逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “ประชาชนที่รอดจากการสู้รบ พบความกรุณาในถิ่นทุรกันดาร เราจะให้อิสราเอลได้พักผ่อน”
- 新标点和合本 - 耶和华如此说: “脱离刀剑的就是以色列人。 我使他享安息的时候, 他曾在旷野蒙恩。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶和华如此说: “从刀剑生还的百姓 在旷野蒙恩; 以色列寻找安歇之处。”
- 和合本2010(神版-简体) - 耶和华如此说: “从刀剑生还的百姓 在旷野蒙恩; 以色列寻找安歇之处。”
- 当代译本 - “逃脱刀兵之灾的以色列人必在旷野蒙恩, 找到安息之所。 这是耶和华说的。”
- 圣经新译本 - 耶和华这样说: “在刀剑下幸存的人民, 在旷野蒙受了恩宠; 以色列来到她安息之处。”
- 现代标点和合本 - 耶和华如此说: “脱离刀剑的,就是以色列人, 我使他享安息的时候, 他曾在旷野蒙恩。
- 和合本(拼音版) - 耶和华如此说: “脱离刀剑的就是以色列人, 我使他享安息的时候, 他曾在旷野蒙恩。
- New International Version - This is what the Lord says: “The people who survive the sword will find favor in the wilderness; I will come to give rest to Israel.”
- New International Reader's Version - The Lord says, “Some of my people will live through everything their enemies do to them. They will find help in the desert. I will come to give peace and rest to Israel.”
- English Standard Version - Thus says the Lord: “The people who survived the sword found grace in the wilderness; when Israel sought for rest,
- New Living Translation - This is what the Lord says: “Those who survive the coming destruction will find blessings even in the barren land, for I will give rest to the people of Israel.”
- The Message - This is the way God put it: “They found grace out in the desert, these people who survived the killing. Israel, out looking for a place to rest, met God out looking for them!” God told them, “I’ve never quit loving you and never will. Expect love, love, and more love! And so now I’ll start over with you and build you up again, dear virgin Israel. You’ll resume your singing, grabbing tambourines and joining the dance. You’ll go back to your old work of planting vineyards on the Samaritan hillsides, And sit back and enjoy the fruit— oh, how you’ll enjoy those harvests! The time’s coming when watchmen will call out from the hilltops of Ephraim: ‘On your feet! Let’s go to Zion, go to meet our God!’” * * *
- Christian Standard Bible - This is what the Lord says: The people who survived the sword found favor in the wilderness. When Israel went to find rest,
- New American Standard Bible - This is what the Lord says: “The people who survived the sword Found grace in the wilderness— Israel, when it went to find its rest.”
- New King James Version - Thus says the Lord: “The people who survived the sword Found grace in the wilderness— Israel, when I went to give him rest.”
- Amplified Bible - Thus says the Lord, “The people who survived the sword Found grace in the wilderness [of exile]— Israel (the Northern Kingdom), when it went to find its rest.”
- American Standard Version - Thus saith Jehovah, The people that were left of the sword found favor in the wilderness; even Israel, when I went to cause him to rest.
- King James Version - Thus saith the Lord, The people which were left of the sword found grace in the wilderness; even Israel, when I went to cause him to rest.
- New English Translation - The Lord says, “The people of Israel who survived death at the hands of the enemy will find favor in the wilderness as they journey to find rest for themselves.
- World English Bible - Yahweh says, “The people who survive the sword found favor in the wilderness; even Israel, when I went to cause him to rest.”
