逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ในครั้งนั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมา มาประกาศในถิ่นทุรกันดารแคว้นยูเดียว่า
- 新标点和合本 - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,说:
- 和合本2010(上帝版-简体) - 在那些日子,施洗的约翰出来,在犹太的旷野宣讲:
- 和合本2010(神版-简体) - 在那些日子,施洗的约翰出来,在犹太的旷野宣讲:
- 当代译本 - 那时,施洗者约翰来到犹太的旷野传道,说:
- 圣经新译本 - 那时,施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,
- 中文标准译本 - 在那些日子里,施洗者 约翰来了,在犹太的旷野传道,
- 现代标点和合本 - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道说:
- 和合本(拼音版) - 那时,有施洗的约翰出来,在犹太的旷野传道,说:
- New International Version - In those days John the Baptist came, preaching in the wilderness of Judea
- New International Reader's Version - In those days John the Baptist came and preached in the Desert of Judea.
- English Standard Version - In those days John the Baptist came preaching in the wilderness of Judea,
- New Living Translation - In those days John the Baptist came to the Judean wilderness and began preaching. His message was,
- The Message - While Jesus was living in the Galilean hills, John, called “the Baptizer,” was preaching in the desert country of Judea. His message was simple and austere, like his desert surroundings: “Change your life. God’s kingdom is here.”
- Christian Standard Bible - In those days John the Baptist came, preaching in the wilderness of Judea
- New American Standard Bible - Now in those days John the Baptist * came, preaching in the wilderness of Judea, saying,
- New King James Version - In those days John the Baptist came preaching in the wilderness of Judea,
- Amplified Bible - In those days John the Baptist appeared, preaching in the Wilderness of Judea [along the western side of the Dead Sea] and saying,
- American Standard Version - And in those days cometh John the Baptist, preaching in the wilderness of Judæa, saying,
- King James Version - In those days came John the Baptist, preaching in the wilderness of Judaea,
- New English Translation - In those days John the Baptist came into the wilderness of Judea proclaiming,
- World English Bible - In those days, John the Baptizer came, preaching in the wilderness of Judea, saying,
- 新標點和合本 - 那時,有施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道,說:
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 在那些日子,施洗的約翰出來,在猶太的曠野宣講:
- 和合本2010(神版-繁體) - 在那些日子,施洗的約翰出來,在猶太的曠野宣講:
- 當代譯本 - 那時,施洗者約翰來到猶太的曠野傳道,說:
- 聖經新譯本 - 那時,施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道,
- 呂振中譯本 - 當那些日子、施洗者 約翰 出來,在 猶太 的野地宣傳
- 中文標準譯本 - 在那些日子裡,施洗者 約翰來了,在猶太的曠野傳道,
- 現代標點和合本 - 那時,有施洗的約翰出來,在猶太的曠野傳道說:
- 文理和合譯本 - 維時、施洗約翰至、宣言於猶太野、
- 文理委辦譯本 - 維時、施洗約翰至猶太野、言曰、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 維時有施洗 約翰 來、在 猶太 曠野宣道曰、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 維時、施洗者 如望 宣道於 猶太 曠野中曰:
- Nueva Versión Internacional - En aquellos días se presentó Juan el Bautista predicando en el desierto de Judea.
- 현대인의 성경 - 그 무렵 세례 요한이 유대 광야에서
- Новый Русский Перевод - В те дни Иоанн Креститель начал проповедовать в Иудейской пустыне.
- Восточный перевод - В те дни пророк Яхия начал проповедовать в Иудейской пустыне.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - В те дни пророк Яхия начал проповедовать в Иудейской пустыне.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - В те дни пророк Яхьё начал проповедовать в Иудейской пустыне.
- La Bible du Semeur 2015 - En ce temps-là, parut Jean-Baptiste. Il se mit à prêcher dans le désert de Judée .
