逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ราเชลภรรยายาโคบมีบุตรชื่อ โยเซฟ และเบนยามิน
- 新标点和合本 - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
- 和合本2010(神版-简体) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
- 当代译本 - 雅各的妻子拉结生的儿子是约瑟和便雅悯。
- 圣经新译本 - 雅各的妻子拉结,生了约瑟和便雅悯。
- 中文标准译本 - 雅各的妻子拉结的儿子约瑟、便雅悯;
- 现代标点和合本 - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
- 和合本(拼音版) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
- New International Version - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
- New International Reader's Version - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin.
- English Standard Version - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
- New Living Translation - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin.
- The Message - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin. Joseph was the father of two sons, Manasseh and Ephraim, from his marriage to Asenath daughter of Potiphera, priest of On. They were born to him in Egypt. Benjamin’s sons were Bela, Beker, Ashbel, Gera, Naaman, Ehi, Rosh, Muppim, Huppim, and Ard.
- Christian Standard Bible - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
- New American Standard Bible - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
- New King James Version - The sons of Rachel, Jacob’s wife, were Joseph and Benjamin.
- Amplified Bible - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
- American Standard Version - The sons of Rachel Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
- King James Version - The sons of Rachel Jacob's wife; Joseph, and Benjamin.
- New English Translation - The sons of Rachel the wife of Jacob: Joseph and Benjamin.
- World English Bible - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
- 新標點和合本 - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
- 和合本2010(神版-繁體) - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
- 當代譯本 - 雅各的妻子拉結生的兒子是約瑟和便雅憫。
- 聖經新譯本 - 雅各的妻子拉結,生了約瑟和便雅憫。
- 呂振中譯本 - 雅各 的妻子 拉結 的兒子是 約瑟 和 便雅憫 ;
- 中文標準譯本 - 雅各的妻子拉結的兒子約瑟、便雅憫;
- 現代標點和合本 - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
- 文理和合譯本 - 雅各妻拉結之子、約瑟、便雅憫、
- 文理委辦譯本 - 雅各之妻拉結生約瑟、便雅憫。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雅各 妻 拉結 之子 約瑟 、 便雅憫 、
- Nueva Versión Internacional - Los hijos de Raquel, la esposa de Jacob: José y Benjamín.
- 현대인의 성경 - 야곱의 아내 라헬은 요셉과 베냐민 두 아들을 낳았는데
- Новый Русский Перевод - Сыновья жены Иакова Рахили: Иосиф и Вениамин.
- Восточный перевод - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
- La Bible du Semeur 2015 - Les fils de Rachel, femme de Jacob : Joseph et Benjamin.
- リビングバイブル - この一族には、ヤコブとラケルに生まれた息子と孫、合わせて十四名も含まれます。ヨセフとベニヤミン。エジプトで生まれたヨセフの息子はマナセとエフライム〔母親はヘリオポリスの祭司ポティ・フェラの娘アセナテ〕。ベニヤミンの息子はベラ、ベケル、アシュベル、ゲラ、ナアマン、エヒ、ロシュ、ムピム、フピム、アルデ。
