Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
11:34 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ได้ดับเปลวไฟร้อนแรง และได้แคล้วคลาดจากคมดาบ ผู้ซึ่งความอ่อนแอของเขากลับเป็นความเข้มแข็ง และผู้ได้กลายเป็นคนแข็งกล้าในการสงคราม และได้ไล่ล่ากองทัพจากต่างแดน
  • 新标点和合本 - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃;软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 灭了烈火的威力,在锋利的刀剑下逃生,从软弱变为刚强,争战中显出勇猛,打退外邦的全军。
  • 和合本2010(神版-简体) - 灭了烈火的威力,在锋利的刀剑下逃生,从软弱变为刚强,争战中显出勇猛,打退外邦的全军。
  • 当代译本 - 熄灭了猛烈的火焰,刀下逃生,由软弱变为刚强,作战勇猛,击退外敌。
  • 圣经新译本 - 消灭了烈火的威力,逃脱了刀剑的锋刃,软弱变成刚强,在战争中显出大能,把外国的军队击退。
  • 中文标准译本 - 灭了烈火的威力,逃脱了刀剑的锋刃,从软弱中得以刚强,在战争中得以强大,击败了外国的军队。
  • 现代标点和合本 - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃,软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
  • 和合本(拼音版) - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃,软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
  • New International Version - quenched the fury of the flames, and escaped the edge of the sword; whose weakness was turned to strength; and who became powerful in battle and routed foreign armies.
  • New International Reader's Version - They put out great fires. They escaped being killed by swords. Their weakness was turned to strength. They became powerful in battle. They beat back armies from other countries.
  • English Standard Version - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, were made strong out of weakness, became mighty in war, put foreign armies to flight.
  • New Living Translation - quenched the flames of fire, and escaped death by the edge of the sword. Their weakness was turned to strength. They became strong in battle and put whole armies to flight.
  • Christian Standard Bible - quenched the raging of fire, escaped the edge of the sword, gained strength in weakness, became mighty in battle, and put foreign armies to flight.
  • New American Standard Bible - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, became mighty in war, put foreign armies to flight.
  • New King James Version - quenched the violence of fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, became valiant in battle, turned to flight the armies of the aliens.
  • Amplified Bible - extinguished the power of [raging] fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, became mighty and unbeatable in battle, putting enemy forces to flight.
  • American Standard Version - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, waxed mighty in war, turned to flight armies of aliens.
  • King James Version - Quenched the violence of fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, waxed valiant in fight, turned to flight the armies of the aliens.
  • New English Translation - quenched raging fire, escaped the edge of the sword, gained strength in weakness, became mighty in battle, put foreign armies to flight,
  • World English Bible - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, grew mighty in war, and caused foreign armies to flee.
  • 新標點和合本 - 滅了烈火的猛勢,脫了刀劍的鋒刃;軟弱變為剛強,爭戰顯出勇敢,打退外邦的全軍。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 滅了烈火的威力,在鋒利的刀劍下逃生,從軟弱變為剛強,爭戰中顯出勇猛,打退外邦的全軍。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 滅了烈火的威力,在鋒利的刀劍下逃生,從軟弱變為剛強,爭戰中顯出勇猛,打退外邦的全軍。
  • 當代譯本 - 熄滅了猛烈的火焰,刀下逃生,由軟弱變為剛強,作戰勇猛,擊退外敵。
  • 聖經新譯本 - 消滅了烈火的威力,逃脫了刀劍的鋒刃,軟弱變成剛強,在戰爭中顯出大能,把外國的軍隊擊退。
  • 呂振中譯本 - 撲滅了烈火之威力,躲脫了刀劍的鋒刃,從軟弱中得了能力,在戰爭中顯為勇猛,使外國的隊伍掉頭逃竄。
  • 中文標準譯本 - 滅了烈火的威力,逃脫了刀劍的鋒刃,從軟弱中得以剛強,在戰爭中得以強大,擊敗了外國的軍隊。
  • 現代標點和合本 - 滅了烈火的猛勢,脫了刀劍的鋒刃,軟弱變為剛強,爭戰顯出勇敢,打退外邦的全軍。
  • 文理和合譯本 - 滅火勢、避鋒刃、弱而強、戰而勇、破異邦軍、
  • 文理委辦譯本 - 使火燄不傷、鋒刃可避、弱而強、戰而勇、破敵陳、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 滅火燄之勢、避刀之鋒刃、由弱成強、於戰則勇、攻退異邦人隊伍、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 撲滅燎原、脫免刀兵、轉弱為強、奮勇作戰、所向披靡、無一而不憑信德也。
  • Nueva Versión Internacional - apagaron la furia de las llamas y escaparon del filo de la espada; sacaron fuerzas de flaqueza; se mostraron valientes en la guerra y pusieron en fuga a ejércitos extranjeros.
  • 현대인의 성경 - 또 불 가운데서 구원을 받았고 칼날도 피했으며 약한 사람이 강해지고 싸움터에서 용감하게 외국 군대를 무찌르기도 하였습니다.
  • Новый Русский Перевод - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • Восточный перевод - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • La Bible du Semeur 2015 - Ils ont éteint des feux violents, ont échappé au tranchant de l’épée. Ils ont été remplis de force alors qu’ils étaient faibles. Ils se sont montrés vaillants dans les batailles, ils ont mis en fuite des armées ennemies ;
  • リビングバイブル - 燃えさかる炉に投げ込まれても、やけど一つしませんでした。ある者は、危うく切り殺されるところを救われました。ある者は病弱の身であったのに、健康な体に変えられました。ある者は戦いでめざましい力を与えられ、攻め寄せる敵の軍隊をことごとく退け、大勝利を収めました。
  • Nestle Aland 28 - ἔσβεσαν δύναμιν πυρός, ἔφυγον στόματα μαχαίρης, ἐδυναμώθησαν ἀπὸ ἀσθενείας, ἐγενήθησαν ἰσχυροὶ ἐν πολέμῳ, παρεμβολὰς ἔκλιναν ἀλλοτρίων.
  • unfoldingWord® Greek New Testament - ἔσβεσαν δύναμιν πυρός, ἔφυγον στόματα μαχαίρης, ἐδυναμώθησαν ἀπὸ ἀσθενείας, ἐγενήθησαν ἰσχυροὶ ἐν πολέμῳ, παρεμβολὰς ἔκλιναν ἀλλοτρίων.
  • Nova Versão Internacional - apagaram o poder do fogo e escaparam do fio da espada; da fraqueza tiraram força, tornaram-se poderosos na batalha e puseram em fuga exércitos estrangeiros.
  • Hoffnung für alle - und selbst das Feuer konnte ihnen nichts anhaben. Sie entgingen dem Schwert ihrer Verfolger. Als sie schwach waren, gab Gott ihnen neue Kraft. Weil sie sich auf Gott verließen, vollbrachten sie wahre Heldentaten und schlugen die feindlichen Heere in die Flucht.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - tắt đám lửa hừng, thoát lưỡi gươm địch, chuyển bại thành thắng. Họ đã dũng cảm chiến đấu, quét sạch quân thù.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ดับ​ไฟ​ที่​ไหม้​โหม​กระหน่ำ หลุด​พ้น​จาก​คม​ดาบ จาก​คน​อ่อนแอ​ก็​กลาย​เป็น​คน​เข้มแข็ง​ได้ กลาย​เป็น​คน​แข็ง​แกร่ง​ใน​สงคราม ตี​กองทัพ​ชาติ​อื่นๆ จน​แตก​พ่าย​ไป
交叉引用
  • ผู้วินิจฉัย 8:4 - กิเดโอนกับคนของเขาสามร้อยคนข้ามแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาต่างก็อ่อนเพลีย แต่ยังคงรุกไล่ชาวมีเดียนอยู่
  • ผู้วินิจฉัย 8:5 - กิเดโอนกล่าวกับชาวเมืองสุคคทว่า “โปรดให้เสบียงแก่ทหารของข้าพเจ้าบ้างเถิด พวกเขาอิดโรยมาก และข้าพเจ้าก็ยังตามล่ากษัตริย์เศบาห์กับกษัตริย์ศัลมุนนาของชาวมีเดียนอยู่”
  • ผู้วินิจฉัย 8:6 - แต่เจ้าหน้าที่ของเมืองสุคคทกล่าวว่า “ท่านจับตัวกษัตริย์เศบาห์กับกษัตริย์ศัลมุนนาได้อย่างนั้นหรือ? เรื่องอะไรที่เราจะต้องให้เสบียงแก่ทหารของท่านเล่า?”
  • ผู้วินิจฉัย 8:7 - กิเดโอนจึงตอบว่า “ถ้าท่านกล่าวเช่นนี้แล้ว เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบกษัตริย์เศบาห์และกษัตริย์ศัลมุนนาไว้ในมือของเรา เราจะฉีกเนื้อพวกท่านด้วยหนามทะเลทราย”
  • ผู้วินิจฉัย 8:8 - จากที่นั่นกิเดโอนขึ้นไปที่เปนีเอล และขอเสบียงอาหารเช่นกัน แต่ได้รับคำตอบอย่างเดียวกับที่ได้รับจากชาวเมืองสุคคท
  • ผู้วินิจฉัย 8:9 - เขาจึงกล่าวกับชาวเปนีเอลว่า “เมื่อเรารบชนะกลับมา เราจะรื้อหอคอยนี้ทิ้ง”
  • ผู้วินิจฉัย 8:10 - ขณะนั้นกษัตริย์เศบาห์กับกษัตริย์ศัลมุนนาและกองทหารที่เหลือราว 15,000 คนอยู่ที่คารโคร์ ซึ่งเป็นจำนวนคนที่เหลือทั้งหมดจากทัพพันธมิตรของฟากตะวันออก เพราะพลดาบถูกฆ่าตายถึง 120,000 คน
  • 1ซามูเอล 20:1 - ครั้งนั้นดาวิดหนีจากนาโยทที่รามาห์ไปพบกับโยนาธาน ดาวิดถามว่า “ข้าพเจ้าทำอะไรหรือ? ข้าพเจ้าก่ออาชญากรรมอะไรหรือ? ข้าพเจ้าทำอะไรผิดต่อราชบิดาของท่านหรือ พระองค์จึงทรงพยายามจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า?”
  • ผู้วินิจฉัย 15:14 - ขณะที่แซมสันมาถึงเลฮี ชาวฟีลิสเตียก็โห่ร้องตรงเข้ามาหา พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาสถิตกับแซมสันและประทานกำลังมหาศาลให้เขา เชือกที่มัดแขนของเขาอยู่ก็ขาดออกจากข้อมือเหมือนเส้นป่านลนไฟ
  • ผู้วินิจฉัย 15:15 - แซมสันเห็นกระดูกขากรรไกรลาท่อนหนึ่ง จึงหยิบขึ้นมาฟาดสังหารชาวฟีลิสเตียนับพันคน
  • ผู้วินิจฉัย 15:16 - แล้วแซมสันกล่าวว่า “กองสุมเป็นพะเนิน ด้วยขากรรไกรลาอันเดียว ข้าสังหารคนนับพัน ด้วยขากรรไกรลาอันเดียว”
  • ผู้วินิจฉัย 15:17 - เมื่อกล่าวจบแล้ว แซมสันก็โยนขากรรไกรลาทิ้งไป และที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่ารามัทเลฮี
  • ผู้วินิจฉัย 15:18 - เนื่องจากแซมสันกระหายน้ำมากจึงทูลวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์ทรงให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีชัยชนะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ข้าพระองค์จะต้องมาตายด้วยความกระหาย และตกอยู่ในเงื้อมมือของคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัตอย่างนั้นหรือ?”