- 新標點和合本 - 耶和華如此說: 脫離刀劍的就是以色列人。 我使他享安息的時候, 他曾在曠野蒙恩。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶和華如此說: 「從刀劍生還的百姓 在曠野蒙恩; 以色列尋找安歇之處。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶和華如此說: 「從刀劍生還的百姓 在曠野蒙恩; 以色列尋找安歇之處。」
- 當代譯本 - 「逃脫刀兵之災的以色列人必在曠野蒙恩, 找到安息之所。 這是耶和華說的。」
- 聖經新譯本 - 耶和華這樣說: “在刀劍下倖存的人民, 在曠野蒙受了恩寵; 以色列來到她安息之處。”
- 呂振中譯本 - 永恆主這麼說: 『刀劍 屠殺後 殘存的人民、 以色列 、去尋求安身之處, 在曠野居然蒙受恩眷;
- 現代標點和合本 - 耶和華如此說: 「脫離刀劍的,就是以色列人, 我使他享安息的時候, 他曾在曠野蒙恩。
- 文理和合譯本 - 耶和華曰、以色列免於鋒刃之遺民、在我往錫綏安之際、乃蒙恩寵於曠野、
- 文理委辦譯本 - 耶和華又曰、以色列族免鋒刃、遜於荒、沾我鴻恩、歸於福地、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主如是云、昔 以色列 民得脫鋒刃、適於曠野、蒙我恩寵、我與偕行、使之安息、
- Nueva Versión Internacional - Así dice el Señor: «El pueblo que escapó de la espada ha hallado gracia en el desierto; Israel va en busca de su reposo».
- 현대인의 성경 - 이스라엘 백성이 안식을 찾아갈 때에 광야에서 칼날을 피한 자들이 은혜를 얻었다.
- Новый Русский Перевод - Так говорит Господь: – Народ, уцелевший от меча, найдет милость в пустыне; Я приду успокоить Израиль.
- Восточный перевод - Так говорит Вечный: – Народ, уцелевший от меча, найдёт милость в пустыне; Я приду успокоить Исраил.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Так говорит Вечный: – Народ, уцелевший от меча, найдёт милость в пустыне; Я приду успокоить Исраил.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Так говорит Вечный: – Народ, уцелевший от меча, найдёт милость в пустыне; Я приду успокоить Исроил.
- La Bible du Semeur 2015 - Voici ce que déclare l’Eternel : Le peuple qui a échappé ╵au tranchant de l’épée obtiendra ma faveur ╵dans le désert. Je viens faire jouir ╵Israël du repos .
- リビングバイブル - 昔わたしが、エジプトから逃げて来た イスラエル人を、荒野であわれみ、 休息を与えた時のように、 彼らをいたわり、愛を注ぐ。
- Nova Versão Internacional - Assim diz o Senhor: “O povo que escapou da morte achou favor no deserto”. Quando Israel buscava descanso,
- Hoffnung für alle - Alle, die dem Schwert der Feinde entkommen sind, ziehen dann durch die Wüste zurück in ihr Land, wo sie in Ruhe und Sicherheit leben können. Denn ich, der Herr, habe Erbarmen mit ihnen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đây là điều Chúa Hằng Hữu phán: Những ai sống sót trong cơn hủy diệt sẽ tìm được phước dù trong hoang mạc, vì Ta sẽ ban sự an nghỉ cho người Ít-ra-ên.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ชนชาติที่รอดชีวิตจากคมดาบ จะได้รับพระคุณในถิ่นกันดาร เราจะมาเพื่อให้อิสราเอลได้พักสงบ”
交叉引用
- เยเรมีย์ 2:2 - “จงไปประกาศให้ทุกคนในเยรูซาเล็มรับรู้ว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ เราระลึกถึงการอุทิศตนเมื่อเจ้ายังเยาว์ ความรักของเจ้าที่มีต่อเราราวกับเจ้าสาว และเจ้าติดตามเราอย่างไรในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินที่ยังไม่มีพันธุ์ไม้เลย
- อพยพ 1:16 - “เวลาเจ้าทำคลอดให้หญิงชาวฮีบรู จงดูให้ดีเวลาเด็กเกิด ถ้าเป็นบุตรชาย เจ้าจงฆ่าเสีย ไว้ชีวิตได้เฉพาะบุตรหญิง”