- Nova Versão Internacional - Estes foram os filhos de Raquel, mulher de Jacó: José e Benjamim.
- Hoffnung für alle - Nachkommen von Jakob und seiner Frau Rahel: Josef und seine Söhne Manasse und Ephraim. Sie wurden ihm in Ägypten von Asenat geboren. Asenat war die Tochter Potiferas, des Priesters von On. Benjamin und seine Söhne Bela, Becher, Aschbel, Gera, Naaman, Ehi, Rosch, Muppim, Huppim und Ard. Zusammen ergibt das 14 Nachkommen von Jakob und Rahel.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Các con trai của Ra-chên (vợ Gia-cốp) là Giô-sép và Bên-gia-min.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บุตรของราเชลภรรยาของยาโคบได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
交叉引用
- กันดารวิถี 26:38 - บุตรของเบนยามินตามลำดับครอบครัว สืบจากเบ-ลา คือครอบครัวของชาวเบ-ลา สืบจากอัชเบล คือครอบครัวของชาวอัชเบล สืบจากอาหิรัม คือครอบครัวของชาวอาหิรัม
- กันดารวิถี 26:39 - สืบจากเชฟูฟาม คือครอบครัวของชาวเชฟูฟาม สืบจากหุฟาม คือครอบครัวของชาวหุฟาม
- กันดารวิถี 26:40 - บุตรของเบ-ลา สืบทางอาร์ดและนาอามาน สืบจากอาร์ด คือครอบครัวของชาวอาร์ด สืบจากนาอามาน คือครอบครัวของชาวนาอามาน
- กันดารวิถี 26:41 - นี่คือครอบครัวของเบนยามิน นับจำนวนได้ 45,600 คน
- ปฐมกาล 37:1 - ฝ่ายยาโคบก็ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนที่บิดาของตนได้อพยพไปอยู่ที่ดินแดนคานาอัน
- ปฐมกาล 37:2 - ต่อไปนี้เป็นลำดับเชื้อสายของยาโคบ โยเซฟชายหนุ่มอายุ 17 ปี กำลังเลี้ยงฝูงแพะแกะกับพวกพี่ชายที่เป็นบุตรของบิลฮาห์และศิลปาห์ภรรยาบิดาของเขา โยเซฟบอกบิดาเรื่องความประพฤติไม่ดีของพวกพี่ๆ
- ปฐมกาล 37:3 - อิสราเอลรักโยเซฟมากกว่าบุตรคนอื่นๆ เพราะโยเซฟเกิดในเวลาที่ท่านมีอายุมากแล้ว และท่านทำเสื้อคลุมยาวมีแขนให้แก่โยเซฟ
- ปฐมกาล 37:4 - เมื่อพวกพี่ๆ เห็นว่าบิดารักเขามากกว่าพวกตน จึงทำให้พวกเขาเกลียดและพูดจาไม่เป็นมิตรกับโยเซฟ
- ปฐมกาล 37:5 - ครั้งหนึ่งโยเซฟฝัน พอเล่าเรื่องที่ตนฝันให้พวกพี่ๆ ฟัง พวกเขาก็กลับเกลียดโยเซฟมากยิ่งขึ้น
- ปฐมกาล 37:6 - โยเซฟพูดว่า “ฉันจะเล่าเรื่องที่ฉันฝันให้ฟัง
- ปฐมกาล 37:7 - พวกเรากำลังมัดฟ่อนข้าวอยู่ในนา ทันใดนั้น ฟ่อนข้าวของฉันก็ตั้งตรงขึ้น และฟ่อนของพวกพี่ๆ มาห้อมล้อมฟ่อนของฉัน แล้วก้มเคารพด้วย”
- ปฐมกาล 37:8 - พี่ๆ ของโยเซฟตอบกลับมาว่า “เจ้าจะปกครองพวกเราอย่างนั้นเชียวหรือ หรือว่าเจ้าจะมีอำนาจเหนือพวกเราจริง” พวกเขาเกลียดชังโยเซฟมากยิ่งขึ้น เพราะเรื่องที่เขาฝันและเพราะสิ่งที่โยเซฟพูดเกี่ยวกับตัวเขา
- ปฐมกาล 37:9 - เมื่อโยเซฟฝันอีกเรื่อง แล้วได้เล่าให้พวกพี่ๆ ฟังว่า “ดูสิ ฉันฝันอีกเรื่องหนึ่ง คือว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาว 11 ดวงก้มคำนับฉัน”
- ปฐมกาล 37:10 - เมื่อโยเซฟเล่าเรื่องให้บิดาและพี่ๆ ฟัง บิดาก็ดุโยเซฟ และพูดกับเขาว่า “เจ้าฝันอะไรของเจ้า จะให้ฉันกับแม่และพวกพี่ๆ มาก้มตัวลงราบกับพื้นเคารพที่เบื้องหน้าเจ้าหรือ”
- ปฐมกาล 37:11 - พวกพี่ชายอิจฉาโยเซฟ แต่บิดาเก็บเรื่องไว้อยู่ในใจ
- ปฐมกาล 37:12 - วันหนึ่งพวกพี่ๆ พาแพะแกะของบิดาของตนออกไปกินหญ้าใกล้เมืองเชเคม