  • ผู้วินิจฉัย 15:19 - แล้วพระเจ้าทรงให้น้ำพุ่งขึ้นมาจากแอ่งที่เลฮี เมื่อแซมสันดื่มน้ำก็ฟื้นกำลังและสดชื่นขึ้น ธารน้ำพุแห่งนั้นจึงได้ชื่อว่าเอนฮักโคเร ซึ่งยังคงอยู่ที่เลฮีจนทุกวันนี้
  • ผู้วินิจฉัย 15:20 - แซมสันนำ อิสราเอลอยู่ยี่สิบปีในยุคสมัยของฟีลิสเตีย
  • เยเรมีย์ 26:24 - ยิ่งกว่านั้นเยเรมีย์ได้รับความช่วยเหลือจากอาหิคัมบุตรชาฟาน จึงไม่ถูกมอบตัวให้ประชาชนฆ่า
  • โยบ 42:10 - หลังจากที่โยบอธิษฐานเผื่อเพื่อนๆ แล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เขาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งและประทานสิ่งต่างๆ ให้เขามากกว่าเดิมเป็นสองเท่า
  • 2ซามูเอล 8:1 - ต่อมาดาวิดทรงพิชิตชาวฟีลิสเตียอย่างราบคาบ พระองค์ยึดเมืองเมเธกอัมมาห์จากฟีลิสเตีย
  • 2ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังได้ทรงพิชิตชาวโมอับ จับเชลยนอนเรียงแถวบนพื้นแล้ววัดด้วยสายวัด ทุกๆ สองช่วงของสายวัดเชลยที่นอนอยู่ในสองช่วงนั้นจะถูกประหาร และจะไว้ชีวิตเชลยที่อยู่ในช่วงที่สาม ชาวโมอับจึงขึ้นแก่ดาวิดและต้องส่งเครื่องบรรณาการ
  • 2ซามูเอล 8:3 - ยิ่งกว่านั้นดาวิดยังทรงสู้รบกับกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์ เมื่อฮาดัดเอเซอร์เสด็จไปกู้อำนาจคืนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส
  • 2ซามูเอล 8:4 - ดาวิดทรงยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน พลรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ทรงตัดเอ็นขาม้าศึกทั้งหมด ยกเว้นม้าสำหรับเทียมรถหนึ่งร้อยตัว
  • 2ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสมาช่วยกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์แห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงสังหารพวกเขาไป 22,000 คน
  • 2ซามูเอล 8:6 - ทรงวางกำลังทหารไว้ในอาณาจักรอารัมแห่งดามัสกัส และชาวอารัมก็ขึ้นกับดาวิด และต้องส่งบรรณาการมาถวาย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
  • 2ซามูเอล 8:7 - ดาวิดทรงนำโล่ทองคำของบรรดานายทหารของฮาดัดเอเซอร์มายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดยังได้นำทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจากเมืองเทบาห์ และจากเมืองเบโรธัยของฮาดัดเอเซอร์มาด้วย
  • 2ซามูเอล 8:9 - เมื่อกษัตริย์โทอู แห่งเมืองฮามัทได้ข่าวว่าดาวิดทรงรบชนะทั้งกองทัพของฮาดัดเอเซอร์
  • 2ซามูเอล 8:10 - ก็ส่งโยรัม ราชโอรสมาถวายคำนับกษัตริย์ดาวิดและร่วมยินดีในชัยชนะเหนือฮาดัดเอเซอร์ เพราะฮาดัดเอเซอร์และโทอูเป็นศัตรูขับเคี่ยวกันมา โยรัมนำเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องทองสัมฤทธิ์มาถวายด้วย
  • 2ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดทรงถวายสิ่งเหล่านี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับเงินและทองซึ่งริบจากชนชาติต่างๆ ที่ดาวิดพิชิตคือ
  • 2ซามูเอล 8:12 - เอโดม โมอับ อัมโมน ฟีลิสเตีย และอามาเลข ตลอดจนของเชลยที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์
  • 2ซามูเอล 8:13 - และหลังจากที่ดาวิดทรงประหารชาวเอโดม ที่หุบเขาเกลือไป 18,000 คน ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดัง
  • 2ซามูเอล 8:14 - ดาวิดทรงวางกำลังทหารไว้ในเอโดม และชาวเอโดมทั้งปวงก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ( 1พศด.18:14-17 )
  • 2ซามูเอล 8:15 - ดาวิดทรงปกครองทั่วแดนอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเพื่อปวงประชากรของพระองค์
  • 2ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นอาลักษณ์หลวง
  • 2ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรอาห์เป็นราชเลขา
  • 2ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาดูแลพวกเคเรธีและคนเปเลท และบรรดาโอรสของดาวิดเป็นราชมนตรี
  • สดุดี 6:8 - พวกเจ้าทุกคนที่ทำชั่ว จงไปให้พ้นข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้าแล้ว
  • ดาเนียล 3:19 - เนบูคัดเนสซาร์จึงทรงพระพิโรธชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกยิ่งนัก พระทัยที่เคยปรานีต่อพวกเขาก็เปลี่ยนไป และตรัสสั่งให้โหมไฟในเตาให้ร้อนแรงขึ้นอีกเจ็ดเท่า
  • ดาเนียล 3:20 - แล้วสั่งให้ทหารที่กำยำที่สุดในกองทัพจับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมามัดและโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน
  • ดาเนียล 3:21 - พวกทหารจึงจับคนทั้งสามมัดและโยนเข้าไปในเตาไฟร้อนแรง ทั้งๆ ที่คนทั้งสามยังโพกผ้า สวมเสื้อ กางเกง และเครื่องแต่งกายอื่นๆ อยู่
  • ดาเนียล 3:22 - คำสั่งของกษัตริย์เร่งด่วนมาก และเตาไฟก็ร้อนแรงจนเปลวไฟแลบออกมา แผดเผาเหล่าทหารที่จับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกโยนเข้าไปในเตานั้นสิ้นชีวิต
  • ดาเนียล 3:23 - คนทั้งสามที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาก็ถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน
  • ดาเนียล 3:24 - แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงลุกขึ้นทันทีด้วยความประหลาดพระทัย และตรัสถามบรรดาราชมนตรีว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปในเตาไฟไม่ใช่หรือ?” ราชมนตรีทูลว่า “ใช่แล้วพระเจ้าข้า”
  • ดาเนียล 3:25 - กษัตริย์ตรัสว่า “แต่ดูสิ เราเห็นสี่คนเดินอยู่ในเตาไฟ ไม่ได้ถูกมัดหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด และคนที่สี่นั้นก็ดูเหมือนเทพบุตร”
  • ดาเนียล 3:26 - เนบูคัดเนสซาร์จึงเสด็จไปที่ประตูของเตาไฟอันร้อนแรงนั้น และทรงร้องเรียกว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุดเอ๋ย จงออกมาเถิด! จงออกมานี่!” ดังนั้นชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงออกมาจากไฟ
  • ดาเนียล 3:27 - บรรดาเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ และราชมนตรีต่างมาห้อมล้อมคนทั้งสาม เห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายร่างกายของเขาเลย ผมก็ไม่ได้ไหม้ไปแม้สักเส้น เสื้อผ้าก็ไม่ได้ถูกเผาไหม้ ไม่มีแม้แต่กลิ่นไหม้
  • ดาเนียล 3:28 - เนบูคัดเนสซาร์จึงตรัสว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ผู้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์! พวกเขาไว้วางใจในพระเจ้า ละเมิดคำสั่งของกษัตริย์ และยอมตายเสียดีกว่ายอมปรนนิบัตินมัสการพระอื่นใดเว้นแต่พระเจ้าของตน
  • ผู้วินิจฉัย 16:19 - เดลิลาห์ให้แซมสันนอนหลับหนุนตักนาง แล้วให้คนมาโกนผมแซมสันหมดทั้งเจ็ดปอย ทำให้เรี่ยวแรงของแซมสันถดถอยลง แล้วกำลังของเขาก็หมดไป
  • ผู้วินิจฉัย 16:20 - แล้วนางร้องว่า “แซมสัน พวกฟีลิสเตียมาจับตัวท่านแล้ว!” แซมสันก็ตื่นขึ้น และคิดว่า “เราจะสะบัดตัวหลุดรอดไปเหมือนครั้งก่อนๆ” แต่เขาไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทิ้งเขาไปเสียแล้ว
  • ผู้วินิจฉัย 16:21 - จากนั้นชาวฟีลิสเตียจึงจับตัวแซมสัน ควักตาทั้งสองข้างของเขาออกและนำตัวเขาไปยังกาซา ล่ามเขาด้วยโซ่ทองสัมฤทธิ์และให้โม่ข้าวอยู่ในเรือนจำ
  • ผู้วินิจฉัย 16:22 - แต่ไม่นานผมของแซมสันก็เริ่มยาวอีก
  • ผู้วินิจฉัย 16:23 - ฝ่ายเจ้านายชาวฟีลิสเตียชุมนุมกันเพื่อถวายเครื่องบูชาครั้งใหญ่แด่พระดาโกนเทพเจ้าของพวกเขา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและกล่าวว่า “เทพเจ้าของเรามอบแซมสันศัตรูของเราไว้ในมือของเราแล้ว”
  • ผู้วินิจฉัย 16:24 - เมื่อประชาชนเห็นแซมสัน ก็ร้องสรรเสริญเทพเจ้าของตนว่า “เทพเจ้าของเรามอบศัตรู ไว้ในมือของเราแล้ว คนนี้แหละที่ล้างผลาญแผ่นดินของเรา และฆ่าพวกเราตายมากมาย”
  • ผู้วินิจฉัย 16:25 - ขณะที่พวกเขากำลังมึนเมา พวกเขาก็ตะโกนขึ้นว่า “เอาตัวแซมสันออกมาสร้างความบันเทิงให้พวกเราเถิด” แซมสันถูกนำตัวออกจากที่คุมขัง แล้วแสดงให้พวกเขาดู ขณะที่แซมสันถูกนำมายืนอยู่ท่ามกลางหมู่เสา
  • ผู้วินิจฉัย 16:26 - เขาบอกคนรับใช้ที่จูงมือตนมาว่า “พาเราไปตรงที่จะคลำพบเสารองรับวิหาร เพื่อเราจะได้พิงเสา”
  • ผู้วินิจฉัย 16:27 - ขณะนั้นภายในวิหารคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนทั้งชายและหญิง เจ้านายฟีลิสเตียทั้งปวงก็อยู่ที่นั่นด้วย และบนดาดฟ้ามีชายหญิงประมาณสามพันคนเฝ้าดูแซมสันแสดงอยู่
  • ผู้วินิจฉัย 16:28 - แซมสันจึงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้พละกำลังแก่ข้าพระองค์อีกครั้งเดียว เพื่อข้าพระองค์จะได้แก้แค้นชาวฟีลิสเตียชดเชยกับที่ต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้างไป”
  • ผู้วินิจฉัย 16:29 - จากนั้นแซมสันก็ไปที่เสาสองต้นกลางวิหารซึ่งเป็นเสารองรับวิหาร มือขวายันเสาข้างหนึ่ง มือซ้ายยันเสาอีกข้างหนึ่ง แล้วรวบรวมกำลังดันเสา
  • ผู้วินิจฉัย 16:30 - แซมสันกล่าวว่า “เราขอตายพร้อมพวกฟีลิสเตีย!” แล้วเขาก็ดันเสาสุดแรง วิหารพังครืนลงมาทับเจ้านายฟีลิสเตียและประชากรทั้งหมดในนั้น เป็นอันว่าขณะที่แซมสันกำลังจะตาย เขาได้ฆ่าชาวฟีลิสเตียมากยิ่งกว่าตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่
  • โยบ 5:20 - พระองค์จะทรงช่วยท่านให้พ้นจากความตายในยามกันดารอาหาร และจากคมดาบในยามสงคราม
  • 1ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไป ผู้เชิญอาวุธปีนตามหลัง ชาวฟีลิสเตียล้มตายต่อหน้าโยนาธาน และผู้เชิญอาวุธของโยนาธานฆ่าฟันตามหลังมา
  • 1ซามูเอล 14:14 - ในการบุกโจมตีครั้งแรกนี้ โยนาธานกับผู้เชิญอาวุธฆ่าคนตายไปยี่สิบคนในเนื้อที่ราวหนึ่งไร่
  • 1ซามูเอล 14:15 - ความหวาดผวาแผ่ไปทั่วกองทัพฟีลิสเตีย ทั้งพวกที่อยู่ในค่ายและในท้องทุ่ง ทั้งพวกที่อยู่ในกองทหารรักษาการณ์และกองโจร และเกิดแผ่นดินไหว เป็นความหวาดผวาที่พระเจ้าส่งมา
  • 2พงศาวดาร 20:6 - และทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ประทับในสวรรค์ไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงปกครองเหนือมวลอาณาจักรของชนชาติต่างๆ ฤทธิ์อำนาจและแสนยานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีผู้ใดอาจต่อต้านพระองค์ได้
  • 2พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ในดินแดนนี้ออกไปต่อหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และประทานดินแดนนี้ให้แก่วงศ์วานอับราฮัมสหายของพระองค์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?