- リビングバイブル - ヨセフの一家がナザレに住んでいたころ、バプテスマのヨハネがユダヤの荒野で教えを宣べ始めて、言いました。
- Nestle Aland 28 - Ἐν δὲ ταῖς ἡμέραις ἐκείναις παραγίνεται Ἰωάννης ὁ βαπτιστὴς κηρύσσων ἐν τῇ ἐρήμῳ τῆς Ἰουδαίας
- unfoldingWord® Greek New Testament - ἐν δὲ ταῖς ἡμέραις ἐκείναις παραγίνεται Ἰωάννης ὁ Βαπτιστὴς, κηρύσσων ἐν τῇ ἐρήμῳ τῆς Ἰουδαίας
- Nova Versão Internacional - Naqueles dias, surgiu João Batista, pregando no deserto da Judeia.
- Hoffnung für alle - In jener Zeit fing Johannes der Täufer an, in der judäischen Wüste zu predigen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Lúc đó, Giăng Báp-tít bắt đầu giảng dạy trong đồng hoang xứ Giu-đê:
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ครั้งนั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้มาเทศนาในถิ่นกันดารแห่งแคว้นยูเดีย
交叉引用
- ยอห์น 1:15 - ยอห์นร้องประกาศเพื่อยืนยันถึงพระองค์ว่า “พระองค์คือผู้ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงว่า ‘ผู้ที่มาภายหลังข้าพเจ้าเหนือยิ่งกว่าข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ดำรงอยู่ก่อนข้าพเจ้า’”
- ยอห์น 1:16 - จากความบริบูรณ์ของพระองค์ เราทุกคนจะได้รับพระคุณเพิ่มแล้วเพิ่มอีกเสมอไป
- ยอห์น 1:17 - ด้วยว่า กฎบัญญัติถูกมอบให้โดยผ่านโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาได้โดยผ่านพระเยซูคริสต์
- ยอห์น 1:18 - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่พระบุตรองค์เดียวผู้ดำรงความเป็นพระเจ้า ผู้อยู่ในอ้อมอกของพระบิดา ได้ทำให้พระบิดาเป็นที่รู้จัก
- ยอห์น 1:19 - นี่เป็นคำยืนยันของยอห์น เมื่อชาวยิวจากเมืองเยรูซาเล็มส่งพวกปุโรหิต และพวกเลวี ไปถามว่า ท่านคือใคร
- ยอห์น 1:20 - ท่านยอมรับ และตอบตามความจริงว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่พระคริสต์”
- ยอห์น 1:21 - พวกเขาจึงถามต่อไปว่า “แล้วท่านคือใครเล่า เป็นเอลียาห์หรือ” ท่านตอบว่า “ไม่ใช่” “ท่านเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้นั้นหรือ” ท่านตอบว่า “ไม่ใช่”
- ยอห์น 1:22 - ในที่สุดเขาเหล่านั้นพูดว่า “ท่านเป็นใคร โปรดให้คำตอบแก่เราเพื่อกลับไปบอกบรรดาผู้ที่ส่งเรามาเถิด ท่านอ้างว่าท่านเป็นใคร”
- ยอห์น 1:23 - ยอห์นตอบตามคำกล่าวของอิสยาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า ‘จงทำทางให้ตรงเพื่อพระผู้เป็นเจ้าเถิด’”
- ยอห์น 1:24 - ส่วนคนที่พวกฟาริสี ส่งมา
- ยอห์น 1:25 - ได้ถามยอห์นว่า “ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ หรือเอลียาห์ หรือผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้นั้น แล้วทำไมท่านจึงให้บัพติศมา เล่า”
- ยอห์น 1:26 - ยอห์นตอบว่า “ข้าพเจ้าให้บัพติศมาด้วยน้ำ แต่ผู้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ท่านกลับไม่รู้จัก
- ยอห์น 1:27 - พระองค์เป็นผู้ที่มาภายหลังข้าพเจ้า แม้แต่เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะแก้ออก”