- ปฐมกาล 37:13 - อิสราเอลพูดกับโยเซฟว่า “พี่ชายของเจ้าพาแพะแกะไปกินหญ้าที่เชเคมมิใช่หรือ มานี่ ฉันจะให้เจ้าไปหาพวกเขา” โยเซฟพูดว่า “ได้สิพ่อ”
- ปฐมกาล 37:14 - ท่านพูดกับโยเซฟว่า “ไปเดี๋ยวนี้ ดูซิว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีกับพี่ของเจ้าและฝูงสัตว์หรือไม่ และกลับมาบอกพ่อ” ท่านจึงให้โยเซฟไปจากหุบเขาเฮโบรน เมื่อเขาไปถึงเชเคม
- ปฐมกาล 37:15 - ชายคนหนึ่งพบว่าเขากำลังเดินไปทั่วทุ่งนา จึงถามว่า “กำลังหาอะไรอยู่หรือ”
- ปฐมกาล 37:16 - เขาตอบว่า “ฉันกำลังตามหาพี่ชายของฉัน ช่วยบอกฉันหน่อยว่า พวกเขาพาฝูงสัตว์ไปกินหญ้าที่ไหน”
- ปฐมกาล 37:17 - ชายคนนั้นตอบว่า “เขาไปกันแล้ว ฉันได้ยินพวกเขาพูดว่า ‘เราไปโดธานกันเถิด’” โยเซฟจึงไปตามหาพี่ชายของเขา และพบพวกเขาที่โดธาน
- ปฐมกาล 37:18 - เมื่อพวกเขาเห็นโยเซฟมาแต่ไกล ก็เริ่มวางแผนจะฆ่าโยเซฟก่อนจะเข้ามาใกล้
- ปฐมกาล 37:19 - พวกเขาพูดต่อกันและกันว่า “นั่นคนช่างฝันมาแล้ว
- ปฐมกาล 37:20 - มาเถิด ฆ่าแล้วก็โยนตัวเขาลงในบ่อสักบ่อหนึ่ง แล้วไปเล่าว่าเขาถูกสัตว์ป่าขม้ำกิน คราวนี้พวกเราก็จะเห็นว่าความฝันของเขาเป็นอย่างไร”
- ปฐมกาล 37:21 - แต่เมื่อรูเบนได้ยินเรื่อง เขาจึงช่วยโยเซฟให้รอดจากเงื้อมมือของพวกเขา พลางพูดว่า “เราอย่าฆ่าเขาเลย”
- ปฐมกาล 37:22 - รูเบนพูดต่ออีกว่า “อย่าถึงต้องเสียเลือดเนื้อกันเลย โยนตัวเขาลงในบ่อนี้ ให้อยู่ในถิ่นทุรกันดาร แต่อย่าทำให้เขาเจ็บตัว” ทั้งนี้ก็เพื่อเขาจะได้ช่วยโยเซฟให้รอดจากเงื้อมมือของพวกเขา เพื่อส่งตัวคืนให้บิดาไป
- ปฐมกาล 37:23 - เมื่อโยเซฟมาถึง พวกพี่ชายก็ถอดเสื้อคลุมของโยเซฟออก เป็นเสื้อคลุมแขนยาวที่เขาสวมอยู่
- ปฐมกาล 37:24 - เขาจับตัวโยเซฟและโยนลงในบ่อ ซึ่งเป็นบ่อแห้งไม่มีน้ำ
- ปฐมกาล 37:25 - แล้วพวกเขาก็นั่งลงกินอาหาร พอเงยหน้าขึ้นเห็นกองคาราวานชาวอิชมาเอลกำลังมาจากกิเลอาด มีอูฐบรรทุกยางไม้หลากชนิด รวมทั้งมดยอบที่กำลังขนลงไปอียิปต์
- ปฐมกาล 37:26 - แล้วยูดาห์พูดกับพี่น้องของตนว่า “จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราฆ่าน้องเราให้ตาย และปิดบังเลือดไม่ให้เห็น
- ปฐมกาล 37:27 - มาเถิด เราขายตัวเขาให้พวกอิชมาเอล อย่าฆ่าเขาด้วยมือของเราเอง เพราะเขาเป็นน้องของเรา เป็นเลือดเนื้อของเรา” แล้วพี่น้องของเขาก็เห็นด้วย
- ปฐมกาล 37:28 - เมื่อพวกพ่อค้าชาวมีเดียนผ่านมา พวกพี่ๆ จึงดึงตัวโยเซฟขึ้นจากบ่อ และขายเขาให้กับพวกอิชมาเอลเป็นเงินหนัก 20 เชเขล เขาเหล่านั้นก็พาโยเซฟไปยังอียิปต์
- ปฐมกาล 37:29 - เมื่อรูเบนกลับไปที่บ่อ และเห็นว่าโยเซฟไม่อยู่ในบ่อ เขาจึงฉีกเสื้อผ้าของตนเอง
- ปฐมกาล 37:30 - และกลับไปหาพวกน้องชายพลางพูดว่า “เจ้าเด็กหายไปแล้ว ฉันจะทำอย่างไรเล่า”
- ปฐมกาล 37:31 - พวกเขาจึงฆ่าแพะตัวหนึ่งและเอาเสื้อคลุมของโยเซฟจุ่มเลือด
- ปฐมกาล 37:32 - แล้วส่งเสื้อคลุมแขนยาวตัวนั้นไปให้บิดาของเขาพร้อมกับพูดว่า “พวกเราพบเสื้อตัวนี้ ดูสิว่าเป็นเสื้อของลูกชายของท่านหรือเปล่า”
- ปฐมกาล 37:33 - ท่านจำเสื้อได้จึงพูดว่า “เป็นเสื้อของลูกฉัน สัตว์ป่าขม้ำกินเขาเสียแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโยเซฟถูกกัดจนไม่เหลือเลย”
- ปฐมกาล 37:34 - ยาโคบจึงฉีกเสื้อผ้าของตนขาด คาดเอวด้วยผ้ากระสอบ และร้องคร่ำครวญถึงลูกอยู่หลายวัน