- ฮีบรู 4:8 - เพราะว่าถ้าโยชูวาได้ให้พวกเขาเข้าสู่ที่พำนักนั้นแล้ว พระเจ้าก็จะไม่กล่าวถึงวันอื่นอีกในภายหลัง
- ฮีบรู 4:9 - ดังนั้นจึงยังมีการพำนักวันสะบาโตสำหรับคนของพระเจ้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 1:30 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พระองค์ได้ล่วงหน้าท่านไปแล้ว และจะเป็นผู้ช่วยในการต่อสู้ เหมือนกับที่ท่านเห็นพระองค์กระทำเพื่อท่านในอียิปต์
- สดุดี 78:52 - แล้วพระองค์นำหน้าชนชาติของพระองค์เหมือนนำแกะ และนำพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเหมือนนำฝูงแกะ
- อพยพ 17:8 - ชาวอามาเลขมาโจมตีชาวอิสราเอลที่เรฟีดิม
- อพยพ 17:9 - โมเสสพูดกับโยชูวาว่า “จงคัดพวกผู้ชายให้เราเพื่อออกไปต่อสู้กับชาวอามาเลข พรุ่งนี้เราจะยืนและถือไม้เท้าของพระเจ้าอยู่บนยอดเขา”
- อพยพ 17:10 - โยชูวาจึงทำตามที่โมเสสบอก และออกไปรบกับชาวอามาเลข ในขณะที่โมเสส อาโรน และฮูร์ขึ้นไปที่ยอดเขา
- อพยพ 17:11 - เมื่อใดก็ตามที่โมเสสยกแขนขึ้น อิสราเอลก็ชนะ และทุกครั้งที่ท่านลดแขนลง อามาเลขชนะ
- อพยพ 17:12 - ทำให้แขนของโมเสสเมื่อยล้า พวกเขาจึงกลิ้งก้อนหินให้โมเสสนั่ง แล้วอาโรนกับฮูร์พยุงแขนโมเสสไว้กันคนละข้าง แขนของท่านจึงตั้งขึ้นอยู่ได้จนกระทั่งตะวันลับฟ้า
- อพยพ 17:13 - ฉะนั้นโยชูวาจึงสามารถใช้คมดาบปราบอามาเลขและพรรคพวกได้
- กันดารวิถี 14:20 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “เราได้ให้อภัยตามที่เจ้าขอ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 12:9 - ด้วยเหตุว่าท่านยังไปไม่ถึงที่พำนักและแผ่นดินอันเป็นมรดกซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่าน
- อพยพ 5:21 - จึงพูดกับท่านทั้งสองว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าเห็นสิ่งที่ท่านทำและตัดสินท่านทั้งสอง เพราะท่านทำให้พวกเราเป็นที่น่ารังเกียจต่อฟาโรห์และข้าราชบริพาร ท่านเป็นผู้ยื่นดาบให้พวกเขาฆ่าพวกเรา”
- อพยพ 33:14 - พระองค์กล่าวว่า “เราจะไปกับเจ้าเอง และเราจะให้เจ้าได้หยุดพัก”
- สดุดี 105:37 - ครั้นแล้วพระองค์ก็นำอิสราเอลไปพร้อมกับเงินและทองคำ ไม่มีสักคนในเผ่าของพระองค์ที่ถูกกีดขวาง
- สดุดี 105:38 - อียิปต์ดีใจเมื่ออิสราเอลไปจากพวกเขา เพราะอิสราเอลทำให้พวกเขาพรั่นพรึง
- สดุดี 105:39 - พระองค์คลี่ก้อนเมฆออกเป็นร่มเงา แสงจากเพลิงเป็นแสงสว่างในยามค่ำ
- สดุดี 105:40 - พวกเขาเรียกร้อง และพระองค์ก็ให้นกกระทา และให้รับประทานอาหารที่ตกลงจากฟ้าจนอิ่มหนำ
- สดุดี 105:41 - พระองค์แยกหิน แล้วน้ำก็พวยพุ่งออกมา ไหลไปรวมเป็นแม่น้ำในที่กันดาร
- สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และระลึกถึงอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:43 - พระองค์จึงพาชนชาติของพระองค์ไปโดยที่พวกเขารื่นเริงเบิกบาน และบรรดาผู้ที่พระองค์เลือกไว้ไปกับเสียงร้องด้วยความยินดี
- สดุดี 78:14 - กลางวันพระองค์นำพวกเขาไปใต้เงาเมฆ และอาศัยแสงจากเพลิงไฟตลอดทั้งคืน
- สดุดี 78:15 - พระองค์ทำให้หินในถิ่นทุรกันดารแตกออก เพื่อให้พวกเขามีน้ำดื่มได้มากมายราวกับน้ำจากห้วงน้ำลึก
