逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พระเยซูตอบว่า “พระคัมภีร์ เขียนไว้ว่า ‘ชีวิตที่เที่ยงแท้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนมปังเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ได้ด้วยคำพูดทุกคำที่มาจากพระเจ้า’”
- 新标点和合本 - 耶稣却回答说:“经上记着说: ‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠 神口里所出的一切话。’”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣却回答说:“经上记着: ‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠上帝口里所出的一切话。’”
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣却回答说:“经上记着: ‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠 神口里所出的一切话。’”
- 当代译本 - 耶稣回答说:“圣经上说,‘人活着不是单靠食物,而是靠上帝口中的每一句话。’ ”
- 圣经新译本 - 耶稣回答:“经上记着: ‘人活着,不是单靠食物, 更要靠 神口里所出的一切话。’”
- 中文标准译本 - 耶稣回答说:“经上记着: ‘人活着不是单靠食物, 而是靠神口里所出的每一句话。’ ”
- 现代标点和合本 - 耶稣却回答说:“经上记着说: ‘人活着不是单靠食物, 乃是靠神口里所出的一切话。’”
- 和合本(拼音版) - 耶稣却回答说:“经上记着说: “‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠上帝口里所出的一切话。’ ”
- New International Version - Jesus answered, “It is written: ‘Man shall not live on bread alone, but on every word that comes from the mouth of God.’ ”
- New International Reader's Version - Jesus answered, “It is written, ‘Man must not live only on bread. He must also live on every word that comes from the mouth of God.’ ” ( Deuteronomy 8:3 )
- English Standard Version - But he answered, “It is written, “‘Man shall not live by bread alone, but by every word that comes from the mouth of God.’”
- New Living Translation - But Jesus told him, “No! The Scriptures say, ‘People do not live by bread alone, but by every word that comes from the mouth of God.’ ”
- The Message - Jesus answered by quoting Deuteronomy: “It takes more than bread to stay alive. It takes a steady stream of words from God’s mouth.”
- Christian Standard Bible - He answered, “It is written: Man must not live on bread alone but on every word that comes from the mouth of God.”
- New American Standard Bible - But He answered and said, “It is written: ‘Man shall not live on bread alone, but on every word that comes out of the mouth of God.’ ”
- New King James Version - But He answered and said, “It is written, ‘Man shall not live by bread alone, but by every word that proceeds from the mouth of God.’ ”
- Amplified Bible - But Jesus replied, “It is written and forever remains written, ‘Man shall not live by bread alone, but by every word that comes out of the mouth of God.’ ”
- American Standard Version - But he answered and said, It is written, Man shall not live by bread alone, but by every word that proceedeth out of the mouth of God.
- King James Version - But he answered and said, It is written, Man shall not live by bread alone, but by every word that proceedeth out of the mouth of God.
- New English Translation - But he answered, “It is written, ‘Man does not live by bread alone, but by every word that comes from the mouth of God.’”
- World English Bible - But he answered, “It is written, ‘Man shall not live by bread alone, but by every word that proceeds out of the mouth of God.’”
- 新標點和合本 - 耶穌卻回答說:「經上記着說: 人活着,不是單靠食物, 乃是靠神口裏所出的一切話。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌卻回答說:「經上記着: 『人活着,不是單靠食物, 乃是靠上帝口裏所出的一切話。』」
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌卻回答說:「經上記着: 『人活着,不是單靠食物, 乃是靠 神口裏所出的一切話。』」
- 當代譯本 - 耶穌回答說:「聖經上說,『人活著不是單靠食物,而是靠上帝口中的每一句話。』 」
- 聖經新譯本 - 耶穌回答:“經上記著: ‘人活著,不是單靠食物, 更要靠 神口裡所出的一切話。’”
- 呂振中譯本 - 耶穌回答說:『有記着說: 「人活着、不是單要靠着餅, 乃是靠上帝口裏所出的一切話。」』
- 中文標準譯本 - 耶穌回答說:「經上記著: 『人活著不是單靠食物, 而是靠神口裡所出的每一句話。』 」
- 現代標點和合本 - 耶穌卻回答說:「經上記著說: 『人活著不是單靠食物, 乃是靠神口裡所出的一切話。』」
- 文理和合譯本 - 曰、記有之、人之生不第恃食、惟恃上帝所出之言、
- 文理委辦譯本 - 耶穌曰、記有之、人得生、不惟餅、惟上帝所命、○
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌曰、經載云、人得生、不第恃餅、亦恃凡天主口所出之言、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌曰:『經云、人生非專恃飲食、惟恃天主口中所發諸命。』
- Nueva Versión Internacional - Jesús le respondió: —Escrito está: “No solo de pan vive el hombre, sino de toda palabra que sale de la boca de Dios”.
