逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แต่ท่านกล่าวถึงพวกอิสราเอลว่า “ตลอดวันเราได้ยื่นมือออก ให้แก่ชนชาติที่ไม่เชื่อฟังและดื้อด้าน”
- 新标点和合本 - 至于以色列人,他说:“我整天伸手招呼那悖逆顶嘴的百姓。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 关于以色列人,他说:“我整天向那悖逆顶嘴的百姓招手。”
- 和合本2010(神版-简体) - 关于以色列人,他说:“我整天向那悖逆顶嘴的百姓招手。”
- 当代译本 - 至于以色列人,他说: “我整天伸出双手招呼那悖逆顽固的子民。”
- 圣经新译本 - 论到以色列人,他却说: “我整天向那悖逆顶嘴的子民伸开双手。”
- 中文标准译本 - 但是关于以色列人,他却说:“我整天向那悖逆、顶嘴的子民伸出双手。”
- 现代标点和合本 - 至于以色列人,他说:“我整天伸手招呼那悖逆、顶嘴的百姓。”
- 和合本(拼音版) - 至于以色列人,他说:“我整天伸手招呼那悖逆、顶嘴的百姓。”
- New International Version - But concerning Israel he says, “All day long I have held out my hands to a disobedient and obstinate people.”
- New International Reader's Version - But Isaiah also speaks about what God says concerning Israel. God said, “All day long I have held out my hands. I have held them out to a stubborn people who do not obey me.” ( Isaiah 65:2 )
- English Standard Version - But of Israel he says, “All day long I have held out my hands to a disobedient and contrary people.”
- New Living Translation - But regarding Israel, God said, “All day long I opened my arms to them, but they were disobedient and rebellious.”
- Christian Standard Bible - But to Israel he says, All day long I have held out my hands to a disobedient and defiant people.
- New American Standard Bible - But as for Israel, He says, “I have spread out My hands all day long to a disobedient and obstinate people.”
- New King James Version - But to Israel he says: “All day long I have stretched out My hands To a disobedient and contrary people.”
- Amplified Bible - But of Israel he says, “All day long I have stretched out My hands [in compassion] to a disobedient and obstinate people.”
- American Standard Version - But as to Israel he saith, All the day long did I spread out my hands unto a disobedient and gainsaying people.
- King James Version - But to Israel he saith, All day long I have stretched forth my hands unto a disobedient and gainsaying people.
- New English Translation - But about Israel he says, “All day long I held out my hands to this disobedient and stubborn people!”
- World English Bible - But about Israel he says, “All day long I stretched out my hands to a disobedient and contrary people.”
- 新標點和合本 - 至於以色列人,他說:「我整天伸手招呼那悖逆頂嘴的百姓。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 關於以色列人,他說:「我整天向那悖逆頂嘴的百姓招手。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 關於以色列人,他說:「我整天向那悖逆頂嘴的百姓招手。」
- 當代譯本 - 至於以色列人,他說: 「我整天伸出雙手招呼那悖逆頑固的子民。」
- 聖經新譯本 - 論到以色列人,他卻說: “我整天向那悖逆頂嘴的子民伸開雙手。”
- 呂振中譯本 - 論到 以色列 呢、他卻說: 『我向悖逆頂撞的子民、 整天伸開手來招呼呢!』
- 中文標準譯本 - 但是關於以色列人,他卻說:「我整天向那悖逆、頂嘴的子民伸出雙手。」
- 現代標點和合本 - 至於以色列人,他說:「我整天伸手招呼那悖逆、頂嘴的百姓。」
- 文理和合譯本 - 惟指以色列民、則曰、我終日舉手、招悖逆有違言之民矣、
- 文理委辦譯本 - 其言以色列人曰、我終日舉手、勸不信非我之民矣、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 其言 言或作語 以色列 、則曰、我終日伸手、招不信服而違逆之民、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 而於 義塞 人則曰:『我終日舉手以招斯民、而斯民頑強、不肯回頭。』
- Nueva Versión Internacional - En cambio, respecto de Israel, dice: «Todo el día extendí mis manos hacia un pueblo desobediente y rebelde».
- 현대인의 성경 - 또 이스라엘에 대하여 “내가 불순종하고 거역하는 백성을 맞으려고 하루 종일 내 팔을 벌렸다” 라고 하신 말씀도 전하였습니다.
