Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
35:22 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขณะอิสราเอลพักอยู่ในละแวกนั้น รูเบนก็ไปหลับนอนกับบิลฮาห์ภรรยาน้อยของบิดา และอิสราเอลก็ได้ทราบเรื่องนี้ ยาโคบมีบุตรชายสิบสองคน
  • 新标点和合本 - 以色列住在那地的时候,流便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 以色列住在那地的时候,吕便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了这件事 。 雅各共有十二个儿子。
  • 和合本2010(神版-简体) - 以色列住在那地的时候,吕便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了这件事 。 雅各共有十二个儿子。
  • 当代译本 - 以色列在那里居住时,吕便和父亲的妾辟拉通奸,以色列也知道这件事。 雅各有十二个儿子。
  • 圣经新译本 - 以色列在那地居住的时候,流本竟去与他父亲的妾辟拉同睡;这事以色列也听见了。雅各共有十二个儿子。
  • 中文标准译本 - 以色列在那地居住的时候,鲁本去与他父亲的小妾碧拉同睡;以色列也听到了这事。 雅各有十二个儿子:
  • 现代标点和合本 - 以色列住在那地的时候,鲁本去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
  • 和合本(拼音版) - 以色列住在那地的时候,流便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
  • New International Version - While Israel was living in that region, Reuben went in and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard of it. Jacob had twelve sons:
  • New International Reader's Version - While Israel was living in that area, Reuben went in and slept with Bilhah. She was the concubine of Reuben’s father. And Israel heard about it. Here are the 12 sons Jacob had.
  • English Standard Version - While Israel lived in that land, Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine. And Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve.
  • New Living Translation - While he was living there, Reuben had intercourse with Bilhah, his father’s concubine, and Jacob soon heard about it. These are the names of the twelve sons of Jacob:
  • The Message - There were twelve sons of Jacob. The sons by Leah: Reuben, Jacob’s firstborn Simeon Levi Judah Issachar Zebulun. The sons by Rachel: Joseph Benjamin. The sons by Bilhah, Rachel’s maid: Dan Naphtali. The sons by Zilpah, Leah’s maid: Gad Asher. These were Jacob’s sons, born to him in Paddan Aram. * * *
  • Christian Standard Bible - While Israel was living in that region, Reuben went in and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard about it. Jacob had twelve sons:
  • New American Standard Bible - And it came about, while Israel was living in that land, that Reuben went and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard about it. Now there were twelve sons of Jacob—
  • New King James Version - And it happened, when Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine; and Israel heard about it. Now the sons of Jacob were twelve:
  • Amplified Bible - While Israel was living in that land, Reuben [his eldest son] went and lay with Bilhah his father’s concubine, and Israel heard about it. Now Jacob had twelve sons—
  • American Standard Version - And it came to pass, while Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine: and Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve:
  • King James Version - And it came to pass, when Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father's concubine: and Israel heard it. Now the sons of Jacob were twelve:
  • New English Translation - While Israel was living in that land, Reuben had sexual relations with Bilhah, his father’s concubine, and Israel heard about it. Jacob had twelve sons:
  • World English Bible - While Israel lived in that land, Reuben went and lay with Bilhah, his father’s concubine, and Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve.
  • 新標點和合本 - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了。 雅各共有十二個兒子。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了這件事 。 雅各共有十二個兒子。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了這件事 。 雅各共有十二個兒子。
  • 當代譯本 - 以色列在那裡居住時,呂便和父親的妾辟拉通姦,以色列也知道這件事。 雅各有十二個兒子。
  • 聖經新譯本 - 以色列在那地居住的時候,流本竟去與他父親的妾辟拉同睡;這事以色列也聽見了。雅各共有十二個兒子。
  • 呂振中譯本 - 以色列 在那地居住的時候, 如便 去和他父親的妾 辟拉 同寢; 以色列 聽見了。 雅各 有十二個兒子。
  • 中文標準譯本 - 以色列在那地居住的時候,魯本去與他父親的小妾碧拉同睡;以色列也聽到了這事。 雅各有十二個兒子:
  • 現代標點和合本 - 以色列住在那地的時候,魯本去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了。 雅各共有十二個兒子。
  • 文理和合譯本 - 居彼時、流便烝父妾辟拉、事聞於以色列、○
  • 文理委辦譯本 - 以色列居彼、聞流便烝其妾辟拉。
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 以色列 居彼地之時、 流便 烝父妾 辟拉 、後其父 以色列 聞之、
  • Nueva Versión Internacional - Mientras vivía en esa región, Rubén fue y se acostó con Bilhá, la concubina de su padre. Cuando Israel se enteró de esto, se enojó muchísimo. Jacob tuvo doce hijos:
  • 현대인의 성경 - 야곱이 그 땅에 살고 있을 때 르우벤이 자기 아버지의 첩 빌하와 정을 통하였고 야곱은 그 일을 듣게 되었다. 야곱의 아들은 열둘이었다.
  • Новый Русский Перевод - Когда Израиль жил в той земле, Рувим лег с наложницей отца Валлой, и Израиль узнал об этом. ( 1 Пар. 2:1-2 ) У Иакова было двенадцать сыновей:
  • Восточный перевод - Когда Исраил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исраил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда Исраил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исраил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда Исроил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исроил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
  • La Bible du Semeur 2015 - Pendant qu’il séjournait dans cette contrée, Ruben alla coucher avec Bilha, l’épouse de second rang de son père. Celui-ci l’apprit . Jacob avait douze fils.
  • リビングバイブル - そこにいた時、ルベンが父親のそばめビルハと寝たのです。そのことはイスラエルの耳にも入りました。 ところで、ヤコブの十二人の息子は次のとおりです。
  • Nova Versão Internacional - Na época em que Israel vivia naquela região, Rúben deitou-se com Bila, concubina de seu pai. E Israel ficou sabendo disso. Jacó teve doze filhos:
  • Hoffnung für alle - Damals schlief Ruben mit Bilha, der Nebenfrau seines Vaters, und Jakob erfuhr davon. Inzwischen hatte Jakob zwölf Söhne:
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Trong thời gian ở đó, Ru-bên vào ngủ với Bi-la, vợ lẽ của cha mình. Có người báo lại cho Gia-cốp. Đây là tên mười hai con trai của Gia-cốp:
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ขณะ​ที่​อิสราเอล​อาศัย​อยู่​ใน​ดินแดน​นั้น รูเบน​ไป​นอน​กับ​บิลฮาห์​ภรรยา​น้อย​ของ​บิดา​ของ​ตน และ​อิสราเอล​ก็​ทราบ​เรื่อง ยาโคบ​มี​บุตร​ชาย 12 คน
交叉引用
  • โยชูวา 13:1 - เมื่อโยชูวาแก่ลง ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “เจ้าแก่มากแล้ว และยังมีดินแดนอีกมากที่จะต้องพิชิต
  • โยชูวา 13:2 - “ดินแดนซึ่งยังจะต้องเข้ายึดครองได้แก่ ดินแดนทั้งหมดของชาวฟีลิสเตียและเกชูร์
  • โยชูวา 13:3 - ดินแดนซึ่งนับเป็นของชาวคานาอัน จากแม่น้ำชิโหร์ทางตะวันออกของอียิปต์ถึงพรมแดนของเอโครนทางเหนือ (นครทั้งห้าของฟีลิสเตียได้แก่ กาซา อัชโดด อัชเคโลน กัท และเอโครน นี่คือดินแดนของชาวอัฟวิม)
  • โยชูวา 13:4 - จากทางใต้ ดินแดนทั้งหมดของชาวคานาอัน จากอาราห์ของชาวไซดอนจนถึงอาเฟค ตรงพรมแดนของชาวอาโมไรต์
  • โยชูวา 13:5 - ดินแดนของชาวเกบาล เลบานอนทั้งหมดไปทางตะวันออก จากบาอัลกาดเชิงภูเขาเฮอร์โมนถึงเลโบฮามัท
  • โยชูวา 13:6 - “สำหรับคนที่อาศัยในเขตภูเขาจากเลบานอนถึงมิสเรโฟทมาอิมคือชาวไซดอนทั้งปวง เราเองจะขับไล่พวกเขาออกไปต่อหน้าอิสราเอล จงแบ่งดินแดนเหล่านี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอลตามที่เราได้บัญชาเจ้าไว้
  • โยชูวา 13:7 - และแบ่งดินแดนเหล่านี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเก้าเผ่ากับเผ่ามนัสเสห์อีกครึ่งเผ่า”
  • โยชูวา 13:8 - สำหรับเผ่ารูเบน กาด และเผ่ามนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าได้รับกรรมสิทธิ์ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ยกให้ก่อนแล้ว
  • โยชูวา 13:9 - กรรมสิทธิ์นั้นเริ่มจากดินแดนอาโรเออร์ริมโกรกธารอารโนน จากเมืองซึ่งอยู่ตอนกลางของโกรกธารนี้รวมถึงที่ราบสูงเมเดบาทั้งหมดจนถึงดีโบน
  • โยชูวา 13:10 - และเมืองทั้งหมดของสิโหนกษัตริย์ชาวอาโมไรต์ซึ่งครองเฮชโบนไปจนจดพรมแดนของชาวอัมโมน
  • โยชูวา 13:11 - และครอบคลุมกิเลอาดอาณาเขตของชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ บริเวณภูเขาเฮอร์โมนทั้งหมด บาชานทั้งหมดจนจดสาเลคาห์
  • โยชูวา 13:12 - กล่าวคืออาณาเขตทั้งสิ้นของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน ซึ่งครองอัชทาโรทและเอเดรอี เขาผู้นี้เป็นหนึ่งในเรฟาอิมกลุ่มสุดท้าย โมเสสพิชิตพวกเขาและเข้ายึดครองดินแดน
  • โยชูวา 13:13 - แต่ชนอิสราเอลไม่ได้ขับไล่ชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ออกไป พวกเขาจึงยังคงอาศัยอยู่ในหมู่ชนอิสราเอลจนถึงทุกวันนี้
  • โยชูวา 13:14 - สำหรับเผ่าเลวี โมเสสไม่ได้มอบดินแดนใดๆ ให้ เพราะพวกเขาได้รับเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลเป็นกรรมสิทธิ์ตามที่ทรงสัญญาแก่เขา
  • โยชูวา 13:15 - ดินแดนซึ่งโมเสสยกให้เผ่ารูเบนตามแต่ละตระกูล ได้แก่
  • โยชูวา 13:16 - ดินแดนจากอาโรเออร์ริมโกรกธารอารโนน จากเมืองซึ่งอยู่ตอนกลางของโกรกธารไปจนถึงที่ราบทั้งหมดเลยเมเดบา
  • โยชูวา 13:17 - จดเฮชโบน และเมืองทั้งหมดบนที่ราบนั้น รวมทั้งดีโบน บาโมทบาอัล เบธบาอัลเมโอน
  • โยชูวา 13:18 - ยาฮาส เคเดโมท เมฟาอาท
  • โยชูวา 13:19 - คีริยาธาอิม สิบมาห์ เศเรทชาหาร์บนภูเขาในหุบเขานั้น
  • โยชูวา 13:20 - เบธเปโอร์ ลาดเขาปิสกาห์ และเบธเยชิโมท
  • โยชูวา 13:21 - คือเมืองทั้งหมดบนที่ราบสูงและอาณาจักรทั้งหมดของกษัตริย์สิโหนแห่งอาโมไรต์ ผู้ครอบครองอยู่ในเฮชโบน ซึ่งถูกโมเสสพิชิตพร้อมกษัตริย์อื่นๆ ของมีเดียนคือเอวี เรเคม ศูร์ เฮอร์ และเรบา ผู้เป็นพันธมิตรของสิโหน ซึ่งอาศัยอยู่ในถิ่นนั้น
  • กิจการของอัครทูต 7:8 - แล้วพระองค์ประทานพันธสัญญาแห่งการเข้าสุหนัตให้อับราฮัม และต่อมาอับราฮัมก็ได้บุตรชื่ออิสอัคและท่านให้เขาเข้าสุหนัตเมื่ออายุแปดวัน หลังจากนั้นอิสอัคมีบุตรชื่อยาโคบและยาโคบเป็นบิดาของบรรพบุรุษทั้งสิบสองนั้น
