逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระเยซูทรงตอบว่า “ถูกแล้ว เอลียาห์มาก่อนจริงๆ และทำให้ทุกอย่างคืนสู่สภาพเดิม แล้วเหตุใดจึงมีเขียนไว้ว่าบุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์แสนสาหัสและถูกปฏิเสธ?
- 新标点和合本 - 耶稣说:“以利亚固然先来复兴万事;经上不是指着人子说,他要受许多的苦被人轻慢呢?
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣说:“以利亚的确先来复兴万事。经上不是指着人子说,他要受许多的苦和被人轻慢吗?
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣说:“以利亚的确先来复兴万事。经上不是指着人子说,他要受许多的苦和被人轻慢吗?
- 当代译本 - 耶稣回答说:“以利亚固然要先来复兴一切,但为什么圣经上说人子一定会饱受痛苦、遭人蔑视呢?
- 圣经新译本 - 耶稣说:“以利亚固然要先来复兴一切,但圣经为什么又记载人子要受许多苦,被人藐视呢?
- 中文标准译本 - 耶稣告诉他们:“以利亚确实要先来恢复万事。至于人子,经上怎么还记载说,他必然受很多苦害,并且被人拒绝呢?
- 现代标点和合本 - 耶稣说:“以利亚固然先来复兴万事。经上不是指着人子说,他要受许多的苦、被人轻慢呢?
- 和合本(拼音版) - 耶稣说:“以利亚固然先来复兴万事。经上不是指着人子说:他要受许多的苦,被人轻慢呢?
- New International Version - Jesus replied, “To be sure, Elijah does come first, and restores all things. Why then is it written that the Son of Man must suffer much and be rejected?
- New International Reader's Version - Jesus replied, “That’s right. Elijah does come first. He makes all things new again. So why is it written that the Son of Man must suffer much and not be accepted?
- English Standard Version - And he said to them, “Elijah does come first to restore all things. And how is it written of the Son of Man that he should suffer many things and be treated with contempt?
- New Living Translation - Jesus responded, “Elijah is indeed coming first to get everything ready. Yet why do the Scriptures say that the Son of Man must suffer greatly and be treated with utter contempt?
- The Message - Jesus replied, “Elijah does come first and get everything ready for the coming of the Son of Man. They treated this Elijah like dirt, much like they will treat the Son of Man, who will, according to Scripture, suffer terribly and be kicked around contemptibly.”
- Christian Standard Bible - “Elijah does come first and restores all things,” he replied. “Why then is it written that the Son of Man must suffer many things and be treated with contempt?
- New American Standard Bible - And He said to them, “Elijah does come first and he restores all things. And yet how is it written of the Son of Man that He will suffer many things and be treated with contempt?
- New King James Version - Then He answered and told them, “Indeed, Elijah is coming first and restores all things. And how is it written concerning the Son of Man, that He must suffer many things and be treated with contempt?
- Amplified Bible - He answered them, “Elijah does come first and restores and reestablishes all things. And yet how is it written of the Son of Man that He will suffer many things [grief and physical distress] and be treated with contempt [utterly despised and rejected]?
- American Standard Version - And he said unto them, Elijah indeed cometh first, and restoreth all things: and how is it written of the Son of man, that he should suffer many things and be set at nought?
- King James Version - And he answered and told them, Elias verily cometh first, and restoreth all things; and how it is written of the Son of man, that he must suffer many things, and be set at nought.
- New English Translation - He said to them, “Elijah does indeed come first, and restores all things. And why is it written that the Son of Man must suffer many things and be despised?
- World English Bible - He said to them, “Elijah indeed comes first, and restores all things. How is it written about the Son of Man, that he should suffer many things and be despised?
- 新標點和合本 - 耶穌說:「以利亞固然先來復興萬事;經上不是指着人子說,他要受許多的苦被人輕慢呢?
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌說:「以利亞的確先來復興萬事。經上不是指着人子說,他要受許多的苦和被人輕慢嗎?
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌說:「以利亞的確先來復興萬事。經上不是指着人子說,他要受許多的苦和被人輕慢嗎?
- 當代譯本 - 耶穌回答說:「以利亞固然要先來復興一切,但為什麼聖經上說人子一定會飽受痛苦、遭人蔑視呢?
- 聖經新譯本 - 耶穌說:“以利亞固然要先來復興一切,但聖經為甚麼又記載人子要受許多苦,被人藐視呢?
- 呂振中譯本 - 耶穌對他們說:『「 以利亞 先來、復興萬事!」那麼那指着人子、說他該受許多苦、並被藐視、是怎麼記載的呢?
- 中文標準譯本 - 耶穌告訴他們:「以利亞確實要先來恢復萬事。至於人子,經上怎麼還記載說,他必然受很多苦害,並且被人拒絕呢?
- 現代標點和合本 - 耶穌說:「以利亞固然先來復興萬事。經上不是指著人子說,他要受許多的苦、被人輕慢呢?
- 文理和合譯本 - 耶穌曰、以利亞果先至、興復諸事、但記云、人子必經諸苦、為人所忽、何耶、
- 文理委辦譯本 - 曰、以利亞先至、振興諸事、而人子必備受害、為人所忽、記已言之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌謂之曰、 以利亞 必先至、振興諸事、而經指人子何所載、蓋載人子必多受苦、為人所侮、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 答曰:『 伊理靄 固需先來振興萬事、然經不亦言人子應如何備嘗苦辱乎?
- Nueva Versión Internacional - —Sin duda Elías ha de venir primero para restaurar todas las cosas —respondió Jesús—. Pero, entonces, ¿cómo es que está escrito que el Hijo del hombre tiene que sufrir mucho y ser rechazado?
- 현대인의 성경 - 그래서 예수님은 이렇게 대답하셨다. “엘리야가 먼저 와서 모든 것을 회복한다는 말은 사실이다. 그런데 왜 성경에는 그리스도가 많은 고난과 멸시를 당할 것이라고 쓰여 있느냐?