- สดุดี 78:16 - พระองค์ทำให้ธารน้ำไหลออกจากหิน และทำให้น่านน้ำไหลลงดั่งแม่น้ำ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 2:7 - เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำ พระองค์ทราบว่า ท่านผ่านเข้าไปในถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่นี้ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอยู่กับท่านเสมอมาเป็นเวลา 40 ปี พวกท่านจึงไม่ขัดสนในสิ่งใดเลย
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อนามของเรา เรากระทำเพื่อไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของบรรดาประชาชาติ เราทำให้พวกเขาเห็นว่า เรานำพวกเขาออกมา
- เอเสเคียล 20:15 - และยิ่งกว่านั้น เราปฏิญาณกับพวกเขาในถิ่นทุรกันดารว่า เราจะไม่นำพวกเขาเข้าไปในดินแดนที่เราได้มอบให้แก่พวกเขา ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เป็นดินแดนอันงดงามที่สุด
- เอเสเคียล 20:16 - เพราะพวกเขาไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา และไม่ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา เนื่องจากได้มอบใจให้กับรูปเคารพเสียแล้ว
- เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้น เราก็ยังมองดูพวกเขาด้วยความสงสาร และไม่ได้กำจัดหรือทำให้พวกเขาสิ้นไปในถิ่นทุรกันดาร
- อพยพ 12:37 - ชาวอิสราเอลเดินทางจากเมืองราเมเสสไปถึงเมืองสุคคท นอกจากผู้หญิงและเด็กแล้ว ก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 600,000 คน
- เนหะมีย์ 9:12 - พระองค์นำพวกเขาในตอนกลางวันในรูปลักษณ์ของเมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลัก และในตอนกลางคืนในรูปลักษณ์ของเพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลัก เพื่อส่องสว่างนำพวกเขาให้เดินตามทางที่ควรจะไป
- เนหะมีย์ 9:13 - พระองค์ลงมาบนภูเขาซีนาย และกล่าวแก่พวกเขาจากท้องฟ้า และให้การตัดสินที่ถูกต้อง กฎบัญญัติที่แท้ กฎเกณฑ์และพระบัญญัติที่ดีแก่พวกเขา
- เนหะมีย์ 9:14 - และพระองค์ให้พวกเขาทราบถึงวันสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และบัญชาพวกเขาในเรื่องพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎบัญญัติ ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:15 - เมื่อพวกเขาหิว พระองค์ก็ให้อาหารตกลงมาจากฟ้าแก่พวกเขา เมื่อพวกเขากระหาย พระองค์ก็ให้น้ำไหลออกมาจากหิน และพระองค์บัญชาพวกเขาให้เข้าไปยึดครองแผ่นดินที่พระองค์ได้ปฏิญาณว่าจะมอบให้แก่พวกเขา
- สดุดี 136:16 - แด่พระองค์ผู้พาชนชาติของพระองค์ผ่านพ้นถิ่นทุรกันดาร เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:17 - แด่พระองค์ผู้ฆ่าบรรดามหากษัตริย์ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:18 - และสังหารบรรดากษัตริย์ใจฉกาจ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:19 - อันได้แก่สิโหนกษัตริย์ของชาวอาโมร์ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:20 - และโอกกษัตริย์แห่งแคว้นบาชาน เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:21 - และให้ผืนแผ่นดินของกษัตริย์เหล่านั้นเป็นมรดก เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:22 - ให้มรดกแก่อิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:23 - พระองค์ระลึกถึงพวกเราในยามตกอับ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:24 - และช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากพวกศัตรู เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- อพยพ 1:22 - ครั้นแล้วฟาโรห์ก็สั่งคนของท่านว่า “พวกเจ้าจะต้องโยนบุตรชายที่เกิดจากหญิงฮีบรูทุกคนลงในแม่น้ำไนล์ แต่จงไว้ชีวิตบุตรหญิงทุกคน”
