逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์ไม่ยอมให้ใครมาบีบบังคับพวกเขา พระองค์เตือนบรรดากษัตริย์เพื่อเห็นแก่พวกเขา
- 新标点和合本 - 他不容什么人欺负他们, 为他们的缘故责备君王,
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他不容人欺负他们, 为他们的缘故责备君王:
- 和合本2010(神版-简体) - 他不容人欺负他们, 为他们的缘故责备君王:
- 当代译本 - 耶和华不容人压迫他们, 还为他们的缘故责备君王,
- 圣经新译本 - 他不容任何人欺压他们, 为了他们的缘故,他曾指责君王,说:
- 中文标准译本 - 他不容任何人欺压他们, 还为他们的缘故责备君王:
- 现代标点和合本 - 他不容什么人欺负他们, 为他们的缘故责备君王,
- 和合本(拼音版) - 他不容什么人欺负他们, 为他们的缘故责备君王,
- New International Version - He allowed no one to oppress them; for their sake he rebuked kings:
- New International Reader's Version - But God didn’t allow anyone to treat them badly. To keep them safe, he gave a command to kings.
- English Standard Version - he allowed no one to oppress them; he rebuked kings on their account,
- New Living Translation - Yet he did not let anyone oppress them. He warned kings on their behalf:
- Christian Standard Bible - he allowed no one to oppress them; he rebuked kings on their behalf:
- New American Standard Bible - He allowed no one to oppress them, And He rebuked kings for their sakes, saying,
- New King James Version - He permitted no one to do them wrong; Yes, He rebuked kings for their sakes,
- Amplified Bible - He allowed no man to oppress them; He rebuked kings for their sakes, saying,
- American Standard Version - He suffered no man to do them wrong; Yea, he reproved kings for their sakes,
- King James Version - He suffered no man to do them wrong: yea, he reproved kings for their sakes;
- New English Translation - He let no one oppress them; he disciplined kings for their sake,
- World English Bible - He allowed no one to do them wrong. Yes, he reproved kings for their sakes,
- 新標點和合本 - 他不容甚麼人欺負他們, 為他們的緣故責備君王,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他不容人欺負他們, 為他們的緣故責備君王:
- 和合本2010(神版-繁體) - 他不容人欺負他們, 為他們的緣故責備君王:
- 當代譯本 - 耶和華不容人壓迫他們, 還為他們的緣故責備君王,
- 聖經新譯本 - 他不容任何人欺壓他們, 為了他們的緣故,他曾指責君王,說:
- 呂振中譯本 - 永恆主 不容任何人欺壓他們; 他為了他們的緣故曾指責過君王,
- 中文標準譯本 - 他不容任何人欺壓他們, 還為他們的緣故責備君王:
- 現代標點和合本 - 他不容什麼人欺負他們, 為他們的緣故責備君王,
- 文理和合譯本 - 上帝不容人虐遇之、因之譴責列王兮、
- 文理委辦譯本 - 上帝不容人虐遇、苟為列王所侮、譴責必加兮、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主不容人欺虐之、因其緣故、懲治列王、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 誡君民。莫之侮。
- Nueva Versión Internacional - a nadie permitió que los oprimiera, sino que por ellos reprendió a los reyes:
- 현대인의 성경 - 하나님은 아무도 그들을 괴롭히지 못하게 하시고 그들을 위해 모든 왕들에게 경고하셨다.
- Новый Русский Перевод - Возгорелись страстным желанием в пустыне и испытывали Бога в необитаемой местности.
- Восточный перевод - Страстно возжелали в пустыне мяса и испытывали Всевышнего в необитаемой местности.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Страстно возжелали в пустыне мяса и испытывали Аллаха в необитаемой местности.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Страстно возжелали в пустыне мяса и испытывали Всевышнего в необитаемой местности.