- ยอห์น 1:28 - เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีทางด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน อันเป็นที่ซึ่งยอห์นกำลังให้บัพติศมาอยู่
- ยอห์น 1:29 - วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเดินตรงมาหาท่าน จึงกล่าวว่า “ดูสิ ลูกแกะของพระเจ้า เป็นผู้ที่รับเอาบาปของโลกไป
- ยอห์น 1:30 - นี่คือผู้ที่ข้าพเจ้าพูดถึงว่า ‘ผู้มาภายหลังข้าพเจ้าคือผู้ที่เหนือยิ่งกว่าข้าพเจ้า เพราะพระองค์ดำรงอยู่ก่อนข้าพเจ้า’
- ยอห์น 1:31 - ข้าพเจ้าเองแม้ไม่รู้จักพระองค์มาก่อน แต่เหตุที่ข้าพเจ้ามาให้บัพติศมาด้วยน้ำ ก็เพื่อให้พระองค์ได้เป็นที่ประจักษ์แก่พวกชนชาติอิสราเอล”
- ยอห์น 1:32 - แล้วยอห์นก็กล่าวยืนยันว่า “ข้าพเจ้าเห็นพระวิญญาณลงมาจากสวรรค์ในรูปลักษณ์ของนกพิราบ และสถิตกับพระองค์
- ยอห์น 1:33 - ข้าพเจ้าเองแม้ไม่รู้จักพระองค์มาก่อน แต่ผู้ที่ส่งข้าพเจ้ามาเพื่อให้บัพติศมาด้วยน้ำได้บอกข้าพเจ้าไว้ว่า ‘เมื่อเจ้าเห็นพระวิญญาณลงมาสถิตกับผู้ใด ผู้นั้นจะเป็นผู้ที่ให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’
- ยอห์น 1:34 - ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว และขอยืนยันว่า ผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”
- ยอห์น 1:35 - ในวันรุ่งขึ้น ยอห์นยืนอยู่ที่นั่นอีกกับสาวก 2 คน
- ยอห์น 1:36 - เมื่อท่านเห็นพระเยซูเดินผ่านไป ท่านกล่าวว่า “ดูสิ ลูกแกะของพระเจ้า”
- มัทธิว 14:2 - จึงพูดกับพวกผู้รับใช้ว่า “ผู้นี้เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา ท่านฟื้นคืนชีวิตจากความตายแล้ว จึงเป็นเหตุให้ท่านมีอานุภาพสำแดงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ได้”
- มัทธิว 14:3 - เมื่อครั้งที่เฮโรดให้คนจับกุมยอห์น ท่านให้จำตรวนไว้ในคุก เพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตน
- มัทธิว 14:4 - เพราะยอห์นได้พูดไว้เสมอว่า “เป็นการผิดกฎที่ท่านจะสมรสกับนาง”
- มัทธิว 14:5 - แม้เฮโรดต้องการจะฆ่ายอห์นให้ตายแต่ยังกลัวฝูงชนอยู่ เพราะพวกเขานับว่ายอห์นเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
- มัทธิว 14:6 - เมื่อถึงวันเกิดของเฮโรด บุตรสาวของนางเฮโรเดียสเต้นระบำต่อหน้าผู้คน และเป็นที่พอใจของเฮโรด
- มัทธิว 14:7 - เฮโรดจึงให้คำมั่นสัญญาจะให้สิ่งใดก็ตามที่เธอขอ
- มัทธิว 14:8 - มารดาของเธอแนะให้เธอขอ เธอจึงขอว่า “ข้าพเจ้าขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาบนถาดเดี๋ยวนี้”
- มัทธิว 14:9 - แม้เฮโรดจะเศร้าใจ แต่เป็นเพราะคำมั่นสัญญาของท่านและแขกในงาน ท่านจึงสั่งให้นำมาให้
- มัทธิว 14:10 - ท่านสั่งให้คนตัดศีรษะของยอห์นในคุก
- มัทธิว 14:11 - ฉะนั้นศีรษะถูกวางมาบนถาดนำมาให้เด็กสาวคนนั้น และเธอก็นำไปให้มารดา
- มัทธิว 14:12 - พวกสาวกของยอห์นมารับเอาร่างของท่านไปฝัง แล้วไปรายงานต่อพระเยซู
- มัทธิว 14:13 - เมื่อพระเยซูทราบเรื่องจึงลงเรือจากที่นั่นไปยังที่ร้างตามลำพัง ฝูงชนจากเมืองต่างๆ รู้เช่นนั้นก็ได้เดินตามพระองค์ไป