- Новый Русский Перевод - – Верно, – ответил Иисус, – Илия действительно должен прийти первым и все приготовить . Но почему же о Сыне Человеческом в Писании говорится, что Ему придется перенести много страданий и унижений?
- Восточный перевод - – Верно, – ответил Иса, – Ильяс действительно должен прийти первым и всё приготовить . Но почему же о Ниспосланном как Человек в Писании говорится, что Ему придётся перенести много страданий и унижений?
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - – Верно, – ответил Иса, – Ильяс действительно должен прийти первым и всё приготовить . Но почему же о Ниспосланном как Человек в Писании говорится, что Ему придётся перенести много страданий и унижений?
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - – Верно, – ответил Исо, – Ильёс действительно должен прийти первым и всё приготовить . Но почему же о Ниспосланном как Человек в Писании говорится, что Ему придётся перенести много страданий и унижений?
- La Bible du Semeur 2015 - – Oui, leur dit-il, Elie vient d’abord pour remettre toutes choses en ordrea. Pourquoi l’Ecriture annonce-t-elle aussi que le Fils de l’homme souffrira beaucoup et sera traité avec mépris ?
- リビングバイブル - イエスは、「まずエリヤが来て道を整えるというのはほんとうです。実際、エリヤはもう来たのです」とお答えになりました。そして、エリヤが預言どおり、人々からひどい仕打ちを受けたことを説明してから、「では、メシヤが多くの苦しみを受け、さげすまれると預言されていることは、どう考えますか」とお尋ねになりました。
- Nestle Aland 28 - ὁ δὲ ἔφη αὐτοῖς· Ἠλίας μὲν ἐλθὼν πρῶτον ἀποκαθιστάνει πάντα· καὶ πῶς γέγραπται ἐπὶ τὸν υἱὸν τοῦ ἀνθρώπου ἵνα πολλὰ πάθῃ καὶ ἐξουδενηθῇ;
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὁ δὲ ἔφη αὐτοῖς, Ἠλείας μὲν ἐλθὼν πρῶτον ἀποκατιστάνει πάντα; καὶ πῶς γέγραπται ἐπὶ τὸν Υἱὸν τοῦ Ἀνθρώπου, ἵνα πολλὰ πάθῃ καὶ ἐξουδενηθῇ?
- Nova Versão Internacional - Jesus respondeu: “De fato, Elias vem primeiro e restaura todas as coisas. Então, por que está escrito que é necessário que o Filho do homem sofra muito e seja rejeitado com desprezo?
- Hoffnung für alle - Jesus antwortete ihnen: »Sie haben recht! Zuerst kommt Elia, um alles vorzubereiten. Und doch heißt es in der Heiligen Schrift über den Menschensohn, dass er viel leiden muss und von allen verachtet wird.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Giê-xu đáp: “Đúng! Ê-li đến trước để chuẩn bị mọi việc. Thánh Kinh cũng chép Con Người phải chịu nhiều thống khổ và bị chế giễu khinh bỉ.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์กล่าวว่า “จริงทีเดียวที่เอลียาห์มาก่อน และจะทำให้ทุกสิ่งคืนสู่สภาพเดิม แล้วทำไมจึงมีบันทึกไว้ว่าบุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานมากและผู้คนไม่ยอมรับ
交叉引用
- มัทธิว 26:24 - บุตรมนุษย์จะไปตามที่เขียนไว้ แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่ทรยศบุตรมนุษย์! ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาเลยยังจะดีกับตัวเขามากกว่า”
- เศคาริยาห์ 11:13 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงโยนเงินนี้ให้แก่ช่างปั้นหม้อ คือเงินค่าจ้างอย่างงามที่พวกเขาจ่ายให้” ข้าพเจ้าก็นำเงินสามสิบแผ่นนั้นโยนเข้าไปในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับช่างปั้นหม้อ
- มาระโก 1:2 - ในพระธรรมอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะมีเขียนไว้ว่า “ดูเถิด เราจะส่งทูตของเรามาก่อนท่าน เพื่อเตรียมทางไว้ให้ท่าน”
- มาระโก 1:3 - “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป’ ”
- มาระโก 1:4 - แล้วยอห์นผู้ให้บัพติศมาก็ได้ปรากฏตัวในถิ่นกันดารและเทศนาเรื่องบัพติศมาอันแสดงถึงการกลับใจใหม่เพื่อรับการอภัยโทษบาป
- มาระโก 1:5 - ผู้คนทั่วแคว้นยูเดียและชาวกรุงเยรูซาเล็มพากันมาหายอห์น เมื่อสารภาพบาปทั้งหลายของตนแล้ว ยอห์นก็ให้เขาทั้งหลายรับบัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดน
- มาระโก 1:6 - ยอห์นสวมเสื้อผ้าที่ทำจากขนอูฐ คาดเข็มขัดหนัง และกินตั๊กแตนกับน้ำผึ้งป่าเป็นอาหาร
- มาระโก 1:7 - เขาประกาศว่า “ภายหลังเราจะมีผู้หนึ่งเสด็จมา ทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้แต่จะโน้มกายลงแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์
- มาระโก 1:8 - เราให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์จะทรงให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( มธ.3:13-17 ; 4:1-11 ; ลก.3:21 , 22 ; 4:1-13 )
- มัทธิว 11:2 - ขณะนั้นยอห์นถูกจองจำอยู่ในคุก เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับพระราชกิจของพระคริสต์ เขาก็ส่งสาวกของเขา
- มัทธิว 11:3 - มาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านคือผู้ที่จะมานั้นหรือเราจะต้องคอยผู้อื่น?”
- มัทธิว 11:4 - พระเยซูตรัสตอบว่า “จงกลับไปรายงานสิ่งที่ท่านได้ยินได้เห็นแก่ยอห์น
- มัทธิว 11:5 - คือคนตาบอดมองเห็นได้ คนง่อยเดินได้ คนโรคเรื้อน หายจากโรค คนหูหนวกกลับได้ยิน คนตายแล้วเป็นขึ้นมา และข่าวประเสริฐได้ประกาศแก่คนยากไร้
- มัทธิว 11:6 - คนที่ไม่สูญเสียความเชื่อไปเพราะเราก็เป็นสุข”
- มัทธิว 11:7 - ขณะที่สาวกของยอห์นกำลังจะจากไป พระเยซูก็เริ่มตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “พวกท่านออกไปดูอะไรในถิ่นกันดาร? ดูต้นอ้อลู่ตามลมหรือ?