- อพยพ 15:9 - ศัตรูพูดว่า ‘เราจะไล่ตาม แล้วเราจะจับตัวพวกเขาได้ เราจะแบ่งปันของที่ริบมาได้ เราจะยึดมาจนกว่าจะหนำใจ เราจะชักดาบออก เราจะทำลายพวกเขาจนราบคาบ’
- อพยพ 15:10 - แล้วพระองค์ได้บันดาลให้ลมพัด น้ำทะเลท่วมพวกเขา พวกเขาเป็นดั่งตะกั่วที่จมดิ่งลง ในกระแสน้ำอันแรงกล้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:2 - และจงรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านที่ได้นำท่านผ่านถิ่นทุรกันดารตลอดทางเป็นเวลา 40 ปี เพื่อทำให้ท่านรู้จักถ่อมตัว ทดสอบให้เห็นว่าแท้จริงจิตใจท่านเป็นอย่างไร ท่านจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์ได้หรือไม่
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3 - แล้วพระองค์ก็ทำให้ท่านถ่อมตัว ปล่อยให้ท่านหิวและเลี้ยงดูท่านด้วยมานาซึ่งท่านไม่รู้จัก บรรพบุรุษของท่านก็เช่นกัน พระองค์ทำให้ท่านทราบว่ามนุษย์มิอาจยังชีพได้ด้วยขนมปังเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ได้ด้วยทุกถ้อยคำที่กล่าวจากปากของพระผู้เป็นเจ้า
- อพยพ 14:8 - พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ทำจิตใจของฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ให้แข็งกระด้าง ท่านไล่ตามชาวอิสราเอลซึ่งกำลังเดินทางไปอย่างมีชัย
- อพยพ 14:9 - กองทัพของชาวอียิปต์พร้อมกับม้า รถศึก และทหารม้าไล่ตามพวกเขาไปจนทันชาวอิสราเอลซึ่งตั้งค่ายอยู่ที่ชายฝั่งทะเลใกล้ปีหะหิโรธที่อยู่ตรงข้ามบาอัลเซโฟน
- อพยพ 14:10 - เมื่อฟาโรห์เข้ามาใกล้ ชาวอิสราเอลเงยหน้าขึ้น ดูเถิด ชาวอียิปต์กำลังไล่ตามพวกเขามา ชาวอิสราเอลกลัวมากจึงร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า
- อพยพ 14:11 - พวกเขาพูดกับโมเสสว่า “นี่เป็นเพราะหลุมฝังศพในอียิปต์มีไม่พอหรือไง ท่านจึงพาพวกเราไปตายกันในถิ่นทุรกันดาร ท่านพาพวกเราออกไปจากอียิปต์เพื่ออะไรกัน
- อพยพ 14:12 - เราบอกท่านตอนอยู่ที่อียิปต์ไม่ใช่หรือว่า อย่ามายุ่งกับพวกเรา ปล่อยให้เรารับใช้ชาวอียิปต์ เพราะให้พวกเรารับใช้ชาวอียิปต์ก็ยังจะดีกว่าให้เราไปตายกันในถิ่นทุรกันดาร”
- สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังบัญชาหมู่เมฆเบื้องบน และเปิดประตูท้องฟ้า
- สดุดี 78:24 - แล้วพระองค์โปรดให้มานาโปรยลงมาให้พวกเขารับประทาน พระองค์ให้เมล็ดข้าวแห่งสวรรค์แก่พวกเขา
- สดุดี 78:25 - แต่ละคนได้รับประทานขนมปังของทูตสวรรค์ พระองค์ให้อาหารแก่พวกเขาอย่างอุดมสมบูรณ์
- สดุดี 78:26 - พระองค์ทำให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์ และพระองค์นำลมใต้ออกไปด้วยพละกำลังของพระองค์
- สดุดี 78:27 - พระองค์โปรดให้เนื้อสัตว์เทลงมาเพื่อพวกเขามากมายราวกับฝุ่นผง เป็นตัวนกจำนวนมากราวกับเม็ดทรายในทะเล
- สดุดี 78:28 - พระองค์ทำให้เนื้อสัตว์ตกอยู่ท่ามกลางค่ายของพวกเขา รอบๆ บริเวณที่เขาอาศัยอยู่