- ปฐมกาล 37:35 - บุตรชายบุตรหญิงทุกคนต่างก็พากันปลอบประโลมท่าน แต่ท่านไม่ยอมให้ปลอบ แต่กลับพูดว่า “ไม่ต้องปลอบฉัน ฉันจะร้องคร่ำครวญถึงลูกฉัน จนถึงวันที่ฉันไปยังแดนคนตาย” บิดาของเขาจึงร่ำไห้ถึงเขาต่อไป
- ปฐมกาล 37:36 - ในขณะเดียวกัน พวกมีเดียนก็ได้ขายโยเซฟต่อให้กับเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์ของฟาโรห์ชื่อโปทิฟาร์ที่อียิปต์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - ท่านกล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าอาศัยอยู่เคียงข้างพระองค์อย่างปลอดภัย พระองค์ปกป้องเขาในทุกยาม และให้เขาอยู่ในอ้อมอกของพระองค์”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - ท่านกล่าวถึงโยเซฟว่า “ขอให้พระผู้เป็นเจ้าให้พรแผ่นดินของเขา ด้วยหยาดน้ำค้างดีที่สุดจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน และจากห้วงน้ำลึกที่หมอบอยู่เบื้องล่าง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - และด้วยพืชผลชนิดดีที่สุดภายใต้แสงอาทิตย์ และพืชผลอันอุดมเดือนแล้วเดือนเล่า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - ด้วยสิ่งดีที่สุดจากเทือกเขาแห่งโบราณกาล และความอุดมของเนินเขาอันยืนยง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - ด้วยสิ่งดีที่สุดของแผ่นดินและความอุดมที่ผลิตได้ และเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ผู้เป็นที่ประจักษ์ในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ให้สิ่งเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ และอยู่บนหน้าผากของราชา ท่ามกลางพี่น้องของเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - พละกำลังของเขาเป็นดั่งโคตัวผู้หัวปี และแข็งแกร่งดั่งเขากระทิง เขาจะผลักดันบรรดาชนชาติไปทั่วแหล่งหล้า เขากระทิงคือพลังนับหมื่นของเอฟราอิม และพลังนับพันของมนัสเสห์”
- ปฐมกาล 47:1 - ดังนั้น โยเซฟจึงไปหาฟาโรห์ และบอกท่านว่า “บิดาและพี่น้องของข้าพเจ้ามาจากดินแดนคานาอันพร้อมกับฝูงแพะแกะและฝูงสัตว์ อีกทั้งนำทุกสิ่งที่เป็นของพวกเขามาด้วย และขณะนี้ก็ได้มาถึงอาณาเขตโกเชนแล้ว”
- ปฐมกาล 47:2 - จากนั้นโยเซฟก็แนะนำพี่น้อง 5 คนให้พบกับฟาโรห์
- ปฐมกาล 47:3 - ฟาโรห์ถามพี่น้องของโยเซฟว่า “พวกเจ้าทำอาชีพอะไร” พวกเขาตอบฟาโรห์ว่า “ผู้รับใช้ทั้งหลายของท่านเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ ตามที่บรรพบุรุษของเราเป็น”
- ปฐมกาล 47:4 - และพวกเขาบอกฟาโรห์ว่า “พวกเราเข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดน เพราะไม่มีทุ่งหญ้าให้ฝูงแพะแกะของผู้รับใช้ของท่าน เนื่องจากเกิดทุพภิกขภัยรุนแรงอย่างที่สุดในดินแดนคานาอัน บัดนี้พวกเราขอร้องให้ท่านโปรดบรรดาผู้รับใช้ของท่านได้อาศัยอยู่ในดินแดนโกเชนเถิด”
- ปฐมกาล 47:5 - ฟาโรห์พูดกับโยเซฟว่า “บิดาและพี่น้องของเจ้ามาหาเจ้าแล้ว
- ปฐมกาล 47:6 - แผ่นดินอียิปต์เป็นของเจ้า หาที่ดินผืนงามที่สุดให้บิดาและพี่น้องของเจ้าอาศัยอยู่ ให้พวกเขาอยู่ในดินแดนโกเชน และถ้าเจ้ารู้ว่าใครมีความสามารถ ก็ให้เป็นคนดูแลปศุสัตว์ของเรา”
- ปฐมกาล 47:7 - แล้วโยเซฟก็พายาโคบบิดาของตนเข้ามาหาฟาโรห์ ยาโคบก็ให้พรแก่ฟาโรห์
- ปฐมกาล 47:8 - ฟาโรห์ถามยาโคบว่า “ท่านมีอายุเท่าไหร่แล้ว”