- มัทธิว 11:8 - หากไม่ใช่ ท่านออกไปดูอะไร? ดูคนนุ่งห่มผ้าเนื้อดีหรือ? ไม่ใช่ คนนุ่งห่มผ้าเนื้อดีย่อมอยู่ในวังของกษัตริย์
- มัทธิว 11:9 - ถ้าเช่นนั้นท่านออกไปดูอะไร? ผู้เผยพระวจนะหรือ? ใช่แล้ว เราบอกท่านว่ายอห์นเป็นยิ่งกว่าผู้เผยพระวจนะเสียอีก
- มัทธิว 11:10 - นี่แหละคือผู้ที่มีเขียนถึงไว้ว่า “ ‘ดูเถิด เราจะส่งทูตของเรามาก่อนท่าน เพื่อเตรียมทางไว้ให้ท่านล่วงหน้า’
- มัทธิว 11:11 - เราบอกความจริงแก่ท่านว่าในบรรดาผู้ที่เกิดจากผู้หญิงไม่มีคนไหนยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมา กระนั้นผู้ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น
- มัทธิว 11:12 - ตั้งแต่สมัยยอห์นผู้ให้บัพติศมาจนถึงทุกวันนี้ อาณาจักรสวรรค์กำลังตกอยู่ในความรุนแรงและพวกใช้ความรุนแรงพยายามจะเข้ายึดมัน
- มัทธิว 11:13 - เพราะว่าหนังสือผู้เผยพระวจนะและหนังสือบทบัญญัติทั้งปวงได้พยากรณ์มาจนถึงยอห์น
- มัทธิว 11:14 - และหากพวกท่านเต็มใจจะรับ ยอห์นนี่แหละคือเอลียาห์ซึ่งจะมานั้น
- มัทธิว 11:15 - ใครมีหูที่จะฟังก็จงฟังเถิด
- มัทธิว 11:16 - “เราจะเปรียบคนในชั่วอายุนี้กับสิ่งใดดี? เขาเป็นเหมือนเด็กๆ ที่นั่งอยู่กลางตลาดและร้องบอกคนอื่นๆ ว่า
- มัทธิว 11:17 - “ ‘เราเป่าปี่ให้ พวกเธอก็ไม่เต้นรำ เราร้องเพลงไว้อาลัย พวกเธอก็ไม่ทุกข์โศก’
- มัทธิว 11:18 - เพราะยอห์นมาไม่กินไม่ดื่ม พวกเขาก็กล่าวว่า ‘เขามีผีสิง’
- ยอห์น 1:6 - มีชายผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงส่งมา เขาชื่อยอห์น
- ยอห์น 1:7 - เขามาในฐานะพยานเพื่อยืนยันเกี่ยวกับความสว่างนั้น เพื่อว่าคนทั้งปวงจะได้เชื่อผ่านทางเขา
- ยอห์น 1:8 - เขาเองไม่ใช่ความสว่างนั้น เขาเป็นเพียงแค่พยานของความสว่างนั้น
- ยอห์น 1:9 - ความสว่างแท้ซึ่งให้ความสว่างแก่มนุษย์ทุกคนกำลังเข้ามาในโลก
- ยอห์น 1:10 - พระองค์ทรงอยู่ในโลก และแม้ว่าโลกถูกสร้างขึ้นโดยทางพระองค์ แต่โลกก็ไม่ได้รู้จักพระองค์
- ยอห์น 1:11 - พระองค์ทรงเข้ามาในดินแดนของพระองค์เอง แต่คนของพระองค์เองไม่ยอมรับพระองค์
- ยอห์น 1:12 - ส่วนคนทั้งปวงที่ยอมรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็ประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า
- ยอห์น 1:13 - คือเป็นบุตรที่ไม่ได้เกิดจากการสืบเชื้อสายตามธรรมชาติ หรือจากการตัดสินใจของมนุษย์ หรือจากเจตจำนงของสามี แต่เกิดจากพระเจ้า
- ยอห์น 1:14 - พระวาทะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับอยู่ท่ามกลางเรา พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความจริง เราได้เห็นพระเกียรติสิริของพระองค์ คือพระเกียรติสิริของพระบุตรองค์เดียวผู้ทรงมาจากพระบิดา
- ยอห์น 1:15 - ยอห์นเป็นพยานเกี่ยวกับพระองค์ เขาร้องประกาศว่า “นี่คือผู้ซึ่งเราได้บอกไว้ว่า ‘พระองค์ผู้เสด็จมาภายหลังเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนเรา’ ”
- ยอห์น 1:16 - เราทั้งปวงได้รับพระพรครั้งแล้วครั้งเล่าจากความบริบูรณ์แห่งพระคุณของพระองค์
- ยอห์น 1:17 - เพราะบทบัญญัติประทานมาทางโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์
- ยอห์น 1:18 - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่พระเจ้าคือพระบุตรองค์เดียว ผู้ทรงอยู่เคียงข้างพระบิดาได้ทรงทำให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แล้ว
- ยอห์น 1:19 - นี่คือคำพยานของยอห์น เมื่อชาวยิวที่กรุงเยรูซาเล็มส่งพวกปุโรหิตและคนเลวีมาถามว่าเขาเป็นใคร
- ยอห์น 1:20 - เขาไม่ได้ปิดบังความจริง เขายอมรับอย่างเปิดเผยว่า “เราไม่ใช่พระคริสต์ ”
- ยอห์น 1:21 - พวกนั้นจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นใคร? ท่านเป็นเอลียาห์หรือ?” เขาบอกว่า “ไม่ใช่” เมื่อถามว่า “ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะนั้นหรือ?” เขาก็ตอบว่า “ไม่ใช่”
- ยอห์น 1:22 - ในที่สุดพวกเขาจึงกล่าวว่า “ท่านเป็นใคร? จงตอบมาเถิด เราจะได้ไปบอกผู้ที่ส่งเรามา ท่านอ้างว่าตัวท่านเองเป็นใคร?”