- 현대인의 성경 - 그러나 예수님은 마귀에게 이렇게 말씀하셨다. “성경에는 ‘사람이 빵으로만 살 것이 아니라 하나님의 모든 말씀으로 살아야 한다’ 라고 쓰여 있다.”
- Новый Русский Перевод - Но Иисус ответил: – Написано: «Не одним хлебом живет человек, но и каждым словом, исходящим из уст Божьих» .
- Восточный перевод - Но Иса ответил: – Написано: «Не одним хлебом живёт человек, но и каждым словом, исходящим из уст Всевышнего» .
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но Иса ответил: – Написано: «Не одним хлебом живёт человек, но и каждым словом, исходящим из уст Аллаха» .
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но Исо ответил: – Написано: «Не одним хлебом живёт человек, но и каждым словом, исходящим из уст Всевышнего» .
- La Bible du Semeur 2015 - Jésus répondit : Il est écrit : L’homme ne vivra pas seulement de pain, mais aussi de toute parole que Dieu prononce .
- リビングバイブル - しかしイエスは、お答えになりました。「いいえ。聖書には、『人はただパンだけで生きるのではなく、神の口から出る一つ一つのことばによる』(申命8・3)と書いてある。わたしたちは、神のすべてのことばに従うべきなのです。」
- Nestle Aland 28 - ὁ δὲ ἀποκριθεὶς εἶπεν· γέγραπται· οὐκ ἐπ’ ἄρτῳ μόνῳ ζήσεται ὁ ἄνθρωπος, ἀλλ’ ἐπὶ παντὶ ῥήματι ἐκπορευομένῳ διὰ στόματος θεοῦ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὁ δὲ ἀποκριθεὶς εἶπεν, γέγραπται, οὐκ ἐπ’ ἄρτῳ μόνῳ ζήσεται ὁ ἄνθρωπος, ἀλλ’ ἐπὶ παντὶ ῥήματι ἐκπορευομένῳ διὰ στόματος Θεοῦ.
- Nova Versão Internacional - Jesus respondeu: “Está escrito: ‘Nem só de pão viverá o homem, mas de toda palavra que procede da boca de Deus’ ”.