  • 2พงศาวดาร 20:8 - เราทั้งหลายได้อาศัยอยู่ที่นี่และได้สร้างสถานนมัสการเพื่อพระนามของพระองค์ และกล่าวว่า
  • 2พงศาวดาร 20:9 - ‘หากมีภัยพิบัติตกมาถึง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ภัยพิบัติ หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่หน้าพระวิหารแห่งพระนามของพระองค์ และจะร้องทูลพระองค์ในยามทุกข์ลำเค็ญ แล้วพระองค์จะทรงสดับฟังและช่วยเหลือข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นภัย’
  • 2พงศาวดาร 20:10 - “แต่บัดนี้มีคนมาจากอัมโมน โมอับ และภูเขาเสอีร์ ซึ่งเมื่อครั้งอิสราเอลออกจากอียิปต์ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้อิสราเอลบุกรุกดินแดนของพวกเขา อิสราเอลจึงอ้อมมาและไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา
  • 2พงศาวดาร 20:11 - แต่บัดนี้ดูเถิด พวกเขากลับตอบแทนด้วยการขับไล่พวกข้าพระองค์ออกจากดินแดนซึ่งพระองค์ประทานให้เป็นกรรมสิทธิ์
  • 2พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ทรงลงโทษเขาหรือ? เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่มีกำลังอำนาจจะรับมือกับกองทัพใหญ่ที่มาโจมตีนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่หวังพึ่งพระองค์”
  • 2พงศาวดาร 20:13 - ผู้ชายยูดาห์ทั้งปวงกับภรรยาและลูกเล็กเด็กแดงมายืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเหนือชายคนหนึ่งในกลุ่มชนนั้นคือ ยาฮาซีเอลบุตรเศคาริยาห์ ผู้เป็นบุตรของเบไนยาห์ ผู้เป็นบุตรของเยอีเอล ผู้เป็นบุตรของมัททานิยาห์เผ่าเลวี วงศ์วานของอาสาฟ
  • 2พงศาวดาร 20:15 - ยาฮาซีเอลกล่าวว่า “ฟังเถิด ข้าแต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทและทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านว่า ‘อย่ากลัวเลย ไม่ต้องท้อแท้เพราะกองทัพใหญ่นี้ เพราะการศึกครั้งนี้ไม่ใช่ของเจ้า แต่เป็นของพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้จงออกไปรบกับเขา เขาจะปีนขึ้นมาทางช่องแคบศิส และเจ้าจะประจันหน้ากับเขาที่ท้ายหุบเขาในถิ่นกันดารเยรูเอล
  • 2พงศาวดาร 20:17 - เจ้าจะไม่ต้องรบในสงครามครั้งนี้ จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งๆ ดูการช่วยกอบกู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่าน ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัวหรือท้อแท้ใจไปเลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับเจ้า’ ”
  • 2พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัททรงซบหน้าลงกับพื้น และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งปวงก็หมอบกราบลงนมัสการต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:19 - แล้วมีคนเลวีบางคนจากตระกูลโคฮาทและตระกูลโคราห์ยืนขึ้นเปล่งเสียงก้องกังวานสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
  • 2พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเคลื่อนทัพไปยังถิ่นกันดารเทโคอา เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นและตรัสว่า “ฟังข้าพเจ้าเถิด พี่น้องประชาชนยูดาห์และเยรูซาเล็ม! จงเชื่อในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้วท่านจะได้รับการเชิดชู จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ”
  • 2พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ทรงหารือกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทก็ทรงแต่งตั้งผู้ร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ใน ความบริสุทธิ์สูงส่งของพระองค์ขณะเดินนำหน้ากองทัพไปว่า “จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”
  • 2พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางกำลังซุ่มโจมตีชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ที่มารุกรานยูดาห์ แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้
  • 2พงศาวดาร 20:23 - ชาวอัมโมนกับชาวโมอับหันไปเล่นงานพันธมิตรจากภูเขาเสอีร์ ทำลายล้างพวกเขาหมดสิ้น เสร็จแล้วก็หันมาห้ำหั่นกันเอง
  • 2พงศาวดาร 20:24 - เมื่อทัพยูดาห์มาถึงท้ายหุบเขาเหนือถิ่นกันดารและมองดูกองทัพใหญ่ ก็เห็นแต่ศพเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น ไม่มีใครหนีรอดไปได้เลย
  • 2พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับพวกจึงออกไปริบข้าวของ ได้เครื่องมือ เครื่องแต่งกาย และของมีค่าจำนวนมหาศาล จนต้องใช้เวลาถึงสามวันจึงขนมาหมด
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:7 - แล้วอิสยาห์กล่าวว่า “จงเตรียมยาพอกจากมะเดื่อ” พวกเขาจึงทำตามนั้นและนำมาพอกที่ฝี แล้วเฮเซคียาห์ก็หายประชวร
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:8 - เฮเซคียาห์ตรัสถามอิสยาห์ว่า “อะไรจะเป็นหมายสำคัญให้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงรักษาเรา และวันที่สามนับจากนี้เราจะขึ้นไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้อีก?”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:9 - อิสยาห์ตอบว่า “นี่เป็นหมายสำคัญที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้แก่ท่าน เพื่อแสดงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำตามที่ทรงสัญญาไว้คือ ท่านอยากให้เงาเคลื่อนไปข้างหน้าสิบขั้น หรือถอยหลังไปสิบขั้น?”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:10 - เฮเซคียาห์ตรัสว่า “การที่เงาจะเคลื่อนไปข้างหน้าสิบขั้นก็เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นขอให้ถอยหลังสิบขั้นก็แล้วกัน”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:11 - ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์จึงกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ทรงบันดาลให้เงาบนนาฬิกาแดดของอาหัสเคลื่อนถอยหลังไปสิบขั้น ( 2พศด.32:32-33 ; อสย.39:1-8 )
  • สดุดี 66:12 - พระองค์ทรงให้คนควบม้าทับศีรษะของพวกข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์ต้องลุยน้ำลุยไฟ แต่แล้วพระองค์ก็ทรงนำพวกข้าพระองค์มาสู่ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์
  • 2โครินธ์ 12:9 - แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “พระคุณของเราเพียงพอสำหรับเจ้า เพื่อว่าฤทธิ์อำนาจของเราจะได้ปรากฏเต็มที่ในความอ่อนแอ” ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงอวดความอ่อนแอของตนด้วยความยินดี เพื่อฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า
  • 2โครินธ์ 12:10 - ด้วยเหตุนี้แหละเพื่อพระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นชมในความอ่อนแอ ในการสบประมาท ในความยากลำบาก ในการกดขี่ข่มเหง ในความยุ่งยาก เพราะเมื่อใดที่ข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อนั้นข้าพเจ้าก็เข้มแข็ง
  • 2พงศาวดาร 32:20 - กษัตริย์เฮเซคียาห์และผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอาโมศร้องทูลอธิษฐานขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์เกี่ยวกับเรื่องนี้
  • 2พงศาวดาร 32:21 - และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งทูตองค์หนึ่งมาทำลายล้างนักรบ ผู้นำ และนายทหารทั้งปวงในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรียจนหมดสิ้น เซนนาเคอริบจึงถอยทัพกลับดินแดนของพระองค์ไปด้วยความอัปยศอดสู และเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในวิหารของเทพเจ้าของพระองค์ ก็ถูกโอรสบางองค์ปลงพระชนม์ด้วยดาบ
  • 2พงศาวดาร 32:22 - เป็นอันว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเฮเซคียาห์และชาวเยรูซาเล็มจากเงื้อมมือกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียและคนอื่นๆ พระองค์ทรงปกป้องดูแลพวกเขา ทุกด้าน
  • 1เปโตร 4:12 - เพื่อนที่รัก อย่าแปลกใจกับการทดลองอันเจ็บปวดที่ท่านเผชิญอยู่ราวกับว่าสิ่งแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นกับท่าน
  • 2ซามูเอล 21:16 - อิชบีเบโนบวงศ์วานของราฟาเจ้าของหอกทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 3.5 กิโลกรัม คาดดาบเล่มใหม่หมายจะปลงพระชนม์ดาวิด
  • 2ซามูเอล 21:17 - แต่อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์ตรงรี่เข้ามาช่วยสังหารชาวฟีลิสเตียคนนั้น จากนั้นทหารของดาวิดประกาศว่า “ฝ่าพระบาทอย่าทรงออกรบอีกเลย เพื่อไม่ให้ดวงประทีปของอิสราเอลต้องดับไป”
  • อิสยาห์ 43:2 - เมื่อเจ้าลุยน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าลุยข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ซัดท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ ไฟจะไม่เผาไหม้ เปลวไฟจะไม่เผาผลาญเจ้า
  • 2พงศาวดาร 14:11 - อาสาทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครอื่นเสมอเหมือนพระองค์ที่จะช่วยผู้ไร้กำลังต่อกรกับผู้มีอำนาจ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายพึ่งในพระองค์ และข้าพระองค์ทั้งหลายมาต่อสู้กองทัพมหึมานี้ในพระนามของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเหล่าข้าพระองค์ ขออย่าให้มนุษย์ชนะพระองค์เลย”