- ยอห์น 1:23 - ยอห์นตอบโดยยกคำของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เราคือเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงทำทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงไป’ ”
- ยอห์น 1:24 - พวกฟาริสีบางคนที่ถูกส่งมา
- ยอห์น 1:25 - จึงถามเขาว่า “ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ ไม่ใช่เอลียาห์ หรือผู้เผยพระวจนะนั้น ทำไมท่านจึงให้บัพติศมา?”
- ยอห์น 1:26 - ยอห์นตอบว่า “เราให้บัพติศมาด้วย น้ำ แต่มีผู้หนึ่งในหมู่พวกท่านซึ่งพวกท่านไม่รู้จัก
- ยอห์น 1:27 - พระองค์ทรงเป็นผู้ที่จะมาภายหลังเรา เราไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายรัดฉลองพระบาทของพระองค์”
- ยอห์น 1:28 - ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ที่ซึ่งยอห์นกำลังให้บัพติศมา
- ยอห์น 1:29 - วันต่อมายอห์นเห็นพระเยซูเสด็จมาทางเขา จึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดก ของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป!
- ยอห์น 1:30 - นี่แหละคือผู้ที่เราหมายถึง เมื่อเรากล่าวว่า ‘พระองค์ผู้ทรงมาภายหลังเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนเรา’
- ยอห์น 1:31 - เราเองไม่รู้จักพระองค์ แต่เหตุผลที่เรามาให้บัพติศมาด้วยน้ำก็เพื่อให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่อิสราเอล”
- ยอห์น 1:32 - แล้วยอห์นเป็นพยานดังนี้ว่า “เราเห็นพระวิญญาณลงมาจากสวรรค์ดั่งนกพิราบและสถิตกับพระองค์
- ยอห์น 1:33 - เราคงไม่รู้ว่าพระองค์เป็นใคร แต่ผู้ที่ทรงใช้ให้เรามาให้บัพติศมาด้วยน้ำตรัสบอกเราไว้ว่า ‘เจ้าเห็นพระวิญญาณลงมาสถิตกับผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ที่จะให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
- ยอห์น 1:34 - เราได้เห็นแล้ว และเราเป็นพยานได้ว่าผู้นี้คือพระบุตรของพระเจ้า’ ” ( มธ.4:18-22 ; มก.1:16-20 ; ลก.5:2-11 )
- ยอห์น 1:35 - วันรุ่งขึ้น ยอห์นกับสาวกสองคนก็อยู่ที่นั่นอีก
- ยอห์น 1:36 - เมื่อเขาเห็นพระเยซูเสด็จผ่านไป จึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า!”
- มัทธิว 16:21 - นับแต่นั้นมาพระเยซูทรงเริ่มชี้แจงแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะต้องไปยังเยรูซาเล็ม ต้องทนทุกข์หลายประการด้วยน้ำมือของบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับเหล่าธรรมาจารย์ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่
- ยอห์น 3:27 - ยอห์นตอบคำกล่าวนี้ว่า “มนุษย์ได้รับก็แต่เพียงสิ่งที่ประทานให้เขาจากสวรรค์
- ยอห์น 3:28 - พวกท่านเองก็เป็นพยานได้ถึงคำพูดของเราที่ว่า ‘เราไม่ใช่พระคริสต์ แต่เราถูกส่งมานำเสด็จพระองค์’
- ยอห์น 3:29 - เจ้าสาวย่อมเป็นของเจ้าบ่าว เพื่อนผู้ดูแลเจ้าบ่าวก็คอยฟังเขาอยู่ และเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าบ่าว เราก็มีความชื่นชมยินดีเช่นนั้น และบัดนี้ความชื่นชมยินดีนั้นก็เต็มบริบูรณ์แล้ว
- ยอห์น 3:30 - พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนเราต้องด้อยลง
- ลูกา 23:39 - อาชญากรคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่ที่นั่นพูดสบประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตนเองกับเราให้รอด!”
- สดุดี 74:22 - ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงลุกขึ้น และตรัสแก้คดีของพระองค์ ขอทรงระลึกว่าคนโง่เย้ยหยันพระองค์วันยังค่ำ
- ดาเนียล 9:24 - “เจ็ดสิบของ ‘เจ็ด’ ทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับพี่น้องร่วมชาติและนครศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ให้เลิกการล่วงละเมิด เลิกทำบาป ลบล้างความชั่ว และนำความชอบธรรมอันมั่นคงนิรันดร์มาให้ เพื่อประทับตรานิมิตและคำพยากรณ์และเพื่อเจิมสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด
- ดาเนียล 9:25 - “จงรับรู้และเข้าใจข้อนี้เถิด คือตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา ให้กอบกู้และสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จวบจนผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งให้เป็นผู้ครอบครองนั้นจะมาถึง จะมีเจ็ดของ ‘เจ็ด’ และหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ จะมีการสร้างถนนหนทางและคูเมือง แต่ทำในช่วงทุกข์ยากลำบาก
- ดาเนียล 9:26 - หลังจากหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จะถูกประหารและจะไม่เหลืออะไร ประชาชนของผู้ครอบครองจะมาทำลายกรุงนั้นและสถานนมัสการ วาระสุดท้ายจะมาเหมือนน้ำท่วม สงครามจะขับเคี่ยวกันไปจนถึงจุดจบ และมีวิบัติตามที่กำหนดไว้
- ลูกา 3:2 - ในสมัยที่อันนาสกับคายาฟาสเป็นมหาปุโรหิต พระวจนะของพระเจ้าก็ได้มาถึงยอห์นบุตรเศคาริยาห์ในถิ่นกันดาร
- ลูกา 3:3 - เขาไปทั่วแถบลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ประกาศบัพติศมาแห่งการกลับใจใหม่เพื่อรับการอภัยบาป
- ลูกา 3:4 - ดังที่เขียนไว้ในหนังสือของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป
- ลูกา 3:5 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะกลับราบเรียบ
- ลูกา 3:6 - และมวลมนุษยชาติจะเห็นความรอดของพระเจ้า’ ”
- ฟีลิปปี 2:7 - พระองค์กลับทรงสละทุกสิ่ง มารับสภาพ ทาส บังเกิดเป็นมนุษย์
- ฟีลิปปี 2:8 - และเมื่อทรงปรากฏเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง และยอมเชื่อฟังแม้ต้องตายบนไม้กางเขน!