- มัทธิว 14:14 - เมื่อพระองค์ขึ้นฝั่งก็เห็นมหาชนและเกิดความสงสาร พระองค์ได้รักษาผู้คนที่ป่วยไข้
- ยอห์น 3:27 - ยอห์นตอบว่า “คนเราจะไม่ได้รับสิ่งใดเลยนอกจากพระเจ้าจะมอบจากสวรรค์ให้แก่เขา
- ยอห์น 3:28 - พวกท่านเองก็ยืนยันเพื่อข้าพเจ้าได้ในคำพูดของข้าพเจ้าที่ว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ใช่พระคริสต์ แต่พระเจ้าส่งข้าพเจ้ามาล่วงหน้าพระองค์’
- ยอห์น 3:29 - ท่านที่มีเจ้าสาวก็คือเจ้าบ่าว แต่เพื่อนเจ้าบ่าวที่ยืนฟังเจ้าบ่าวอยู่ก็ชื่นชมยินดียิ่งนัก เพราะได้ยินเสียงของเจ้าบ่าว ฉะนั้นความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมแล้ว
- ยอห์น 3:30 - พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ในขณะที่ข้าพเจ้าจะด้อยลง
- ยอห์น 3:31 - พระองค์ผู้มาจากเบื้องบนย่อมเป็นใหญ่เหนือสิ่งทั้งปวง ผู้มาจากฝ่ายโลกย่อมเป็นฝ่ายโลกและพูดถึงฝ่ายโลก พระองค์ผู้มาจากสวรรค์เป็นใหญ่เหนือสิ่งทั้งปวง
- ยอห์น 3:32 - พระองค์ยืนยันในสิ่งที่พระองค์ได้เห็นและได้ยิน แต่ไม่มีผู้ใดยอมรับคำยืนยันของพระองค์
- ยอห์น 3:33 - คนที่รับคำยืนยันก็ยอมรับแล้วว่า เขาเชื่อว่าสิ่งที่พระเจ้ากล่าวไว้เป็นความจริง
- ยอห์น 3:34 - ด้วยว่าองค์ที่พระเจ้าได้ส่งมาก็คือผู้ประกาศคำกล่าวของพระเจ้า เพราะพระองค์มอบพระวิญญาณให้อย่างไร้ขอบเขตจำกัด
- ยอห์น 3:35 - พระบิดารักพระบุตรและได้มอบทุกสิ่งไว้ในมือของพระบุตรแล้ว
- ยอห์น 3:36 - ผู้ใดก็ตามที่เชื่อในพระบุตรจะมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ แต่ผู้ที่ปฏิเสธพระบุตรก็จะไม่เห็นชีวิต เพราะการลงโทษของพระเจ้าจะตกอยู่กับเขา”
- มัทธิว 21:25 - บัพติศมาของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์หรือจากมนุษย์” เขาเหล่านั้นจึงเริ่มถามหาเหตุผลกันเองว่า “ถ้าพวกเราพูดว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะพูดว่า ‘แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อเขา’
- มัทธิว 21:26 - แต่ถ้าพวกเราพูดว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวฝูงชน เพราะทุกคนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า”
- มัทธิว 21:27 - พวกเขาจึงตอบพระเยซูว่า “พวกเราไม่ทราบ” พระองค์กล่าวกับเขาว่า “เราก็จะไม่บอกท่านเช่นกันว่า เรากระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด
- มาระโก 1:3 - เสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดาร ‘จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม จงทำทางของพระองค์ให้ตรง’”
- มาระโก 1:4 - ยอห์นผู้ให้บัพติศมา ได้ปรากฏตัวในถิ่นทุรกันดาร ประกาศเรื่องบัพติศมาซึ่งเกิดจากการกลับใจ เพื่อจะได้รับการยกโทษบาป
- มาระโก 1:5 - ผู้คนทั่วแคว้นยูเดียและชาวเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็พากันไปหาท่าน พวกเขาสารภาพบาปและได้รับบัพติศมาจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน
- มาระโก 1:6 - ยอห์นนุ่งห่มด้วยขนอูฐ คาดเอวด้วยหนังสัตว์ และท่านรับประทานตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
- มาระโก 1:7 - ท่านประกาศว่า “จะมีผู้ที่มาภายหลังข้าพเจ้า พระองค์มีอานุภาพยิ่งกว่าข้าพเจ้า แม้แต่เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะก้มลงแก้ออก
- มาระโก 1:8 - ข้าพเจ้าให้บัพติศมาแก่พวกท่านด้วยน้ำแล้ว แต่พระองค์จะให้บัพติศมาแก่พวกท่านด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
- โยชูวา 15:61 - ในถิ่นทุรกันดารคือ เบธอาราบาห์ มิดดีน เสคะคาห์
- โยชูวา 15:62 - นิบชาน เมืองเกลือ และเอนเกดี รวมเป็น 6 เมืองซึ่งมีหมู่บ้านรวมอยู่ด้วย
- มาระโก 6:16 - แต่เมื่อเฮโรดได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “เขาคือยอห์นที่เราสั่งตัดหัว เขาได้ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย”
- มาระโก 6:17 - เฮโรดเองเป็นผู้ที่ใช้ให้คนจับกุมยอห์นและมัดไว้ในคุกเพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียสผู้เป็นภรรยาของฟีลิปน้องชายของตน เนื่องจากเฮโรดได้สมรสกับนาง
- มาระโก 6:18 - เป็นเพราะยอห์นได้บอกเฮโรดว่า “เป็นการผิดกฎที่ท่านจะเอาภรรยาของน้องมาเป็นภรรยาของตน”
- มาระโก 6:19 - นางเฮโรเดียสจึงผูกใจเจ็บต่อยอห์น และต้องการชีวิตของท่าน แต่ก็ทำไม่ได้
- มาระโก 6:20 - เนื่องจากเฮโรดกลัวยอห์นเพราะรู้ว่า ท่านเป็นคนมีความชอบธรรมและเป็นคนบริสุทธิ์ จึงได้ป้องกันตัวท่านไว้ ฉะนั้นเมื่อเฮโรดได้ยินยอห์นสั่งสอน ท่านก็รู้สึกสับสนงุนงงยิ่งนัก แต่ก็พอใจที่จะฟัง
- มาระโก 6:21 - แล้วโอกาสก็มาถึง คือเฮโรดจัดงานเลี้ยงวันเกิดของตนโดยเชิญพวกข้าราชสำนัก นายทหารชั้นเอก และผู้นำทั้งปวงในแคว้นกาลิลี
- มาระโก 6:22 - เมื่อบุตรสาวของนางเฮโรเดียสเองมาเต้นระบำ ก็ทำให้เฮโรดและแขกในงานพอใจ กษัตริย์จึงกล่าวกับหญิงสาวนั้นว่า “จะขอสิ่งใดจากเราก็ได้ แล้วเราจะให้”
- มาระโก 6:23 - กษัตริย์ได้สัญญาเธอว่า “อะไรก็ตามที่เจ้าขอจากเรา เราจะให้แก่เจ้า แม้จะถึงครึ่งหนึ่งของราชอาณาจักรของเรา”
- มาระโก 6:24 - ดังนั้นเธอจึงออกไปถามมารดาของเธอว่า “จะขอสิ่งใดดี” มารดาตอบว่า “ศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมา”
- มาระโก 6:25 - เธอรีบเข้ามาเฝ้ากษัตริย์และขอว่า “ดิฉันอยากได้ศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาบนถาดเดี๋ยวนี้”
- มาระโก 6:26 - ถึงแม้ว่ากษัตริย์เสียใจมาก แต่เป็นเพราะคำมั่นสัญญาของท่านและแขกในงาน ท่านจึงปฏิเสธเธอไม่ได้
- มาระโก 6:27 - กษัตริย์จึงสั่งเพชฌฆาตให้ไปเอาศีรษะของยอห์นมาทันที โดยเขาก็ไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก
- มาระโก 6:28 - และนำศีรษะของท่านวางบนถาดมาให้หญิงสาว และเธอก็ให้มารดาไป
- มาระโก 6:29 - เมื่อเหล่าสาวกของยอห์นได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาจึงมารับเอาร่างของท่านไปวางไว้ในถ้ำเก็บศพ