  • 2พงศาวดาร 14:12 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบชาวคูชต่อหน้าอาสากับยูดาห์ ชาวคูชถอยหนีไป
  • 2พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพรุกไล่พวกเขาไปไกลถึงเกราร์ ชาวคูชล้มตายมากมายจนไม่อาจฟื้นตัวได้อีก พวกเขาแหลกลาญไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้ากับกองกำลังของพระองค์ ชนยูดาห์นำของเชลยจำนวนมากกลับมา
  • 2พงศาวดาร 14:14 - พวกเขาทำลายล้างหมู่บ้านทั้งปวงรอบเกราร์เพราะความกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกนั้น พวกเขาริบข้าวของทั่วหมู่บ้านเหล่านั้น เนื่องจากมีของเชลยมากมายที่นั่น
  • 2พงศาวดาร 16:1 - กษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลมาสู้รบกับยูดาห์ในปีที่สามสิบหกแห่งรัชกาลอาสา และบาอาชาทรงสร้างป้อมปราการที่เมืองรามาห์เพื่อปิดทางเข้าออกสู่เขตแดนของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์
  • 2พงศาวดาร 16:2 - อาสาจึงทรงนำเงินและทองคำจากคลังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจากท้องพระคลังของพระราชวังของพระองค์เอง ส่งไปถวายกษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัมซึ่งปกครองอยู่ที่เมืองดามัสกัส และตรัสว่า
  • 2พงศาวดาร 16:3 - “ขอให้เราเป็นพันธมิตรกันเหมือนดังราชบิดาของเราทั้งสอง ข้าพเจ้าส่งเงินและทองนี้มากำนัลแด่ท่าน ขอให้ท่านตัดสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอล เพื่อเขาจะได้ถอยทัพไปจากข้าพเจ้า”
  • 2พงศาวดาร 16:4 - เบนฮาดัดทรงเห็นชอบกับกษัตริย์อาสา และส่งแม่ทัพและกองกำลังไปโจมตีเมืองต่างๆ ของอิสราเอล พวกเขาพิชิตเมืองอิโยน ดาน อาเบลมาอิม และเมืองคลังเสบียงทุกเมืองในนัฟทาลี
  • 2พงศาวดาร 16:5 - เมื่อบาอาชาทราบเรื่องนี้ก็หยุดสร้างเมืองรามาห์และทิ้งงาน
  • 2พงศาวดาร 16:6 - กษัตริย์อาสาจึงทรงนำชายชาวยูดาห์ทั้งหมดไปยังเมืองรามาห์ ให้ขนหินและไม้ซึ่งบาอาชาทรงใช้อยู่นั้นไปสร้างเมืองเกบาและเมืองมิสปาห์
  • 2พงศาวดาร 16:7 - ครั้งนั้นผู้ทำนายฮานานีมาเข้าเฝ้ากษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์และทูลว่า “เนื่องจากท่านพึ่งกษัตริย์แห่งอารัมแทนที่จะพึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน กองทัพของกษัตริย์อารัมจึงหลุดมือท่านไปเสียแล้ว
  • 2พงศาวดาร 16:8 - ครั้งนั้นชาวคูช กับชาวลิเบียมีกองทัพมหาศาล รถม้าศึกและพลม้า มากมายไม่ใช่หรือ? แต่เมื่อท่านพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน
  • 2พงศาวดาร 16:9 - เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรทั่วโลก เพื่อทำให้ผู้ที่ภักดีต่อพระองค์อย่างสุดใจเข็มแข็งขึ้น ท่านช่างโง่เขลาเสียจริงที่ทำเช่นนั้น นับแต่นี้ไปท่านจะต้องมีสงครามเรื่อยๆ”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:32 - ฝ่ายเอลีชากำลังนั่งสนทนากับบรรดาผู้อาวุโสอยู่ในบ้าน เมื่อกษัตริย์ทรงใช้คนไปตามตัวเขา ก่อนที่คนนั้นจะมาถึง เอลีชากล่าวกับผู้อาวุโสเหล่านั้นว่า “พวกท่านไม่เห็นหรือว่าฆาตกรนั้นส่งคนมาตัดหัวเราแล้ว? ดูเถิด เมื่อเขามาถึง จงปิดประตู และไล่เขาออกไป นั่นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของนายของเขาที่ตามมาข้างหลังหรือ?”
  • ผู้วินิจฉัย 15:8 - เขาตรงเข้าเล่นงานคนเหล่านั้นอย่างดุเดือด ฆ่าพวกเขาตายไปเป็นจำนวนมาก แล้วเขาไปอาศัยอยู่ในถ้ำที่ศิลาแห่งเอตาม
  • 1ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งขึ้นไปยืนบนร่างของเขา ดึงดาบของโกลิอัทออกจากฝักและฆ่าเขา แล้วก็ตัดศีรษะออกมา เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นวีรบุรุษของตนตายเสียแล้ว ก็หันหลังวิ่งหนีไป
  • 1ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลและยูดาห์จึงโห่ร้องมีชัย แล้วรุกไล่ฟีลิสเตียไปไกลถึงทางเข้าเมืองกัท และประตูเมืองเอโครน ศพชาวฟีลิสเตียเกลื่อนกลาดตลอดเส้นทางชาอาราอิมที่จะไปยังเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 2ซามูเอล 10:15 - หลังจากชาวอารัมเห็นว่าถูกอิสราเอลรุกไล่ก็รวมกำลังกันอีก
  • 2ซามูเอล 10:16 - ฮาดัดเอเซอร์นำคนอารัมจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสมาสมทบ พวกเขามายังเฮลาม มีโชบัคแม่ทัพของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้บัญชาการ
  • 2ซามูเอล 10:17 - เมื่อดาวิดทรงทราบข่าว พระองค์ทรงระดมพลอิสราเอลทั้งหมดและข้ามแม่น้ำจอร์แดนมายังเฮลาม ชาวอารัมตั้งแนวรบประจันหน้ากับดาวิดและสู้รบกัน
  • 2ซามูเอล 10:18 - แต่พวกเขาพ่ายหนีต่อหน้าอิสราเอล และดาวิดทรงสังหารพลรถรบของพวกเขาเจ็ดร้อยคนกับทหารราบ อีกสี่หมื่นคน และทรงสังหารโชบัคแม่ทัพของพวกเขาตายที่นั่น
  • 2ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ซึ่งขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้อิสราเอล ก็ขอสงบศึกและยอมเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอล ชาวอารัมจึงไม่กล้ามาช่วยชาวอัมโมนสู้รบอีกเลย
  • ผู้วินิจฉัย 7:19 - ราวสี่ห้าทุ่ม หลังจากที่ทหารรักษาการณ์เพิ่งผลัดเวรกัน กิเดโอนและคนหนึ่งร้อยคนที่ไปกับเขามาถึงรอบนอกค่ายทันใดนั้นกิเดโอนกับพวกก็เป่าแตรและทุบหม้อในมือทิ้ง
  • ผู้วินิจฉัย 7:20 - ทั้งสามกลุ่มเป่าแตรและทุบหม้อ มือซ้ายถือคบเพลิง มือขวาถือแตร และโห่ร้องว่า “ดาบนี้เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพื่อกิเดโอน!”
  • ผู้วินิจฉัย 7:21 - จากนั้นพวกเขาก็เพียงแต่ยืนอยู่รอบค่าย ดูชาวมีเดียนทั้งหมดวิ่งพล่าน ร้องตะโกนขณะที่หนีเตลิดไป
  • ผู้วินิจฉัย 7:22 - เมื่อคนสามร้อยคนนั้นเป่าแตร องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้คนมีเดียนทั้งค่ายหันมาสู้รบและฆ่าฟันกันเอง แล้วกองทัพมีเดียนเตลิดหนีไปเบธชิทธาห์ ซึ่งเป็นทางไปเศเรราห์และหนีไปถึงเขตแดนอาเบลเมโฮลาห์ใกล้ทับบาท
  • ผู้วินิจฉัย 7:23 - ชนอิสราเอลจากนัฟทาลี อาเชอร์ และมนัสเสห์ทั้งหมดถูกเรียกออกมา พวกเขารุกไล่ชาวมีเดียน
  • ผู้วินิจฉัย 7:24 - กิเดโอนส่งผู้สื่อสารไปทั่วแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิมและกล่าวว่า “จงลงมาต่อสู้กับชาวมีเดียนและยึดน่านน้ำจอร์แดนไปจนถึงเบธบาราห์ก่อนหน้าพวกเขา” ดังนั้นคนเอฟราอิมทั้งหมดจึงถูกเรียกออกมา และพวกเขายึดน่านน้ำจอร์แดนไปจนถึงเบธบาราห์
  • ผู้วินิจฉัย 7:25 - พวกเขาจับผู้นำมีเดียนสองคน คือโอเรบและเศเอบ พวกเขาฆ่าโอเรบที่ศิลาแห่งโอเรบและฆ่าเศเอบที่บ่อย่ำองุ่นแห่งเศเอบ พวกเขาตามล่าชาวมีเดียนและนำศีรษะของโอเรบกับเศเอบมามอบให้กิเดโอนซึ่งอยู่ที่ริมแม่น้ำจอร์แดน
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:16 - เอลีชากล่าวว่า “อย่าตกใจกลัวไปเลย ฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:17 - แล้วเอลีชาอธิษฐานว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเบิกตาให้เขาเห็น” องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเบิกตาให้คนรับใช้นั้นเห็นรอบเนินเขาเต็มไปด้วยม้าและรถม้าศึกเพลิงรายรอบเอลีชา
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:18 - ขณะที่ฝ่ายศัตรูตรงเข้ามา เอลีชาอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ขอให้คนเหล่านี้ตาพร่ามัวให้หมด” พระเจ้าก็ให้พวกเขาตาพร่ามัวเหมือนที่เอลีชาทูลขอ
  • 1พงศ์กษัตริย์ 19:3 - เอลียาห์กลัว จึงหนีเอาชีวิตรอด เขาไปยังเบเออร์เชบาในยูดาห์ และทิ้งคนรับใช้ของเขาไว้ที่นั่น
  • สดุดี 144:10 - แด่เอกองค์ผู้ประทานชัยชนะแก่กษัตริย์ทั้งหลาย ผู้ทรงช่วยกู้ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอดจากคมดาบ
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ได้ดับเปลวไฟร้อนแรง และได้แคล้วคลาดจากคมดาบ ผู้ซึ่งความอ่อนแอของเขากลับเป็นความเข้มแข็ง และผู้ได้กลายเป็นคนแข็งกล้าในการสงคราม และได้ไล่ล่ากองทัพจากต่างแดน
  • 新标点和合本 - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃;软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 灭了烈火的威力,在锋利的刀剑下逃生,从软弱变为刚强,争战中显出勇猛,打退外邦的全军。
  • 和合本2010(神版-简体) - 灭了烈火的威力,在锋利的刀剑下逃生,从软弱变为刚强,争战中显出勇猛,打退外邦的全军。
  • 当代译本 - 熄灭了猛烈的火焰,刀下逃生,由软弱变为刚强,作战勇猛,击退外敌。
  • 圣经新译本 - 消灭了烈火的威力,逃脱了刀剑的锋刃,软弱变成刚强,在战争中显出大能,把外国的军队击退。
  • 中文标准译本 - 灭了烈火的威力,逃脱了刀剑的锋刃,从软弱中得以刚强,在战争中得以强大,击败了外国的军队。
  • 现代标点和合本 - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃,软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
  • 和合本(拼音版) - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃,软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
  • New International Version - quenched the fury of the flames, and escaped the edge of the sword; whose weakness was turned to strength; and who became powerful in battle and routed foreign armies.