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:1 - ก่อนสิ้นชีวิต โมเสสคนของพระเจ้าได้อวยพรประชากรอิสราเอล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2 - เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จจากซีนาย ทรงฉายแสงอรุณเหนือพวกเขาจากเสอีร์ ทรงเปล่งรังสีจากภูเขาปาราน พระองค์เสด็จมากับ ผู้บริสุทธิ์นับหมื่นแสน จากทิศใต้ จากลาดเขา ของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:3 - แน่นอน พระองค์ทรงรักเหล่าประชากร วิสุทธิชนทั้งปวงอยู่ในพระหัตถ์ พวกเขากราบลงแทบพระบาท และรับการสั่งสอนจากพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:4 - คือบทบัญญัติที่โมเสสให้แก่เราไว้ เป็นกรรมสิทธิ์ของชุมชนยาโคบ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:5 - พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์เหนือเยชูรุน เมื่อบรรดาผู้นำมาชุมนุมกัน ร่วมกับเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:6 - “ขอให้รูเบนดำรงอยู่เป็นอมตะ อย่าให้ คนของเขามีน้อย”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:7 - และเขากล่าวถึงยูดาห์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงฟังเสียงร่ำร้องของยูดาห์ ประสานเขาเข้ากับชนชาติของเขา เขาต่อสู้ฟันฝ่าด้วยมือของเขาเอง ขอทรงช่วยยูดาห์ต่อกรกับศัตรู!”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:8 - เขากล่าวถึงเผ่าเลวีว่า “อูริมและทูมมิมของพระองค์ อยู่กับผู้ที่พระองค์ทรงโปรดปราน พระองค์ทรงทดสอบเขาที่มัสสาห์ พระองค์ทรงต่อสู้กับเขาที่ห้วงน้ำเมรีบาห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:9 - เขากล่าวถึงบิดามารดาของตนว่า ‘ข้าพเจ้าไม่เห็นแก่หน้าพวกเขา’ เขาไม่เห็นแก่พี่น้องของเขา ไม่เห็นแก่บุตรของเขา แต่เขาพิทักษ์รักษาพระดำรัสของพระองค์ และปกป้องพันธสัญญาของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:10 - เขาจะสอนพระโอวาทของพระองค์แก่ยาโคบ และสอนบทบัญญัติของพระองค์แก่อิสราเอล เขาถวายเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์ และถวายเครื่องเผาบูชาทั้งสิ้นบนแท่นของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:11 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงอวยพรความชำนาญทั้งสิ้นของเขา และพอพระทัยผลงานที่เขาทำ ขอทรงบดขยี้ผู้ที่ต่อสู้เขา ขอทรงฟาดฟันศัตรูของเขาจนลุกขึ้นไม่ได้อีกต่อไป”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - เขากล่าวถึงเผ่าโยเซฟว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรดินแดนของเขา ด้วยน้ำค้างล้ำเลิศจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน และด้วยห้วงน้ำลึกเบื้องล่าง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - ด้วยผลผลิตยอดเยี่ยมจากดวงตะวัน และด้วยผลผลิตที่ดีที่สุดตามฤดูกาล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - ด้วยของขวัญเลอเลิศจากภูเขาดึกดำบรรพ์ ด้วยความสมบูรณ์พูนผลจากภูเขาอันถาวรนิรันดร์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - ด้วยของขวัญล้ำค่าจากผืนแผ่นดิน และความอุดมสมบูรณ์จากพื้นพสุธา และด้วยความโปรดปรานจากพระองค์ผู้ประทับในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ขอให้พรทั้งปวงนี้มาเหนือโยเซฟ เหนือเจ้านายในหมู่พี่น้อง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - ผู้ทรงไว้ซึ่งศักดาดุจลูกวัวหนุ่มหัวปี เขาสัตว์ของเขาคือเขาของวัวป่า เขาจะขวิดประชาชาติทั้งหลายด้วยเขาสัตว์เหล่านั้น แม้ประชาชาติที่อยู่สุดปลายแผ่นดินโลก นี่แหละคือชนเอฟราอิมนับหมื่น และชนมนัสเสห์นับพัน”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18 - เขากล่าวถึงเผ่าเศบูลุนว่า “จงร่าเริงยินดีเถิด เศบูลุนเอ๋ย เมื่อท่านออกไป และท่านอิสสาคาร์เอ๋ย จงร่าเริงยินดีในเต็นท์ของท่าน
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:19 - พวกเขาจะเรียกประชากรมาชุมนุมที่ภูเขา และถวายเครื่องบูชาแห่งความชอบธรรมที่นั่น เขาจะเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์แห่งท้องทะเล เฉลิมฉลองทรัพย์สมบัติที่ซ่อนไว้ในหาดทราย”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:20 - เขากล่าวถึงเผ่ากาดว่า “ขอถวายสรรเสริญแด่พระองค์ผู้ทรงขยายอาณาจักรของกาด! กาดมีชีวิตอยู่เยี่ยงราชสีห์ ซึ่งฉีกทึ้งแขนหรือศีรษะ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:21 - เขาเลือกดินแดนดีเยี่ยมที่สุดไว้เป็นของตนเอง ส่วนที่เป็นของผู้นำถูกสงวนไว้สำหรับเขา เมื่อบรรดาหัวหน้าของประชาชนมาชุมนุมกัน เขาทำให้ลุล่วงตามพระประสงค์อันชอบธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้า และตามพระวินิจฉัยเกี่ยวกับอิสราเอล”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:22 - เขากล่าวถึงเผ่าดานว่า “ดานเหมือนลูกสิงห์ โลดแล่นออกมาจากบาชาน”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 - เขากล่าวถึงเผ่านัฟทาลีว่า “นัฟทาลีอิ่มเอิบด้วยความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า และเต็มเปี่ยมด้วยพระพรของพระองค์ เขาจะครอบครองไปทางใต้ถึงทะเลสาบ”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:24 - เขากล่าวถึงเผ่าอาเชอร์ว่า “อาเชอร์เป็นลูกที่ได้รับพรมากที่สุด ขอให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของพี่ๆ น้องๆ และให้เขาล้างเท้าด้วยน้ำมัน
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:25 - ดาลประตูของท่านจะเป็นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ และพลังวังชาของท่านจะอยู่คู่คืนวันของท่าน
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - “ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระเจ้าแห่งเยชูรุน ผู้ประทับอยู่บนฟ้าสวรรค์เพื่อช่วยท่าน ผู้ประทับเหนือเมฆด้วยพระบารมีของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:27 - พระเจ้าองค์นิรันดร์เป็นที่ลี้ภัยของท่าน และเบื้องล่างคืออ้อมแขนอันนิรันดร์ พระองค์จะทรงขับไล่เหล่าศัตรูออกไปให้พ้นหน้าท่าน ตรัสว่า ‘จงทำลายพวกเขาเสีย!’
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:28 - ฉะนั้นอิสราเอลจะอาศัยอยู่โดยสวัสดิภาพ ธารน้ำพุของยาโคบมั่นคง ในดินแดนแห่งข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ ที่ซึ่งฟ้าสวรรค์หยาดรินน้ำค้างลงมา
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:29 - อิสราเอลเอ๋ย! พระพรนี้มีแก่ท่าน ใครเล่าเสมอเหมือนท่าน? ชนชาติซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้รอด พระองค์ทรงเป็นโล่และเป็นผู้ช่วยท่าน และทรงเป็นดาบอันรุ่งโรจน์ของท่าน ศัตรูของท่านจะก้มหัวให้ท่าน และท่านจะย่ำบนที่สูง ของเขา”
  • กันดารวิถี 34:14 - เพราะเผ่ารูเบน กาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้รับมรดกของตนแล้ว
  • กันดารวิถี 34:15 - สองเผ่าและครึ่งเผ่านี้ได้รับดินแดนทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนแห่งเยรีโคเป็นมรดก”
  • กันดารวิถี 34:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
  • กันดารวิถี 34:17 - “ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ที่จะทำหน้าที่จัดสรรมรดกในดินแดนคือ ปุโรหิตเอเลอาซาร์ โยชูวาบุตรนูน
  • กันดารวิถี 34:18 - และผู้นำซึ่งได้รับแต่งตั้งจากแต่ละเผ่า เพื่อช่วยแบ่งสรรดินแดนนั้น
  • กันดารวิถี 34:19 - รายชื่อของพวกเขา ได้แก่ คาเลบบุตรเยฟุนเนห์ จากเผ่ายูดาห์
  • กันดารวิถี 34:20 - เชมูเอลบุตรอัมมีฮูด จากเผ่าสิเมโอน
  • กันดารวิถี 34:21 - เอลีดาดบุตรคิสโลน จากเผ่าเบนยามิน
  • กันดารวิถี 34:22 - บุคคีบุตรโยกลี ผู้นำจากเผ่าดาน
  • กันดารวิถี 34:23 - ฮันนีเอลบุตรเอโฟด ผู้นำจากเผ่ามนัสเสห์บุตรโยเซฟ
  • กันดารวิถี 34:24 - เคมูเอลบุตรชิฟทาน ผู้นำจากเผ่าเอฟราอิมบุตรโยเซฟ
  • กันดารวิถี 34:25 - เอลีซาฟานบุตรปารนาค ผู้นำจากเผ่าเศบูลุน
  • กันดารวิถี 34:26 - ปัลทีเอลบุตรอัสซาน ผู้นำจากเผ่าอิสสาคาร์
  • กันดารวิถี 34:27 - อาหิฮูดบุตรเชโลมี ผู้นำจากเผ่าอาเชอร์
  • กันดารวิถี 34:28 - เปดาเฮลบุตรอัมมีฮูด ผู้นำจากเผ่านัฟทาลี”
  • กันดารวิถี 2:3 - ด้านตะวันออกของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่ายูดาห์ภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคือนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
  • กันดารวิถี 2:4 - จำนวนพล 74,600 คน
  • กันดารวิถี 2:5 - ถัดมาเป็นที่ตั้งค่ายของเผ่าอิสสาคาร์ ผู้นำคือเนธันเอลบุตรศุอาร์
  • กันดารวิถี 2:6 - จำนวนพล 54,400 คน
  • กันดารวิถี 2:7 - จากนั้นได้แก่เผ่าเศบูลุน ผู้นำคือเอลีอับบุตรเฮโลน
  • กันดารวิถี 2:8 - จำนวนพล 57,400 คน
  • กันดารวิถี 2:9 - รวมพลแนวรบด้านเผ่ายูดาห์ตามหมู่เหล่าของพวกเขาได้ 186,400 คน กลุ่มนี้จะเคลื่อนกำลังออกไปเป็นกลุ่มแรก
  • กันดารวิถี 2:10 - ด้านใต้ของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่ารูเบนภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคือเอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
  • กันดารวิถี 2:11 - จำนวนพล 46,500 คน
  • กันดารวิถี 2:12 - ถัดมาคือเผ่าสิเมโอน ผู้นำคือเชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
  • กันดารวิถี 2:13 - จำนวนพล 59,300 คน
  • กันดารวิถี 2:14 - ถัดมาคือเผ่ากาด ผู้นำคือเอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
  • กันดารวิถี 2:15 - จำนวนพล 45,650 คน
  • กันดารวิถี 2:16 - รวมพลแนวรบด้านเผ่ารูเบนตามหมู่เหล่าของพวกเขาได้ 151,450 คน กลุ่มนี้จะเคลื่อนกำลังเป็นกลุ่มที่สอง
  • กันดารวิถี 2:17 - ส่วนเต็นท์นัดพบและค่ายของเผ่าเลวีจะตั้งอยู่กลางค่าย พวกเขาจะเคลื่อนออกตามลำดับเดียวกับการตั้งค่าย แต่ละกลุ่มอยู่ในตำแหน่งของตนเองภายใต้ธงประจำกองของตน
  • กันดารวิถี 2:18 - ด้านตะวันตกของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่าเอฟราอิมภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคือเอลีชามาบุตรอัมมีฮูด
  • กันดารวิถี 2:19 - จำนวนพล 40,500 คน
  • กันดารวิถี 2:20 - ถัดมาคือเผ่ามนัสเสห์ ผู้นำคือกามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
  • กันดารวิถี 2:21 - จำนวนพล 32,200 คน
  • กันดารวิถี 2:22 - ถัดมาคือเผ่าเบนยามิน ผู้นำคืออาบีดันบุตรกิเดโอนี
  • กันดารวิถี 2:23 - จำนวนพล 35,400 คน
  • กันดารวิถี 2:24 - รวมพลในแนวรบด้านเผ่าเอฟราอิมตามหมู่เหล่าของพวกเขาได้ 108,100 คน พวกเขาจะเคลื่อนพลเป็นกลุ่มที่สาม
  • กันดารวิถี 2:25 - ด้านเหนือของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่าดานภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคืออาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
  • กันดารวิถี 2:26 - จำนวนพล 62,700 คน
  • กันดารวิถี 2:27 - ถัดมาคือเผ่าอาเชอร์ ผู้นำคือปากีเอลบุตรโอคราน
  • กันดารวิถี 2:28 - จำนวนพล 41,500 คน
  • กันดารวิถี 2:29 - ถัดมาคือเผ่านัฟทาลี ผู้นำคืออาหิราบุตรเอนัน
  • กันดารวิถี 2:30 - จำนวนพล 53,400 คน
  • กันดารวิถี 2:31 - รวมพลในแนวรบด้านเผ่าดานได้ 157,600 คน เวลาเดินทางจะอยู่รั้งท้ายขบวนภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา
  • กันดารวิถี 2:32 - ทั้งหมดนี้คือชนอิสราเอลนับตามครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ในค่าย ตามหมู่เหล่ามีจำนวนทั้งสิ้น 603,550 คน
  • กันดารวิถี 2:33 - ทั้งนี้ไม่นับคนเลวีรวมกับชนอิสราเอลอื่นๆ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาแก่โมเสส