- มัทธิว 17:12 - แต่เราขอบอกเจ้าว่า เอลียาห์ได้มาแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเอลียาห์ และกระทำต่อเขาตามใจชอบ บุตรมนุษย์จะทนทุกข์ทรมานเพราะพวกเขาเช่นเดียวกัน”
- มัทธิว 17:13 - ดังนั้นเหล่าสาวกจึงเข้าใจว่าพระองค์ได้กล่าวถึงยอห์นผู้ให้บัพติศมาให้พวกเขาฟัง
- มัทธิว 21:32 - เพราะยอห์นมาชี้ให้พวกท่านเห็นทางแห่งความชอบธรรม และท่านก็ไม่เชื่อเขา แต่บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาได้เชื่อเขา แม้ต่อมา ทั้งๆ ที่ท่านได้เห็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลับใจและเชื่อเขา
- มัทธิว 11:7 - ขณะที่สาวกของยอห์นจากไป พระเยซูเริ่มกล่าวกับฝูงชนถึงยอห์นว่า “พวกท่านออกไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อดูอะไร ต้นอ้อที่ถูกลมพัดหรือ
- มัทธิว 3:8 - ฉะนั้นจงประพฤติตนเพื่อพิสูจน์ว่าท่านกลับใจจากการทำบาป
- โยชูวา 14:10 - จนบัดนี้ ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ ตามที่พระองค์กล่าวไว้ 45 ปีนับจากเวลาที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวเช่นนี้กับโมเสส ขณะที่อิสราเอลเดินทางอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ดูเถิด เวลานี้ข้าพเจ้าอายุ 85 ปี
- ผู้วินิจฉัย 1:16 - บรรดาผู้สืบเชื้อสายของพ่อตาโมเสสคือชาวเคน ก็ได้พากันขึ้นไปกับชาวยูดาห์จากเมืองแห่งต้นอินทผลัม เข้าไปยังถิ่นทุรกันดารยูดาห์ซึ่งอยู่ในเนเกบใกล้อาราด และได้ไปตั้งรกรากอยู่กับชาวเมืองนั้น
- มาระโก 1:15 - พระองค์กล่าวว่า “ถึงเวลาแล้ว อาณาจักรของพระเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว จงกลับใจและเชื่อในข่าวประเสริฐ”
- กิจการของอัครทูต 1:22 - นับตั้งแต่เวลาที่ยอห์นทำพิธีบัพติศมาให้แก่พระเยซู จนถึงเวลาที่พระองค์ถูกรับขึ้นไปจากเรา เพราะผู้ที่จะได้รับเลือกต้องเป็นพยานร่วมกับเราถึงการฟื้นคืนชีวิตของพระองค์”
- กิจการของอัครทูต 13:24 - ก่อนที่พระเยซูจะมา ยอห์นได้ประกาศเรื่องการกลับใจและบัพติศมาให้แก่มวลชนของอิสราเอล
- กิจการของอัครทูต 13:25 - ขณะที่ยอห์นกำลังดำเนินงานของท่านให้เสร็จครบถ้วน ยอห์นก็พูดว่า ‘ท่านคิดว่าข้าพเจ้าคือใคร ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้นั้น แต่ว่าพระองค์กำลังจะมาภายหลังข้าพเจ้า แม้แต่เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะแก้ออก’
- ลูกา 1:76 - และเจ้าเอง ลูกยอห์น เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้สูงสุด เพราะว่าเจ้าจะไปล่วงหน้าพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะเตรียมทางให้แก่พระองค์
- ลูกา 7:24 - หลังจากผู้สื่อข่าวของยอห์นจากไปแล้ว พระเยซูเริ่มกล่าวกับฝูงชนถึงยอห์นว่า “พวกท่านออกไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อดูอะไร ต้นอ้อที่ถูกลมพัดหรือ
- ลูกา 3:1 - ในปีที่สิบห้าของรัชกาลทิเบริอัสซีซาร์ ปอนทิอัสปีลาตเป็นผู้ว่าราชการแคว้นยูเดีย เฮโรดปกครองแคว้นกาลิลี ฟีลิปผู้เป็นน้องปกครองแคว้นอิทูเรียและตราโคนิติส ลีซาเนียสปกครองแคว้นอาบีเลน