- Hoffnung für alle - Aber Jesus wehrte ab: »Es steht in der Heiligen Schrift: ›Der Mensch lebt nicht allein von Brot, sondern von allem, was Gott ihm zusagt!‹ «
- Kinh Thánh Hiện Đại - Nhưng Chúa Giê-xu đáp: “Thánh Kinh chép: ‘Người ta sống không phải chỉ nhờ bánh, nhưng nhờ vâng theo mọi lời Đức Chúa Trời phán dạy.’ ”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระเยซูตรัสตอบว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘มนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวแต่ดำรงชีวิตด้วยทุกถ้อยคำจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่พระองค์กล่าวตอบว่า “มีบันทึกไว้ว่า ‘มนุษย์มิอาจยังชีพได้ด้วยขนมปังเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ได้ด้วยทุกถ้อยคำที่กล่าวจากปากของพระเจ้า’”
- Thai KJV - ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’”
交叉引用
- 1 พงศ์กษัตริย์ 17:12 - นางตอบว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านมีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจได้เลยว่าฉันไม่มีขนมปัง มีเพียงแป้งหนึ่งกำมืออยู่ก้นไห กับน้ำมันอีกเพียงเล็กน้อยในเหยือก นี่ฉันกำลังเก็บฟืน เพื่อนำกลับไปทำอาหารที่บ้านให้ตัวเองและลูกชายของฉัน เพื่อเราจะได้กินมันแล้วก็อดตาย”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 17:13 - เอลียาห์พูดกับนางว่า “อย่ากลัวเลย กลับไปบ้านและทำอย่างที่ท่านได้พูดไว้ แต่ท่านต้องทำขนมปังก้อนเล็กๆให้เราก่อนจากของที่ท่านมีอยู่ และเอามันมาให้กับเรา หลังจากนั้นก็ทำขนมปังให้กับตัวท่านเองและลูกชายของท่าน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 17:14 - เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลพูด ‘แป้งในไหจะไม่มีวันหมดและน้ำมันในเหยือกจะไม่มีวันขาดไป จนกว่าจะถึงวันที่พระยาห์เวห์ทำให้ฝนตกลงบนแผ่นดินนี้’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 17:15 - นางจากไปและทำตามที่เอลียาห์บอกนางไว้ และหลังจากนั้น ทั้งเอลียาห์ หญิงคนนั้นกับครอบครัวของนางก็มีอาหารกินทุกวัน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 17:16 - เพราะแป้งในไหไม่เคยหมด และน้ำมันในเหยือกก็ไม่เคยขาดไป ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้พูดไว้ผ่านทางเอลียาห์
- มาระโก 6:38 - พระเยซูพูดกับพวกเขาว่า “ไปดูสิว่าคุณมีขนมปังอยู่กี่ก้อน” เมื่อพวกเขารู้ก็กลับมาบอกว่า “มีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวครับ”
- มาระโก 6:39 - พระองค์จึงสั่งให้พวกเขาไปจัดการให้ชาวบ้านนั่งกันเป็นกลุ่มๆบนพื้นที่มีหญ้าขึ้นเขียวชอุ่มแถวนั้น
- มาระโก 6:40 - พวกชาวบ้านนั่งกันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละหนึ่งร้อยบ้าง ห้าสิบบ้าง