  • เอเสเคียล 48:1 - “นี่คือรายชื่อของเผ่าต่างๆ คือที่ชายแดนด้านเหนือ ดานจะได้รับส่วนหนึ่งตามเส้นทางเฮทโลนถึงเลโบฮามัท และฮาซาร์เอนัน และพรมแดนด้านเหนือของดามัสกัส ถัดจากฮามัทจะเป็นส่วนของเขตแดนจากด้านตะวันออกไปด้านตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:2 - “อาเชอร์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของดานจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:3 - “นัฟทาลีจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของอาเชอร์จากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:4 - “มนัสเสห์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของนัฟทาลีจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:5 - “เอฟราอิมจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของมนัสเสห์จากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:6 - “รูเบนจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของเอฟราอิมจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:7 - “ยูดาห์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของรูเบนจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:8 - “ถัดจากเขตแดนของยูดาห์จากตะวันออกถึงตะวันตกจะเป็นส่วนพิเศษที่เจ้าต้องถวาย ซึ่งมีความกว้าง 25,000 คิวบิท ความยาวจากตะวันออกถึงตะวันตกจะเท่ากับส่วนของแต่ละเผ่า สถานนมัสการจะอยู่ที่ศูนย์กลางของส่วนนี้
  • เอเสเคียล 48:9 - “ส่วนพิเศษซึ่งเจ้าจะต้องถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านี้ยาว 25,000 คิวบิทและกว้าง 10,000 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:10 - ต่อไปนี้เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์สำหรับบรรดาปุโรหิต มีความยาววัดขึ้นไปทางเหนือ 25,000 คิวบิท ความกว้างด้านตะวันตก 10,000 คิวบิท ความกว้างด้านตะวันออก 10,000 คิวบิท และความยาวทางทิศใต้ 25,000 คิวบิท โดยมีสถานนมัสการขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นศูนย์กลาง
  • เอเสเคียล 48:11 - ที่ส่วนนี้สำหรับปุโรหิตเชื้อสายศาโดกที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ ซึ่งซื่อสัตย์ในการปรนนิบัติรับใช้เรา ไม่ได้หลงผิดไปเหมือนชนเลวีอื่นๆ เมื่อครั้งชนอิสราเอลหลงไปจากพระเจ้า
  • เอเสเคียล 48:12 - ที่ส่วนนี้เป็นของขวัญพิเศษซึ่งยกให้แก่พวกเขา เป็นส่วนที่บริสุทธิ์ที่สุดในเขตศักดิ์สิทธิ์ติดกับเขตแดนของชนเลวี
  • เอเสเคียล 48:13 - “ใกล้กับเขตปุโรหิตนั้น เป็นที่ดินส่วนของชนเลวียาว 25,000 คิวบิท และกว้าง 10,000 คิวบิท ความยาวทั้งหมดของมันจะเป็น 25,000 คิวบิทและกว้าง 10,000 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:14 - ที่ดินนั้นห้ามซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน เป็นผืนดินที่ดีเยี่ยม อย่าให้ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นเลย เพราะเป็นที่บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เอเสเคียล 48:15 - “ส่วนที่เหลือซึ่งกว้าง 5,000 คิวบิท ยาว 25,000 คิวบิท เป็นที่สาธารณประโยชน์ของเมืองนั้น เป็นที่สำหรับบ้านเรือนและทุ่งหญ้า ตัวเมืองอยู่ใจกลาง
  • เอเสเคียล 48:16 - เมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสคือกว้างยาวด้านละ 4,500 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:17 - ที่โล่งสำหรับเป็นทุ่งหญ้าอยู่รอบเมือง แต่ละด้านทั้งสี่ทิศมีระยะด้านละ 250 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:18 - เนื้อที่ที่เหลือติดกับเขตศักดิ์สิทธิ์ ความยาวคู่ขนานกัน วัดทางตะวันออกได้ 10,000 คิวบิท วัดทางตะวันตกได้ 10,000 คิวบิท ผลผลิตที่ได้จากแผ่นดินนี้ใช้เป็นอาหารสำหรับผู้ทำงานในตัวเมือง
  • เอเสเคียล 48:19 - คนงานจากตัวเมืองที่ทำไร่ไถนาบนที่ดินผืนนี้มาจากอิสราเอลทุกเผ่า
  • เอเสเคียล 48:20 - ที่ดินส่วนนี้ทั้งหมดจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 25,000 คิวบิท นี่เป็นของถวายพิเศษที่เจ้าจะกันไว้เป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับที่ดินของเมืองนี้ด้วย
  • เอเสเคียล 48:21 - “ส่วนที่เหลืออยู่สองด้านของเขตศักดิ์สิทธิ์และบริเวณของตัวเมืองจะเป็นของเจ้านาย กินเนื้อที่ไปทางตะวันออกจากระยะ 25,000 คิวบิทของเขตศักดิ์สิทธิ์ไปถึงชายแดนตะวันออก และไปทางตะวันตกจากระยะ 25,000 คิวบิทไปยังชายแดนด้านตะวันตก ทั้งสองบริเวณนี้ซึ่งความยาวคู่ขนานกับที่ดินของเผ่าต่างๆ เป็นของเจ้านาย โดยมีเขตศักดิ์สิทธิ์กับสถานนมัสการของพระวิหารอยู่ที่ใจกลาง
  • เอเสเคียล 48:22 - ฉะนั้นที่ดินของชนเลวี และบริเวณของตัวเมืองจะอยู่ตรงกลางพื้นที่ซึ่งเป็นของเจ้านาย ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของยูดาห์กับของเบนยามิน
  • เอเสเคียล 48:23 - “สำหรับเผ่าต่างๆ ที่เหลือ เบนยามินจะได้รับส่วนหนึ่ง ที่ดินของเขาจะทอดยาวจากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:24 - “สิเมโอนจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของเบนยามินจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:25 - “อิสสาคาร์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของสิเมโอนจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:26 - “เศบูลุนจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของอิสสาคาร์จากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:27 - “กาดจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของเศบูลุนจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:28 - “อาณาเขตด้านใต้ของกาด คือจากทามาร์มุ่งลงทางใต้ ถึงห้วงน้ำเมรีบาห์คาเดช แล้วไปตามลำน้ำแห่งอียิปต์ถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • เอเสเคียล 48:29 - “จงแบ่งสรรปันส่วนดินแดนตามนี้แก่เผ่าต่างๆ ของอิสราเอล เพื่อเป็นมรดกตกทอดของเขา และนี่เป็นส่วนของพวกเขา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
  • เอเสเคียล 48:30 - “ต่อไปนี้เป็นประตูเมืองของนครนั้น เริ่มจากทางเหนือซึ่งยาว 4,500 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:31 - ประตูต่างๆ ของเมืองนี้ตั้งชื่อตามเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล สามประตูทางด้านเหนือได้แก่ ประตูรูเบน ประตูยูดาห์ และประตูเลวี
  • เอเสเคียล 48:32 - “ทางด้านตะวันออกซึ่งยาว 4,500 คิวบิท มีสามประตูคือ ประตูโยเซฟ ประตูเบนยามิน และประตูดาน
  • เอเสเคียล 48:33 - “ทางด้านใต้ซึ่งวัดได้ 4,500 คิวบิท มีสามประตูคือ ประตูสิเมโอน ประตูอิสสาคาร์ และประตูเศบูลุน
  • เอเสเคียล 48:34 - “ด้านตะวันตกซึ่งยาว 4,500 คิวบิท มีสามประตูคือ ประตูกาด ประตูอาเชอร์ และประตูนัฟทาลี
  • เอเสเคียล 48:35 - “วัดระยะรอบเมืองได้ 18,000 คิวบิท “และนับแต่นี้ไปนครนั้นจะได้ชื่อว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตที่นี่’ ”
  • วิวรณ์ 7:4 - แล้วข้าพเจ้าได้ยินว่าจำนวนผู้รับการประทับตราคือ 144,000 คนจากทุกเผ่าของอิสราเอล
  • วิวรณ์ 7:5 - จากเผ่ายูดาห์ 12,000 คน ได้รับการประทับตรา จากเผ่ารูเบน 12,000 คน จากเผ่ากาด 12,000 คน
  • วิวรณ์ 7:6 - จากเผ่าอาเชอร์ 12,000 คน จากเผ่านัฟทาลี 12,000 คน จากเผ่ามนัสเสห์ 12,000 คน
  • วิวรณ์ 7:7 - จากเผ่าสิเมโอน 12,000 คน จากเผ่าเลวี 12,000 คน จากเผ่าอิสสาคาร์ 12,000 คน
  • วิวรณ์ 7:8 - จากเผ่าเศบูลุน 12,000 คน จากเผ่าโยเซฟ 12,000 คน จากเผ่าเบนยามิน 12,000 คน
  • กันดารวิถี 7:12 - ในวันแรกนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับแห่งเผ่ายูดาห์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:13 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรม ทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:14 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัม บรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:15 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:16 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:17 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัว สำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
  • กันดารวิถี 7:18 - วันที่สอง เนธันเอลบุตรศุอาร์ผู้นำเผ่าอิสสาคาร์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:19 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:20 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:21 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:22 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:23 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเนธันเอลบุตรศุอาร์
  • กันดารวิถี 7:24 - วันที่สาม เอลีอับบุตรเฮโลนผู้นำเผ่าเศบูลุนนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:25 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:26 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:27 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:28 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:29 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลีอับบุตรเฮโลน
  • กันดารวิถี 7:30 - วันที่สี่ เอลีซูร์บุตรเชเดเออร์ผู้นำเผ่ารูเบนนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:31 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:32 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:33 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:34 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:35 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
  • กันดารวิถี 7:36 - วันที่ห้า เชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัยผู้นำเผ่าสิเมโอนนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:37 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:38 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:39 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:40 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:41 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
  • กันดารวิถี 7:42 - วันที่หก เอลียาสาฟบุตรเดอูเอลผู้นำเผ่ากาดนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:43 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:44 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:45 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:46 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:47 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
  • กันดารวิถี 7:48 - วันที่เจ็ด เอลีชามาบุตรอัมมีฮูดผู้นำเผ่าเอฟราอิมนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:49 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:50 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:51 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:52 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:53 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลีชามาบุตรอัมมีฮูด
  • กันดารวิถี 7:54 - วันที่แปด กามาลิเอลบุตรเปดาซูร์ผู้นำเผ่ามนัสเสห์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:55 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:56 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:57 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:58 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:59 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากกามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