- ปฐมกาล 47:9 - ยาโคบตอบว่า “ข้าพเจ้ามีชีวิต 130 ปีซึ่งก็ได้อพยพเรื่อยมา แต่ไม่กี่ปีเอง และได้ฟันฝ่ามาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ยืนยาวเท่ากับบรรพบุรุษซึ่งได้อพยพเรื่อยมาเช่นกัน”
- ปฐมกาล 47:10 - ยาโคบก็ให้พรแก่ฟาโรห์แล้วลาไป
- ปฐมกาล 47:11 - แล้วโยเซฟหาที่อยู่อาศัยให้บิดาและพี่น้องของเขา ให้ที่ดินผืนงามในอียิปต์ ในดินแดนของราเมเสส ตามที่ฟาโรห์สั่งไว้
- ปฐมกาล 47:12 - โยเซฟจัดการให้บิดา พี่น้อง และทุกคนในครอบครัวของบิดา รวมถึงเด็กเล็กๆ มีอาหารรับประทานกัน
- ปฐมกาล 47:13 - เนื่องจากทุพภิกขภัยที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงอย่างที่สุด จึงทำให้ไม่มีอาหารทั่วทั้งอียิปต์ และผู้คนทั้งในอียิปต์และคานาอันต่างอ่อนระโหยโรยแรงเพราะขาดอาหาร
- ปฐมกาล 47:14 - โยเซฟรวบรวมเงินที่ได้จากประชาชนในอียิปต์และคานาอันครั้งที่นำมาซื้อธัญพืช โดยโยเซฟนำเงินนั้นมายังวังของฟาโรห์
- ปฐมกาล 47:15 - เมื่อประชาชนในดินแดนอียิปต์และคานาอันใช้เงินหมดแล้ว ชาวอียิปต์จึงมาหาโยเซฟและพูดว่า “ให้อาหารแก่พวกเราเถิด จะให้พวกเราตายต่อหน้าท่านหรือ ในเมื่อเราใช้เงินจนหมดแล้ว”
- ปฐมกาล 47:16 - โยเซฟตอบว่า “ถ้าเงินของเจ้าหมด ก็เอาปศุสัตว์ของเจ้ามา แล้วเราจะให้อาหารเป็นการแลกเปลี่ยนกับปศุสัตว์ของเจ้า”
- ปฐมกาล 47:17 - ดังนั้นพวกเขาจึงนำปศุสัตว์มาให้โยเซฟ และโยเซฟให้อาหารแก่คนเหล่านั้นเป็นการแลกเปลี่ยนกับม้า แพะแกะ โค และลา โยเซฟจัดหาอาหารให้พวกเขาเป็นการแลกเปลี่ยนกับปศุสัตว์ในปีนั้น
- ปฐมกาล 47:18 - เมื่อสิ้นปีนั้นแล้ว พวกเขามาหาโยเซฟในปีต่อไป และพูดกับเขาว่า “พวกเราจะไม่ปิดบังนายท่านว่าเงินของเราหมดแล้ว ฝูงปศุสัตว์ก็เป็นของนายท่าน ไม่มีอะไรเหลือให้เห็นแล้ว นอกจากร่างกายและที่ดินของพวกเรา
- ปฐมกาล 47:19 - จะให้พวกเราตายต่อหน้าท่านหรือ ทั้งตัวเราและที่ดินของเราด้วย ท่านซื้อตัวเราและที่ดินของเราแลกกับอาหารสิ เรากับที่ดินจะได้เป็นทาสรับใช้ฟาโรห์ ให้เมล็ดข้าวแก่เราเพื่อเราจะได้มีชีวิตต่อไป แล้วที่ดินจะได้ไม่เป็นที่รกร้าง”
- ปฐมกาล 47:20 - โยเซฟจึงซื้อที่ดินทั้งหมดในอียิปต์ให้ฟาโรห์ เพราะชาวอียิปต์พากันขายที่ดินของตน เนื่องจากประสบทุพภิกขภัยอย่างรุนแรงที่สุด ที่ดินทั้งหมดจึงตกเป็นของฟาโรห์
- ปฐมกาล 47:21 - ส่วนประชาชน โยเซฟก็ให้พวกเขาเป็นทาสรับใช้จากสุดเขตแดนด้านหนึ่งของอียิปต์จนถึงอีกด้านหนึ่ง
- ปฐมกาล 47:22 - ยกเว้นที่ดินของพวกปุโรหิตที่โยเซฟไม่ได้ซื้อ เพราะว่าปุโรหิตมีรายได้ประจำจากฟาโรห์อยู่แล้ว พวกเขาก็อยู่กินจากรายได้ที่ฟาโรห์ให้ ฉะนั้นเขาจึงไม่ต้องขายที่ดินของเขา
- ปฐมกาล 47:23 - โยเซฟพูดกับประชาชนว่า “ดูเถิด บัดนี้เราได้ซื้อตัวเจ้าและที่ดินของเจ้าให้กับฟาโรห์ นี่เป็นเมล็ดข้าวสำหรับเจ้าใช้หว่านในนา
- ปฐมกาล 47:24 - เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว เจ้าจะมอบหนึ่งในห้าแก่ฟาโรห์ ส่วนที่เหลือเป็นของเจ้าเอง เพื่อใช้ปลูกในนาเป็นอาหารสำหรับตัวเจ้า ครอบครัวของเจ้า และเด็กเล็กๆ ด้วย”
- ปฐมกาล 47:25 - พวกเขาพูดว่า “นายท่านได้ช่วยชีวิตพวกเราไว้ หวังว่านายท่านพอใจ เราจะเป็นทาสรับใช้ฟาโรห์”
- ปฐมกาล 47:26 - ดังนั้น โยเซฟจึงตั้งเป็นกฎเกณฑ์เรื่องที่ดินของประเทศอียิปต์มาจนถึงทุกวันนี้ว่า ฟาโรห์ควรได้รับหนึ่งในห้า ยกเว้นที่ดินของพวกปุโรหิตที่ไม่ได้ตกเป็นของฟาโรห์
