิน เครื่องทองคำและทองสัมฤทธิ์ไปด้วย
- 2 ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดถวายสิ่งเหล่านี้แด่พระผู้เป็นเจ้าด้วย พร้อมทั้งเงินและทองคำที่ท่านได้มาจากประชาชาติทั้งปวงที่ท่านไปปราบ และนำมาถวาย
- 2 ซามูเอล 8:12 - จากเอโดม โมอับ ชาวอัมโมน ชาวฟีลิสเตีย อามาเลข และสิ่งที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์บุตรของเรโหบกษัตริย์แห่งโศบาห์
- 2 ซามูเอล 8:13 - ชื่อเสียงของดาวิดเลื่องลือหลังจากที่ท่านได้ฆ่าชาวเอโดมจำนวน 18,000 คนที่หุบเขาเกลือ
- 2 ซามูเอล 8:14 - และท่านก็ได้สร้างด่านทหารชั้นนอกหลายด่านในเอโดม และชาวเอโดมทั้งหมดมาเป็นข้ารับใช้ของดาวิด และพระผู้เป็นเจ้าให้ดาวิดมีชัยชนะไม่ว่าท่านจะไปรบที่ใด
- 2 ซามูเอล 8:15 - ดาวิดครองราชย์ทั่วทั้งอิสราเอล และท่านปกครองประชาชนของท่านด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม
- 2 ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ควบคุมกองทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นผู้บันทึกสาสน์
- 2 ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบ และอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรยาห์เป็นเลขา
- 2 ซามูเอล 8:18 - และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาควบคุมชาวเคเรธและชาวเปเลท และบรรดาบุตรของดาวิดเป็นปุโรหิต
- 2 ซามูเอล 10:1 - หลังจากนั้น กษัตริย์ของชาวอัมโมนก็สิ้นชีวิต และฮานูนบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน
- 2 ซามูเอล 10:2 - ดาวิดกล่าวว่า “เราจะกระทำต่อฮานูนบุตรของนาหาชด้วยความเมตตา เช่นเดียวกับที่บิดาของท่านได้กระทำต่อเรา” ดังนั้น ดาวิดจึงให้บรรดาผู้รับใช้ของท่านไปแสดงความเสียใจต่อฮานูนเรื่องบิดา และผู้รับใช้ของดาวิดจึงมายังดินแดนของชาวอัมโมน
- 2 ซามูเอล 10:3 - แต่บรรดาเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ของชาวอัมโมนพูดกับฮานูนเจ้านายของตนว่า “ท่านคิดหรือว่า ที่ดาวิดให้คนมาแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อท่านนั้น เป็นการให้เกียรติบิดาของท่าน พวกผู้รับใช้ของดาวิดมาเพื่อสำรวจดูเมืองและสอดแนม เพื่อจะล้มล้างเมืองมิใช่หรือ”
- 2 ซามูเอล 10:4 - ดังนั้นฮานูนจึงให้คนโกนเคราพวกทหารรับใช้ของดาวิดแต่ละคนออกเพียงครึ่งหนึ่ง และตัดเครื่องแต่งกายที่ตรงกลางจากสะโพกลงมา และส่งพวกเขากลับไป
- 2 ซามูเอล 10:5 - เมื่อมีคนรายงานเรื่องแก่ดาวิด ท่านก็ให้คนไปพบกับพวกเขา เพราะชายเหล่านั้นอับอายมาก กษัตริย์กล่าวว่า “จงพักอยู่ที่เยรีโค จนกว่าเคราของพวกเจ้าจะขึ้นแล้วจึงกลับมา”
- 2 ซามูเอล 10:6 - เมื่อชาวอัมโมนเห็นว่าพวกเขาได้กลับกลายเป็นที่น่ารังเกียจของดาวิด ชาวอัมโมนจึงไปว่าจ้างชาวอารัมจากเมืองเบธเรโหบ และชาวอารัมจากเมืองโศบาห์ เป็นทหารราบ 20,000 คน และกษัตริย์แห่งมาอาคาห์กับผู้ชาย 1,000 คน และผู้ชายจากเมืองโทบ 12,000 คน
- 2 ซามูเอล 10:7 - เมื่อดาวิดทราบเช่นนั้น ท่านจึงบัญชาให้โยอาบและทหารกล้าจากกองทัพทั้งหมดยกทัพไป
- 2 ซามูเอล 10:8 - ฝ่ายชาวอัมโมนก็เดินทัพออกมาประจำตำแหน่งรบของตนที่ทางเข้าประตูเมือง ส่วนชาวอารัมจากโศบาห์และเรโหบ และคนของโทบและมาอาคาห์ก็แยกไปตั้งทัพอยู่ในที่โล่งห่างจากตัวเมือง
- 2 ซามูเอล 10:9 - เมื่อโยอาบเห็นว่าสงครามครั้งนี้เขาถูกขนาบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เขาจึงเลือกนักรบที่ดีที่สุดของอิสราเอลจำนวนหนึ่ง และจัดทัพให้ต่อสู้กับชาวอารัม