  • New International Reader's Version - They put out great fires. They escaped being killed by swords. Their weakness was turned to strength. They became powerful in battle. They beat back armies from other countries.
  • English Standard Version - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, were made strong out of weakness, became mighty in war, put foreign armies to flight.
  • New Living Translation - quenched the flames of fire, and escaped death by the edge of the sword. Their weakness was turned to strength. They became strong in battle and put whole armies to flight.
  • Christian Standard Bible - quenched the raging of fire, escaped the edge of the sword, gained strength in weakness, became mighty in battle, and put foreign armies to flight.
  • New American Standard Bible - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, became mighty in war, put foreign armies to flight.
  • New King James Version - quenched the violence of fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, became valiant in battle, turned to flight the armies of the aliens.
  • Amplified Bible - extinguished the power of [raging] fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, became mighty and unbeatable in battle, putting enemy forces to flight.
  • American Standard Version - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, waxed mighty in war, turned to flight armies of aliens.
  • King James Version - Quenched the violence of fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, waxed valiant in fight, turned to flight the armies of the aliens.
  • New English Translation - quenched raging fire, escaped the edge of the sword, gained strength in weakness, became mighty in battle, put foreign armies to flight,
  • World English Bible - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, grew mighty in war, and caused foreign armies to flee.
  • 新標點和合本 - 滅了烈火的猛勢,脫了刀劍的鋒刃;軟弱變為剛強,爭戰顯出勇敢,打退外邦的全軍。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 滅了烈火的威力,在鋒利的刀劍下逃生,從軟弱變為剛強,爭戰中顯出勇猛,打退外邦的全軍。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 滅了烈火的威力,在鋒利的刀劍下逃生,從軟弱變為剛強,爭戰中顯出勇猛,打退外邦的全軍。
  • 當代譯本 - 熄滅了猛烈的火焰,刀下逃生,由軟弱變為剛強,作戰勇猛,擊退外敵。
  • 聖經新譯本 - 消滅了烈火的威力,逃脫了刀劍的鋒刃,軟弱變成剛強,在戰爭中顯出大能,把外國的軍隊擊退。
  • 呂振中譯本 - 撲滅了烈火之威力,躲脫了刀劍的鋒刃,從軟弱中得了能力,在戰爭中顯為勇猛,使外國的隊伍掉頭逃竄。
  • 中文標準譯本 - 滅了烈火的威力,逃脫了刀劍的鋒刃,從軟弱中得以剛強,在戰爭中得以強大,擊敗了外國的軍隊。
  • 現代標點和合本 - 滅了烈火的猛勢,脫了刀劍的鋒刃,軟弱變為剛強,爭戰顯出勇敢,打退外邦的全軍。
  • 文理和合譯本 - 滅火勢、避鋒刃、弱而強、戰而勇、破異邦軍、
  • 文理委辦譯本 - 使火燄不傷、鋒刃可避、弱而強、戰而勇、破敵陳、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 滅火燄之勢、避刀之鋒刃、由弱成強、於戰則勇、攻退異邦人隊伍、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 撲滅燎原、脫免刀兵、轉弱為強、奮勇作戰、所向披靡、無一而不憑信德也。
  • Nueva Versión Internacional - apagaron la furia de las llamas y escaparon del filo de la espada; sacaron fuerzas de flaqueza; se mostraron valientes en la guerra y pusieron en fuga a ejércitos extranjeros.
  • 현대인의 성경 - 또 불 가운데서 구원을 받았고 칼날도 피했으며 약한 사람이 강해지고 싸움터에서 용감하게 외국 군대를 무찌르기도 하였습니다.
  • Новый Русский Перевод - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • Восточный перевод - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
  • La Bible du Semeur 2015 - Ils ont éteint des feux violents, ont échappé au tranchant de l’épée. Ils ont été remplis de force alors qu’ils étaient faibles. Ils se sont montrés vaillants dans les batailles, ils ont mis en fuite des armées ennemies ;
  • リビングバイブル - 燃えさかる炉に投げ込まれても、やけど一つしませんでした。ある者は、危うく切り殺されるところを救われました。ある者は病弱の身であったのに、健康な体に変えられました。ある者は戦いでめざましい力を与えられ、攻め寄せる敵の軍隊をことごとく退け、大勝利を収めました。
  • Nestle Aland 28 - ἔσβεσαν δύναμιν πυρός, ἔφυγον στόματα μαχαίρης, ἐδυναμώθησαν ἀπὸ ἀσθενείας, ἐγενήθησαν ἰσχυροὶ ἐν πολέμῳ, παρεμβολὰς ἔκλιναν ἀλλοτρίων.
  • unfoldingWord® Greek New Testament - ἔσβεσαν δύναμιν πυρός, ἔφυγον στόματα μαχαίρης, ἐδυναμώθησαν ἀπὸ ἀσθενείας, ἐγενήθησαν ἰσχυροὶ ἐν πολέμῳ, παρεμβολὰς ἔκλιναν ἀλλοτρίων.
  • Nova Versão Internacional - apagaram o poder do fogo e escaparam do fio da espada; da fraqueza tiraram força, tornaram-se poderosos na batalha e puseram em fuga exércitos estrangeiros.
  • Hoffnung für alle - und selbst das Feuer konnte ihnen nichts anhaben. Sie entgingen dem Schwert ihrer Verfolger. Als sie schwach waren, gab Gott ihnen neue Kraft. Weil sie sich auf Gott verließen, vollbrachten sie wahre Heldentaten und schlugen die feindlichen Heere in die Flucht.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - tắt đám lửa hừng, thoát lưỡi gươm địch, chuyển bại thành thắng. Họ đã dũng cảm chiến đấu, quét sạch quân thù.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ดับ​ไฟ​ที่​ไหม้​โหม​กระหน่ำ หลุด​พ้น​จาก​คม​ดาบ จาก​คน​อ่อนแอ​ก็​กลาย​เป็น​คน​เข้มแข็ง​ได้ กลาย​เป็น​คน​แข็ง​แกร่ง​ใน​สงคราม ตี​กองทัพ​ชาติ​อื่นๆ จน​แตก​พ่าย​ไป
  • ผู้วินิจฉัย 8:4 - กิเดโอนกับคนของเขาสามร้อยคนข้ามแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาต่างก็อ่อนเพลีย แต่ยังคงรุกไล่ชาวมีเดียนอยู่
  • ผู้วินิจฉัย 8:5 - กิเดโอนกล่าวกับชาวเมืองสุคคทว่า “โปรดให้เสบียงแก่ทหารของข้าพเจ้าบ้างเถิด พวกเขาอิดโรยมาก และข้าพเจ้าก็ยังตามล่ากษัตริย์เศบาห์กับกษัตริย์ศัลมุนนาของชาวมีเดียนอยู่”
  • ผู้วินิจฉัย 8:6 - แต่เจ้าหน้าที่ของเมืองสุคคทกล่าวว่า “ท่านจับตัวกษัตริย์เศบาห์กับกษัตริย์ศัลมุนนาได้อย่างนั้นหรือ? เรื่องอะไรที่เราจะต้องให้เสบียงแก่ทหารของท่านเล่า?”
  • ผู้วินิจฉัย 8:7 - กิเดโอนจึงตอบว่า “ถ้าท่านกล่าวเช่นนี้แล้ว เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบกษัตริย์เศบาห์และกษัตริย์ศัลมุนนาไว้ในมือของเรา เราจะฉีกเนื้อพวกท่านด้วยหนามทะเลทราย”
  • ผู้วินิจฉัย 8:8 - จากที่นั่นกิเดโอนขึ้นไปที่เปนีเอล และขอเสบียงอาหารเช่นกัน แต่ได้รับคำตอบอย่างเดียวกับที่ได้รับจากชาวเมืองสุคคท
  • ผู้วินิจฉัย 8:9 - เขาจึงกล่าวกับชาวเปนีเอลว่า “เมื่อเรารบชนะกลับมา เราจะรื้อหอคอยนี้ทิ้ง”
  • ผู้วินิจฉัย 8:10 - ขณะนั้นกษัตริย์เศบาห์กับกษัตริย์ศัลมุนนาและกองทหารที่เหลือราว 15,000 คนอยู่ที่คารโคร์ ซึ่งเป็นจำนวนคนที่เหลือทั้งหมดจากทัพพันธมิตรของฟากตะวันออก เพราะพลดาบถูกฆ่าตายถึง 120,000 คน
  • 1ซามูเอล 20:1 - ครั้งนั้นดาวิดหนีจากนาโยทที่รามาห์ไปพบกับโยนาธาน ดาวิดถามว่า “ข้าพเจ้าทำอะไรหรือ? ข้าพเจ้าก่ออาชญากรรมอะไรหรือ? ข้าพเจ้าทำอะไรผิดต่อราชบิดาของท่านหรือ พระองค์จึงทรงพยายามจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า?”
  • ผู้วินิจฉัย 15:14 - ขณะที่แซมสันมาถึงเลฮี ชาวฟีลิสเตียก็โห่ร้องตรงเข้ามาหา พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาสถิตกับแซมสันและประทานกำลังมหาศาลให้เขา เชือกที่มัดแขนของเขาอยู่ก็ขาดออกจากข้อมือเหมือนเส้นป่านลนไฟ
  • ผู้วินิจฉัย 15:15 - แซมสันเห็นกระดูกขากรรไกรลาท่อนหนึ่ง จึงหยิบขึ้นมาฟาดสังหารชาวฟีลิสเตียนับพันคน
  • ผู้วินิจฉัย 15:16 - แล้วแซมสันกล่าวว่า “กองสุมเป็นพะเนิน ด้วยขากรรไกรลาอันเดียว ข้าสังหารคนนับพัน ด้วยขากรรไกรลาอันเดียว”
  • ผู้วินิจฉัย 15:17 - เมื่อกล่าวจบแล้ว แซมสันก็โยนขากรรไกรลาทิ้งไป และที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่ารามัทเลฮี
  • ผู้วินิจฉัย 15:18 - เนื่องจากแซมสันกระหายน้ำมากจึงทูลวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์ทรงให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีชัยชนะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ข้าพระองค์จะต้องมาตายด้วยความกระหาย และตกอยู่ในเงื้อมมือของคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัตอย่างนั้นหรือ?”