- La Bible du Semeur 2015 - Mais Dieu ne laissa personne ╵les persécuter ; il réprimanda des rois à leur sujet :
- リビングバイブル - しかし、そんな時でも、主の許しなしには、 だれも彼らを攻撃することはできなかったのです。 彼らを攻撃しようとする多くの王が滅ぼされました。
- Nova Versão Internacional - ele não permitiu que ninguém os oprimisse, mas a favor deles repreendeu reis, dizendo:
- Hoffnung für alle - da erlaubte Gott keinem, sie zu unterdrücken. Die Könige der fremden Völker warnte er:
- Kinh Thánh Hiện Đại - Nhưng Chúa không cho ai áp bức họ. Vì họ, Chúa cảnh cáo các vua:
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย
交叉引用
- ปฐมกาล 26:14 - ท่านเป็นเจ้าของฝูงแพะแกะ และโค อีกทั้งผู้รับใช้มากมาย จนกระทั่งชาวฟีลิสเตียอิจฉา
- ปฐมกาล 26:15 - (เมื่ออับราฮัมบิดาของท่านยังมีชีวิตอยู่ พวกผู้รับใช้ของท่านได้ขุดบ่อน้ำไว้ มาบัดนี้พวกฟีลิสเตียเอาดินถมบ่อทุกบ่อ)
- ปฐมกาล 26:16 - อาบีเมเลคกล่าวกับอิสอัคว่า “จงไปจากพวกเรา เพราะว่าท่านมีกำลังเกินกว่าพวกเราแล้ว”
- ปฐมกาล 26:17 - อิสอัคจึงออกไปจากที่นั่น ท่านตั้งค่ายอยู่ที่ลุ่มน้ำเก-ราร์ และอาศัยอยู่ที่นั่น
- ปฐมกาล 26:18 - แล้วอิสอัคขุดบ่อน้ำเดิมที่เคยขุดไว้แล้วในสมัยของอับราฮัมบิดาของท่าน แต่ชาวฟีลิสเตียได้ถมบ่อเสียหลังจากอับราฮัมสิ้นชีวิตลง และท่านตั้งชื่อบ่อเป็นชื่อเดียวกันกับที่บิดาของท่านได้ตั้งไว้
- ปฐมกาล 26:19 - เมื่อพวกผู้รับใช้ของอิสอัคขุดบ่อที่ลุ่มน้ำก็พบว่ามีน้ำไหล
- ปฐมกาล 26:20 - พวกคนเลี้ยงสัตว์ของเก-ราร์จึงวิวาทกับคนเลี้ยงสัตว์ของอิสอัค โดยพูดว่า “น้ำเป็นของพวกเรา” ท่านจึงตั้งชื่อบ่อนั้นว่า เอเสก เพราะพวกเขาวิวาทกับท่าน
- ปฐมกาล 26:21 - แล้วพวกเขาก็ขุดอีกบ่อหนึ่ง และวิวาทกันเรื่องบ่อนั้นอีก ท่านจึงตั้งชื่อว่า สิตนาห์
- ปฐมกาล 26:22 - แล้วท่านก็ได้ย้ายไปจากที่นั่น และไปขุดอีกบ่อหนึ่ง คราวนี้ไม่มีการวิวาทกันเรื่องบ่ออีก ท่านจึงตั้งชื่อว่า เรโหโบท โดยพูดว่า “บัดนี้พระผู้เป็นเจ้าได้ให้พวกเรามีที่กว้างขวาง และเราจะได้ผลทวีขึ้น”
- ปฐมกาล 26:23 - ท่านจากที่นั่นไป และขึ้นไปยังเบเออร์เช-บา
- ปฐมกาล 26:24 - ในคืนวันนั้นพระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่ท่าน และกล่าวว่า “เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัมบิดาของเจ้า อย่ากลัวเลย เพราะว่าเราอยู่กับเจ้า และจะให้พรแก่เจ้า พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนผู้สืบเชื้อสายของเจ้าเพื่ออับราฮัมผู้รับใช้ของเรา”