  • กันดารวิถี 7:60 - วันที่เก้า อาบีดันบุตรกิเดโอนีผู้นำเผ่าเบนยามินนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:61 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:62 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:63 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:64 - แพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:65 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากอาบีดันบุตรกิเดโอนี
  • กันดารวิถี 7:66 - วันที่สิบ อาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัยผู้นำเผ่าดานนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:67 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:68 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:69 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:70 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:71 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากอาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
  • กันดารวิถี 7:72 - วันที่สิบเอ็ด ปากีเอลบุตรโอครานผู้นำเผ่าอาเชอร์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:73 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:74 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:75 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:76 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:77 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากปากีเอลบุตรโอคราน
  • กันดารวิถี 7:78 - วันที่สิบสอง อาหิราบุตรเอนันผู้นำเผ่านัฟทาลีนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:79 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:80 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:81 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:82 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:83 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากอาหิราบุตรเอนัน
  • กันดารวิถี 7:84 - สิ่งเหล่านี้คือของถวายจากบรรดาผู้นำอิสราเอล เพื่อการถวายแท่นบูชาเมื่อแท่นบูชาได้รับการเจิมคือ จานเงินสิบสองใบ อ่างประพรมทำจากเงินสิบสองใบ และจานทองคำสิบสองใบ
  • กันดารวิถี 7:85 - จานเงินแต่ละใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินแต่ละใบหนักประมาณ 800 กรัม รวมแล้วหนักประมาณ 28 กิโลกรัม
  • กันดารวิถี 7:86 - จานทองคำบรรจุเครื่องหอมสิบสองใบแต่ละใบหนักประมาณ 110 กรัม รวมแล้วหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม
  • กันดารวิถี 7:87 - สัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องเผาบูชาทั้งหมดมีวัวหนุ่มสิบสองตัว แกะผู้สิบสองตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบสิบสองตัวพร้อมด้วยเครื่องธัญบูชา มีแพะผู้สิบสองตัวใช้สำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:88 - สัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องสันติบูชาทั้งหมดมีวัวผู้ 24 ตัว แกะผู้ 60 ตัว แพะผู้ 60 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบ 60 ตัว ทั้งหมดนี้คือของถวายเพื่อการถวายแท่นบูชาหลังจากแท่นบูชาได้รับการเจิม
  • กันดารวิถี 7:89 - เมื่อโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าเขาได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับเขาจากพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญาระหว่างเครูบทั้งสอง พระองค์ได้ตรัสกับเขาจากที่นั่น
  • 2ซามูเอล 16:21 - อาหิโธเฟลจึงทูลว่า “ขอทรงไปหลับนอนกับบรรดาสนมของราชบิดาซึ่งเฝ้าวังอยู่ แล้วอิสราเอลทั้งปวงจะได้ทราบว่าฝ่าพระบาททรงเป็นที่เกลียดชังของราชบิดายิ่งนัก เพื่อคนของฝ่าพระบาทจะได้มีใจฮึกเหิมยิ่งขึ้น”
  • 2ซามูเอล 16:22 - ฉะนั้นพวกเขาจึงตั้งเต็นท์ขึ้นบนดาดฟ้าของวัง ให้อับซาโลมเข้าไปนอนกับบรรดาสนมของราชบิดาต่อหน้าต่อตาอิสราเอลทั้งปวง
  • ปฐมกาล 30:5 - นางได้ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่เขา
  • ปฐมกาล 30:6 - แล้วราเชลกล่าวว่า “พระเจ้าทรงตัดสินให้ฉันชนะ พระองค์ทรงสดับฟังคำวิงวอนของฉันและประทานลูกชายแก่ฉัน” เพราะเหตุนี้นางจึงตั้งชื่อเขาว่าดาน
  • ปฐมกาล 30:7 - แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่งและคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:8 - แล้วราเชลกล่าวว่า “ฉันได้ต่อสู้กับพี่สาวอย่างหนักมาตลอดและฉันก็ชนะแล้ว” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่านัฟทาลี
  • ปฐมกาล 30:9 - เมื่อเลอาห์เห็นว่าตนไม่มีลูกอีก จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:10 - ศิลปาห์ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:11 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “โชคดีอะไรอย่างนี้!” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ากาด
  • ปฐมกาล 30:12 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็ให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองแก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:13 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “ฉันสุขใจจริงๆ! พวกผู้หญิงจะเรียกฉันว่าเป็นสุข” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอาเชอร์
  • ปฐมกาล 30:14 - วันหนึ่งในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่ทุ่งนาและพบต้นดูดาอิม จึงนำมาให้เลอาห์ผู้เป็นมารดา ราเชลพูดกับเลอาห์ว่า “ขอดูดาอิมของลูกชายพี่ให้ฉันบ้างเถิด”
  • ปฐมกาล 30:15 - แต่เลอาห์ตอบนางว่า “เจ้าเอาสามีของฉันไปยังไม่พออีกหรือ? แล้วยังจะมาเอาดูดาอิมของลูกฉันอีกหรือ?” ราเชลกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ยาโคบไปนอนกับพี่คืนนี้ได้ แลกกับดูดาอิมของลูกชายพี่”
  • ปฐมกาล 30:16 - เย็นวันนั้นเมื่อยาโคบกลับมาจากทุ่งนา เลอาห์ก็ออกไปพบและพูดว่า “ท่านต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันเอาดูดาอิมของลูกเป็นสินจ้างแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง
  • ปฐมกาล 30:17 - พระเจ้าทรงฟังเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนที่ห้า
  • ปฐมกาล 30:18 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานรางวัลให้ฉันเพราะฉันได้ยกสาวใช้ให้สามี” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอิสสาคาร์
  • ปฐมกาล 30:19 - เลอาห์ได้ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรชายคนที่หกให้แก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:20 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานของขวัญล้ำค่าแก่ฉัน คราวนี้สามีจะยกย่องฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้แก่เขาถึงหกคน” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเศบูลุน
  • ปฐมกาล 30:21 - ต่อมาภายหลัง นางได้คลอดบุตรสาวคนหนึ่งและตั้งชื่อว่าดีนาห์
  • ปฐมกาล 30:22 - แล้วพระเจ้าทรงระลึกถึงราเชล พระองค์ทรงฟังนางและให้นางมีบุตร
  • ปฐมกาล 30:23 - นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “พระเจ้าทรงลบล้างความอับอายของฉันแล้ว”
  • ปฐมกาล 30:24 - นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง”
  • วิวรณ์ 21:14 - กำแพงนครนั้นมีสิบสองฐานและบนฐานเหล่านั้นจารึกชื่ออัครทูตทั้งสิบสองคนของพระเมษโปดก
  • กันดารวิถี 1:20 - จากวงศ์วานของรูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอล ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อทีละคนตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:21 - จำนวนพลจากเผ่ารูเบน 46,500 คน
  • กันดารวิถี 1:22 - จากวงศ์วานของสิเมโอน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อทีละคนตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:23 - จำนวนพลจากเผ่าสิเมโอน 59,300 คน
  • กันดารวิถี 1:24 - จากวงศ์วานของกาด ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:25 - จำนวนพลจากเผ่ากาด 45,650 คน
  • กันดารวิถี 1:26 - จากวงศ์วานของยูดาห์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:27 - จำนวนพลจากเผ่ายูดาห์ 74,600 คน
  • กันดารวิถี 1:28 - จากวงศ์วานของอิสสาคาร์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:29 - จำนวนพลจากเผ่าอิสสาคาร์ 54,400 คน
  • กันดารวิถี 1:30 - จากวงศ์วานของเศบูลุน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:31 - จำนวนพลจากเผ่าเศบูลุน 57,400 คน
  • กันดารวิถี 1:32 - จากวงศ์วานของเอฟราอิมบุตรโยเซฟ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:33 - จำนวนพลจากเผ่าเอฟราอิม 40,500 คน
  • กันดารวิถี 1:34 - จากวงศ์วานของมนัสเสห์บุตรโยเซฟ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:35 - จำนวนพลจากเผ่ามนัสเสห์ 32,200 คน
  • กันดารวิถี 1:36 - จากวงศ์วานของเบนยามิน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:37 - จำนวนพลจากเผ่าเบนยามิน 35,400 คน
  • กันดารวิถี 1:38 - จากวงศ์วานของดาน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:39 - จำนวนพลจากเผ่าดาน 62,700 คน
  • กันดารวิถี 1:40 - จากวงศ์วานของอาเชอร์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:41 - จำนวนพลจากเผ่าอาเชอร์ 41,500 คน
  • กันดารวิถี 1:42 - จากวงศ์วานของนัฟทาลี ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:43 - จำนวนพลจากเผ่านัฟทาลี 53,400 คน
  • กันดารวิถี 1:44 - ทั้งหมดนี้คือจำนวนผู้ชายที่โมเสส อาโรนและผู้นำทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอลได้นับไว้ แต่ละคนเป็นตัวแทนครอบครัวของเขา
  • กันดารวิถี 1:45 - คือผู้ชายอิสราเอลอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ร่วมทัพได้ ได้ถูกนับไว้ตามครอบครัวของเขา
  • กันดารวิถี 1:46 - รวมทั้งสิ้น 603,550 คน
  • ปฐมกาล 49:1 - ยาโคบจึงเรียกบุตรชายทั้งหมดมากล่าวว่า “ล้อมวงกันเข้ามาเถิด เราจะบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าในภายภาคหน้า
  • ปฐมกาล 49:2 - “จงล้อมวงกันเข้ามาฟังเรา ลูกๆ ของยาโคบเอ๋ย มาฟังอิสราเอลพ่อของเจ้าเถิด
  • ปฐมกาล 49:3 - “รูเบน เจ้าเป็นลูกหัวปีของเรา เจ้าเป็นอำนาจและเป็นผลแรกแห่งพละกำลังของเรา เจ้าเป็นยอดแห่งเกียรติยศและพลังอำนาจ
  • ปฐมกาล 49:4 - แต่เจ้าบ้าระห่ำเหมือนน้ำเชี่ยว เจ้าจะไม่ได้เป็นยอดอีกต่อไป เพราะเจ้าล่วงล้ำเข้าไปถึงเตียงของพ่อ เข้าไปถึงที่นอนของเรา และทำให้ที่นั่นแปดเปื้อนมลทิน
  • ปฐมกาล 49:5 - “สิเมโอนกับเลวีเป็นพี่น้องกัน ดาบ ของพวกเขาเป็นอาวุธเพื่อทำการอำมหิต
  • ปฐมกาล 49:6 - อย่าให้เราเป็นพวกเดียวกันกับเขา อย่าให้เราเข้าร่วมในที่ชุมนุมของพวกเขา เพราะพวกเขาฆ่าคนเมื่อพวกเขาโกรธ และตัดเอ็นขาวัวผู้เล่นตามความพอใจของเขา
  • ปฐมกาล 49:7 - คำสาปแช่งจะตกอยู่แก่ความโกรธกริ้วอันเหี้ยมเกรียมของเขา และตกอยู่แก่ความเดือดดาลอันโหดร้ายของเขา! เราจะทำให้พวกเขาปะปนไปทั่วดินแดนของยาโคบ และให้พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:8 - “ยูดาห์ เอ๋ย พี่น้องของเจ้าจะสรรเสริญเจ้า มือของเจ้าจะขย้ำที่คอของศัตรู พี่น้องร่วมสายโลหิตจะก้มกราบเจ้า
  • ปฐมกาล 49:9 - ยูดาห์เอ๋ย เจ้าคือลูกสิงโต ลูกของเราเอ๋ย เจ้ากลับมาจากกินเหยื่อ เขาหมอบลงเหมือนราชสีห์ เขาเอนลงอย่างนางสิงห์ ใครจะกล้าไปแหย่เขาได้?