  • ผู้วินิจฉัย 15:19 - แล้วพระเจ้าทรงให้น้ำพุ่งขึ้นมาจากแอ่งที่เลฮี เมื่อแซมสันดื่มน้ำก็ฟื้นกำลังและสดชื่นขึ้น ธารน้ำพุแห่งนั้นจึงได้ชื่อว่าเอนฮักโคเร ซึ่งยังคงอยู่ที่เลฮีจนทุกวันนี้
  • ผู้วินิจฉัย 15:20 - แซมสันนำ อิสราเอลอยู่ยี่สิบปีในยุคสมัยของฟีลิสเตีย
  • เยเรมีย์ 26:24 - ยิ่งกว่านั้นเยเรมีย์ได้รับความช่วยเหลือจากอาหิคัมบุตรชาฟาน จึงไม่ถูกมอบตัวให้ประชาชนฆ่า
  • โยบ 42:10 - หลังจากที่โยบอธิษฐานเผื่อเพื่อนๆ แล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เขาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งและประทานสิ่งต่างๆ ให้เขามากกว่าเดิมเป็นสองเท่า
  • 2ซามูเอล 8:1 - ต่อมาดาวิดทรงพิชิตชาวฟีลิสเตียอย่างราบคาบ พระองค์ยึดเมืองเมเธกอัมมาห์จากฟีลิสเตีย
  • 2ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังได้ทรงพิชิตชาวโมอับ จับเชลยนอนเรียงแถวบนพื้นแล้ววัดด้วยสายวัด ทุกๆ สองช่วงของสายวัดเชลยที่นอนอยู่ในสองช่วงนั้นจะถูกประหาร และจะไว้ชีวิตเชลยที่อยู่ในช่วงที่สาม ชาวโมอับจึงขึ้นแก่ดาวิดและต้องส่งเครื่องบรรณาการ
  • 2ซามูเอล 8:3 - ยิ่งกว่านั้นดาวิดยังทรงสู้รบกับกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์ เมื่อฮาดัดเอเซอร์เสด็จไปกู้อำนาจคืนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส
  • 2ซามูเอล 8:4 - ดาวิดทรงยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน พลรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ทรงตัดเอ็นขาม้าศึกทั้งหมด ยกเว้นม้าสำหรับเทียมรถหนึ่งร้อยตัว
  • 2ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสมาช่วยกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์แห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงสังหารพวกเขาไป 22,000 คน
  • 2ซามูเอล 8:6 - ทรงวางกำลังทหารไว้ในอาณาจักรอารัมแห่งดามัสกัส และชาวอารัมก็ขึ้นกับดาวิด และต้องส่งบรรณาการมาถวาย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
  • 2ซามูเอล 8:7 - ดาวิดทรงนำโล่ทองคำของบรรดานายทหารของฮาดัดเอเซอร์มายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดยังได้นำทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจากเมืองเทบาห์ และจากเมืองเบโรธัยของฮาดัดเอเซอร์มาด้วย
  • 2ซามูเอล 8:9 - เมื่อกษัตริย์โทอู แห่งเมืองฮามัทได้ข่าวว่าดาวิดทรงรบชนะทั้งกองทัพของฮาดัดเอเซอร์
  • 2ซามูเอล 8:10 - ก็ส่งโยรัม ราชโอรสมาถวายคำนับกษัตริย์ดาวิดและร่วมยินดีในชัยชนะเหนือฮาดัดเอเซอร์ เพราะฮาดัดเอเซอร์และโทอูเป็นศัตรูขับเคี่ยวกันมา โยรัมนำเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องทองสัมฤทธิ์มาถวายด้วย
  • 2ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดทรงถวายสิ่งเหล่านี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับเงินและทองซึ่งริบจากชนชาติต่างๆ ที่ดาวิดพิชิตคือ
  • 2ซามูเอล 8:12 - เอโดม โมอับ อัมโมน ฟีลิสเตีย และอามาเลข ตลอดจนของเชลยที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์
  • 2ซามูเอล 8:13 - และหลังจากที่ดาวิดทรงประหารชาวเอโดม ที่หุบเขาเกลือไป 18,000 คน ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดัง
  • 2ซามูเอล 8:14 - ดาวิดทรงวางกำลังทหารไว้ในเอโดม และชาวเอโดมทั้งปวงก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ( 1พศด.18:14-17 )
  • 2ซามูเอล 8:15 - ดาวิดทรงปกครองทั่วแดนอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเพื่อปวงประชากรของพระองค์
  • 2ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นอาลักษณ์หลวง
  • 2ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรอาห์เป็นราชเลขา
  • 2ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาดูแลพวกเคเรธีและคนเปเลท และบรรดาโอรสของดาวิดเป็นราชมนตรี
  • สดุดี 6:8 - พวกเจ้าทุกคนที่ทำชั่ว จงไปให้พ้นข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้าแล้ว
  • ดาเนียล 3:19 - เนบูคัดเนสซาร์จึงทรงพระพิโรธชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกยิ่งนัก พระทัยที่เคยปรานีต่อพวกเขาก็เปลี่ยนไป และตรัสสั่งให้โหมไฟในเตาให้ร้อนแรงขึ้นอีกเจ็ดเท่า
  • ดาเนียล 3:20 - แล้วสั่งให้ทหารที่กำยำที่สุดในกองทัพจับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมามัดและโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน
  • ดาเนียล 3:21 - พวกทหารจึงจับคนทั้งสามมัดและโยนเข้าไปในเตาไฟร้อนแรง ทั้งๆ ที่คนทั้งสามยังโพกผ้า สวมเสื้อ กางเกง และเครื่องแต่งกายอื่นๆ อยู่
  • ดาเนียล 3:22 - คำสั่งของกษัตริย์เร่งด่วนมาก และเตาไฟก็ร้อนแรงจนเปลวไฟแลบออกมา แผดเผาเหล่าทหารที่จับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกโยนเข้าไปในเตานั้นสิ้นชีวิต
  • ดาเนียล 3:23 - คนทั้งสามที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาก็ถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน
  • ดาเนียล 3:24 - แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงลุกขึ้นทันทีด้วยความประหลาดพระทัย และตรัสถามบรรดาราชมนตรีว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปในเตาไฟไม่ใช่หรือ?” ราชมนตรีทูลว่า “ใช่แล้วพระเจ้าข้า”
  • ดาเนียล 3:25 - กษัตริย์ตรัสว่า “แต่ดูสิ เราเห็นสี่คนเดินอยู่ในเตาไฟ ไม่ได้ถูกมัดหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด และคนที่สี่นั้นก็ดูเหมือนเทพบุตร”
  • ดาเนียล 3:26 - เนบูคัดเนสซาร์จึงเสด็จไปที่ประตูของเตาไฟอันร้อนแรงนั้น และทรงร้องเรียกว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุดเอ๋ย จงออกมาเถิด! จงออกมานี่!” ดังนั้นชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงออกมาจากไฟ
  • ดาเนียล 3:27 - บรรดาเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ และราชมนตรีต่างมาห้อมล้อมคนทั้งสาม เห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายร่างกายของเขาเลย ผมก็ไม่ได้ไหม้ไปแม้สักเส้น เสื้อผ้าก็ไม่ได้ถูกเผาไหม้ ไม่มีแม้แต่กลิ่นไหม้
  • ดาเนียล 3:28 - เนบูคัดเนสซาร์จึงตรัสว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ผู้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์! พวกเขาไว้วางใจในพระเจ้า ละเมิดคำสั่งของกษัตริย์ และยอมตายเสียดีกว่ายอมปรนนิบัตินมัสการพระอื่นใดเว้นแต่พระเจ้าของตน
  • ผู้วินิจฉัย 16:19 - เดลิลาห์ให้แซมสันนอนหลับหนุนตักนาง แล้วให้คนมาโกนผมแซมสันหมดทั้งเจ็ดปอย ทำให้เรี่ยวแรงของแซมสันถดถอยลง แล้วกำลังของเขาก็หมดไป
  • ผู้วินิจฉัย 16:20 - แล้วนางร้องว่า “แซมสัน พวกฟีลิสเตียมาจับตัวท่านแล้ว!” แซมสันก็ตื่นขึ้น และคิดว่า “เราจะสะบัดตัวหลุดรอดไปเหมือนครั้งก่อนๆ” แต่เขาไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทิ้งเขาไปเสียแล้ว
  • ผู้วินิจฉัย 16:21 - จากนั้นชาวฟีลิสเตียจึงจับตัวแซมสัน ควักตาทั้งสองข้างของเขาออกและนำตัวเขาไปยังกาซา ล่ามเขาด้วยโซ่ทองสัมฤทธิ์และให้โม่ข้าวอยู่ในเรือนจำ
  • ผู้วินิจฉัย 16:22 - แต่ไม่นานผมของแซมสันก็เริ่มยาวอีก
  • ผู้วินิจฉัย 16:23 - ฝ่ายเจ้านายชาวฟีลิสเตียชุมนุมกันเพื่อถวายเครื่องบูชาครั้งใหญ่แด่พระดาโกนเทพเจ้าของพวกเขา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและกล่าวว่า “เทพเจ้าของเรามอบแซมสันศัตรูของเราไว้ในมือของเราแล้ว”
  • ผู้วินิจฉัย 16:24 - เมื่อประชาชนเห็นแซมสัน ก็ร้องสรรเสริญเทพเจ้าของตนว่า “เทพเจ้าของเรามอบศัตรู ไว้ในมือของเราแล้ว คนนี้แหละที่ล้างผลาญแผ่นดินของเรา และฆ่าพวกเราตายมากมาย”
  • ผู้วินิจฉัย 16:25 - ขณะที่พวกเขากำลังมึนเมา พวกเขาก็ตะโกนขึ้นว่า “เอาตัวแซมสันออกมาสร้างความบันเทิงให้พวกเราเถิด” แซมสันถูกนำตัวออกจากที่คุมขัง แล้วแสดงให้พวกเขาดู ขณะที่แซมสันถูกนำมายืนอยู่ท่ามกลางหมู่เสา
  • ผู้วินิจฉัย 16:26 - เขาบอกคนรับใช้ที่จูงมือตนมาว่า “พาเราไปตรงที่จะคลำพบเสารองรับวิหาร เพื่อเราจะได้พิงเสา”
  • ผู้วินิจฉัย 16:27 - ขณะนั้นภายในวิหารคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนทั้งชายและหญิง เจ้านายฟีลิสเตียทั้งปวงก็อยู่ที่นั่นด้วย และบนดาดฟ้ามีชายหญิงประมาณสามพันคนเฝ้าดูแซมสันแสดงอยู่
  • ผู้วินิจฉัย 16:28 - แซมสันจึงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้พละกำลังแก่ข้าพระองค์อีกครั้งเดียว เพื่อข้าพระองค์จะได้แก้แค้นชาวฟีลิสเตียชดเชยกับที่ต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้างไป”
  • ผู้วินิจฉัย 16:29 - จากนั้นแซมสันก็ไปที่เสาสองต้นกลางวิหารซึ่งเป็นเสารองรับวิหาร มือขวายันเสาข้างหนึ่ง มือซ้ายยันเสาอีกข้างหนึ่ง แล้วรวบรวมกำลังดันเสา
  • ผู้วินิจฉัย 16:30 - แซมสันกล่าวว่า “เราขอตายพร้อมพวกฟีลิสเตีย!” แล้วเขาก็ดันเสาสุดแรง วิหารพังครืนลงมาทับเจ้านายฟีลิสเตียและประชากรทั้งหมดในนั้น เป็นอันว่าขณะที่แซมสันกำลังจะตาย เขาได้ฆ่าชาวฟีลิสเตียมากยิ่งกว่าตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่
  • โยบ 5:20 - พระองค์จะทรงช่วยท่านให้พ้นจากความตายในยามกันดารอาหาร และจากคมดาบในยามสงคราม
  • 1ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไป ผู้เชิญอาวุธปีนตามหลัง ชาวฟีลิสเตียล้มตายต่อหน้าโยนาธาน และผู้เชิญอาวุธของโยนาธานฆ่าฟันตามหลังมา
  • 1ซามูเอล 14:14 - ในการบุกโจมตีครั้งแรกนี้ โยนาธานกับผู้เชิญอาวุธฆ่าคนตายไปยี่สิบคนในเนื้อที่ราวหนึ่งไร่
  • 1ซามูเอล 14:15 - ความหวาดผวาแผ่ไปทั่วกองทัพฟีลิสเตีย ทั้งพวกที่อยู่ในค่ายและในท้องทุ่ง ทั้งพวกที่อยู่ในกองทหารรักษาการณ์และกองโจร และเกิดแผ่นดินไหว เป็นความหวาดผวาที่พระเจ้าส่งมา
  • 2พงศาวดาร 20:6 - และทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ประทับในสวรรค์ไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงปกครองเหนือมวลอาณาจักรของชนชาติต่างๆ ฤทธิ์อำนาจและแสนยานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีผู้ใดอาจต่อต้านพระองค์ได้
  • 2พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ในดินแดนนี้ออกไปต่อหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และประทานดินแดนนี้ให้แก่วงศ์วานอับราฮัมสหายของพระองค์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?
