พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลน
(ยรม.10:12-16)
1พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับบาบิโลนและดินแดนของชาวบาบิโลน50:1 หรือชาวเคลเดียเช่นเดียวกับข้อ 8,25,35 และ 45ความว่า
2“จงป่าวร้องและประกาศในหมู่ประชาชาติ
จงชูธงขึ้นประกาศออกไป
อย่าปิดบังเลย แต่จงกล่าวว่า
‘บาบิโลนจะถูกยึด
เบลจะอับอายขายหน้า
มาร์ดุคจะหวาดหวั่นขวัญผวา
เทวรูปของบาบิโลนจะอัปยศอดสู
และอกสั่นขวัญแขวน’
3ชนชาติหนึ่งจากทางเหนือจะมาโจมตีบาบิโลน
ทำให้ดินแดนนั้นถูกทิ้งร้าง
ไม่มีใครอาศัยอยู่
ทั้งคนและสัตว์จะหนีเตลิดไปหมด”
4
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
“ในเวลานั้น ชนอิสราเอลและยูดาห์
จะร่วมกันแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขาด้วยน้ำตานองหน้า
5พวกเขาจะถามทาง
และมุ่งหน้ามายังศิโยน
พวกเขาจะเข้ามาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยพันธสัญญานิรันดร์
ซึ่งจะไม่ถูกลืมเลือน
6“ประชากรของเราเป็นแกะหลงทาง
คนเลี้ยงของพวกเขาได้พาพวกเขาให้หลงเตลิดไป
และเป็นเหตุให้พวกเขาร่อนเร่อยู่บนภูเขา
พวกเขาซัดเซพเนจรไปเหนือภูเขาและเนินเขา
และลืมถิ่นที่พำนักของตน
7ผู้ใดพบพวกเขาก็ขย้ำกิน
ศัตรูของพวกเขากล่าวว่า ‘เราไม่ผิด
เพราะพวกเขาทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นทุ่งหญ้าที่แท้จริงของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา’
8“จงหนีจากบาบิโลน
จงออกจากดินแดนของชาวบาบิโลนเถิด
และจงเป็นเหมือนแพะนำฝูง
9เพราะเราจะเร่งเร้ากองทัพพันธมิตรของชนชาติใหญ่ๆ จากทางเหนือ
มาสู้รบกับบาบิโลน
พวกเขาจะเข้าประจำที่ต่อสู้กับมัน
บาบิโลนจะถูกยึดโดยคนจากทางเหนือ
ลูกศรของพวกเขาเหมือนนักรบชำนาญศึก
ออกรบคราใดไม่เคยกลับไปมือเปล่า
10ดังนั้นบาบิโลนจะถูกปล้น
และโจรทุกคนได้ของมากมาย”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
11“เพราะเจ้าผู้ปล้นกรรมสิทธิ์ของเรา
กระหยิ่มลิงโลด
เพราะเจ้าร่าเริงอย่างวัวสาวย่ำนวดเมล็ดข้าว
และส่งเสียงร้องอย่างม้าตัวผู้
12มารดาของเจ้าจะอับอายขายหน้ายิ่งนัก
ผู้ให้กำเนิดเจ้าจะอัปยศอดสู
กลายเป็นผู้ต่ำต้อยที่สุดในหมู่ประชาชาติ
เป็นถิ่นกันดาร เป็นทะเลทรายอันแห้งผาก
13เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า
บาบิโลนจะกลายเป็นถิ่นร้างไม่มีคนอยู่อาศัย
ทุกคนที่ผ่านไปมาจะตะลึงและเย้ยหยัน
เนื่องจากบาดแผลทั้งหมดของมัน
14“พวกเจ้าผู้โก่งธนู
จงเข้าประจำที่ล้อมรอบบาบิโลน
ระดมยิงมัน! ไม่ต้องออมลูกศร
เพราะมันได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
15จงโห่ร้องเข้าใส่บาบิโลนทุกด้าน!