- Новый Русский Перевод - Но об Израиле Бог говорит: «Весь день Я простирал руки Мои к непокорному и своевольному народу» .
- Восточный перевод - Но об Исраиле Всевышний говорит: «Весь день Я простирал руки Мои к этому непокорному и своевольному народу» .
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но об Исраиле Аллах говорит: «Весь день Я простирал руки Мои к этому непокорному и своевольному народу» .
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но об Исроиле Всевышний говорит: «Весь день Я простирал руки Мои к этому непокорному и своевольному народу» .
- La Bible du Semeur 2015 - Mais parlant d’Israël, il dit : A longueur de journée, ╵j’ai tendu les mains ╵vers un peuple désobéissant et rebelle .
- リビングバイブル - その一方、神はユダヤ人に、なお手を差し伸べ続けておられるのですが、彼らは反抗して、神のもとに行こうとしないのです。
- Nestle Aland 28 - πρὸς δὲ τὸν Ἰσραὴλ λέγει· ὅλην τὴν ἡμέραν ἐξεπέτασα τὰς χεῖράς μου πρὸς λαὸν ἀπειθοῦντα καὶ ἀντιλέγοντα.
- unfoldingWord® Greek New Testament - πρὸς δὲ τὸν Ἰσραὴλ λέγει, ὅλην τὴν ἡμέραν, ἐξεπέτασα τὰς χεῖράς μου πρὸς λαὸν ἀπειθοῦντα καὶ ἀντιλέγοντα.
- Nova Versão Internacional - Mas, a respeito de Israel, ele diz: “O tempo todo estendi as mãos a um povo desobediente e rebelde” .
- Hoffnung für alle - Aber zu seinem eigenen Volk muss Gott sagen: »Den ganzen Tag habe ich meine Hände nach dem Volk ausgestreckt, das sich nichts sagen lässt und gegen meinen Willen handelt!«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Còn về người Ít-ra-ên, Đức Chúa Trời phán: “Suốt ngày Chúa vẫn đưa tay chờ đợi họ nhưng họ là dân tộc phản nghịch và ngoan cố.”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระเจ้าได้กล่าวถึงพวกอิสราเอลดังนี้คือ “ตลอดวันเวลาเรายื่นมือของเราให้แก่ชนชาติที่ไม่เชื่อฟังและดื้อกระด้าง”
交叉引用
- มัทธิว 20:1 - “ด้วยว่าอาณาจักรสวรรค์เป็นเช่นเจ้าของสวนซึ่งออกไปแต่เช้าเพื่อจ้างคนมาทำงานในสวนองุ่นของตน
- มัทธิว 20:2 - เมื่อเขาตกลงว่าจะจ่ายค่าจ้างวันละหนึ่งเดนาริอันแล้วก็ให้พวกเขามาทำงานในสวนองุ่น
- มัทธิว 20:3 - “ราวสามโมงเช้าเขาออกไปเห็นหลายคนยืนอยู่ว่างๆ ที่ตลาด
- มัทธิว 20:4 - จึงชวนว่า ‘มาทำงานในสวนองุ่นของเราสิ เราจะให้ค่าจ้างตามสมควร’
- มัทธิว 20:5 - พวกเขาก็มา “ตอนเที่ยงวันและบ่ายสามโมงเจ้าของสวนออกไปทำเช่นเดิมอีก
- มัทธิว 20:6 - ราวห้าโมงเย็นเขาออกไปพบคนยืนอยู่จึงถามว่า ‘ทำไมมายืนอยู่ว่างๆ ทั้งวันที่นี่?’