- ปฐมกาล 47:27 - ดังนั้น อิสราเอลตั้งรกรากอยู่ในดินแดนของอียิปต์ ในดินแดนของโกเชน พวกเขาเป็นเจ้าของทรัพย์สิ่งของที่นั่น เกิดลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง และทวีคนมากยิ่งขึ้น
- ปฐมกาล 47:28 - ยาโคบใช้ชีวิตอยู่ในอียิปต์เป็นเวลา 17 ปี และยาโคบมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 147 ปี
- ปฐมกาล 47:29 - เมื่อใกล้เวลาที่อิสราเอลจะสิ้นชีวิต ท่านเรียกโยเซฟบุตรชายมาและพูดว่า “ถ้าพ่ออยู่ในสายตาของลูก ก็ขอให้ลูกวางมือไว้ที่ใต้ขาอ่อนของพ่อ และสัญญาว่าจะกระทำต่อพ่อด้วยความภักดีและความจริง อย่าบรรจุศพพ่อไว้ที่อียิปต์เลย
- ปฐมกาล 47:30 - แต่ขอให้พ่อนอนตายกับบรรพบุรุษ ยกพ่อออกไปจากอียิปต์และบรรจุไว้ที่เดียวกับถ้ำเก็บศพของพวกเขา” เขาตอบว่า “ลูกจะทำตามที่พ่อพูด”
- ปฐมกาล 47:31 - อิสราเอลพูดว่า “สาบานต่อพ่อสิ” และเขาก็สาบานต่อบิดา แล้วอิสราเอลก้มตัวลงกราบที่หัวเตียงของตน
- ปฐมกาล 50:1 - โยเซฟซบลงแนบใบหน้าของบิดา ร้องไห้และจูบแก้มท่าน
- ปฐมกาล 50:2 - แล้วโยเซฟสั่งบรรดาคนรับใช้และแพทย์ให้อาบศพบิดาด้วยน้ำยา พวกแพทย์จึงทำตามนั้นให้อิสราเอล
- ปฐมกาล 50:3 - ใช้เวลา 40 วันตามขั้นตอนจึงเสร็จสิ้นจากการอาบน้ำยาศพ และชาวอียิปต์ร้องคร่ำครวญถึงยาโคบเป็นเวลา 70 วัน
- ปฐมกาล 50:4 - เมื่อช่วงเวลาแห่งการร้องคร่ำครวญผ่านพ้นไปแล้ว โยเซฟพูดกับกลุ่มข้าราชสำนักของฟาโรห์ว่า “ถ้าข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่าน ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านพูดกับฟาโรห์ว่า
- ปฐมกาล 50:5 - บิดาให้ข้าพเจ้าสาบานกับท่านว่า ‘พ่อกำลังจะตายแล้ว เจ้าจงบรรจุศพพ่อในถ้ำที่พ่อสลักไว้เองที่ดินแดนคานาอัน’ บัดนี้กรุณาให้ข้าพเจ้าขึ้นไปจัดการศพบิดาข้าพเจ้า แล้วจึงจะกลับมา”
- ปฐมกาล 50:6 - ฟาโรห์ตอบว่า “ขึ้นไปเถิด ไปจัดการศพบิดาของเจ้าตามคำสาบานที่ให้กับบิดา”
- ปฐมกาล 50:7 - ดังนั้นโยเซฟจึงขึ้นไปจัดการศพบิดา บรรดาผู้รับใช้ของฟาโรห์ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในวัง และเจ้าหน้าที่ชั้นสูงในดินแดนอียิปต์ก็ร่วมเดินทางไปกับโยเซฟ
- ปฐมกาล 50:8 - นอกจากนั้นก็มีครอบครัวโยเซฟ พวกพี่น้อง และครอบครัวของยาโคบ เหลือแต่พวกเด็กๆ แพะแกะ และฝูงสัตว์ทั้งหลายที่ปล่อยให้อยู่ในพื้นที่โกเชน
- ปฐมกาล 50:9 - มีรถศึกพร้อมคนขับไปกับเขาด้วย รวมเข้าเป็นขบวนใหญ่โตมาก
- ปฐมกาล 50:10 - เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวที่อาทาดซึ่งอยู่โพ้นแม่น้ำจอร์แดน ก็ส่งเสียงร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่นั่นด้วยความเศร้าใจยิ่งนัก และโยเซฟร้องคร่ำครวญถึงบิดาตามพิธีเป็นเวลา 7 วัน
- ปฐมกาล 50:11 - เมื่อพลเมืองดินแดนคานาอันเห็นการร้องคร่ำครวญบนลานนวดข้าวที่อาทาด พวกเขาก็พูดว่า “นี่เป็นการร้องคร่ำครวญที่เศร้าโศกยิ่งนักของชาวอียิปต์” ฉะนั้นสถานที่นั้นจึงชื่อว่า อาเบลมิสราอิม ซึ่งอยู่เลยแม่น้ำจอร์แดนออกไป
- ปฐมกาล 50:12 - บรรดาบุตรของยาโคบก็ได้จัดการเรื่องให้ตามที่บิดาได้สั่งให้พวกเขาทำ
- ปฐมกาล 50:13 - บุตรชายยาโคบหามศพไปยังดินแดนคานาอัน และเก็บไว้ในถ้ำที่อยู่ในทุ่งนาที่มัคเป-ลาห์ซึ่งอยู่ใกล้มัมเร ที่อับราฮัมได้ซื้อไว้พร้อมกับทุ่งนาจากเอโฟรนชาวฮิต เพื่อมีไว้ใช้เป็นที่บรรจุศพ