- ลูกา 3:2 - ในช่วงเวลาที่อันนาสกับคายาฟาสเป็นหัวหน้ามหาปุโรหิต คำกล่าวของพระเจ้าก็มาถึงยอห์นบุตรของเศคาริยาห์ ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
- ลูกา 3:3 - ยอห์นได้เดินทางไปทั่วย่านแม่น้ำจอร์แดนเพื่อประกาศเรื่องบัพติศมา ซึ่งเกิดจากการกลับใจเพื่อจะได้รับการยกโทษบาป
- ลูกา 3:4 - ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ฉบับอิสยาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า “เสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดาร ‘จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม จงทำทางของพระองค์ให้ตรง
- ลูกา 3:5 - หุบเขาทุกแห่งจะถมให้เต็ม ภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะถูกลดให้ต่ำลง ทางที่คดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ถนนที่ขรุขระจะราบเรียบ
- ลูกา 3:6 - และมวลมนุษย์จะเห็นความรอดพ้นที่มาจากพระเจ้า’”
- ลูกา 3:7 - ยอห์นจึงพูดกับหมู่ชนที่กำลังจะรับบัพติศมาจากท่านว่า “พวกชาติอสรพิษ ใครเตือนให้ท่านหนีจากการลงโทษที่จะมาถึง
- ลูกา 3:8 - ฉะนั้นจงประพฤติตนเพื่อพิสูจน์ว่าท่านกลับใจจากการทำบาป อย่าเริ่มพูดในหมู่ท่านว่า ‘เรามีอับราฮัมเป็นบิดาของเรา’ ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า พระเจ้าสามารถทำให้หินพวกนี้กลายเป็นลูกๆ ของอับราฮัมก็ได้
- ลูกา 3:9 - มีขวานจ่อไว้ที่รากต้นไม้แล้ว หากว่าต้นไม้ต้นใดก็ตามไม่สามารถให้ผลงามได้ ก็จะถูกโค่นลงและถูกโยนลงในกองไฟ”
- ลูกา 3:10 - ฝูงชนพากันถามยอห์นว่า “แล้วเราจะทำอย่างไรเล่า”
- ลูกา 3:11 - ยอห์นตอบว่า “ใครที่มีเสื้อตัวใน 2 ตัวก็ควรแบ่งปันให้กับผู้ที่ไม่มี และคนที่มีอาหารก็ควรทำเช่นเดียวกัน”
- ลูกา 3:12 - พวกคนเก็บภาษีซึ่งมารับบัพติศมาด้วยได้ถามยอห์นว่า “อาจารย์ เราควรทำอย่างไรดี”
- ลูกา 3:13 - ยอห์นจึงตอบว่า “อย่าเก็บภาษีเกินกว่าที่ควรจะเก็บ”
- ลูกา 3:14 - พวกทหารถามขึ้นบ้างว่า “พวกเราเล่าควรทำอย่างไร” ยอห์นก็ตอบทหารว่า “อย่าบังคับขู่เข็ญเอาเงินจากผู้ใดหรือกล่าวหาแบบผิดๆ จงพอใจกับค่าจ้างที่ได้รับ”
- ลูกา 3:15 - ผู้คนซึ่งรอดูเหตุการณ์อยู่ต่างก็สงสัยว่ายอห์นคือพระคริสต์หรือไม่
- ลูกา 3:16 - ยอห์นตอบพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าให้บัพติศมาแก่ท่านด้วยน้ำ ทว่าเมื่อองค์ผู้มีอานุภาพยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา แม้แต่เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะแก้ออก พระองค์จะเป็นผู้ให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และไฟ
- ลูกา 3:17 - พลั่วสำหรับแยกแกลบอยู่ในมือของพระองค์ เพื่อปรับลานของพระองค์ให้เรียบ และเพื่อแยกเก็บข้าวสาลีไว้ในยุ้งของพระองค์ แต่พระองค์จะเผาแกลบด้วยไฟซึ่งลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา”
- ลูกา 3:18 - ยอห์นได้เสนอแนะหลายสิ่งแก่ผู้คน รวมทั้งประกาศข่าวอันประเสริฐด้วย
- ลูกา 3:19 - เฮโรดผู้ปกครองแคว้นถูกยอห์นตำหนิเรื่องนางเฮโรเดียสน้องสะใภ้ รวมทั้งสิ่งชั่วร้ายซึ่งเฮโรดได้กระทำไว้