- ปฐมกาล 26:25 - ดังนั้น ท่านจึงสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่น ร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า และตั้งกระโจมอยู่ที่นั่น พวกผู้รับใช้ของอิสอัคก็ขุดบ่อน้ำอีก
- ปฐมกาล 26:26 - ขณะนั้นอาบีเมเลคกับอาหุสซัทผู้ปรึกษาออกไปจากเก-ราร์ พร้อมด้วยฟีโคล์ผู้บังคับกองพันทหารของท่าน
- ปฐมกาล 26:27 - อิสอัคพูดกับพวกเขาว่า “ทำไมพวกท่านจึงมาหาข้าพเจ้า ในเมื่อท่านเกลียดชังข้าพเจ้า และให้ข้าพเจ้าไปจากพวกท่านแล้ว”
- ปฐมกาล 26:28 - พวกเขาตอบว่า “พวกเราเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน พวกเราจึงตัดสินใจว่าเราควรร่วมสาบานกันระหว่างท่านและเรา ให้พวกเราทำพันธสัญญากับท่านเถิด
- ปฐมกาล 26:29 - ว่าท่านจะไม่ทำสิ่งเลวร้ายใดๆ ต่อพวกเรา เช่นเดียวกับที่เราไม่ได้แตะต้องตัวท่าน หากแต่ทำสิ่งดีๆ ให้แก่ท่าน และให้ท่านจากไปอย่างสันติ บัดนี้ท่านก็ได้รับพระพรจากพระผู้เป็นเจ้า”
- ปฐมกาล 26:30 - อิสอัคจึงจัดเลี้ยงให้พวกเขา เขาก็รับประทานและดื่มกัน
- ปฐมกาล 26:31 - พอรุ่งเช้าเขาทั้งหลายลุกขึ้นแต่เช้าตรู่เพื่อสาบานต่อกันและกัน แล้วอิสอัคล่ำลาชายทั้งสาม พวกเขาได้จากไปโดยสันติ
- ปฐมกาล 26:32 - ในวันเดียวกันนั้น พวกผู้รับใช้ของอิสอัคมาบอกท่านเรื่องบ่อน้ำที่ได้ขุดกันไว้ และบอกท่านว่า “พวกเราพบน้ำแล้ว”
- ปฐมกาล 26:33 - ท่านเรียกชื่อบ่อว่า ชิบาห์ ฉะนั้นชื่อเมืองจึงเป็น เบเออร์เช-บา
- ปฐมกาล 12:14 - เมื่ออับรามเข้าไปในอียิปต์ ชาวอียิปต์เห็นว่านางงดงามมาก
- ปฐมกาล 12:15 - และเมื่อข้าราชบริพารชั้นสูงของฟาโรห์เห็นนาง ก็ชมเชยนางให้ฟาโรห์ฟัง นางจึงถูกพาตัวไปยังวังของฟาโรห์
- ปฐมกาล 12:16 - ฟาโรห์จึงดีต่ออับรามก็เพื่อซาราย อับรามจึงได้ฝูงแพะแกะ โค ลาตัวผู้ บ่าวรับใช้ชายและหญิง ลาตัวเมีย และอูฐ
- ปฐมกาล 12:17 - แต่พระผู้เป็นเจ้าให้ฟาโรห์และคนในวังมีความทุกข์คือ ประสบภัยพิบัติร้ายแรง เหตุเพราะนางซารายภรรยาของอับราม
- ปฐมกาล 20:1 - อับราฮัมย้ายถิ่นฐานจากที่นั่นไปทางดินแดนเนเกบ และตั้งรกรากระหว่างคาเดชและเมืองชูร์ และท่านอาศัยอยู่อย่างคนต่างด้าวที่เมืองเก-ราร์
- ปฐมกาล 20:2 - อับราฮัมพูดถึงซาราห์ภรรยาของตนว่า “นางเป็นน้องสาวของข้าพเจ้า” ดังนั้นอาบีเมเลคกษัตริย์แห่งเก-ราร์ใช้คนไปพาตัวซาราห์มาพบ
- ปฐมกาล 20:3 - แต่คืนวันหนึ่งพระเจ้าปรากฏแก่อาบีเมเลคในฝัน และกล่าวกับท่านว่า “ระวังเถิด เจ้าตายแน่ เพราะหญิงที่เจ้าได้ตัวมานั้น นางมีสามีแล้ว”