- ปฐมกาล 50:14 - หลังจากที่ได้บรรจุศพบิดาของเขาไว้ในถ้ำแล้ว โยเซฟกับพวกพี่น้องและทุกคนที่ไปจัดการเรื่องศพด้วยก็กลับไปยังอียิปต์
- ปฐมกาล 35:24 - บุตรที่เกิดจากนางราเชลชื่อ โยเซฟ และเบนยามิน
- ปฐมกาล 30:24 - และนางตั้งชื่อเขาว่า โยเซฟ นางพูดว่า “ขอให้พระผู้เป็นเจ้าโปรดให้ฉันได้ลูกชายอีกคนเถิด”
- ปฐมกาล 39:1 - ฝ่ายโยเซฟก็ถูกพาตัวลงไปยังประเทศอียิปต์ และเจ้าหน้าที่ชาวอียิปต์คนหนึ่งชื่อโปทิฟาร์ซึ่งเป็นหัวหน้าองครักษ์ของฟาโรห์ได้ซื้อตัวโยเซฟมาจากพวกอิชมาเอลที่พาเขาลงไปที่นั่น
- ปฐมกาล 39:2 - พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟ ดังนั้นไม่ว่าโยเซฟจะทำอะไรก็ทำได้สำเร็จ เขาอาศัยอยู่ในบ้านของนายชาวอียิปต์
- ปฐมกาล 39:3 - นายของเขาเห็นว่า พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และพระผู้เป็นเจ้าโปรดให้ทุกสิ่งที่เขาทำเกิดผลดี
- ปฐมกาล 39:4 - ดังนั้นโยเซฟเป็นที่พอใจของโปทิฟาร์ ได้ทำหน้าที่ดูแลนายอย่างใกล้ชิด เป็นหัวหน้าคุมงาน และได้รับมอบหมายดูแลทุกสิ่งที่เป็นของนาย
- ปฐมกาล 39:5 - นับตั้งแต่เวลาที่เขาให้โยเซฟเป็นหัวหน้าคุมงานของเขา และดูแลทุกสิ่งที่เป็นของนาย พระผู้เป็นเจ้าก็ได้อวยพรครอบครัวของชาวอียิปต์ผู้นี้ เพราะเห็นแก่โยเซฟ พระพรของพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับทุกสิ่งที่เขามีทั้งในบ้านและในนา
- ปฐมกาล 39:6 - นับว่าเขายกทุกสิ่งที่เขามีให้อยู่ในการดูแลของโยเซฟ และไม่กังวลเรื่องใดๆ เลย เว้นแต่เรื่องอาหารที่เขารับประทานเท่านั้น โยเซฟมีร่างกายกำยำและรูปหล่อ
- ปฐมกาล 39:7 - ไม่นานต่อมาภรรยาของเจ้านายมองโยเซฟด้วยความพิศวาส และพูดว่า “มานอนกับฉันเถิด”
- ปฐมกาล 39:8 - แต่เขาปฏิเสธและพูดกับภรรยาเจ้านายว่า “โปรดฟัง เจ้านายของข้าพเจ้าไม่ต้องกังวลกับเรื่องใดๆ ในบ้านเรือนก็เพราะข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ ท่านให้ข้าพเจ้าดูแลทุกสิ่งที่ท่านมี
- ปฐมกาล 39:9 - ไม่มีใครในบ้านนี้ที่มีความรับผิดชอบเกินกว่าข้าพเจ้า และท่านไม่เคยหวงห้ามสิ่งใดที่เป็นของท่าน ยกเว้นตัวท่านเท่านั้น เพราะท่านเป็นภรรยาของนาย ข้าพเจ้าจะกระทำความเลวอันใหญ่หลวงนี้ และกระทำบาปต่อพระเจ้าได้อย่างไร”
- ปฐมกาล 39:10 - และแม้ว่านางจะพูดกับโยเซฟวันแล้ววันเล่า เขาก็ปฏิเสธที่จะข้องเกี่ยวกับนางหรือใกล้ชิดกับนาง
- ปฐมกาล 39:11 - อยู่มาวันหนึ่งโยเซฟเข้าไปในบ้านเรื่องการงาน ไม่มีผู้รับใช้ชายอยู่ในบ้านสักคนเดียว
- ปฐมกาล 39:12 - นางได้คว้าผ้าชิ้นหนึ่งที่เขาสวมอยู่ พลางพูดว่า “มานอนกับฉันเถิด” แต่เขาทิ้งผ้าที่อยู่ในมือนางไว้และรีบหนีออกไปนอกบ้าน
- ปฐมกาล 39:13 - เมื่อนางเห็นว่าเขาได้ทิ้งผ้าที่อยู่ในมือนางไว้ และรีบหนีออกไปนอกบ้าน
- ปฐมกาล 39:14 - นางจึงเรียกผู้รับใช้ชายทั้งหลายให้มาหาและพูดว่า “ดูสิ สามีฉันพาคนฮีบรูมาดูถูกพวกเรา เขาเข้ามาหาฉันเพื่อจะนอนกับฉัน แต่ฉันตะโกนดังลั่น
- ปฐมกาล 39:15 - เมื่อเขาได้ยินฉันส่งเสียงร้องและตะโกน เขาเลยทิ้งผ้าของเขาไว้กับฉัน แล้วรีบหนีออกไปนอกบ้าน”
- ปฐมกาล 39:16 - แล้วนางก็วางผ้าชิ้นนั้นไว้ข้างนางกระทั่งนายกลับมาบ้าน
- ปฐมกาล 39:17 - นางเล่าเรื่องเหมือนเดิมว่า “ผู้รับใช้ชาวฮีบรูที่ท่านพามาอยู่กับพวกเรา เขาได้เข้ามาหาฉันซึ่งแสดงถึงการสบประมาทฉัน