- มัทธิว 20:7 - “พวกนั้นตอบว่า ‘เพราะไม่มีใครจ้างเรา’ “เขาจึงพูดว่า ‘มาทำงานที่สวนของเราสิ’
- มัทธิว 20:8 - “พอพลบค่ำเจ้าของสวนองุ่นก็สั่งหัวหน้าคนงานว่า ‘ไปเรียกคนงานมารับค่าจ้าง ตั้งแต่คนหลังสุดไปจนถึงคนแรกสุด’
- มัทธิว 20:9 - “ลูกจ้างที่มาเริ่มทำงานตอนประมาณห้าโมงเย็นรับเงินไปคนละหนึ่งเดนาริอัน
- มัทธิว 20:10 - ฝ่ายคนที่มาก่อนนึกว่าตนจะได้มากกว่านั้น แต่ก็ได้คนละหนึ่งเดนาริอันเหมือนกัน
- มัทธิว 20:11 - เมื่อพวกเขารับเงินแล้วจึงบ่นต่อว่าเจ้าของสวน
- มัทธิว 20:12 - ‘คนมาทีหลังทำงานแค่ชั่วโมงเดียวกลับได้เท่าๆ กับเราที่ตรากตรำกรำแดดมาทั้งวัน’
- มัทธิว 20:13 - “แต่เจ้าของสวนตอบคนหนึ่งในพวกนั้นว่า ‘เพื่อนเอ๋ย เราไม่ได้โกงนะ ก็ตกลงกันไว้ว่าหนึ่งเดนาริอันไม่ใช่หรือ?
- มัทธิว 20:14 - รับค่าจ้างและไปเถิด เราพอใจจะให้คนมาทีหลังได้เท่าๆ กันกับท่าน
- มัทธิว 20:15 - เงินของเรา เราไม่มีสิทธิ์ใช้ตามใจชอบหรือ? หรือว่าท่านอิจฉาเพราะเห็นเราใจกว้าง?’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:13 - และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว เป็นชนชาติที่ดื้อรั้นหัวแข็งจริงๆ!
- มัทธิว 22:3 - พระองค์ทรงส่งคนไปเรียกบรรดาผู้ที่เชิญไว้ให้มาร่วมงานเลี้ยง แต่พวกเขาไม่ยอมมา
- มัทธิว 22:4 - “แล้วพระองค์จึงทรงส่งคนไปอีกและสั่งว่า ‘ไปบอกพวกที่รับเชิญไว้ว่าเราเตรียมงานเลี้ยงเรียบร้อย วัวและโคขุนก็ชำแหละเสร็จ ทุกอย่างพร้อมแล้ว มาร่วมงานเลี้ยงเถิด’
- มัทธิว 22:5 - “แต่คนเหล่านั้นไม่สนใจและไปเสีย บางคนไปที่นา บางคนไปทำธุรกิจของตน
- มัทธิว 22:6 - คนอื่นๆ นอกนั้นก็จับข้าราชบริพารมาทำร้ายและฆ่าทิ้งเสีย
- มัทธิว 22:7 - กษัตริย์จึงกริ้วนัก พระองค์ทรงส่งกองทัพมาประหารพวกฆาตกรและเผาเมืองของพวกเขา
- 1เปโตร 2:8 - และ “เป็นก้อนหินซึ่งทำให้ผู้คนสะดุด และเป็นศิลาที่ทำให้พวกเขาล้มลง” พวกเขาสะดุดก็เพราะไม่เชื่อฟังถ้อยคำนั้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาได้ถูกกำหนดไว้
- กิจการของอัครทูต 13:46 - แล้วเปาโลกับบารนาบัสจึงโต้ตอบพวกเขาด้วยใจกล้าว่า “เราต้องประกาศพระวจนะของพระเจ้าแก่พวกท่านก่อน ในเมื่อท่านปฏิเสธและไม่เห็นว่าตัวเองคู่ควรกับชีวิตนิรันดร์บัดนี้เราก็จะหันไปหาพวกต่างชาติ
- กิจการของอัครทูต 13:47 - เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาเราไว้ว่า “ ‘เราได้ทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติ เพื่อเจ้าจะนำความรอดไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก’ ”
- กิจการของอัครทูต 7:51 - “ท่านเหล่าประชากรผู้หัวแข็ง ผู้มีจิตใจและหูที่ไม่ได้เข้าสุหนัต! ท่านก็เป็นเหมือนบรรพบุรุษของท่าน พวกท่านต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์เสมอ!