- ลูกา 1:76 - “ส่วนเจ้า ลูกของพ่อ เจ้าจะได้ชื่อว่าผู้เผยพระวจนะขององค์ผู้สูงสุด เพราะเจ้าจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเตรียมทางสำหรับพระองค์
- เศคาริยาห์ 13:7 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้น ห้ำหั่นคนเลี้ยงแกะของเรา และคนใกล้ชิดของเรา จงฟาดฟันคนเลี้ยงแกะ และแกะจะกระจัดกระจายไป และเราจะตวัดมือฟาดผู้เล็กน้อย”
- มัทธิว 3:1 - ครั้งนั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้มาเทศนาในถิ่นกันดารแห่งแคว้นยูเดีย
- มัทธิว 3:2 - และกล่าวว่า “จงกลับใจใหม่เพราะอาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว”
- มัทธิว 3:3 - ยอห์นผู้นี้แหละที่ถูกกล่าวถึงผ่านทางผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ว่า “เสียงของผู้หนึ่งร้องในถิ่นกันดารว่า ‘จงเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางสำหรับพระองค์ให้ตรงไป’ ”
- มัทธิว 3:4 - เสื้อผ้าของยอห์นทำจากขนอูฐ เขาคาดเอวด้วยเข็มขัดหนัง อาหารของเขาคือตั๊กแตนกับน้ำผึ้งป่า
- มัทธิว 3:5 - ประชาชนจากกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดียและทั่วแถบแม่น้ำจอร์แดนพากันมาหาเขา
- มัทธิว 3:6 - เมื่อพวกเขาสารภาพบาปทั้งหลายของตนแล้ว ยอห์นก็ให้พวกเขารับบัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดน
- มัทธิว 3:7 - แต่เมื่อยอห์นเห็นพวกฟาริสีและพวกสะดูสีมายังที่ซึ่งเขาให้บัพติศมาอยู่ ยอห์นก็กล่าวแก่พวกเขาว่า “เจ้าชาติงูร้าย ใครตักเตือนพวกเจ้าให้หนีจากพระพิโรธที่จะมาถึง?
- มัทธิว 3:8 - จงเกิดผลให้สมกับที่กลับใจใหม่
- มัทธิว 3:9 - และอย่านึกในใจว่า ‘เรามีอับราฮัมเป็นบรรพบุรุษของเรา’ เราบอกท่านว่าพระเจ้าทรงสามารถทำให้ลูกหลานของอับราฮัมเกิดจากก้อนหินเหล่านี้ได้
- มัทธิว 3:10 - ขวานนั้นอยู่ที่โคนต้นไม้แล้วและทุกต้นที่ไม่ให้ผลดีจะถูกโค่นและโยนลงในไฟ
- มัทธิว 3:11 - “เราให้บัพติศมาด้วย น้ำแก่พวกท่านแสดงถึงการกลับใจใหม่ แต่ภายหลังเราจะมีผู้หนึ่งทรงฤทธิ์อำนาจยิ่งกว่าเราเสด็จมา เราไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
- มัทธิว 3:12 - พระองค์ถือพลั่วอยู่ในพระหัตถ์พร้อมแล้วและจะทรงเก็บกวาดลานนวดข้าว รวบรวมข้าวซึ่งเป็นของพระองค์ไว้ในยุ้งฉาง และเผาแกลบด้วยไฟที่ไม่รู้ดับ” ( มก.1:9-11 ; ลก.3:21 , 22 ; ยน.1:31-34 )
- สดุดี 69:1 - ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะน้ำท่วมถึงคอข้าพระองค์แล้ว
- สดุดี 69:2 - ข้าพระองค์จมดิ่งลงในตมลึก ซึ่งไม่มีที่ให้หยั่งเท้า ข้าพระองค์จมอยู่ในห้วงน้ำลึก กระแสน้ำท่วมมิดข้าพระองค์
- สดุดี 69:3 - ข้าพระองค์วิงวอนร่ำร้องขอความช่วยเหลือจนอ่อนล้า คอของข้าพระองค์แห้งผาก ตาของข้าพระองค์หม่นหมอง เฝ้าแต่มองหาพระเจ้าของข้าพระองค์
- สดุดี 69:4 - คนที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ มีมากกว่าผมบนศีรษะของข้าพระองค์เสียอีก ศัตรูผู้มุ่งทำลายล้างข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุมีมากมายยิ่งนัก ข้าพระองค์ถูกบีบบังคับให้คืนสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่ได้ขโมยมา
- สดุดี 69:5 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่าข้าพระองค์โง่เขลา ความผิดของข้าพระองค์ไม่อาจซ่อนไว้จากพระองค์
- สดุดี 69:6 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ขออย่าให้ผู้ที่หวังในพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขออย่าให้บรรดาผู้แสวงหาพระองค์ ต้องอดสูเพราะข้าพระองค์
- สดุดี 69:7 - เพราะข้าพระองค์ต้องทนต่อคำเยาะเย้ยถากถางเพราะเห็นแก่พระองค์ และต้องอับอายขายหน้า
- สดุดี 69:8 - ข้าพระองค์กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพี่น้องของข้าพระองค์ กลายเป็นคนต่างด้าวสำหรับพี่น้องท้องเดียวกัน
- สดุดี 69:9 - เพราะความร้อนใจเพื่อพระนิเวศของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์ การหมิ่นประมาทของผู้ที่สบประมาทพระองค์ตกอยู่บนข้าพระองค์
- สดุดี 69:10 - เมื่อร่ำไห้และถืออดอาหาร ข้าพระองค์ต้องทนการเย้ยหยัน
- สดุดี 69:11 - เมื่อข้าพระองค์สวมเสื้อผ้ากระสอบ ผู้คนพูดกระทบกระเทียบข้าพระองค์
- สดุดี 69:12 - บรรดาผู้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองเยาะเย้ยข้าพระองค์ และข้าพระองค์ตกเป็นเพลงเปรียบเปรยของคนขี้เมา
- สดุดี 69:13 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพระองค์อธิษฐานทูลต่อพระองค์ ในยามที่พระองค์ทรงโปรด ข้าแต่พระเจ้า โดยความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์ด้วยความรอดอันแน่นอนซึ่งมาจากพระองค์