  • ปฐมกาล 49:10 - คทาจะไม่พ้นจากมือของยูดาห์ อำนาจปกครองจะไม่ขาดไปจากเชื้อสายของเขา จนกว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงจะมาถึง บรรดาชนชาติจะเชื่อฟังผู้นั้น
  • ปฐมกาล 49:11 - เขาจะผูกลาไว้ที่เถาองุ่น ผูกลูกลาไว้ที่กิ่งที่ดีที่สุด เขาจะซักล้างอาภรณ์ของตนในเหล้าองุ่น ซักเสื้อผ้าในน้ำองุ่นสีเลือด
  • ปฐมกาล 49:12 - ตาของเขาแวววาวกว่าเหล้าองุ่น ฟันของเขาขาวยิ่งกว่าน้ำนม
  • ปฐมกาล 49:13 - “เศบูลุนจะอาศัยอยู่ริมฝั่งทะเล และกลายเป็นท่าเทียบเรือ ชายแดนของเขาจะขยายไปจนจดไซดอน
  • ปฐมกาล 49:14 - “อิสสาคาร์เป็นเหมือนลาที่แข็งแรง นอนลงทั้งที่แบกถุงสัมภาระทั้งสองอยู่
  • ปฐมกาล 49:15 - เมื่อเขาเห็นว่าที่พักพิงดี และแผ่นดินน่าอภิรมย์เพียงไร เขาก็จะย่อบ่าของตนลงแบกภาระ และยอมเป็นทาสรับใช้
  • ปฐมกาล 49:16 - “ดาน จะให้ความเป็นธรรมแก่พลเมืองของตน เหมือนให้แก่เผ่าอื่นๆ ในอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:17 - เขาจะเป็นเหมือนงูตามริมทาง เหมือนงูพิษที่อยู่ตามถนน มันจะฉกส้นเท้าม้า ให้คนขี่ตกจากหลังม้า
  • ปฐมกาล 49:18 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์รอคอยการช่วยกู้ของพระองค์
  • ปฐมกาล 49:19 - “กองโจรจะเข้าโจมตีกาด แต่กาดจะโต้ตอบและดักตีส้นเท้าคนเหล่านั้น
  • ปฐมกาล 49:20 - “อาหารของอาเชอร์อุดมสมบูรณ์ เขาจะเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศที่คู่ควรกับกษัตริย์
  • ปฐมกาล 49:21 - “นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมียที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ ตกลูกอ่อนน่ารักมากมาย
  • ปฐมกาล 49:22 - “โยเซฟเป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผล เป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผลอยู่ใกล้น้ำพุ กิ่งเถาของมันเลื้อยข้ามกำแพง
  • ปฐมกาล 49:23 - พลธนูโจมตีเขาด้วยความเคียดแค้น ยิงเข้าใส่เขาด้วยใจเกลียดชัง
  • ปฐมกาล 49:24 - แต่ธนูของเขานิ่งไม่สั่นไหว แขนของเขาแข็งแรงไม่อ่อนล้า เนื่องด้วยพระหัตถ์ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ เนื่องด้วยพระผู้เลี้ยง พระศิลาของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:25 - เนื่องด้วยพระเจ้าของบิดาเจ้าผู้ทรงช่วยเจ้า เนื่องด้วยองค์ทรงฤทธิ์ผู้ทรงอวยพรเจ้า ด้วยพรแห่งสวรรค์เบื้องบน พรแห่งที่ลึกเบื้องล่าง พรแห่งอ้อมอกและครรภ์
  • ปฐมกาล 49:26 - พรจากบิดาของเจ้ายิ่งใหญ่ กว่าพรแห่งภูเขาดึกดำบรรพ์ กว่า ความอุดมแห่งเนินเขาเก่าแก่ ขอพระพรเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ อยู่บนกระหม่อมของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลาง พี่น้องของเจ้า
  • ปฐมกาล 49:27 - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • ปฐมกาล 49:28 - ทั้งหมดนี้คืออิสราเอลสิบสองเผ่า และนี่เป็นคำพูดของยาโคบบิดาของพวกเขาเมื่ออวยพรลูกๆ โดยให้พรแต่ละคนตามที่เขาเห็นควร
  • กันดารวิถี 26:57 - ต่อไปนี้คือเผ่าเลวีนับตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเกอร์โชนจากเกอร์โชน ตระกูลโคฮาทจากโคฮาท ตระกูลเมรารีจากเมรารี
  • กันดารวิถี 26:58 - ต่อไปนี้ก็คือตระกูลของเลวีด้วย ได้แก่ ตระกูลลิบนี ตระกูลเฮโบรน ตระกูลมาห์ลี ตระกูลมูชี ตระกูลโคราห์ (โคฮาทเป็นบรรพบุรุษของอัมราม
  • กันดารวิถี 26:59 - ภรรยาของอัมรามชื่อโยเคเบดผู้เป็นเชื้อสายของเลวี ซึ่งเป็นบุตรสาวของชาวเลวี ที่เกิดในอียิปต์ อัมรามมีบุตรชายคืออาโรนกับโมเสส และบุตรสาวชื่อมิเรียม
  • กันดารวิถี 26:60 - อาโรนมีบุตรชื่อ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์
  • กันดารวิถี 26:61 - แต่นาดับและอาบีฮูสิ้นชีวิตไปเมื่อครั้งจุดไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า)
  • กันดารวิถี 26:62 - จำนวนผู้ชายทั้งหมดในตระกูลเลวีอายุหนึ่งเดือนขึ้นไปนับได้ 23,000 คน แต่ไม่ได้นับรวมเข้าในสำมะโนประชากรของอิสราเอล เพราะชาวเลวีไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเหมือนตระกูลอื่นๆ
  • 1พงศาวดาร 2:1 - บุตรของอิสราเอล ได้แก่ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
  • 1พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ( นรธ.4:18-22 ; มธ.1:3-6 )
  • กันดารวิถี 1:5 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้นำที่จะมาช่วยเจ้าได้แก่ จากเผ่ารูเบนคือ เอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
  • กันดารวิถี 1:6 - จากเผ่าสิเมโอนคือ เชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
  • กันดารวิถี 1:7 - จากเผ่ายูดาห์คือ นาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
  • กันดารวิถี 1:8 - จากเผ่าอิสสาคาร์คือ เนธันเอลบุตรศุอาร์
  • กันดารวิถี 1:9 - จากเผ่าเศบูลุนคือ เอลีอับบุตรเฮโลน
  • กันดารวิถี 1:10 - จากบุตรของโยเซฟคือ จากเผ่าเอฟราอิมคือ เอลีชามาบุตรอัมมีฮูด จากเผ่ามนัสเสห์คือ กามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
  • กันดารวิถี 1:11 - จากเผ่าเบนยามินคือ อาบีดันบุตรกิเดโอนี
  • กันดารวิถี 1:12 - จากเผ่าดานคือ อาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
  • กันดารวิถี 1:13 - จากเผ่าอาเชอร์คือ ปากีเอลบุตรโอคราน
  • กันดารวิถี 1:14 - จากเผ่ากาดคือ เอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
  • กันดารวิถี 1:15 - จากเผ่านัฟทาลีคือ อาหิราบุตรเอนัน”
  • อพยพ 1:1 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อบุตรชายของอิสราเอล ซึ่งติดตามยาโคบไปยังอียิปต์พร้อมด้วยครอบครัวของเขา
  • อพยพ 1:2 - ได้แก่ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์
  • อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
  • อพยพ 1:4 - ดาน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
  • อพยพ 1:5 - วงศ์วานของยาโคบที่เข้าไปในอียิปต์กับเขานับได้ทั้งหมดเจ็ดสิบคน ส่วนโยเซฟอยู่ที่นั่นแล้ว
  • อพยพ 6:14 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อหัวหน้าครอบครัว ต่างๆ ของพวกเขา รูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอลมีบุตรชายชื่อ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลรูเบน
  • อพยพ 6:15 - สิเมโอนมีบุตรชายชื่อ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ และชาอูล ซึ่งมารดาเป็นหญิงชาวคานาอัน คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลสิเมโอน
  • อพยพ 6:16 - ต่อไปนี้คือรายชื่อบุตรชายของเลวีตามลำดับวงศ์ของเขาได้แก่ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี เลวีมีอายุได้ 137 ปี
  • 1พงศาวดาร 27:16 - เจ้าหน้าที่ปกครองเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลมีดังต่อไปนี้ เผ่ารูเบนมีเอลีเอเซอร์บุตรศิครีปกครอง เผ่าสิเมโอนมีเชฟาทิยาห์บุตรมาอาคาห์ปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:17 - เผ่าเลวีมีฮาชาบิยาห์บุตรเคมูเอลปกครอง วงศ์วานของอาโรนมีศาโดกปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:18 - เผ่ายูดาห์มีเอลีฮูพี่ชายของดาวิดปกครอง เผ่าอิสสาคาร์มีอมรีบุตรมีคาเอลปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:19 - เผ่าเศบูลุนมีอิชมัยอาห์บุตรโอบาดีห์ปกครอง เผ่านัฟทาลีมีเยรีโมทบุตรอัสรีเอลปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:20 - เผ่าเอฟราอิมมีโฮเชยาบุตรอาซาซิยาห์ปกครอง เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่ามีโยเอลบุตรเปดายาห์ปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:21 - เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าในกิเลอาดมีอิดโดบุตรเศคาริยาห์ปกครอง เผ่าเบนยามินมียาอาซีเอลบุตรอับเนอร์ปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:22 - เผ่าดานมีอาซาเรลบุตรเยโรฮัมปกครอง คนเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • 1พงศาวดาร 12:23 - ต่อไปนี้เป็นจำนวนพลรบที่มาสมทบกับดาวิดที่เมืองเฮโบรน เพื่อจะตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์แทนซาอูล ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้แล้ว
  • 1พงศาวดาร 12:24 - มีนักรบจากยูดาห์ 6,800 คน มีโล่และหอกพร้อม
  • 1พงศาวดาร 12:25 - มีนักรบพร้อมออกศึกจากสิเมโอน 7,100 คน
  • 1พงศาวดาร 12:26 - จากเลวี 4,600 คน
  • 1พงศาวดาร 12:27 - รวมเยโฮยาดาซึ่งเป็นหัวหน้าในครอบครัวของอาโรนพร้อมกับคน 3,700 คน
  • 1พงศาวดาร 12:28 - และศาโดกนักรบหนุ่มผู้กล้าหาญพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 22 คนจากครอบครัวของเขา
  • 1พงศาวดาร 12:29 - จากเบนยามินญาติพี่น้องของซาอูลมี 3,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เคยภักดีต่อฝ่ายซาอูลมาก่อน
  • 1พงศาวดาร 12:30 - มีนักรบกล้าหาญจากเอฟราอิม 20,800 คน ล้วนมีชื่อเสียงในตระกูลของตน