มันยอมแพ้ หอคอยต่างๆ พังทลาย
กำแพงพังลง
เพราะนี่เป็นการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
จงแก้แค้นบาบิโลน
จงทำกับบาบิโลนเหมือนที่มันเคยทำแก่ชาติอื่นๆ
16จงตัดผู้หว่าน
และผู้เก็บเกี่ยวซึ่งถือเคียวออกจากบาบิโลน
ให้ทุกคนกลับไปหาพี่น้องร่วมชาติของตน
ให้ทุกคนหนีไปยังบ้านเกิดเมืองนอน
เพราะดาบของผู้กดขี่ข่มเหง
17“อิสราเอลเป็นฝูงแกะที่กระจัดกระจาย
ซึ่งสิงโตได้ไล่หนีกระเจิง
รายแรกที่ขย้ำเขา
คือกษัตริย์อัสซีเรีย
ล่าสุดผู้ที่บดขยี้กระดูกของเขา
คือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน”
18ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
“เราจะลงโทษกษัตริย์บาบิโลนและดินแดนของเขา
เหมือนที่เราได้ลงโทษกษัตริย์อัสซีเรีย
19ส่วนอิสราเอล เราจะนำพวกเขากลับคืนสู่ทุ่งหญ้าของเขาเอง
พวกเขาจะกินหญ้าบนภูเขาคารเมลและบาชาน
พวกเขาจะอิ่มเอม
บนภูเขาเอฟราอิมและในกิเลอาด”
20
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
“ในครั้งนั้น
จะมีการเสาะหาความผิดของอิสราเอล
แต่ไม่พบเลย
และจะมีการเสาะหาบาปทั้งหลายของยูดาห์
แต่ไม่พบเลย
เพราะเราจะอภัยโทษชนหยิบมือที่เหลือซึ่งเราไว้ชีวิต
21“จงโจมตีดินแดนเมราธาอิม
และผู้คนในเปโขด
ตามล่า ฆ่าทิ้ง และทำลายล้าง50:21 คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึงสิ่งของหรือบุคคลที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วไม่อาจเรียกคืนได้ มักจะต้องทำลายให้หมดสิ้นไป เช่นเดียวกับข้อ 26ให้หมด”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“จงทำทุกสิ่งตามที่เราสั่งไว้
22มีเสียงโห่ร้องออกศึกในดินแดน
เสียงหายนะใหญ่หลวง!
23ค้อนซึ่งทุบโลกทั้งโลก
ก็แหลกลาญป่นปี้
บาบิโลนถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิง
ในหมู่ประชาชาติ!
24บาบิโลนเอ๋ย เราวางกับดักเจ้าไว้
และเจ้าก็ติดกับก่อนจะรู้ตัว
เจ้าถูกจับได้
เพราะเจ้าต่อสู้ขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้า
25
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเปิดคลังสรรพาวุธของพระองค์
และนำอาวุธแห่งพระพิโรธออกมา
เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดทรงมีพระราชกิจที่จะกระทำ
ในดินแดนของชาวบาบิโลน
26จงยกกำลังต่อสู้บาบิโลนจากแดนไกล
จงทำลายยุ้งฉางของมันเสีย
จงกองมันไว้เหมือนกองเมล็ดข้าว
จงทำลายล้างมันอย่างสิ้นเชิง
และอย่าให้มีใครหลงเหลืออยู่
27จงฆ่าวัวหนุ่มของมันให้หมด
ต้อนพวกมันไปโรงเชือด!
วิบัติแก่พวกเขา! เพราะถึงเวลาของพวกเขาแล้ว
เวลาที่พวกเขาจะถูกลงโทษ
28จงฟังเสียงผู้ลี้ภัยและผู้อพยพจากบาบิโลน
ที่ป่าวร้องในศิโยน
ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทรงแก้แค้นอย่างไร
ทรงแก้แค้นให้พระวิหารของพระองค์อย่างไร
29“จงเรียกพลธนูมาต่อสู้กับบาบิโลน
บรรดาผู้โก่งคันศร
จงมาตั้งค่ายล้อมบาบิโลนไว้
อย่าให้มีใครหนีรอดไปได้
จงตอบแทนมันให้สาสม
จงทำกับมันเหมือนที่มันเคยทำไว้
เพราะบาบิโลนได้ลบหลู่พระยาห์เวห์
องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
30ฉะนั้นชายหนุ่มของบาบิโลนจะล้มลงกลางถนน
และทหารทุกคนจะถูกทำให้เงียบเสียงในวันนั้น”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
31“ดูเถิด เราสู้กับเจ้า คนหยิ่งจองหองเอ๋ย”
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น
“เพราะวันเวลาของเจ้านั้นได้มาถึงแล้ว
เวลาที่เจ้าจะถูกลงโทษ
32คนหยิ่งจองหองจะสะดุดล้มลง
และจะไม่มีใครช่วยพยุงเขาขึ้นมา
เราจะจุดไฟในเมืองต่างๆ ของบาบิโลน
ไฟนี้จะเผาผลาญทุกคนที่อยู่รอบเมือง”
33พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า
“ชาวอิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหง
และชาวยูดาห์ก็เช่นกัน
บรรดาคนที่จับเขาไปเป็นเชลยก็กุมตัวเขาไว้แน่น
ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาไป
34แต่พระผู้ไถ่ของพวกเขานั้นเข้มแข็ง
พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
พระองค์จะทรงแก้คดีของเขาอย่างแข็งขัน
เพื่อจะทรงนำการพักสงบมาสู่ดินแดนของพวกเขา
และนำความวุ่นวายมายังชาวบาบิโลน”
35
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
“ให้ดาบฟาดฟันชาวบาบิโลน
ฟาดฟันผู้คนในบาบิโลน
และให้ดาบฟาดฟันขุนนางและปราชญ์ของบาบิโลน!