- มาระโก 6:41 - แล้วพระองค์หยิบขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวขึ้นมา มองขึ้นไปบนสวรรค์ขอบคุณพระเจ้า แล้วหักขนมปังส่งให้กับพวกศิษย์ไปแจกชาวบ้าน และพระองค์แบ่งปลาสองตัวนั้นแจกพวกเขาทุกคนด้วย
- มาระโก 6:42 - ทุกคนกินกันจนอิ่ม
- มาระโก 6:43 - แล้วพวกศิษย์เก็บเศษขนมปังและปลาที่เหลือได้สิบสองเข่งเต็มๆ
- มาระโก 6:44 - นับเฉพาะผู้ชายที่มากินได้ถึงห้าพันคน
- ฮักกัย 2:16 - ตอนนั้นเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง บางคนมาที่กองข้าว คาดหวังว่าจะได้ข้าวสักยี่สิบถัง แต่กลับได้แค่สิบถัง บางคนมาที่บ่อเก็บเหล้าองุ่น กะจะเทได้ห้าสิบไห กลับเทได้แค่ยี่สิบไห
- ฮักกัย 2:17 - เราทำร้ายพวกเจ้า และทุกอย่างที่เจ้าลงมือเพาะปลูก ด้วยโรคใบไหม้ ด้วยเชื้อราของพืช และด้วยลูกเห็บ แต่พวกเจ้าก็ไม่ยอมหันกลับมาหาเรา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
- ฮักกัย 2:18 - “นับจากวันนี้ไปให้คิดถึงเรื่องนี้ดูให้ดี นับตั้งแต่วันที่ยี่สิบสี่เดือนเก้า ตั้งแต่วันที่ได้วางฐานรากสำหรับวิหารของพระยาห์เวห์เสร็จ คิดดูให้ดีว่า
- ฮักกัย 2:19 - มีเมล็ดพืชเหลืออยู่ในยุ้งอีกหรือ ไม่เหลือแล้ว เอาไปหว่านจนหมดแล้ว ดูต้นองุ่น หรือต้นมะเดื่อ หรือต้นทับทิม หรือต้นมะกอกสิ พวกมันยังไม่ออกผลอีกหรือ ไม่เลย มันกำลังออกผลอยู่ ต่อจากนี้ไป เราจะอวยพรเจ้าให้มีผลผลิตที่ดี”
- อพยพ 23:15 - เทศกาลแรก จะเป็นเทศกาลขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู เจ้าจะต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เราได้สั่งไว้ ในเดือนอาบีบ เพราะพวกเจ้าได้ออกมาจากอียิปต์ในเดือนนั้น และให้แต่ละคนนำเครื่องบูชามาถวายกับเราด้วย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 4:42 - ชายคนหนึ่งที่มาจากบาอัล-ชาลิชาห์นำอาหารที่ทำจากการเก็บเกี่ยวจากผลผลิตแรกของปี มาให้กับคนของพระเจ้าคนนั้น คือมีขนมปังบาร์เลย์ยี่สิบก้อน พร้อมกับปลายเมล็ดข้าวใหม่ในกระสอบของเขา เอลีชาพูดว่า “นำมันไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกินเถิด”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 4:43 - แต่คนใช้ของเอลีชาถามว่า “อาหารแค่นี้จะพอแจกให้กับคนเป็นร้อยได้ยังไงกัน” แต่เอลีชาตอบว่า “นำไปแจกให้ประชาชนกินเถิด เพราะพระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า ‘พวกเขาจะได้กินมันและยังมีเหลือ’”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 4:44 - แล้วเขาก็แจกจ่ายอาหารให้กับคนเหล่านั้น และพวกเขาก็กินกันและยังมีอาหารเหลืออยู่อีก เป็นไปตามคำพูดของพระยาห์เวห์
- มัทธิว 14:16 - แต่พระเยซูตอบว่า “พวกเขาไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่นี่แหละ พวกคุณไปหาอาหารมาเลี้ยงพวกเขาสิ”
- มัทธิว 14:17 - พวกศิษย์ตอบว่า “พวกเราไม่มีอะไรเลยนอกจากขนมปังห้าก้อน กับปลาสองตัวเท่านั้น”