- สดุดี 69:14 - ขอทรงดึงข้าพระองค์พ้นจากตมลึกนี้ อย่าให้ข้าพระองค์จมลงไป ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์ ขอทรงช่วยให้พ้นจากห้วงน้ำลึก
- สดุดี 69:15 - ขออย่าทรงให้น้ำหลากท่วมมิดข้าพระองค์ หรือให้เหวลึกกลืนข้าพระองค์ หรือให้แดนคนตายงับข้าพระองค์ไว้
- สดุดี 69:16 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตอบข้าพระองค์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ล้ำเลิศ ขอทรงหันมาหาข้าพระองค์ด้วยพระเมตตาคุณอันล้นเหลือ
- สดุดี 69:17 - ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็วเพราะข้าพระองค์กำลังเดือดร้อน
- สดุดี 69:18 - ขอทรงเสด็จมาใกล้ และช่วยกู้ข้าพระองค์ด้วยเถิด ขอทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากเหล่าศัตรู
- สดุดี 69:19 - พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์ถูกดูหมิ่น เย้ยหยัน และอับอายเพียงใด ศัตรูทั้งปวงของข้าพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าพระองค์
- สดุดี 69:20 - การเย้ยหยันทำให้ดวงใจของข้าพระองค์ชอกช้ำร้าวราน กลายเป็นคนสิ้นท่าอนาถา ข้าพระองค์เหลียวหาความเห็นอกเห็นใจแต่ไม่พบเลย มองหาคนปลอบใจ แต่ไม่มีแม้สักคน
- สดุดี 69:21 - พวกเขาเอาน้ำดีรสขมใส่ในอาหารของ ข้าพระองค์ และให้น้ำส้มสายชูเมื่อข้าพระองค์กระหาย
- สดุดี 69:22 - ขอให้สำรับที่ตั้งไว้ตรงหน้าพวกเขากลายเป็นบ่วงแร้ว ขอให้กลายเป็นสิ่งคืนสนองและเป็น กับดัก
- สดุดี 69:23 - ขอให้ดวงตาของพวกเขามืดมัวไป พวกเขาจะได้มองไม่เห็น และขอให้หลังของพวกเขาค้อมลงตลอดไป
- สดุดี 69:24 - ขอทรงระบายพระพิโรธใส่พวกเขา ให้พระพิโรธอันเกรี้ยวกราดตะครุบพวกเขา
- สดุดี 69:25 - ขอให้ที่อยู่ของพวกเขาเริศร้าง อย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่ในที่พำนักของพวกเขา
- สดุดี 69:26 - เพราะพวกเขาข่มเหงผู้ที่พระองค์ทรงโบยตี และพูดถึงความเจ็บปวดของผู้ที่พระองค์ทรงทำให้บาดเจ็บ
- สดุดี 69:27 - ขอทรงกล่าวโทษพวกเขา คดีแล้วคดีเล่า อย่าให้พวกเขามีส่วนในความรอดของพระองค์
- สดุดี 69:28 - ขอให้คนเหล่านี้ถูกลบชื่อออกจากหนังสือแห่งชีวิต และอย่าให้มีรายชื่อร่วมกับผู้ชอบธรรม
- สดุดี 69:29 - ข้าพระองค์เจ็บปวดและทนทุกข์ ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ความรอดซึ่งมาจากพระองค์ปกป้องข้าพระองค์ไว้
- สดุดี 69:30 - ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระเจ้าด้วยบทเพลง และถวายเกียรติแด่พระองค์ ด้วยการขอบพระคุณ
- สดุดี 69:31 - สิ่งนี้จะเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งกว่าการถวายวัว ยิ่งกว่าการถวายวัวผู้ทั้งเขาและกีบ
- สดุดี 69:32 - ผู้ตกทุกข์ได้ยากจะเห็นแล้วยินดี บรรดาท่านผู้แสวงหาพระเจ้าจงเบิกบานใจ
- สดุดี 69:33 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับฟังผู้ยากไร้ และไม่ทรงดูหมิ่นคนของพระองค์ที่ตกเป็นเชลย
- สดุดี 69:34 - ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทั้งทะเลและสรรพสิ่งในทะเล จงสรรเสริญพระองค์
- สดุดี 69:35 - เพราะพระเจ้าจะทรงช่วยกู้ศิโยน และจะทรงสร้างเมืองต่างๆ ของยูดาห์ขึ้นใหม่ แล้วเหล่าประชากรจะตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่นและครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์
- สดุดี 69:36 - ลูกหลานของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับดินแดนเป็นมรดก บรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์จะอาศัยอยู่ที่นั่น
- อิสยาห์ 40:3 - เสียงของผู้หนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางในถิ่นกันดาร สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางหลวงของพระเจ้า ในถิ่นกันดารให้ตรงไป
- อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกแห่งจะถูกทำให้ต่ำลง พื้นดินขรุขระจะถูกทำให้เรียบ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะถูกทำให้เป็นที่ราบ
- อิสยาห์ 40:5 - แล้วพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการเปิดเผย และมวลมนุษยชาติจะได้เห็นร่วมกัน เพราะพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว”
- มาลาคี 4:6 - เขาจะหันจิตใจของพ่อมาหาลูกและหันจิตใจของลูกมาหาพ่อ มิฉะนั้นเราจะมาห้ำหั่นดินแดนนี้ด้วยคำสาปแช่ง”
- สดุดี 22:1 - พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดพระองค์จึงทรงห่างไกล ไม่มาช่วยกู้ข้าพระองค์? ทรงห่างไกล ไม่ฟังคำคร่ำครวญของข้าพระองค์?