  • 2พงศาวดาร 20:8 - เราทั้งหลายได้อาศัยอยู่ที่นี่และได้สร้างสถานนมัสการเพื่อพระนามของพระองค์ และกล่าวว่า
  • 2พงศาวดาร 20:9 - ‘หากมีภัยพิบัติตกมาถึง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ภัยพิบัติ หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่หน้าพระวิหารแห่งพระนามของพระองค์ และจะร้องทูลพระองค์ในยามทุกข์ลำเค็ญ แล้วพระองค์จะทรงสดับฟังและช่วยเหลือข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นภัย’
  • 2พงศาวดาร 20:10 - “แต่บัดนี้มีคนมาจากอัมโมน โมอับ และภูเขาเสอีร์ ซึ่งเมื่อครั้งอิสราเอลออกจากอียิปต์ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้อิสราเอลบุกรุกดินแดนของพวกเขา อิสราเอลจึงอ้อมมาและไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา
  • 2พงศาวดาร 20:11 - แต่บัดนี้ดูเถิด พวกเขากลับตอบแทนด้วยการขับไล่พวกข้าพระองค์ออกจากดินแดนซึ่งพระองค์ประทานให้เป็นกรรมสิทธิ์
  • 2พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ทรงลงโทษเขาหรือ? เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่มีกำลังอำนาจจะรับมือกับกองทัพใหญ่ที่มาโจมตีนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่หวังพึ่งพระองค์”
  • 2พงศาวดาร 20:13 - ผู้ชายยูดาห์ทั้งปวงกับภรรยาและลูกเล็กเด็กแดงมายืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเหนือชายคนหนึ่งในกลุ่มชนนั้นคือ ยาฮาซีเอลบุตรเศคาริยาห์ ผู้เป็นบุตรของเบไนยาห์ ผู้เป็นบุตรของเยอีเอล ผู้เป็นบุตรของมัททานิยาห์เผ่าเลวี วงศ์วานของอาสาฟ
  • 2พงศาวดาร 20:15 - ยาฮาซีเอลกล่าวว่า “ฟังเถิด ข้าแต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทและทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านว่า ‘อย่ากลัวเลย ไม่ต้องท้อแท้เพราะกองทัพใหญ่นี้ เพราะการศึกครั้งนี้ไม่ใช่ของเจ้า แต่เป็นของพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้จงออกไปรบกับเขา เขาจะปีนขึ้นมาทางช่องแคบศิส และเจ้าจะประจันหน้ากับเขาที่ท้ายหุบเขาในถิ่นกันดารเยรูเอล
  • 2พงศาวดาร 20:17 - เจ้าจะไม่ต้องรบในสงครามครั้งนี้ จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งๆ ดูการช่วยกอบกู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่าน ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัวหรือท้อแท้ใจไปเลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับเจ้า’ ”
  • 2พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัททรงซบหน้าลงกับพื้น และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งปวงก็หมอบกราบลงนมัสการต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:19 - แล้วมีคนเลวีบางคนจากตระกูลโคฮาทและตระกูลโคราห์ยืนขึ้นเปล่งเสียงก้องกังวานสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
  • 2พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเคลื่อนทัพไปยังถิ่นกันดารเทโคอา เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นและตรัสว่า “ฟังข้าพเจ้าเถิด พี่น้องประชาชนยูดาห์และเยรูซาเล็ม! จงเชื่อในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้วท่านจะได้รับการเชิดชู จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ”
  • 2พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ทรงหารือกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทก็ทรงแต่งตั้งผู้ร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ใน ความบริสุทธิ์สูงส่งของพระองค์ขณะเดินนำหน้ากองทัพไปว่า “จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”
  • 2พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางกำลังซุ่มโจมตีชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ที่มารุกรานยูดาห์ แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้
  • 2พงศาวดาร 20:23 - ชาวอัมโมนกับชาวโมอับหันไปเล่นงานพันธมิตรจากภูเขาเสอีร์ ทำลายล้างพวกเขาหมดสิ้น เสร็จแล้วก็หันมาห้ำหั่นกันเอง
  • 2พงศาวดาร 20:24 - เมื่อทัพยูดาห์มาถึงท้ายหุบเขาเหนือถิ่นกันดารและมองดูกองทัพใหญ่ ก็เห็นแต่ศพเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น ไม่มีใครหนีรอดไปได้เลย
  • 2พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับพวกจึงออกไปริบข้าวของ ได้เครื่องมือ เครื่องแต่งกาย และของมีค่าจำนวนมหาศาล จนต้องใช้เวลาถึงสามวันจึงขนมาหมด
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:7 - แล้วอิสยาห์กล่าวว่า “จงเตรียมยาพอกจากมะเดื่อ” พวกเขาจึงทำตามนั้นและนำมาพอกที่ฝี แล้วเฮเซคียาห์ก็หายประชวร
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:8 - เฮเซคียาห์ตรัสถามอิสยาห์ว่า “อะไรจะเป็นหมายสำคัญให้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงรักษาเรา และวันที่สามนับจากนี้เราจะขึ้นไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้อีก?”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:9 - อิสยาห์ตอบว่า “นี่เป็นหมายสำคัญที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้แก่ท่าน เพื่อแสดงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำตามที่ทรงสัญญาไว้คือ ท่านอยากให้เงาเคลื่อนไปข้างหน้าสิบขั้น หรือถอยหลังไปสิบขั้น?”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:10 - เฮเซคียาห์ตรัสว่า “การที่เงาจะเคลื่อนไปข้างหน้าสิบขั้นก็เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นขอให้ถอยหลังสิบขั้นก็แล้วกัน”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 20:11 - ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์จึงกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ทรงบันดาลให้เงาบนนาฬิกาแดดของอาหัสเคลื่อนถอยหลังไปสิบขั้น ( 2พศด.32:32-33 ; อสย.39:1-8 )
  • สดุดี 66:12 - พระองค์ทรงให้คนควบม้าทับศีรษะของพวกข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์ต้องลุยน้ำลุยไฟ แต่แล้วพระองค์ก็ทรงนำพวกข้าพระองค์มาสู่ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์
  • 2โครินธ์ 12:9 - แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “พระคุณของเราเพียงพอสำหรับเจ้า เพื่อว่าฤทธิ์อำนาจของเราจะได้ปรากฏเต็มที่ในความอ่อนแอ” ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงอวดความอ่อนแอของตนด้วยความยินดี เพื่อฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า
  • 2โครินธ์ 12:10 - ด้วยเหตุนี้แหละเพื่อพระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นชมในความอ่อนแอ ในการสบประมาท ในความยากลำบาก ในการกดขี่ข่มเหง ในความยุ่งยาก เพราะเมื่อใดที่ข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อนั้นข้าพเจ้าก็เข้มแข็ง
  • 2พงศาวดาร 32:20 - กษัตริย์เฮเซคียาห์และผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอาโมศร้องทูลอธิษฐานขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์เกี่ยวกับเรื่องนี้
  • 2พงศาวดาร 32:21 - และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งทูตองค์หนึ่งมาทำลายล้างนักรบ ผู้นำ และนายทหารทั้งปวงในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรียจนหมดสิ้น เซนนาเคอริบจึงถอยทัพกลับดินแดนของพระองค์ไปด้วยความอัปยศอดสู และเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในวิหารของเทพเจ้าของพระองค์ ก็ถูกโอรสบางองค์ปลงพระชนม์ด้วยดาบ
  • 2พงศาวดาร 32:22 - เป็นอันว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเฮเซคียาห์และชาวเยรูซาเล็มจากเงื้อมมือกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียและคนอื่นๆ พระองค์ทรงปกป้องดูแลพวกเขา ทุกด้าน
  • 1เปโตร 4:12 - เพื่อนที่รัก อย่าแปลกใจกับการทดลองอันเจ็บปวดที่ท่านเผชิญอยู่ราวกับว่าสิ่งแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นกับท่าน
  • 2ซามูเอล 21:16 - อิชบีเบโนบวงศ์วานของราฟาเจ้าของหอกทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 3.5 กิโลกรัม คาดดาบเล่มใหม่หมายจะปลงพระชนม์ดาวิด
  • 2ซามูเอล 21:17 - แต่อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์ตรงรี่เข้ามาช่วยสังหารชาวฟีลิสเตียคนนั้น จากนั้นทหารของดาวิดประกาศว่า “ฝ่าพระบาทอย่าทรงออกรบอีกเลย เพื่อไม่ให้ดวงประทีปของอิสราเอลต้องดับไป”