  • 1พงศาวดาร 12:31 - เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าส่งคนมาตามรายชื่อที่ระบุไว้ 18,000 คน เพื่อตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์
  • 1พงศาวดาร 12:32 - มีหัวหน้าตระกูลจากอิสสาคาร์ 200 คน พร้อมทั้งญาติที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคนที่เข้าใจจังหวะเวลา และรู้ว่าอิสราเอลควรทำอย่างไร
  • 1พงศาวดาร 12:33 - มีนักรบเจนศึกจากเศบูลุน 50,000 คน พร้อมออกศึกโดยใช้อาวุธทุกชนิดและมีความภักดีต่อดาวิดอย่างแน่วแน่
  • 1พงศาวดาร 12:34 - มีเจ้าหน้าที่จากนัฟทาลี 1,000 คน และทหาร 37,000 คน ถือโล่และหอก
  • 1พงศาวดาร 12:35 - จากดานมี 28,600 คน พร้อมออกศึก
  • 1พงศาวดาร 12:36 - มีทหารเจนศึกจากอาเชอร์ 40,000 คน พร้อมรบ
  • 1พงศาวดาร 12:37 - ชนเผ่ารูเบน กาด และมนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าจากฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 120,000 คน มีอาวุธทุกชนิด
  • 1พงศาวดาร 12:38 - ทั้งหมดนี้เป็นนักรบที่สมัครใจออกศึก พวกเขามายังเมืองเฮโบรน ตั้งใจเต็มที่ที่จะเชิญดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล ชาวอิสราเอลอื่นๆ ทั้งหมดก็พร้อมใจกันที่จะตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์
  • 1พงศาวดาร 12:39 - พวกเขากินเลี้ยงร่วมกับดาวิดเป็นเวลาสามวัน เพราะครอบครัวของพวกเขาได้จัดเตรียมเสบียงมาให้
  • 1พงศาวดาร 12:40 - ทั้งยังมีประชาชนทั้งใกล้และไกลเช่น อิสสาคาร์ เศบูลุน และนัฟทาลี นำอาหารบรรทุกมาบนลา อูฐ ล่อ และวัว นอกจากนั้นได้นำสิ่งของมากมายมาร่วมงานฉลองนี้ได้แก่ แป้ง มะเดื่ออัด ขนมลูกเกด เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะมีความชื่นชมยินดีในอิสราเอล
  • ปฐมกาล 46:8 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อบุตรชายของอิสราเอล (ยาโคบและพงศ์พันธุ์ของเขา) ผู้ไปอียิปต์ ได้แก่ รูเบน บุตรชายหัวปีของยาโคบ
  • ปฐมกาล 46:9 - บุตรของรูเบนได้แก่ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี
  • ปฐมกาล 46:10 - บุตรของสิเมโอนได้แก่ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ และชาอูลบุตรชายที่เกิดจากหญิงชาวคานาอัน
  • ปฐมกาล 46:11 - บุตรของเลวีได้แก่ เกอร์โชน โคฮาท และ เมรารี
  • ปฐมกาล 46:12 - บุตรของยูดาห์ได้แก่ เอร์ โอนัน เชลาห์ เปเรศ และเศราห์ (แต่เอร์และโอนันได้สิ้นชีวิตแล้วในคานาอัน) บุตรของเปเรศได้แก่ เฮสโรน และฮามูล
  • ปฐมกาล 46:13 - บุตรของอิสสาคาร์ได้แก่ โทลา ปูอาห์ ยาชูบ และชิมโรน
  • ปฐมกาล 46:14 - บุตรของเศบูลุนได้แก่ เสเรด เอโลน และยาเลเอล
  • ปฐมกาล 46:15 - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางเลอาห์ซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบในปัดดานอารัมนอกเหนือจากดีนาห์บุตรี รวมบุตรชายหญิงทั้งสิ้น 33 คน
  • ปฐมกาล 46:16 - บุตรของกาดได้แก่ เซโฟน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อาโรดี และอาเรลี
  • ปฐมกาล 46:17 - บุตรของอาเชอร์ได้แก่ อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และเบรีอาห์ กับเสราห์น้องสาวของพวกเขา บุตรของเบรีอาห์คือ เฮเบอร์และมัลคีเอล
  • ปฐมกาล 46:18 - คนเหล่านี้คือลูกหลานของยาโคบทางสายนางศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ซึ่งลาบันผู้เป็นบิดายกให้นาง รวมทั้งสิ้น 16 คน
  • ปฐมกาล 46:19 - บุตรของราเชลภรรยาของยาโคบได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • ปฐมกาล 46:20 - โยเซฟมีบุตรชายในอียิปต์สองคนคือ มนัสเสห์และเอฟราอิม ทั้งคู่เกิดจากนางอาเสนัทบุตรสาวของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งเมืองโอน
  • ปฐมกาล 46:21 - บุตรชายของเบนยามิน ได้แก่ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
  • ปฐมกาล 46:22 - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางราเชลซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบ รวมทั้งสิ้น 14 คน
  • ปฐมกาล 46:23 - บุตรของดาน ได้แก่ หุชิม
  • ปฐมกาล 46:24 - บุตรของนัฟทาลี ได้แก่ ยาซีเอล กูนี เยเซอร์ และชิลเลม
  • ปฐมกาล 46:25 - คนเหล่านี้คือลูกหลานของยาโคบทางสายนางบิลฮาห์ซึ่งลาบันยกให้แก่ราเชลบุตรีรวมทั้งสิ้น 7 คน
  • ปฐมกาล 46:26 - รวมจำนวนคนที่ไปอียิปต์พร้อมกับยาโคบเฉพาะเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของเขา ไม่รวมบุตรสะใภ้นับได้ 66 คน
  • ปฐมกาล 46:27 - นับบุตรชายของโยเซฟอีก 2 คน ที่อียิปต์ รวมคนในครอบครัวยาโคบที่ไปอียิปต์มี 70 คน
  • ปฐมกาล 29:31 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นว่ายาโคบไม่ได้รักเลอาห์ พระองค์จึงทรงให้นางมีบุตร แต่ราเชลเป็นหมัน
  • ปฐมกาล 29:32 - เลอาห์ก็ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางตั้งชื่อให้เขาว่ารูเบน เนื่องจากนางกล่าวว่า “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นความทุกข์ยากของฉัน บัดนี้สามีจะรักฉันแน่”
  • ปฐมกาล 29:33 - แล้วนางก็ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินว่าฉันไม่เป็นที่รัก พระองค์จึงประทานลูกชายคนนี้ให้ฉันด้วย” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าสิเมโอน
  • ปฐมกาล 29:34 - นางได้ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “ในที่สุดสามีจะมาผูกพันอยู่กับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายสามคนให้แก่เขา” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเลวี
  • ปฐมกาล 29:35 - นางได้ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “คราวนี้ฉันจะสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ายูดาห์ แล้วนางก็หยุดให้กำเนิดบุตร
  • กันดารวิถี 26:5 - วงศ์วานของรูเบนบุตรหัวปีของอิสราเอลได้แก่ ตระกูลฮาโนคจากฮาโนค ตระกูลปัลลูจากปัลลู
  • กันดารวิถี 26:6 - ตระกูลเฮสโรนจากเฮสโรน ตระกูลคารมีจากคารมี
  • กันดารวิถี 26:7 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของรูเบน นับได้ 43,730 คน
  • กันดารวิถี 26:8 - บุตรชายของปัลลูคือเอลีอับ
  • กันดารวิถี 26:9 - และบุตรชายของเอลีอับคือ เนมูเอล ดาธาน และอาบีรัม ดาธานและอาบีรัมนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของชุมชนซึ่งได้กบฏต่อโมเสสและต่ออาโรน และเป็นพรรคพวกของโคราห์เมื่อเขากบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • กันดารวิถี 26:10 - พื้นธรณีแยกออกและสูบพวกเขาลงไปพร้อมกับโคราห์ และพรรคพวกของเขา 250 คนถูกไฟคลอกตาย และนั่นเป็นเครื่องเตือนเหล่าประชากร
  • กันดารวิถี 26:11 - แต่เชื้อสายโคราห์ไม่ได้สูญสิ้นไป
  • กันดารวิถี 26:12 - วงศ์วานของสิเมโอนแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเนมูเอลจากเนมูเอล ตระกูลยามีนจากยามีน ตระกูลยาคีนจากยาคีน
  • กันดารวิถี 26:13 - ตระกูลเศราห์จากเศราห์ และตระกูลชาอูลจากชาอูล
  • กันดารวิถี 26:14 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของสิเมโอน นับได้ 22,200 คน
  • กันดารวิถี 26:15 - วงศ์วานของกาดแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเศโฟนจากเศโฟน ตระกูลฮักกีจากฮักกี ตระกูลชูนีจากชูนี
  • กันดารวิถี 26:16 - ตระกูลโอสนีจากโอสนี ตระกูลเอรีจากเอรี
  • กันดารวิถี 26:17 - ตระกูลอาโรดี จากอาโรดี และตระกูลอาเรลีจากอาเรลี
  • กันดารวิถี 26:18 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของกาด นับได้ 40,500 คน
  • กันดารวิถี 26:19 - เอร์และโอนันบุตรชายของยูดาห์เสียชีวิตที่คานาอัน
  • กันดารวิถี 26:20 - วงศ์วานของยูดาห์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเชลาห์จากเชลาห์ ตระกูลเปเรศจากเปเรศ ตระกูลเศราห์จากเศราห์
  • กันดารวิถี 26:21 - วงศ์วานของเปเรศ ได้แก่ ตระกูลเฮสโรนจากเฮสโรน และตระกูลฮามูลจากฮามูล
  • กันดารวิถี 26:22 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของยูดาห์ นับได้ 76,500 คน
  • กันดารวิถี 26:23 - วงศ์วานของอิสสาคาร์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลโทลาจากโทลา ตระกูลปูวาห์จากปูวาห์
  • กันดารวิถี 26:24 - ตระกูลยาชูบจากยาชูบ และตระกูลชิมโรนจากชิมโรน
  • กันดารวิถี 26:25 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของอิสสาคาร์ นับได้ 64,300 คน
  • กันดารวิถี 26:26 - วงศ์วานของเศบูลุน แยกตามตระกูลได้แก่ ตระกูลเสเรดจากเสเรด ตระกูลเอโลนจากเอโลน และตระกูลยาเลเอลจากยาเลเอล
  • กันดารวิถี 26:27 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเศบูลุน นับได้ 60,500 คน
  • กันดารวิถี 26:28 - วงศ์วานของโยเซฟแยกตามตระกูลนับตามมนัสเสห์และเอฟราอิมคือ
  • กันดารวิถี 26:29 - วงศ์วานของมนัสเสห์ ได้แก่ ตระกูลมาคีร์จากมาคีร์ (มาคีร์เป็นบิดาของกิเลอาด) ตระกูลกิเลอาดจากกิเลอาด