- กิจการของอัครทูต 7:52 - มีผู้เผยพระวจนะคนไหนบ้างที่ไม่ถูกบรรพบุรุษของท่านข่มเหง? พวกเขาฆ่าแม้กระทั่งบรรดาผู้ที่พยากรณ์ถึงการเสด็จมาขององค์ผู้ชอบธรรมและบัดนี้พวกท่านได้ทรยศและประหารพระองค์
- 1เธสะโลนิกา 2:16 - โดยการพยายามขัดขวางไม่ให้เราประกาศแก่คนต่างชาติเพื่อให้คนเหล่านั้นได้รับความรอด ด้วยการกระทำเหล่านี้พวกเขาได้พอกพูนบาปผิดให้เต็มพิกัด พระพิโรธของพระเจ้าจึงมาถึงพวกเขาในที่สุด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 31:27 - เพราะข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าพวกท่านชอบกบฏและดื้อรั้นหัวแข็งเพียงใด แม้ทุกวันนี้ซึ่งข้าพเจ้ายังอยู่กับท่าน ท่านยังกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงเพียงนี้ ท่านจะยิ่งกบฏมากขึ้นสักเพียงใดหลังจากที่ข้าพเจ้าตายไปแล้ว!
- มัทธิว 23:34 - เราส่งผู้เผยพระวจนะ นักปราชญ์ และครูอาจารย์มา บางคนเจ้าก็ฆ่าและจับตรึงไม้กางเขน บางคนเจ้าก็เฆี่ยนตีในธรรมศาลา และไล่ล่าจากเมืองนั้นไปเมืองนี้
- มัทธิว 23:35 - ฉะนั้นโลหิตของผู้ชอบธรรมทั้งปวงที่หลั่งชโลมดินจะตกอยู่แก่เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่โลหิตของอาแบลผู้ชอบธรรมไปจนถึงโลหิตของเศคาริยาห์บุตรเบเรคิยาห์ซึ่งเจ้าฆ่าตายระหว่างพระวิหารกับแท่นบูชา
- มัทธิว 23:36 - เราบอกความจริงแก่เจ้าว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นแก่คนในชั่วอายุนี้
- มัทธิว 23:37 - “โอ เยรูซาเล็ม เยรูซาเล็มเอ๋ย เจ้าผู้เข่นฆ่าเหล่าผู้เผยพระวจนะและเอาหินขว้างบรรดาผู้ที่ทรงส่งมาหาเจ้า เราปรารถนาอยู่เนืองๆ ที่จะรวบรวมลูกๆ ของเจ้ามาเหมือนแม่ไก่ที่กกลูกๆ ไว้ใต้ปีก แต่เจ้าไม่ยอมเลย
- ลูกา 24:47 - และให้ประกาศการกลับใจใหม่และการอภัยบาปในพระนามของพระองค์แก่มวลประชาชาติเริ่มตั้งแต่ที่เยรูซาเล็ม
- เยเรมีย์ 44:4 - เราส่งผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเรามาเตือนเขาครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ‘อย่าทำสิ่งที่น่าชิงชังที่เราเกลียดนี้!’
- เยเรมีย์ 44:5 - แต่เขาก็ไม่ฟังหรือใส่ใจ ไม่ยอมหันกลับจากความชั่วร้าย หรือหยุดเผาเครื่องหอมให้พระต่างๆ
- เยเรมีย์ 44:6 - ฉะนั้นเราจึงเทโทสะเกรี้ยวกราดของเราให้มันโหมกระหน่ำลงมาเหนือหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และถนนหนทางในเยรูซาเล็ม และทำให้เมืองเหล่านี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ถูกทิ้งร้างเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”
- เยเรมีย์ 25:4 - และถึงแม้องค์พระผู้เป็นเจ้าส่งบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกท่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกท่านก็ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมใส่ใจ
- สุภาษิต 1:24 - แต่เนื่องจากเจ้าปฏิเสธเมื่อเราร้องเรียก ไม่มีใครใส่ใจเมื่อเรากวักมือ
- มัทธิว 21:33 - “จงฟังคำอุปมาอีกเรื่อง คือเจ้าของสวนแห่งหนึ่งทำสวนองุ่น เขาล้อมรั้วกั้นสวน สกัดบ่อย่ำองุ่น และสร้างหอไว้เฝ้า จากนั้นให้ชาวสวนเช่าแล้วเดินทางจากไปต่างแดน
- มัทธิว 21:34 - เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวเขาก็ส่งคนรับใช้ไปหาผู้เช่าเพื่อรับผลผลิตของเขา
- มัทธิว 21:35 - “พวกผู้เช่าก็จับเหล่าคนรับใช้ของเขามาทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง และเอาหินขว้างคนที่สามจนตาย
- มัทธิว 21:36 - เจ้าของสวนจึงส่งคนไปอีก มากยิ่งกว่าครั้งแรก แต่ก็ถูกผู้เช่าเล่นงานเหมือนครั้งก่อน
- มัทธิว 21:37 - สุดท้ายเจ้าของสวนส่งลูกชายไปหาพวกเขากล่าวว่า ‘พวกเขาคงจะเคารพบุตรของเรา’
- มัทธิว 21:38 - “แต่เมื่อผู้เช่าเห็นลูกชายเจ้าของสวนก็พูดกันว่า ‘นี่ไงทายาท ให้เราฆ่าเขาแล้วยึดเอามรดกของเขา’
- มัทธิว 21:39 - พวกนั้นจึงจับลูกชายเจ้าของสวนองุ่นโยนออกมานอกสวนแล้วฆ่าเสีย
- มัทธิว 21:40 - “เหตุฉะนั้นเมื่อเจ้าของสวนองุ่นมา เขาจะทำอย่างไรกับผู้เช่าเหล่านั้นดี?”