- มัทธิว 14:18 - พระเยซูบอกว่า “เอามานี่สิ”
- มัทธิว 14:19 - พระเยซูสั่งให้ฝูงชนนั่งลงบนหญ้า แล้วพระองค์หยิบขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวมา พระเยซูมองขึ้นไปบนสวรรค์ ขอบคุณพระเจ้าแล้วพระองค์แบ่งขนมปังให้กับพวกศิษย์ แล้วพวกศิษย์ก็แจกขนมปังให้ประชาชน
- มัทธิว 14:20 - ทุกคนกินกันจนอิ่ม และพวกศิษย์ยังเก็บเศษอาหารที่เหลือได้จนเต็มสิบสองเข่ง
- มัทธิว 14:21 - คนที่กินอาหารอยู่ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก
- มาระโก 8:4 - พวกศิษย์บอกว่า “ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งอย่างนี้ จะไปหาอาหารที่ไหนมาเลี้ยงคนตั้งเยอะแยะขนาดนี้ล่ะครับ”
- มาระโก 8:5 - พระองค์เลยถามว่า “พวกคุณมีขนมปังกี่ก้อน” พวกเขาตอบว่า “เจ็ดก้อนครับ”
- มาระโก 8:6 - พระองค์จึงสั่งให้ฝูงชนนั่งลงกับพื้น แล้วพระองค์เอาขนมปังเจ็ดก้อนมา ขอบคุณพระเจ้า แล้วหักขนมปังส่งให้กับพวกศิษย์เอาไปแบ่งให้กับฝูงชนกินกัน
- มาระโก 8:7 - พวกเขามีปลาตัวเล็กๆอยู่ไม่กี่ตัว พระองค์ก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับปลาเหล่านั้น และบอกให้พวกศิษย์เอาไปแจก
- มาระโก 8:8 - พวกเขากินกันจนอิ่ม และพวกศิษย์เก็บเศษอาหารที่เหลือได้ถึงเจ็ดเข่งเต็มๆ
- มาระโก 8:9 - มีประมาณสี่พันคนที่อยู่ที่นั่น หลังจากกินเสร็จ พระองค์ส่งพวกเขากลับบ้าน
- ลูกา 4:12 - แต่พระเยซูตอบว่า “พระคัมภีร์ยังบอกอีกว่า ‘อย่าได้ลองดีกับองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเจ้า’”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 7:1 - เอลีชาตอบเขาไปว่า “ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี พระองค์พูดว่า ‘พรุ่งนี้เวลานี้ ที่ประตูเมืองสะมาเรีย แป้งหนึ่งถัง จะขายกันในราคาหนึ่งเชเขล และข้าวบาร์เลย์สองถังจะขายกันในราคาหนึ่งเชเขล’”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 7:2 - เจ้าหน้าที่คนสนิทของกษัตริย์ พูดกับคนของพระเจ้าว่า “ต่อให้พระยาห์เวห์เปิดช่องฟ้าสวรรค์ สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้นแน่” เอลีชาตอบว่า “ท่านจะได้เห็นเรื่องนี้ด้วยตาของท่านเอง แต่ท่านจะไม่ได้กินมันหรอก”
- มาลาคี 3:9 - คำสาปแช่งจึงตกอยู่กับเจ้า เพราะเจ้าและคนทั้งชาติกำลังฉ้อโกงเราอยู่
- มาลาคี 3:10 - ให้เอาสิบลดของผลผลิตทุกอย่างมาไว้ในคลังของเรา จะได้ใช้เป็นเสบียงในวิหารของเรา มาลองดูเราในเรื่องนี้สิ” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ “มาลองดูเราสิว่า เราจะเปิดช่องฟ้า แล้วเทพระพรลงมาให้กับพวกเจ้าจนหมดเกลี้ยง จนพวกเจ้าไม่ขาดอะไรเลย
- มาลาคี 3:11 - เราจะสั่งพวกแมลงให้ถอยห่างๆจากไร่นาของเจ้า มันจะได้ไม่ทำลายผลผลิตจากพื้นดินของเจ้า และเถาองุ่นในสวนก็จะออกลูก” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้