- สดุดี 22:2 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลตลอดวัน แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ ยามค่ำคืนข้าพระองค์ก็ไม่หยุดวิงวอน
- สดุดี 22:3 - ถึงกระนั้นพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ เป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล
- สดุดี 22:4 - บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาเหล่านั้นวางใจในพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขา
- สดุดี 22:5 - พวกเขาร้องทูลพระองค์และได้รับการช่วยกู้ พวกเขาวางใจในพระองค์และไม่ผิดหวัง
- สดุดี 22:6 - แต่ข้าพระองค์เป็นตัวหนอน ไม่ใช่คน ผู้คนก็ประณาม ประชาชนก็ดูแคลน
- สดุดี 22:7 - คนทั้งปวงที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน พวกเขาส่ายหน้าและพูดเหยียดหยามใส่ข้าพระองค์ว่า
- สดุดี 22:8 - “เขาวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าช่วยเขาสิ ในเมื่อพระองค์ปีติยินดีในตัวเขา ก็ให้พระองค์ช่วยกู้เขาสิ”
- สดุดี 22:9 - ถึงกระนั้นพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์วางใจใน พระองค์ตั้งแต่อยู่ในอ้อมอกแม่
- สดุดี 22:10 - ตั้งแต่เกิด ข้าพระองค์ก็ถูกทิ้งให้พึ่งพิงพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
- สดุดี 22:11 - ขออย่าทรงไกลห่างจากข้าพระองค์ เพราะความทุกข์ร้อนอยู่ใกล้ และไม่มีใครช่วยได้เลย
- สดุดี 22:12 - เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์
- สดุดี 22:13 - พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
- สดุดี 22:14 - พละกำลังของข้าพระองค์เหือดแห้งไปดั่งสายน้ำ กระดูกทุกซี่ของข้าพระองค์หลุดจากข้อต่อ ใจของข้าพระองค์อ่อนล้าดั่งขี้ผึ้ง หลอมละลายภายในข้าพระองค์
- สดุดี 22:15 - กำลังของข้าพระองค์แห้งผากไปดั่งดินเผา ลิ้นของข้าพระองค์เกาะติดเพดานปาก พระองค์ทรงปล่อยให้ข้าพระองค์นอน เกลือกธุลีแห่งความตาย
- สดุดี 22:16 - เหล่าสุนัขรายล้อมข้าพระองค์ กลุ่มคนชั่วรุมล้อมข้าพระองค์ พวกเขาทิ่มแทงมือและเท้าของข้าพระองค์
- สดุดี 22:17 - ข้าพระองค์สามารถนับกระดูกทั้งหมดของข้าพระองค์ ผู้คนจ้องมองข้าพระองค์อย่างสะใจ
- สดุดี 22:18 - พวกเขาเอาเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์มาแบ่งกัน และเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาจับสลาก
- สดุดี 22:19 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนพระองค์ ขออย่าทรงห่างไกล ข้าแต่องค์ผู้ทรงเป็นพละกำลังของข้าพระองค์ โปรดรีบรุดเสด็จมาช่วยข้าพระองค์
- สดุดี 22:20 - ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคมดาบ ขอทรงช่วยชีวิตอันมีค่าของข้าพระองค์ให้พ้นจากอำนาจของเหล่าสุนัข
- สดุดี 22:21 - ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากปากสิงห์ ขอทรงช่วยให้รอดพ้นจากเขาของวัวป่า
- สดุดี 22:22 - ข้าพระองค์จะประกาศพระนามของพระองค์แก่พี่น้องทั้งหลายของข้าพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
- สดุดี 22:23 - ท่านทั้งหลายที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระองค์! ท่านทั้งปวงผู้เป็นวงศ์วานของยาโคบ จงถวายพระเกียรติแด่พระองค์! จงยำเกรงพระองค์เถิด ท่านทั้งปวงผู้เป็นวงศ์วานของอิสราเอล!
- สดุดี 22:24 - เพราะพระองค์ไม่ได้ทรงดูแคลนหรือรังเกียจเดียดฉันท์ ความทุกข์ทรมานของผู้ตกทุกข์ได้ยาก พระองค์ไม่ได้ทรงซ่อนพระพักตร์จากเขา แต่ทรงสดับฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา
- สดุดี 22:25 - เนื่องด้วยพระองค์ ข้าพระองค์ร้องสรรเสริญในที่ชุมนุมใหญ่ ข้าพระองค์จะทำตามคำปฏิญาณของข้าพระองค์ ให้สำเร็จต่อหน้าบรรดาผู้ยำเกรงพระองค์
- สดุดี 22:26 - คนยากไร้จะรับประทานและอิ่มหนำ บรรดาผู้เสาะหาองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ ขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ตลอดกาล!