- มัทธิว 21:41 - พวกเขาทูลตอบว่า “เจ้าของสวนย่อมจะจัดการกับคนเลวๆ เช่นนั้นอย่างสาสม และให้ผู้เช่ารายอื่นที่ยอมส่งส่วนแบ่งของผลผลิตให้เขาเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาเช่าสวนองุ่นนี้”
- มัทธิว 21:42 - พระเยซูตรัสแก่พวกเขาว่า “พวกท่านไม่เคยอ่านพระคัมภีร์หรือที่ว่า “ ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งแล้ว บัดนี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำการนี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาของเรา’
- มัทธิว 21:43 - “ฉะนั้นเราบอกท่านว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะถูกริบไปจากท่านและยกให้แก่ชนชาติที่จะผลิตผลของมัน
- 1ซามูเอล 8:7 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงฟังทุกสิ่งที่พวกเขาบอกเถิด เพราะพวกเขาไม่ได้ทอดทิ้งเจ้าแต่ทอดทิ้งเรา และไม่ต้องการให้เราเป็นกษัตริย์ของพวกเขา
- 1ซามูเอล 8:8 - นับตั้งแต่เราพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์จวบจนบัดนี้ พวกเขาทอดทิ้งเราอยู่เสมอและหันไปปรนนิบัติพระอื่นๆ พวกเขาก็กำลังทำกับเจ้าอย่างเดียวกัน
- เนหะมีย์ 9:26 - “แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังและกบฏต่อพระองค์ ทอดทิ้งบทบัญญัติ สังหารบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ซึ่งเตือนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ พวกเขาหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- เยเรมีย์ 35:15 - เราส่งผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราคนแล้วคนเล่ามาหาพวกเจ้า ผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นกล่าวว่า “เจ้าแต่ละคนต้องหันหนีจากวิถีอันชั่วร้ายและแก้ไขความประพฤติของตน อย่าไปติดตามหรือปรนนิบัติพระต่างๆ แล้วเจ้าจะอาศัยอยู่ในดินแดนซึ่งเรายกให้แก่เจ้ากับบรรพบุรุษของเจ้า” แต่เจ้าก็ไม่ยอมใส่ใจ ไม่ยอมฟังเรา
- อิสยาห์ 65:2 - ตลอดวันเราได้ยื่นมือออก ให้แก่ชนชาติที่ดื้อด้าน ซึ่งดำเนินตามวิถีทางอันไม่ดีไม่งาม ทำตามความคิดจินตนาการของตัวเอง
- อิสยาห์ 65:3 - คือชนชาติที่ยั่วยุเราซึ่งๆ หน้าอยู่เสมอ ซึ่งถวายเครื่องบูชาตามสวนต่างๆ และเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชาที่ทำด้วยอิฐ
- อิสยาห์ 65:4 - เขานั่งตามหลุมฝังศพ และเฝ้าอยู่ลับๆ ตลอดคืน เขากินเนื้อหมู และมีอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ที่เป็นมลทินอยู่ในหม้อของเขา
- อิสยาห์ 65:5 - เขาผู้กล่าวว่า ‘หลีกไป อย่าเข้ามาใกล้ข้า เพราะข้าบริสุทธิ์กว่าเจ้า!’ คนเช่นนี้เป็นควันระคายจมูกของเรา เป็นไฟซึ่งลุกโพลงตลอดวัน