- มัทธิว 4:7 - พระเยซูตอบมารว่า “แต่พระคัมภีร์ก็เขียนไว้เหมือนกันว่า ‘อย่าได้ลองดีกับองค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของเจ้า’”
- มัทธิว 4:10 - พระเยซูจึงตอบว่า “ไปให้พ้น ไอ้ซาตาน เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘เจ้าจะต้องกราบไหว้บูชาองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเจ้า และรับใช้พระองค์แต่เพียงผู้เดียว’”
- อพยพ 16:8 - โมเสสพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินเสียงบ่นของพวกท่าน ที่ท่านบ่นต่อว่าพระองค์ ดังนั้นเย็นนี้ พระองค์จะส่งเนื้อมาให้กิน ส่วนพรุ่งนี้ พระองค์จะส่งขนมปังมาให้จนท่านอิ่ม ส่วนเราสองคนเป็นใครกัน พวกท่านถึงได้มาบ่นต่อว่าเรา พวกท่านไม่ได้บ่นต่อว่าเราหรอกนะ แต่บ่นต่อว่าพระยาห์เวห์ต่างหาก”
- ยอห์น 6:5 - เมื่อพระองค์เงยหน้าขึ้นก็เห็นคนมากมายพากันมาหาพระองค์ พระองค์พูดกับฟีลิปว่า “พวกเราจะไปซื้ออาหารที่ไหนถึงจะพอเลี้ยงคนทั้งหมดนี้”
- ยอห์น 6:6 - (พระเยซูถามเพื่อลองใจฟีลิป เพราะพระองค์รู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร)
- ยอห์น 6:7 - ฟีลิปตอบว่า “เงินค่าแรงเกือบแปดเดือน ก็ยังไม่พอซื้ออาหารให้คนพวกนี้กินกันคนละนิดคนละหน่อยได้เลยครับ”
- ยอห์น 6:8 - ศิษย์อีกคนหนึ่งของพระเยซู ชื่ออันดรูว์ น้องชายของซีโมนเปโตรบอกพระองค์ว่า
- ยอห์น 6:9 - “มีเด็กชายคนหนึ่งที่นี่ มีขนมปังบาร์เลย์อยู่ห้าก้อน กับปลาอีกสองตัวครับ แต่แค่นี้จะไปพออะไรกับคนตั้งมากมายขนาดนี้”
- ยอห์น 6:10 - พระเยซูบอกพวกศิษย์ว่า “บอกให้พวกเขานั่งลง” (ที่นั่นมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด) แล้วทุกคนก็นั่งลง (มีผู้ชายประมาณห้าพันคนในฝูงชนนั้น)
- ยอห์น 6:11 - พระเยซูเอาขนมปังของเด็กน้อยคนนั้นมา เมื่อขอบคุณพระเจ้าเสร็จแล้ว ก็แบ่งขนมปังแจกให้กับทุกๆคนที่นั่งอยู่ที่พื้นนั้นอย่างไม่อั้น และพระองค์ก็หยิบปลามาทำอย่างเดียวกัน
- ยอห์น 6:12 - เมื่อผู้คนกินกันจนอิ่มแล้ว พระองค์สั่งพวกศิษย์ว่า “เก็บขนมปังที่เหลือให้หมด จะได้ไม่เสียของ”
- ยอห์น 6:13 - พวกศิษย์ก็เก็บเศษที่เหลือจากขนมปังห้าก้อนนี้ได้สิบสองเข่งเต็มๆ
- ยอห์น 6:14 - เมื่อคนพวกนี้เห็นสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์ทำ เขาเริ่มพูดกันว่า “คนนี้ต้องเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นที่ว่ากันว่าจะมาในโลกนี้แน่ๆ”
- ยอห์น 6:15 - เมื่อพระเยซูรู้ว่าพวกเขาจะมาบีบบังคับให้พระองค์ไปเป็นกษัตริย์ของพวกเขา พระองค์ก็หลบขึ้นไปบนภูเขาเพียงคนเดียว
- ลูกา 4:8 - พระเยซูตอบว่า “พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า ‘ให้กราบไหว้บูชาองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเจ้า และให้รับใช้พระองค์แต่เพียงผู้เดียว’”