  • อิสยาห์ 43:2 - เมื่อเจ้าลุยน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าลุยข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ซัดท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ ไฟจะไม่เผาไหม้ เปลวไฟจะไม่เผาผลาญเจ้า
  • 2พงศาวดาร 14:11 - อาสาทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครอื่นเสมอเหมือนพระองค์ที่จะช่วยผู้ไร้กำลังต่อกรกับผู้มีอำนาจ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายพึ่งในพระองค์ และข้าพระองค์ทั้งหลายมาต่อสู้กองทัพมหึมานี้ในพระนามของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเหล่าข้าพระองค์ ขออย่าให้มนุษย์ชนะพระองค์เลย”
  • 2พงศาวดาร 14:12 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบชาวคูชต่อหน้าอาสากับยูดาห์ ชาวคูชถอยหนีไป
  • 2พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพรุกไล่พวกเขาไปไกลถึงเกราร์ ชาวคูชล้มตายมากมายจนไม่อาจฟื้นตัวได้อีก พวกเขาแหลกลาญไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้ากับกองกำลังของพระองค์ ชนยูดาห์นำของเชลยจำนวนมากกลับมา
  • 2พงศาวดาร 14:14 - พวกเขาทำลายล้างหมู่บ้านทั้งปวงรอบเกราร์เพราะความกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกนั้น พวกเขาริบข้าวของทั่วหมู่บ้านเหล่านั้น เนื่องจากมีของเชลยมากมายที่นั่น
  • 2พงศาวดาร 16:1 - กษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลมาสู้รบกับยูดาห์ในปีที่สามสิบหกแห่งรัชกาลอาสา และบาอาชาทรงสร้างป้อมปราการที่เมืองรามาห์เพื่อปิดทางเข้าออกสู่เขตแดนของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์
  • 2พงศาวดาร 16:2 - อาสาจึงทรงนำเงินและทองคำจากคลังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจากท้องพระคลังของพระราชวังของพระองค์เอง ส่งไปถวายกษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัมซึ่งปกครองอยู่ที่เมืองดามัสกัส และตรัสว่า
  • 2พงศาวดาร 16:3 - “ขอให้เราเป็นพันธมิตรกันเหมือนดังราชบิดาของเราทั้งสอง ข้าพเจ้าส่งเงินและทองนี้มากำนัลแด่ท่าน ขอให้ท่านตัดสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอล เพื่อเขาจะได้ถอยทัพไปจากข้าพเจ้า”
  • 2พงศาวดาร 16:4 - เบนฮาดัดทรงเห็นชอบกับกษัตริย์อาสา และส่งแม่ทัพและกองกำลังไปโจมตีเมืองต่างๆ ของอิสราเอล พวกเขาพิชิตเมืองอิโยน ดาน อาเบลมาอิม และเมืองคลังเสบียงทุกเมืองในนัฟทาลี
  • 2พงศาวดาร 16:5 - เมื่อบาอาชาทราบเรื่องนี้ก็หยุดสร้างเมืองรามาห์และทิ้งงาน
  • 2พงศาวดาร 16:6 - กษัตริย์อาสาจึงทรงนำชายชาวยูดาห์ทั้งหมดไปยังเมืองรามาห์ ให้ขนหินและไม้ซึ่งบาอาชาทรงใช้อยู่นั้นไปสร้างเมืองเกบาและเมืองมิสปาห์
  • 2พงศาวดาร 16:7 - ครั้งนั้นผู้ทำนายฮานานีมาเข้าเฝ้ากษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์และทูลว่า “เนื่องจากท่านพึ่งกษัตริย์แห่งอารัมแทนที่จะพึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน กองทัพของกษัตริย์อารัมจึงหลุดมือท่านไปเสียแล้ว
  • 2พงศาวดาร 16:8 - ครั้งนั้นชาวคูช กับชาวลิเบียมีกองทัพมหาศาล รถม้าศึกและพลม้า มากมายไม่ใช่หรือ? แต่เมื่อท่านพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน
  • 2พงศาวดาร 16:9 - เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรทั่วโลก เพื่อทำให้ผู้ที่ภักดีต่อพระองค์อย่างสุดใจเข็มแข็งขึ้น ท่านช่างโง่เขลาเสียจริงที่ทำเช่นนั้น นับแต่นี้ไปท่านจะต้องมีสงครามเรื่อยๆ”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:32 - ฝ่ายเอลีชากำลังนั่งสนทนากับบรรดาผู้อาวุโสอยู่ในบ้าน เมื่อกษัตริย์ทรงใช้คนไปตามตัวเขา ก่อนที่คนนั้นจะมาถึง เอลีชากล่าวกับผู้อาวุโสเหล่านั้นว่า “พวกท่านไม่เห็นหรือว่าฆาตกรนั้นส่งคนมาตัดหัวเราแล้ว? ดูเถิด เมื่อเขามาถึง จงปิดประตู และไล่เขาออกไป นั่นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของนายของเขาที่ตามมาข้างหลังหรือ?”
  • ผู้วินิจฉัย 15:8 - เขาตรงเข้าเล่นงานคนเหล่านั้นอย่างดุเดือด ฆ่าพวกเขาตายไปเป็นจำนวนมาก แล้วเขาไปอาศัยอยู่ในถ้ำที่ศิลาแห่งเอตาม
  • 1ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งขึ้นไปยืนบนร่างของเขา ดึงดาบของโกลิอัทออกจากฝักและฆ่าเขา แล้วก็ตัดศีรษะออกมา เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นวีรบุรุษของตนตายเสียแล้ว ก็หันหลังวิ่งหนีไป
  • 1ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลและยูดาห์จึงโห่ร้องมีชัย แล้วรุกไล่ฟีลิสเตียไปไกลถึงทางเข้าเมืองกัท และประตูเมืองเอโครน ศพชาวฟีลิสเตียเกลื่อนกลาดตลอดเส้นทางชาอาราอิมที่จะไปยังเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 2ซามูเอล 10:15 - หลังจากชาวอารัมเห็นว่าถูกอิสราเอลรุกไล่ก็รวมกำลังกันอีก
  • 2ซามูเอล 10:16 - ฮาดัดเอเซอร์นำคนอารัมจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสมาสมทบ พวกเขามายังเฮลาม มีโชบัคแม่ทัพของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้บัญชาการ
  • 2ซามูเอล 10:17 - เมื่อดาวิดทรงทราบข่าว พระองค์ทรงระดมพลอิสราเอลทั้งหมดและข้ามแม่น้ำจอร์แดนมายังเฮลาม ชาวอารัมตั้งแนวรบประจันหน้ากับดาวิดและสู้รบกัน
  • 2ซามูเอล 10:18 - แต่พวกเขาพ่ายหนีต่อหน้าอิสราเอล และดาวิดทรงสังหารพลรถรบของพวกเขาเจ็ดร้อยคนกับทหารราบ อีกสี่หมื่นคน และทรงสังหารโชบัคแม่ทัพของพวกเขาตายที่นั่น
  • 2ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ซึ่งขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้อิสราเอล ก็ขอสงบศึกและยอมเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอล ชาวอารัมจึงไม่กล้ามาช่วยชาวอัมโมนสู้รบอีกเลย
  • ผู้วินิจฉัย 7:19 - ราวสี่ห้าทุ่ม หลังจากที่ทหารรักษาการณ์เพิ่งผลัดเวรกัน กิเดโอนและคนหนึ่งร้อยคนที่ไปกับเขามาถึงรอบนอกค่ายทันใดนั้นกิเดโอนกับพวกก็เป่าแตรและทุบหม้อในมือทิ้ง
  • ผู้วินิจฉัย 7:20 - ทั้งสามกลุ่มเป่าแตรและทุบหม้อ มือซ้ายถือคบเพลิง มือขวาถือแตร และโห่ร้องว่า “ดาบนี้เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพื่อกิเดโอน!”
  • ผู้วินิจฉัย 7:21 - จากนั้นพวกเขาก็เพียงแต่ยืนอยู่รอบค่าย ดูชาวมีเดียนทั้งหมดวิ่งพล่าน ร้องตะโกนขณะที่หนีเตลิดไป
  • ผู้วินิจฉัย 7:22 - เมื่อคนสามร้อยคนนั้นเป่าแตร องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้คนมีเดียนทั้งค่ายหันมาสู้รบและฆ่าฟันกันเอง แล้วกองทัพมีเดียนเตลิดหนีไปเบธชิทธาห์ ซึ่งเป็นทางไปเศเรราห์และหนีไปถึงเขตแดนอาเบลเมโฮลาห์ใกล้ทับบาท
  • ผู้วินิจฉัย 7:23 - ชนอิสราเอลจากนัฟทาลี อาเชอร์ และมนัสเสห์ทั้งหมดถูกเรียกออกมา พวกเขารุกไล่ชาวมีเดียน
  • ผู้วินิจฉัย 7:24 - กิเดโอนส่งผู้สื่อสารไปทั่วแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิมและกล่าวว่า “จงลงมาต่อสู้กับชาวมีเดียนและยึดน่านน้ำจอร์แดนไปจนถึงเบธบาราห์ก่อนหน้าพวกเขา” ดังนั้นคนเอฟราอิมทั้งหมดจึงถูกเรียกออกมา และพวกเขายึดน่านน้ำจอร์แดนไปจนถึงเบธบาราห์
  • ผู้วินิจฉัย 7:25 - พวกเขาจับผู้นำมีเดียนสองคน คือโอเรบและเศเอบ พวกเขาฆ่าโอเรบที่ศิลาแห่งโอเรบและฆ่าเศเอบที่บ่อย่ำองุ่นแห่งเศเอบ พวกเขาตามล่าชาวมีเดียนและนำศีรษะของโอเรบกับเศเอบมามอบให้กิเดโอนซึ่งอยู่ที่ริมแม่น้ำจอร์แดน
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:16 - เอลีชากล่าวว่า “อย่าตกใจกลัวไปเลย ฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:17 - แล้วเอลีชาอธิษฐานว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเบิกตาให้เขาเห็น” องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเบิกตาให้คนรับใช้นั้นเห็นรอบเนินเขาเต็มไปด้วยม้าและรถม้าศึกเพลิงรายรอบเอลีชา
  • 2พงศ์กษัตริย์ 6:18 - ขณะที่ฝ่ายศัตรูตรงเข้ามา เอลีชาอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ขอให้คนเหล่านี้ตาพร่ามัวให้หมด” พระเจ้าก็ให้พวกเขาตาพร่ามัวเหมือนที่เอลีชาทูลขอ
  • 1พงศ์กษัตริย์ 19:3 - เอลียาห์กลัว จึงหนีเอาชีวิตรอด เขาไปยังเบเออร์เชบาในยูดาห์ และทิ้งคนรับใช้ของเขาไว้ที่นั่น
  • สดุดี 144:10 - แด่เอกองค์ผู้ประทานชัยชนะแก่กษัตริย์ทั้งหลาย ผู้ทรงช่วยกู้ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอดจากคมดาบ
圣经
资源
计划
奉献