  • กันดารวิถี 26:30 - วงศ์วานของกิเลอาด ได้แก่ ตระกูลอีเยเซอร์จากอีเยเซอร์ ตระกูลเฮเลคจากเฮเลค
  • กันดารวิถี 26:31 - ตระกูลอัสรีเอลจากอัสรีเอล ตระกูลเชเคมจากเชเคม
  • กันดารวิถี 26:32 - ตระกูลเชมิดาจากเชมิดา และตระกูลเฮเฟอร์จากเฮเฟอร์
  • กันดารวิถี 26:33 - (เศโลเฟหัดบุตรเฮเฟอร์ไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรสาวได้แก่ มาห์ลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และทีรซาห์)
  • กันดารวิถี 26:34 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของมนัสเสห์ นับได้ 52,700 คน
  • กันดารวิถี 26:35 - วงศ์วานของเอฟราอิมแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลชูเธลาห์จากชูเธลาห์ ตระกูลเบเคอร์จากเบเคอร์ ตระกูลทาหานจากทาหาน
  • กันดารวิถี 26:36 - วงศ์วานของชูเธลาห์คือ ตระกูลเอรานจากเอราน
  • กันดารวิถี 26:37 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเอฟราอิมนับได้ 32,500 คน ทั้งหมดนี้คือวงศ์วานของโยเซฟแยกตามตระกูล
  • กันดารวิถี 26:38 - วงศ์วานของเบนยามินแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเบลาจากเบลา ตระกูลอัชเบลจากอัชเบล ตระกูลอาหิรัมจากอาหิรัม
  • กันดารวิถี 26:39 - ตระกูลชูฟาม จากชูฟาม และตระกูลหุฟามจากหุฟาม
  • กันดารวิถี 26:40 - วงศ์วานของเบลาทางอาร์ดและนาอามาน ได้แก่ ตระกูลอาร์ดจากอาร์ด และตระกูลนาอามานจากนาอามาน
  • กันดารวิถี 26:41 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเบนยามิน นับได้ 45,600 คน
  • กันดารวิถี 26:42 - วงศ์วานของดานแยกตามตระกูลคือ ตระกูลชูฮัมจากชูฮัม นี่คือตระกูลของดาน
  • กันดารวิถี 26:43 - ทั้งหมดล้วนอยู่ในตระกูลชูฮัม รวม 64,400 คน
  • กันดารวิถี 26:44 - วงศ์วานของอาเชอร์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลอิมนาห์จากอิมนาห์ ตระกูลอิชวีจากอิชวี ตระกูลเบรียาห์จากเบรียาห์
  • กันดารวิถี 26:45 - และวงศ์วานของตระกูลเบรียาห์ ได้แก่ ตระกูลเฮเบอร์จากเฮเบอร์ ตระกูลมัลคีเอลจากมัลคีเอล
  • กันดารวิถี 26:46 - (อาเชอร์มีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อเสราห์)
  • กันดารวิถี 26:47 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของอาเชอร์นับได้ 53,400 คน
  • กันดารวิถี 26:48 - วงศ์วานของนัฟทาลีแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลยาเซเอลจากยาเซเอล ตระกูลกูนีจากกูนี
  • กันดารวิถี 26:49 - ตระกูลเยเซอร์จากเยเซอร์ ตระกูลชิลเลมจากชิลเลม
  • กันดารวิถี 26:50 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของนัฟทาลีนับได้ 45,400 คน
  • กันดารวิถี 26:51 - รวมพลอิสราเอลทั้งหมดได้ 601,730 คน
  • เลวีนิติ 18:8 - “ ‘อย่าทำให้บิดาอับอายขายหน้าโดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของบิดา
  • 2ซามูเอล 20:3 - เมื่อดาวิดเสด็จมาถึงวังในเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงกักตัวสนมทั้งสิบซึ่งทรงทิ้งไว้ให้คอยรักษาวังนั้นไว้ที่ตำหนักแห่งหนึ่ง และให้ได้รับการเลี้ยงดูตามความต้องการ แต่กษัตริย์ไม่ได้รับเป็นสนมอีกต่อไป นางสนมเหล่านั้นจึงถูกกักอยู่ในฐานะแม่ม่ายจนวันตาย
  • 1โครินธ์ 5:1 - มีข่าวแจ้งว่าในพวกท่านมีการผิดศีลธรรมทางเพศ ชนิดที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่ในหมู่คนต่างศาสนา ก็คือคนหนึ่งเอาภรรยาของบิดามาเป็นภรรยาของตน
  • 1พงศาวดาร 5:1 - รูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอล (เนื่องจากทำให้เตียงสมรสของบิดาเป็นมลทิน สิทธิบุตรหัวปีของเขาจึงตกอยู่แก่บุตรของโยเซฟผู้เป็นบุตรของอิสราเอล บันทึกลำดับวงศ์ตระกูลจึงไม่ได้เอ่ยถึงรูเบนในฐานะบุตรหัวปี
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขณะอิสราเอลพักอยู่ในละแวกนั้น รูเบนก็ไปหลับนอนกับบิลฮาห์ภรรยาน้อยของบิดา และอิสราเอลก็ได้ทราบเรื่องนี้ ยาโคบมีบุตรชายสิบสองคน
  • 新标点和合本 - 以色列住在那地的时候,流便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 以色列住在那地的时候,吕便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了这件事 。 雅各共有十二个儿子。
  • 和合本2010(神版-简体) - 以色列住在那地的时候,吕便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了这件事 。 雅各共有十二个儿子。
  • 当代译本 - 以色列在那里居住时,吕便和父亲的妾辟拉通奸,以色列也知道这件事。 雅各有十二个儿子。
  • 圣经新译本 - 以色列在那地居住的时候,流本竟去与他父亲的妾辟拉同睡;这事以色列也听见了。雅各共有十二个儿子。
  • 中文标准译本 - 以色列在那地居住的时候,鲁本去与他父亲的小妾碧拉同睡;以色列也听到了这事。 雅各有十二个儿子:
  • 现代标点和合本 - 以色列住在那地的时候,鲁本去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
  • 和合本(拼音版) - 以色列住在那地的时候,流便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
  • New International Version - While Israel was living in that region, Reuben went in and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard of it. Jacob had twelve sons:
  • New International Reader's Version - While Israel was living in that area, Reuben went in and slept with Bilhah. She was the concubine of Reuben’s father. And Israel heard about it. Here are the 12 sons Jacob had.
  • English Standard Version - While Israel lived in that land, Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine. And Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve.
  • New Living Translation - While he was living there, Reuben had intercourse with Bilhah, his father’s concubine, and Jacob soon heard about it. These are the names of the twelve sons of Jacob:
  • The Message - There were twelve sons of Jacob. The sons by Leah: Reuben, Jacob’s firstborn Simeon Levi Judah Issachar Zebulun. The sons by Rachel: Joseph Benjamin. The sons by Bilhah, Rachel’s maid: Dan Naphtali. The sons by Zilpah, Leah’s maid: Gad Asher. These were Jacob’s sons, born to him in Paddan Aram. * * *
  • Christian Standard Bible - While Israel was living in that region, Reuben went in and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard about it. Jacob had twelve sons:
  • New American Standard Bible - And it came about, while Israel was living in that land, that Reuben went and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard about it. Now there were twelve sons of Jacob—
  • New King James Version - And it happened, when Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine; and Israel heard about it. Now the sons of Jacob were twelve:
  • Amplified Bible - While Israel was living in that land, Reuben [his eldest son] went and lay with Bilhah his father’s concubine, and Israel heard about it. Now Jacob had twelve sons—
  • American Standard Version - And it came to pass, while Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine: and Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve:
  • King James Version - And it came to pass, when Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father's concubine: and Israel heard it. Now the sons of Jacob were twelve:
  • New English Translation - While Israel was living in that land, Reuben had sexual relations with Bilhah, his father’s concubine, and Israel heard about it. Jacob had twelve sons:
  • World English Bible - While Israel lived in that land, Reuben went and lay with Bilhah, his father’s concubine, and Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve.
  • 新標點和合本 - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了。 雅各共有十二個兒子。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了這件事 。 雅各共有十二個兒子。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了這件事 。 雅各共有十二個兒子。
  • 當代譯本 - 以色列在那裡居住時,呂便和父親的妾辟拉通姦,以色列也知道這件事。 雅各有十二個兒子。
  • 聖經新譯本 - 以色列在那地居住的時候,流本竟去與他父親的妾辟拉同睡;這事以色列也聽見了。雅各共有十二個兒子。
  • 呂振中譯本 - 以色列 在那地居住的時候, 如便 去和他父親的妾 辟拉 同寢; 以色列 聽見了。 雅各 有十二個兒子。
  • 中文標準譯本 - 以色列在那地居住的時候,魯本去與他父親的小妾碧拉同睡;以色列也聽到了這事。 雅各有十二個兒子:
  • 現代標點和合本 - 以色列住在那地的時候,魯本去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了。 雅各共有十二個兒子。
  • 文理和合譯本 - 居彼時、流便烝父妾辟拉、事聞於以色列、○
  • 文理委辦譯本 - 以色列居彼、聞流便烝其妾辟拉。
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 以色列 居彼地之時、 流便 烝父妾 辟拉 、後其父 以色列 聞之、
  • Nueva Versión Internacional - Mientras vivía en esa región, Rubén fue y se acostó con Bilhá, la concubina de su padre. Cuando Israel se enteró de esto, se enojó muchísimo. Jacob tuvo doce hijos:
  • 현대인의 성경 - 야곱이 그 땅에 살고 있을 때 르우벤이 자기 아버지의 첩 빌하와 정을 통하였고 야곱은 그 일을 듣게 되었다. 야곱의 아들은 열둘이었다.