- สดุดี 78:29 - แล้วพวกเขารับประทานกันจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ให้สิ่งที่พวกเขาอยาก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:16 - ผู้เลี้ยงท่านในถิ่นทุรกันดารด้วยมานาซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จัก พระองค์ต้องการที่จะให้ท่านรู้จักถ่อมตัว ทดสอบใจท่าน เพื่อสิ่งดีๆ จะเกิดแก่ท่านในบั้นปลาย
- อพยพ 2:23 - หลายปีผ่านไป กษัตริย์แห่งอียิปต์สิ้นชีวิต และชาวอิสราเอลคร่ำครวญในการที่ต้องเป็นทาสรับใช้ พวกเขาจึงร้องขอความช่วยเหลือ ดังนั้นเสียงร้องเนื่องจากการเป็นทาสรับใช้ดังขึ้นไปถึงพระเจ้า
- กันดารวิถี 10:33 - ดังนั้น พวกเขาจึงออกเดินทางจากภูเขาของพระผู้เป็นเจ้าไปเป็นเวลา 3 วัน หีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้านำหน้าพวกเขาไปในช่วง 3 วันเพื่อหาที่ให้พวกเขาพัก
- มัทธิว 11:28 - ทุกคนที่ตรากตรำและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะเป็นที่พักพิงให้แก่ท่าน
- อิสยาห์ 63:7 - ข้าพเจ้าจะระลึกถึงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้า และการสรรเสริญที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า เนื่องจากพระผู้เป็นเจ้าได้มอบทุกสิ่งให้แก่พวกเรา และความดีอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอล ที่พระองค์ได้โปรดมอบให้แก่พวกเขาเนื่องจากความสงสารของพระองค์ เนื่องจากความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีอย่างเอนกอนันต์
- อิสยาห์ 63:8 - เพราะพระองค์กล่าวดังนี้ว่า “แน่ละพวกเขาเป็นชนชาติของเรา ลูกๆ ที่จะไม่ประพฤติผิดต่อเรา” พระองค์จึงมาเป็นองค์ผู้ช่วยให้รอดพ้นของพวกเขา
- อิสยาห์ 63:9 - เมื่อพวกเขารับทุกข์ทรมานทุกประการ พระองค์จึงรับทุกข์ทรมานเช่นกัน และทูตสวรรค์ของพระองค์เอง ที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ พระองค์ไถ่พวกเขาเพราะความรักและความสงสารของพระองค์ พระองค์พยุงพวกเขาขึ้น และอุ้มพวกเขา ตลอดสมัยดึกดำบรรพ์
- อิสยาห์ 63:10 - แต่พวกเขาก็ยังขัดขืน และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เศร้าใจ พระองค์จึงกลับเป็นศัตรูของพวกเขา และพระองค์ต่อสู้กับพวกเขาเอง
- อิสยาห์ 63:11 - แล้วพระองค์ก็ระลึกถึงสมัยดึกดำบรรพ์ ในสมัยของโมเสสและชนชาติของพระองค์ ผู้นำพวกเขาให้ขึ้นมาจากทะเล พร้อมกับบรรดาผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์อยู่ที่ไหน ผู้ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ อยู่ในท่ามกลางพวกเขาอยู่ที่ไหน
- อิสยาห์ 63:12 - ผู้ให้พลานุภาพของพระองค์ อยู่กับมือขวาของโมเสส ผู้แยกสายน้ำที่ตรงหน้าพวกเขา เพื่อสร้างพระนามของพระองค์ให้เป็นที่ระลึกถึงตลอดกาล
- อิสยาห์ 63:13 - ใครนำพวกเขาผ่านทะเลลึก พวกเขาเป็นดั่งม้าในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งไม่สะดุดล้ม
- อิสยาห์ 63:14 - พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าให้พวกเขาหยุดพัก อย่างสัตว์เลี้ยงที่ลงไปสู่หุบเขา ดังนั้น พระองค์นำชนชาติของพระองค์ เพื่อทำให้พระนามของพระองค์ใหญ่ยิ่ง
- สดุดี 95:11 - เราจึงประกาศให้คำปฏิญาณด้วยความกริ้วว่า ‘พวกเขาจะไม่มีวันเข้าสู่ที่พำนักของเรา’”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 1:33 - เวลาท่านเดินทาง พระองค์ก็ล่วงหน้าไปก่อนท่านเพื่อหาสถานที่ให้ท่านตั้งกระโจมในลักษณะของเพลิงไฟในตอนกลางคืน และในลักษณะของเมฆในตอนกลางวันเพื่อชี้ให้ท่านเห็นว่าควรจะไปทางไหน