36ให้ดาบฟาดฟันผู้เผยพระวจนะเท็จ!
พวกเขาจะกลายเป็นคนโง่เขลา
ให้ดาบฟาดฟันนักรบ!
พวกเขาจะเต็มไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
37ให้ดาบฟาดฟันเหล่าม้าและรถม้าศึก
และฟาดฟันคนต่างชาติทั้งปวงในกองทัพของเขา!
พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนผู้หญิง
ให้ดาบฟาดฟันทรัพย์สมบัติของบาบิโลน!
สิ่งเหล่านั้นจะถูกปล้นชิง
38ให้ความแห้งแล้งมาเหนือ50:38 หรือให้ดาบฟาดฟันห้วงน้ำทั้งหลายของมัน!
พวกมันจะได้เหือดแห้ง
เพราะดินแดนนั้นเต็มไปด้วยรูปเคารพ
และผู้คนก็คลั่งไคล้ไปกับพระต่างๆ
39“สัตว์ทะเลทรายและสุนัขจิ้งจอกจะอาศัยอยู่ที่นั่น
และนกเค้าแมวจะอยู่ที่นั่น
จะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่อีก
ตลอดทุกชั่วอายุ
40ดังที่พระเจ้าได้ล้มล้างเมืองโสโดมและโกโมราห์
พร้อมทั้งเมืองใกล้เคียง”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“ดังนั้นจะไม่มีใครอยู่ที่นั่น
จะไม่มีผู้ใดตั้งถิ่นฐานในเมืองนั้น
41“ดูเถิด กองทัพจะมาจากทางเหนือ
ชนชาติยิ่งใหญ่และกษัตริย์หลายองค์
กำลังถูกเร่งเร้าจากทุกมุมโลก
42พวกเขามีทั้งธนูและหอก
โหดเหี้ยมและไร้ความเมตตา
เสียงควบม้าของพวกเขา
เหมือนเสียงทะเลคำราม
พวกเขายกกระบวนทัพมาเพื่อโจมตีเจ้า
ธิดาแห่งบาบิโลน50:42 คือ ชาวบาบิโลนเอ๋ย
43กษัตริย์บาบิโลนได้ยินรายงานข่าว
พระหัตถ์ก็หมดแรง
ความทุกข์ร้าวรานจู่โจมจับพระทัย
เจ็บปวดรวดร้าวดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
44เราจะขับไล่บาบิโลนออกจากดินแดน
ในชั่วพริบตา
ดุจสิงโตออกมาจากพงไพรแห่งจอร์แดนสู่ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์
ใครคือผู้ที่เราเลือกสรรแต่งตั้งเพื่อการนี้?
ผู้ใดเสมอเหมือนเราและใครจะท้าทายเราได้?
คนเลี้ยงแกะหน้าไหนจะยืนต้านทานเราได้?”
45ฉะนั้นจงฟังแผนการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับบาบิโลน
สิ่งที่พระองค์ทรงดำริไว้สำหรับดินแดนของชาวบาบิโลน
ลูกอ่อนในฝูงจะถูกลากไป
พระองค์จะทรงทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขาจนหมดสิ้น เพราะตัวพวกเขาเอง
46ทั่วโลกจะสั่นสะท้าน เมื่อได้ยินเสียงบาบิโลนล่มสลาย
เสียงร้องของชาวบาบิโลนจะดังก้องในหมู่ประชาชาติ
Thai New Contemporary Version ™️
Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.
Used with permission. All rights reserved worldwide.
“Biblica”, “International Bible Society” and the Biblica Logo are trademarks registered in the United States Patent and Trademark Office by Biblica, Inc. Used with permission.