- ปฐมกาล 20:4 - ขณะนั้นอาบีเมเลคยังไม่ได้เข้าถึงตัวนาง จึงพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทำให้บรรดาผู้มีความชอบธรรมถึงแก่ชีวิตหรือ
- ปฐมกาล 20:5 - ตัวเขาเองมิใช่หรือที่พูดกับข้าพเจ้าว่า ‘นางเป็นน้องสาวของข้าพเจ้า’ และตัวนางเองก็พูดว่า ‘เขาเป็นพี่ชายของข้าพเจ้า’ ข้าพเจ้ากระทำไปด้วยความจริงใจและความบริสุทธิ์”
- ปฐมกาล 20:6 - แล้วพระเจ้ากล่าวกับท่านในฝันว่า “เรารู้ว่าเจ้าทำไปด้วยความจริงใจของเจ้า และเราเป็นผู้ป้องกันเจ้าไม่ให้กระทำบาปต่อเรา เราจึงไม่ได้ปล่อยให้เจ้าถูกต้องตัวนาง
- ปฐมกาล 20:7 - เอาล่ะ จงคืนภรรยาของชายนั้นไปเสีย เพราะว่าเขาเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และเขาจะอธิษฐานให้เจ้า เจ้าจะได้ไม่ตาย แต่ถ้าเจ้าไม่คืนนางไป จงรู้ด้วยว่าเจ้าจะต้องตายแน่ ทั้งตัวเจ้าและทุกคนที่อยู่ในปกครองของเจ้า”
- อพยพ 7:16 - แล้วเจ้าจงพูดกับเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของชาวฮีบรูใช้ข้าพเจ้าให้มาบอกว่า “ปล่อยให้ชนชาติของเราไป เพื่อพวกเขาจะได้นมัสการเราที่ถิ่นทุรกันดาร แต่เจ้าก็ยังไม่เชื่อฟัง”
- อพยพ 7:17 - ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้ากล่าวอีกว่า “เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้าโดยสิ่งที่เรากระทำคือ เราจะใช้ไม้เท้าที่อยู่ในมือเราฟาดลงที่ผิวน้ำในแม่น้ำไนล์ และมันจะกลายเป็นเลือด
- ปฐมกาล 31:24 - และคืนวันหนึ่งพระเจ้าปรากฏแก่ลาบันชาวอารัมในฝัน และกล่าวกับเขาว่า “จงระวัง เจ้าจงอย่าพูดกับยาโคบเลย ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย”
- ปฐมกาล 31:25 - ลาบันตามมาทันยาโคบ ขณะนั้นยาโคบตั้งกระโจมอยู่ที่แถบเทือกเขา และลาบันกับพวกญาติของเขาก็ตั้งค่ายพักอยู่ที่แถบเทือกเขาในกิเลอาด
- ปฐมกาล 31:26 - ลาบันพูดกับยาโคบว่า “เจ้าทำอะไร เจ้าหลอกฉัน แล้วยังพาลูกสาวของฉันหนีมาเหมือนเป็นเชลยศึก
- ปฐมกาล 31:27 - ทำไมเจ้าจึงแอบเดินทางมา แถมยังหลอกฉันโดยไม่บอกกล่าวกันเลย ถ้าบอกให้รู้ ฉันพร้อมจะส่งเจ้าไปด้วยความยินดี พร้อมกับเสียงเพลงจากรำมะนาและพิณ
- ปฐมกาล 31:28 - ทำไมเจ้าจึงไม่ยอมให้ฉันจูบแก้มลาลูกหลานของฉัน เจ้าทำสิ่งโง่ๆ แบบนี้
- ปฐมกาล 31:29 - ฉันมีกำลังจะทำร้ายเจ้าก็ได้ แต่พระเจ้าของบิดาของเจ้ากล่าวกับฉันเมื่อคืนว่า ‘จงระวัง เจ้าจงอย่าพูดกับยาโคบเลย ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย’
- ปฐมกาล 35:5 - ขณะที่พวกเขาเดินทางไป เมืองที่อยู่โดยรอบเกิดความหวาดกลัวพระเจ้า จึงไม่กล้าตามไปกำจัดบุตรชายของยาโคบ