- 2 ซามูเอล 10:10 - นักรบที่เหลือก็จัดให้อยู่ในบังคับของอาบีชัยน้องชายของตน เขาก็ให้ทหารตั้งทัพสู้กับชาวอัมโมน
- 2 ซามูเอล 10:11 - เขาพูดว่า “ถ้าหากว่าชาวอารัมมีกำลังแข็งแกร่งเกินเรา ท่านจะได้ช่วยเราได้ แต่ถ้าชาวอัมโมนแข็งแกร่งเกินท่าน เราก็จะมาช่วยท่าน
- 2 ซามูเอล 10:12 - จงกล้าหาญเถิด และพวกเราควรจะกล้าหาญเพื่อคนของพวกเราและเพื่อเมืองทั้งหลายของพระเจ้าของเรา และขอพระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งที่พระองค์เห็นสมควร”
- 2 ซามูเอล 10:13 - ดังนั้นโยอาบและคนที่อยู่กับเขาขยับเข้าใกล้ประจัญศึกกับชาวอารัม และชาวอารัมก็ถอยหนีไปต่อหน้าต่อตาเขา
- 2 ซามูเอล 10:14 - ครั้นชาวอัมโมนเห็นว่าชาวอารัมหนีไป พวกเขาจึงถอยหนีไปต่อหน้าอาบีชัยเช่นกัน และเข้าไปในเมือง แล้วโยอาบก็กลับจากการสู้รบกับชาวอัมโมน และมายังเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 10:15 - เมื่อชาวอารัมเห็นว่าพวกตนพ่ายแพ้อิสราเอลแล้ว จึงได้รวบรวมคนเข้าด้วยกัน
- 2 ซามูเอล 10:16 - ฮาดัดเอเซอร์ให้ชาวอารัมที่อยู่โพ้นแม่น้ำยูเฟรติสออกมา พวกเขามาถึงเมืองเฮลาม โดยมีโชบัคผู้บังคับกองพันทหารของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้นำ
- 2 ซามูเอล 10:17 - เมื่อมีคนรายงานเรื่องแก่ดาวิด ท่านก็รวบรวมอิสราเอลเข้าด้วยกัน และข้ามแม่น้ำจอร์แดน มาจนถึงเฮลาม ชาวอารัมตั้งทัพของตนปะทะกับดาวิด และพวกเขาก็สู้รบกับท่าน
- 2 ซามูเอล 10:18 - และชาวอารัมก็ถอยหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดฆ่าสารถีชาวอารัม 700 คน และทหารราบ 40,000 คน และโชบัคผู้บังคับกองพันทหารบาดเจ็บสาหัสและสิ้นชีวิตที่นั่น
- 2 ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ทั้งปวงที่ขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์เห็นว่าตนพ่ายแพ้อิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงยอมสงบศึกกับอิสราเอล และขึ้นกับพวกเขา ดังนั้นชาวอารัมจึงไม่กล้าช่วยเหลือชาวอัมโมนอีกต่อไป
- เยเรมีย์ 50:11 - “โอ พวกเจ้าปล้นสิ่งที่เป็นของชนชาติเรา แม้เจ้าร่าเริงใจ แม้เจ้ายินดี แม้เจ้าร่าเริงดั่งโคสาวในทุ่งหญ้า และทำเสียงร้องเหมือนม้าตัวผู้สำหรับทำพันธุ์
- เอเสเคียล 29:3 - จงพูดกับพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ ‘ดูเถิด เราจะขัดขวางเจ้า ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ มังกรใหญ่ที่นอนอยู่ในท่ามกลาง แม่น้ำหลายสาย เจ้าพูดดังนี้ว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของเรา เราสร้างมันขึ้นมาเอง”
- สดุดี 89:10 - พระองค์ปราบราหับ จนราบคาบอย่างซากศพ พระองค์ทำให้พวกศัตรูกระเจิดกระเจิงด้วยอานุภาพของพระองค์
- สดุดี 22:12 - มีศัตรูประดุจโคหนุ่มจำนวนมากล้อมอยู่รอบกายข้าพเจ้า โคหนุ่มของบาชาน พวกนี้มีกำลังมหาศาลตีวงเข้าล้อมข้าพเจ้า
- สดุดี 22:13 - พวกมันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพเจ้าประดุจสิงโตคำราม และเขมือบอย่างตะกละตะกราม
- สดุดี 2:12 - จงจูบแสดงความนอบน้อมต่อพระบุตร มิฉะนั้น พระองค์จะกริ้ว และเจ้าจะตายเสียกลางถนน เพราะว่าความกริ้วของพระองค์ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว คนมีความสุขคือทุกคนที่แสวงหาพระองค์เป็นที่พึ่ง