- อพยพ 16:15 - เมื่อประชาชนชาวอิสราเอลเห็น พวกเขาก็ถามกันว่า “นี่อะไร” เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร โมเสสจึงพูดกับพวกเขาว่า “มันคืออาหารที่พระยาห์เวห์ให้กับพวกท่านกิน”
- อพยพ 16:35 - ประชาชนชาวอิสราเอลได้กินมานาถึงสี่สิบปี จนพวกเขามาถึงแผ่นดินที่อาศัยอยู่ได้ พวกเขากินมานา มาจนกระทั่งมาถึงเขตแดนของแผ่นดินคานาอัน
- เอเฟซัส 6:17 - ให้เอาความรอดเป็นหมวกเหล็ก และให้ถือดาบของพระวิญญาณ ซึ่งก็คือถ้อยคำของพระเจ้า
- โรม 15:4 - ทุกอย่างที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ในสมัยก่อนนั้น ก็เขียนไว้เพื่อสั่งสอนเรา เพื่อว่าในขณะที่เราอดทนและได้รับกำลังใจจากพระคัมภีร์ เราจะได้ยึดมั่นในความหวังที่เรามี
- ยอห์น 6:63 - ไม่ใช่พละกำลังของมนุษย์ที่เป็นผู้ให้ชีวิต แต่เป็นพระวิญญาณของพระเจ้า คำพูดที่เราได้บอกพวกคุณนี้แหละ จะนำพระวิญญาณของพระเจ้ามาให้กับคุณ เป็นพระวิญญาณที่ให้ชีวิต
- ยอห์น 6:31 - บรรพบุรุษของพวกเราเคยกินมานาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘เขาได้ให้ขนมปังจากสวรรค์กับพวกเขา’”
- ยอห์น 6:32 - พระเยซูพูดว่า “จริงๆแล้วโมเสสไม่ได้เป็นคนที่ให้ขนมปังจากสวรรค์นั้นกับคุณหรอก แต่เป็นพระบิดาของเราต่างหากที่กำลังให้อาหารอันแท้จริงจากสวรรค์กับคุณ
- ยอห์น 6:33 - เพราะขนมปังจากพระเจ้านั้นก็คือคนที่ลงมาจากสวรรค์ และให้ชีวิตกับโลกนี้”
- ยอห์น 6:34 - พวกเขาจึงว่า “ท่านครับ ถ้าอย่างนั้น ให้ขนมปังนั้นกับพวกเราตลอดไปด้วยเถอะ”
- ยอห์น 6:35 - พระเยซูพูดว่า “ตัวเรานี่แหละคือขนมปังที่ให้ชีวิต คนที่มาหาเราจะไม่หิวอีกเลย และคนที่ไว้วางใจเราจะไม่กระหายน้ำอีกเลย
- ยอห์น 6:36 - แต่ก็อย่างที่เราพูดแล้ว พวกคุณได้เห็นเราแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมไว้วางใจเราอยู่ดี
- ยอห์น 6:37 - ทุกคนที่พระบิดายกให้กับเรา ก็จะมาหาเรา และใครก็ตามที่มาหาเรา เราจะไม่ไล่เขาไปจากเราเลย
- ยอห์น 6:38 - เพราะเราไม่ได้ลงมาจากสวรรค์เพื่อทำตามใจตัวเอง แต่มาเพื่อทำตามใจของพระองค์ผู้ที่ส่งเรามา
- ยอห์น 6:39 - นี่คือสิ่งที่พระบิดาผู้ที่ส่งเรามาอยากให้เราทำ คือให้เก็บรักษาทุกคนที่พระองค์ยกให้กับเราไว้ไม่ให้สูญหายไปสักคนเดียว และทำให้เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตในวันสุดท้าย
- ยอห์น 6:40 - พระบิดาของเราอยากให้ทุกคนที่เห็นพระบุตรและไว้วางใจพระบุตรนั้น มีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป และเราจะทำให้พวกเขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตในวันสุดท้าย”
- ยอห์น 6:41 - พวกยิวเริ่มบ่นพึมพำกันเรื่องที่พระเยซูพูดว่า “เราคือขนมปังที่ลงมาจากสวรรค์”
- ยอห์น 6:42 - พวกยิวพูดกันว่า “นี่มันเจ้าเยซู ลูกของโยเซฟ ที่เราก็รู้จักทั้งพ่อและแม่ของมันไม่ใช่หรือ โธ่เอ๊ย แล้วมันพูดได้อย่างไรว่า ‘เราลงมาจากสวรรค์’”
- ยอห์น 6:43 - พระเยซูพูดขึ้นว่า “เลิกบ่นกันได้แล้ว