- ปฐมกาล 39:18 - แต่ทันทีที่ฉันส่งเสียงร้องตะโกน เขาเลยทิ้งผ้าของเขาไว้กับฉัน แล้วรีบหนีออกไปนอกบ้าน”
- ปฐมกาล 39:19 - เมื่อนายของเขาได้ยินคำพูดที่ภรรยาเล่าถึงโยเซฟว่า “นี่เป็นวิธีที่ผู้รับใช้ของท่านปฏิบัติต่อฉัน” เขาก็โกรธมาก
- ปฐมกาล 39:20 - นายของโยเซฟจึงจับตัวเขาเข้าคุก ที่ที่นักโทษหลวงถูกจำขัง เขาต้องอยู่ที่นั่น
- ปฐมกาล 39:21 - แต่พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและแสดงให้เห็นความรักอันมั่นคงของพระองค์ ให้พัศดีโปรดปรานเขา
- ปฐมกาล 39:22 - พัศดีให้นักโทษทุกคนในเรือนจำอยู่ภายใต้การควบคุมของโยเซฟ และโยเซฟรับผิดชอบทุกอย่างที่นั่น
- ปฐมกาล 39:23 - พัศดีไม่กังวลในสิ่งใดที่โยเซฟควบคุม เพราะพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และพระองค์ให้ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติบังเกิดผลดี
- 1 พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
- อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุนและเบนยามิน
- ปฐมกาล 35:16 - แล้วพวกเขาก็เดินทางจากเบธเอลไปเอฟราธาห์ แต่ยังไม่ทันถึง ราเชลก็ถึงเวลาจวนคลอดและเจ็บครรภ์มาก
- ปฐมกาล 35:17 - เมื่อนางเจ็บครรภ์มาก หมอตำแยพูดกับนางว่า “อย่ากลัวเลย เพราะท่านได้ลูกชายอีก”
- ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่วิญญาณกำลังจากร่างนางไป เพราะนางกำลังจะสิ้นลม นางเรียกชื่อเขาว่า เบนโอนี แต่บิดาของเขาตั้งชื่อเขาว่า เบนยามิน
- อพยพ 1:5 - รวมจำนวนผู้สืบเชื้อสายของยาโคบทั้งหมดได้ 70 คน ส่วนโยเซฟอยู่ที่อียิปต์แล้ว
- ปฐมกาล 49:22 - โยเซฟเป็นเสมือนเถาไม้อุดมผล เถาไม้อุดมผลที่ข้างน้ำพุ กิ่งก้านขยายปกคลุมทั่วกำแพง
- ปฐมกาล 49:23 - นายขมังธนูโจมตีเขาอย่างดุร้าย ยิงใส่เขา และรังควานด้วยความเคียดแค้น
- ปฐมกาล 49:24 - แต่คันธนูของเขาไม่สะทกสะท้าน มือและแขนของเขาแข็งแรงได้ โดยมือขององค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบ โดยผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ ศิลาของอิสราเอล
- ปฐมกาล 49:25 - โดยพระเจ้าของบิดาของเจ้า ผู้ช่วยเหลือเจ้า โดยพระเจ้า ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพ ผู้อวยพรเจ้าด้วยพระพรจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน พระพรจากห้วงน้ำลึกที่อยู่เบื้องล่าง พระพรจากอกและครรภ์
- ปฐมกาล 49:26 - พระพรของบิดาของเจ้าเหนือยิ่งไปกว่า พระพรของเทือกเขาที่ตั้งอย่างถาวร และเหนือกว่าความอุดมของเนินเขาที่ยืนยง ขอพระพรเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ บนหน้าผากของผู้นำ ท่ามกลางพี่น้องของเขา
- ปฐมกาล 49:27 - เบนยามินฉีกเนื้อกินอย่างสุนัขป่า เขาเขมือบเหยื่อในยามเช้า และแบ่งปันสิ่งที่ชิงมาได้ในยามเย็น”
- กันดารวิถี 1:36 - จากบรรดาบุตรของเบนยามิน ตามทะเบียนของการลำดับเชื้อสาย ตามตระกูล และลำดับครอบครัวของพวกเขา ตามรายชื่อของผู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไปที่สามารถออกรบได้
- กันดารวิถี 1:37 - นับจำนวนจากเผ่าเบนยามินได้ 35,400 คน
- ปฐมกาล 29:18 - ยาโคบรักราเชล เขาจึงพูดว่า “ฉันจะทำงานรับใช้ลุง 7 ปีเพื่อขอราเชลลูกสาวคนเล็กของลุง”
- ปฐมกาล 44:27 - บิดาของเราผู้รับใช้ของท่านพูดว่า ‘เจ้าก็รู้ว่าภรรยาพ่อให้กำเนิดลูกชาย 2 คน