- สดุดี 22:27 - ทั่วทุกมุมโลกจะระลึกได้ และหันมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกครอบครัวของชาติต่างๆ จะหมอบกราบต่อหน้าพระองค์
- สดุดี 22:28 - เพราะอำนาจการปกครองเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงปกครองเหนือมวลประชาชาติ
- สดุดี 22:29 - คนมั่งคั่งทุกคนในแผ่นดินโลกจะเลี้ยงฉลองและนมัสการพระองค์ ทุกคนที่ต้องกลับสู่ผงคลีดินจะคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์ คือผู้ที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของตนไว้ได้
- สดุดี 22:30 - บรรดาลูกหลานจะปรนนิบัติพระองค์ มนุษย์จะกล่าวถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าให้คนรุ่นต่อไปฟัง
- สดุดี 22:31 - พวกเขาจะประกาศความชอบธรรมของพระองค์ แก่ชนรุ่นหลังที่ยังไม่เกิดมา เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำเช่นนั้น
- ลูกา 1:16 - เขาจะนำชนอิสราเอลมากมายกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของพวกเขา
- ลูกา 1:17 - และเขาจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยจิตใจและฤทธิ์อำนาจของเอลียาห์ เพื่อให้จิตใจของบิดาหันมาหาบุตรและให้คนดื้อด้านหันมาสู่สติปัญญาของผู้ชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า”
- อิสยาห์ 52:14 - คนเป็นอันมากตื่นตะลึงเพราะเขา เพราะรูปลักษณ์ของเขาเสียโฉมไปจนไม่มีใครเหมือน และรูปร่างของเขาก็เสียไปจนดูไม่เหมือนมนุษย์
- อิสยาห์ 49:7 - พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสแก่ผู้นั้นซึ่งเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาติ ผู้เป็นคนรับใช้ของบรรดาผู้ครอบครองนั้นว่า “กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าแล้วยืนขึ้น เจ้านายทั้งปวงจะเห็นเจ้าแล้วหมอบกราบ เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ทรงเลือกสรรเจ้า”
- ลูกา 23:11 - จากนั้นเฮโรดกับเหล่าทหารก็เยาะเย้ยดูหมิ่นพระองค์ เอาเสื้อชุดงามสง่ามาให้พระองค์สวม แล้วส่งพระองค์กลับมาหาปีลาต
- อิสยาห์ 50:6 - ข้าพเจ้ายอมหันหลังให้แก่ผู้ที่โบยตีข้าพเจ้า และเอียงแก้มให้แก่ผู้ที่ทึ้งเคราของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันหน้าหนี จากผู้ที่เย้ยหยันและถ่มน้ำลายรด
- อิสยาห์ 53:1 - ใครเล่าได้เชื่อถ้อยคำของเรา และพระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้สำแดงแก่ผู้ใด?
- อิสยาห์ 53:2 - เขาผู้นั้นเจริญขึ้นต่อหน้าพระองค์เหมือนหน่ออ่อน และเหมือนรากที่โผล่ออกมาบนพื้นดินแห้ง เขาไม่มีความงามหรือความโอ่อ่าตระการที่จะดึงดูดเรา รูปลักษณ์ของเขาไม่มีอะไรชวนให้ปรารถนา
- อิสยาห์ 53:3 - เขาถูกมนุษย์ดูหมิ่นและทอดทิ้ง เป็นคนเจ้าทุกข์และคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน เป็นคนที่ใครๆ เบือนหน้าหนี เขาถูกเหยียดหยาม และเราก็ไม่นับถือเขา
- อิสยาห์ 53:4 - แน่ทีเดียว เขารับความอ่อนแอทั้งหลายของเรา และแบกรับความทุกข์โศกของเราไป ถึงกระนั้นเรากลับถือว่าเขาถูกพระเจ้าตี คือถูกพระองค์โบยตีและทรมาน
- อิสยาห์ 53:5 - แต่เขาถูกแทงเพราะการล่วงละเมิดของเรา เขาบอบช้ำเพราะความชั่วช้าของเรา เขารับโทษทัณฑ์เพื่อเราจะมีสันติสุข บาดแผลของเขาทำให้เราได้รับการรักษาให้หาย
- อิสยาห์ 53:6 - เราทุกคนหลงเตลิดไปเหมือนแกะ แต่ละคนหันไปตามทางของตน และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางความชั่วช้าของเราทุกคน ไว้บนตัวเขา
- อิสยาห์ 53:7 - เขาถูกกดขี่ข่มเหงและทนทุกข์ทรมาน แต่ก็ไม่เคยปริปากเลย เขาถูกนำตัวไปเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า และเหมือนแกะที่เงียบอยู่ต่อหน้าคนตัดขน เขาก็ไม่ได้ปริปากเช่นกัน
- อิสยาห์ 53:8 - เขาถูกนำตัวออกไปโดยการกดขี่ข่มเหง และการพิพากษา และใครเล่าจะพูดถึงเชื้อสายของเขาได้ เพราะเขาถูกตัดขาดจากดินแดนผู้มีชีวิต เขาถูกตี เพราะการล่วงละเมิดของประชากรของเรา
- อิสยาห์ 53:9 - เขาถูกฝังในหลุมศพร่วมกับคนชั่ว และฝังร่วมกับเศรษฐีในความตายของเขา ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยทำอะไรรุนแรง ไม่เคยพูดคำโกหกหลอกลวง
- อิสยาห์ 53:10 - ถึงกระนั้นก็เป็นพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะบดขยี้และทำให้เขาทุกข์ทรมาน และถึงแม้พระองค์ทรงใช้ ชีวิตของเขาเป็นเครื่องบูชาลบความผิด แต่เขาจะเห็นวงศ์วานของตนและวันคืนของเขายาวนาน พระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเจริญรุ่งเรืองในมือของเขา
- อิสยาห์ 53:11 - หลังจากที่ชีวิตจิตใจของเขาต้องทุกข์ทรมานแล้ว เขาจะได้เห็นแสงสว่างแห่งชีวิต และเขาจะพึงพอใจ โดยความรู้ของเขา คือผู้รับใช้ที่ชอบธรรมของเราจะทำให้คนเป็นอันมากกลายเป็นผู้ชอบธรรม และเขาจะแบกความชั่วช้าของคนเหล่านั้น
- อิสยาห์ 53:12 - ด้วยเหตุนี้เราจะให้เขามีส่วนแบ่งในหมู่ผู้ยิ่งใหญ่ และเขาจะแบ่งรางวัลกับผู้แข็งแกร่ง เนื่องจากเขายอมพลีชีวิต และถูกนับเป็นพวกเดียวกับคนที่ล่วงละเมิด เพราะเขาแบกรับบาปของคนเป็นอันมาก และทูลวิงวอนเพื่อคนที่ล่วงละเมิด