- ยอห์น 6:44 - ไม่มีใครมาหาเราได้ นอกจากว่าพระบิดาผู้ส่งเรามาจะพาเขามาหาเรา และเราจะทำให้เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตในวันสุดท้าย
- ยอห์น 6:45 - ผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนไว้ว่า ‘พระเจ้าจะสั่งสอนพวกเขาทุกคน’ ทุกคนที่ได้ฟังและเรียนรู้จากพระบิดาก็จะมาหาเรา
- ยอห์น 6:46 - (ไม่มีใครเคยเห็นพระบิดา นอกจากผู้ที่มาจากพระบิดาผู้เคยเห็นพระองค์)
- ยอห์น 6:47 - เราจะบอกให้รู้ว่า คนที่ไว้วางใจเราก็มีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป
- ยอห์น 6:48 - เราเป็นขนมปังที่ให้ชีวิต
- ยอห์น 6:49 - บรรพบุรุษของพวกคุณได้กินมานาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง สุดท้ายพวกเขาก็ตายกันไปหมด
- ยอห์น 6:50 - แต่คนไหนกินขนมปังที่ลงมาจากสวรรค์ คนนั้นจะไม่ตายอีกเลย
- ยอห์น 6:51 - เราเป็นขนมปังจากสวรรค์ที่ให้ชีวิต คนที่กินขนมปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป ขนมปังนี้คือเนื้อหนังของเรา ที่เราจะให้เพื่อคนในโลกนี้จะได้มีชีวิต”
- ยอห์น 6:52 - พวกยิวก็เริ่มเถียงกันเองว่า “ผู้ชายคนนี้จะเอาเนื้อหนังของเขาให้พวกเรากินได้ยังไง”
- ยอห์น 6:53 - พระเยซูพูดกับพวกเขาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า ถ้าพวกคุณไม่กินเนื้อหนัง และไม่ดื่มเลือดของบุตรมนุษย์ คุณก็ไม่มีชีวิตที่แท้จริง
- ยอห์น 6:54 - คนที่กินเนื้อและดื่มเลือดของเราจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป เราจะให้เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตในวันสุดท้าย
- ยอห์น 6:55 - เพราะเนื้อของเราเป็นอาหารแท้ และเลือดของเราก็เป็นเครื่องดื่มแท้
- ยอห์น 6:56 - คนที่กินเนื้อและดื่มเลือดของเราก็เป็นหนึ่งเดียวกับเรา และเราก็เป็นหนึ่งเดียวกับเขา
- ยอห์น 6:57 - พระบิดาผู้มีชีวิตอยู่ส่งเรามา และเรามีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะพระบิดา ดังนั้นคนที่กินเลือดเนื้อของเราจะมีชีวิตอยู่ได้เพราะเราเหมือนกัน
- ยอห์น 6:58 - นี่คือขนมปังที่ลงมาจากสวรรค์ ซึ่งไม่เหมือนกับมานาที่บรรพบุรุษของพวกคุณได้กิน แล้วสุดท้ายก็ยังต้องตายกัน แต่คนที่ได้กินขนมปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
- ยอห์น 6:59 - พระเยซูพูดเรื่องเหล่านี้ ขณะที่พระองค์กำลังสอนอยู่ในที่ประชุมชาวยิวในเมืองคาเปอรนาอุม
- ลูกา 4:4 - แต่พระเยซูตอบว่า “พระคัมภีร์ เขียนไว้ว่า ‘ชีวิตที่เที่ยงแท้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนมปังเพียงอย่างเดียว’”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3 - พระยาห์เวห์ทำให้ท่านต้องทนทุกข์จากความหิวแล้วพระองค์ก็เลี้ยงพวกท่านด้วยมานา ที่ทั้งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อที่พระองค์จะได้สอนท่านว่า คนเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากของพระยาห์เวห์