- ลูกา 3:20 - มากไปกว่านั้น เฮโรดยังให้ยอห์นถูกจำคุก
- กิจการของอัครทูต 19:3 - ดังนั้นเปาโลถามว่า “แล้วท่านได้รับบัพติศมาใดเล่า” พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น”
- กิจการของอัครทูต 19:4 - เปาโลกล่าวว่า “บัพติศมาของยอห์นเป็นบัพติศมาของการกลับใจ ยอห์นบอกผู้คนให้เชื่อในองค์ผู้ที่กำลังจะมาภายหลัง คือพระเยซู”
- ลูกา 1:13 - ทูตสวรรค์จึงกล่าวว่า “อย่ากลัวเลยเศคาริยาห์ พระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะให้กำเนิดบุตรชายแก่ท่าน จงตั้งชื่อเขาว่า ยอห์น
- ลูกา 1:14 - ท่านจะมีความยินดีและดีใจยิ่งนัก คนทั้งหลายก็จะชื่นชมยินดีที่เขาเกิดมา
- ลูกา 1:15 - เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า เขาต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือสุราชนิดใดๆ และจะเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ นับตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา
- ลูกา 1:16 - เขาจะนำชาวอิสราเอลจำนวนมากให้กลับใจเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาทั้งปวง
- ลูกา 1:17 - เขาจะไปล่วงหน้าพระองค์โดยจิตวิญญาณและอานุภาพของเอลียาห์ เพื่อให้บิดาทั้งหลายเปิดใจเข้าหาบรรดาบุตร และให้ผู้ที่ไม่เชื่อฟังกลับมาเข้าใจถึงวิถีทางของผู้มีความชอบธรรม เขาจะเตรียมผู้คนให้พร้อมเพื่อพระผู้เป็นเจ้า”
- ยอห์น 1:6 - มีชายคนหนึ่งชื่อยอห์นผู้ซึ่งพระเจ้าใช้มา
- ยอห์น 1:7 - ท่านได้มาเพื่อเป็นพยาน และเป็นผู้ยืนยันถึงความสว่างนั้น เพื่อคนทั้งปวงจะได้มีความเชื่อ โดยผ่านท่าน
- ยอห์น 1:8 - ท่านเองไม่ใช่ความสว่าง แต่มาเพื่อเป็นผู้ยืนยันถึงความสว่างเท่านั้น
- มัทธิว 16:14 - พวกเขาพูดว่า “บางคนพูดว่า เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บ้างพูดว่าเป็นเอลียาห์ บางคนก็ว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า”
- มัทธิว 11:11 - เราขอบอกความจริงกับท่านว่า ในบรรดาผู้เกิดจากครรภ์มารดา ไม่มีผู้ใดที่จะยิ่งใหญ่เหนือยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่ว่าผู้ที่ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรแห่งสวรรค์กลับยิ่งใหญ่กว่ายอห์นเสียอีก
- อิสยาห์ 40:3 - มีเสียงร้องว่า “ในถิ่นทุรกันดาร จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม จงทำทางในทะเลทรายให้ตรงเพื่อพระเจ้าของเรา
- อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกให้สูงขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะถูกลดให้ต่ำลง พื้นดินที่ไม่สม่ำเสมอจะเป็นทางเรียบ และที่ขรุขระจะเป็นที่ราบ
- อิสยาห์ 40:5 - และพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าจะปรากฏ และมนุษย์ทุกคนจะมองเห็นพร้อมกัน เพราะคำพูดออกจากปากของพระผู้เป็นเจ้า”
- อิสยาห์ 40:6 - มีเสียงกล่าวว่า “จงร้องบอกเถิด” และข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะร้องอะไร” มนุษย์ทุกคนเป็นเสมือนต้นหญ้า และความงามเป็นเสมือนดอกไม้ในทุ่ง