  • Новый Русский Перевод - Когда Израиль жил в той земле, Рувим лег с наложницей отца Валлой, и Израиль узнал об этом. ( 1 Пар. 2:1-2 ) У Иакова было двенадцать сыновей:
  • Восточный перевод - Когда Исраил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исраил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда Исраил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исраил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда Исроил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исроил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
  • La Bible du Semeur 2015 - Pendant qu’il séjournait dans cette contrée, Ruben alla coucher avec Bilha, l’épouse de second rang de son père. Celui-ci l’apprit . Jacob avait douze fils.
  • リビングバイブル - そこにいた時、ルベンが父親のそばめビルハと寝たのです。そのことはイスラエルの耳にも入りました。 ところで、ヤコブの十二人の息子は次のとおりです。
  • Nova Versão Internacional - Na época em que Israel vivia naquela região, Rúben deitou-se com Bila, concubina de seu pai. E Israel ficou sabendo disso. Jacó teve doze filhos:
  • Hoffnung für alle - Damals schlief Ruben mit Bilha, der Nebenfrau seines Vaters, und Jakob erfuhr davon. Inzwischen hatte Jakob zwölf Söhne:
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Trong thời gian ở đó, Ru-bên vào ngủ với Bi-la, vợ lẽ của cha mình. Có người báo lại cho Gia-cốp. Đây là tên mười hai con trai của Gia-cốp:
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ขณะ​ที่​อิสราเอล​อาศัย​อยู่​ใน​ดินแดน​นั้น รูเบน​ไป​นอน​กับ​บิลฮาห์​ภรรยา​น้อย​ของ​บิดา​ของ​ตน และ​อิสราเอล​ก็​ทราบ​เรื่อง ยาโคบ​มี​บุตร​ชาย 12 คน
  • โยชูวา 13:1 - เมื่อโยชูวาแก่ลง ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “เจ้าแก่มากแล้ว และยังมีดินแดนอีกมากที่จะต้องพิชิต
  • โยชูวา 13:2 - “ดินแดนซึ่งยังจะต้องเข้ายึดครองได้แก่ ดินแดนทั้งหมดของชาวฟีลิสเตียและเกชูร์
  • โยชูวา 13:3 - ดินแดนซึ่งนับเป็นของชาวคานาอัน จากแม่น้ำชิโหร์ทางตะวันออกของอียิปต์ถึงพรมแดนของเอโครนทางเหนือ (นครทั้งห้าของฟีลิสเตียได้แก่ กาซา อัชโดด อัชเคโลน กัท และเอโครน นี่คือดินแดนของชาวอัฟวิม)
  • โยชูวา 13:4 - จากทางใต้ ดินแดนทั้งหมดของชาวคานาอัน จากอาราห์ของชาวไซดอนจนถึงอาเฟค ตรงพรมแดนของชาวอาโมไรต์
  • โยชูวา 13:5 - ดินแดนของชาวเกบาล เลบานอนทั้งหมดไปทางตะวันออก จากบาอัลกาดเชิงภูเขาเฮอร์โมนถึงเลโบฮามัท
  • โยชูวา 13:6 - “สำหรับคนที่อาศัยในเขตภูเขาจากเลบานอนถึงมิสเรโฟทมาอิมคือชาวไซดอนทั้งปวง เราเองจะขับไล่พวกเขาออกไปต่อหน้าอิสราเอล จงแบ่งดินแดนเหล่านี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอลตามที่เราได้บัญชาเจ้าไว้
  • โยชูวา 13:7 - และแบ่งดินแดนเหล่านี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเก้าเผ่ากับเผ่ามนัสเสห์อีกครึ่งเผ่า”
  • โยชูวา 13:8 - สำหรับเผ่ารูเบน กาด และเผ่ามนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าได้รับกรรมสิทธิ์ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ยกให้ก่อนแล้ว
  • โยชูวา 13:9 - กรรมสิทธิ์นั้นเริ่มจากดินแดนอาโรเออร์ริมโกรกธารอารโนน จากเมืองซึ่งอยู่ตอนกลางของโกรกธารนี้รวมถึงที่ราบสูงเมเดบาทั้งหมดจนถึงดีโบน
  • โยชูวา 13:10 - และเมืองทั้งหมดของสิโหนกษัตริย์ชาวอาโมไรต์ซึ่งครองเฮชโบนไปจนจดพรมแดนของชาวอัมโมน
  • โยชูวา 13:11 - และครอบคลุมกิเลอาดอาณาเขตของชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ บริเวณภูเขาเฮอร์โมนทั้งหมด บาชานทั้งหมดจนจดสาเลคาห์
  • โยชูวา 13:12 - กล่าวคืออาณาเขตทั้งสิ้นของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน ซึ่งครองอัชทาโรทและเอเดรอี เขาผู้นี้เป็นหนึ่งในเรฟาอิมกลุ่มสุดท้าย โมเสสพิชิตพวกเขาและเข้ายึดครองดินแดน
  • โยชูวา 13:13 - แต่ชนอิสราเอลไม่ได้ขับไล่ชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ออกไป พวกเขาจึงยังคงอาศัยอยู่ในหมู่ชนอิสราเอลจนถึงทุกวันนี้
  • โยชูวา 13:14 - สำหรับเผ่าเลวี โมเสสไม่ได้มอบดินแดนใดๆ ให้ เพราะพวกเขาได้รับเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลเป็นกรรมสิทธิ์ตามที่ทรงสัญญาแก่เขา
  • โยชูวา 13:15 - ดินแดนซึ่งโมเสสยกให้เผ่ารูเบนตามแต่ละตระกูล ได้แก่
  • โยชูวา 13:16 - ดินแดนจากอาโรเออร์ริมโกรกธารอารโนน จากเมืองซึ่งอยู่ตอนกลางของโกรกธารไปจนถึงที่ราบทั้งหมดเลยเมเดบา
  • โยชูวา 13:17 - จดเฮชโบน และเมืองทั้งหมดบนที่ราบนั้น รวมทั้งดีโบน บาโมทบาอัล เบธบาอัลเมโอน
  • โยชูวา 13:18 - ยาฮาส เคเดโมท เมฟาอาท
  • โยชูวา 13:19 - คีริยาธาอิม สิบมาห์ เศเรทชาหาร์บนภูเขาในหุบเขานั้น
  • โยชูวา 13:20 - เบธเปโอร์ ลาดเขาปิสกาห์ และเบธเยชิโมท
  • โยชูวา 13:21 - คือเมืองทั้งหมดบนที่ราบสูงและอาณาจักรทั้งหมดของกษัตริย์สิโหนแห่งอาโมไรต์ ผู้ครอบครองอยู่ในเฮชโบน ซึ่งถูกโมเสสพิชิตพร้อมกษัตริย์อื่นๆ ของมีเดียนคือเอวี เรเคม ศูร์ เฮอร์ และเรบา ผู้เป็นพันธมิตรของสิโหน ซึ่งอาศัยอยู่ในถิ่นนั้น
  • กิจการของอัครทูต 7:8 - แล้วพระองค์ประทานพันธสัญญาแห่งการเข้าสุหนัตให้อับราฮัม และต่อมาอับราฮัมก็ได้บุตรชื่ออิสอัคและท่านให้เขาเข้าสุหนัตเมื่ออายุแปดวัน หลังจากนั้นอิสอัคมีบุตรชื่อยาโคบและยาโคบเป็นบิดาของบรรพบุรุษทั้งสิบสองนั้น
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:1 - ก่อนสิ้นชีวิต โมเสสคนของพระเจ้าได้อวยพรประชากรอิสราเอล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2 - เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จจากซีนาย ทรงฉายแสงอรุณเหนือพวกเขาจากเสอีร์ ทรงเปล่งรังสีจากภูเขาปาราน พระองค์เสด็จมากับ ผู้บริสุทธิ์นับหมื่นแสน จากทิศใต้ จากลาดเขา ของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:3 - แน่นอน พระองค์ทรงรักเหล่าประชากร วิสุทธิชนทั้งปวงอยู่ในพระหัตถ์ พวกเขากราบลงแทบพระบาท และรับการสั่งสอนจากพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:4 - คือบทบัญญัติที่โมเสสให้แก่เราไว้ เป็นกรรมสิทธิ์ของชุมชนยาโคบ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:5 - พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์เหนือเยชูรุน เมื่อบรรดาผู้นำมาชุมนุมกัน ร่วมกับเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:6 - “ขอให้รูเบนดำรงอยู่เป็นอมตะ อย่าให้ คนของเขามีน้อย”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:7 - และเขากล่าวถึงยูดาห์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงฟังเสียงร่ำร้องของยูดาห์ ประสานเขาเข้ากับชนชาติของเขา เขาต่อสู้ฟันฝ่าด้วยมือของเขาเอง ขอทรงช่วยยูดาห์ต่อกรกับศัตรู!”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:8 - เขากล่าวถึงเผ่าเลวีว่า “อูริมและทูมมิมของพระองค์ อยู่กับผู้ที่พระองค์ทรงโปรดปราน พระองค์ทรงทดสอบเขาที่มัสสาห์ พระองค์ทรงต่อสู้กับเขาที่ห้วงน้ำเมรีบาห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:9 - เขากล่าวถึงบิดามารดาของตนว่า ‘ข้าพเจ้าไม่เห็นแก่หน้าพวกเขา’ เขาไม่เห็นแก่พี่น้องของเขา ไม่เห็นแก่บุตรของเขา แต่เขาพิทักษ์รักษาพระดำรัสของพระองค์ และปกป้องพันธสัญญาของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:10 - เขาจะสอนพระโอวาทของพระองค์แก่ยาโคบ และสอนบทบัญญัติของพระองค์แก่อิสราเอล เขาถวายเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์ และถวายเครื่องเผาบูชาทั้งสิ้นบนแท่นของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:11 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงอวยพรความชำนาญทั้งสิ้นของเขา และพอพระทัยผลงานที่เขาทำ ขอทรงบดขยี้ผู้ที่ต่อสู้เขา ขอทรงฟาดฟันศัตรูของเขาจนลุกขึ้นไม่ได้อีกต่อไป”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - เขากล่าวถึงเผ่าโยเซฟว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรดินแดนของเขา ด้วยน้ำค้างล้ำเลิศจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน และด้วยห้วงน้ำลึกเบื้องล่าง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - ด้วยผลผลิตยอดเยี่ยมจากดวงตะวัน และด้วยผลผลิตที่ดีที่สุดตามฤดูกาล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - ด้วยของขวัญเลอเลิศจากภูเขาดึกดำบรรพ์ ด้วยความสมบูรณ์พูนผลจากภูเขาอันถาวรนิรันดร์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - ด้วยของขวัญล้ำค่าจากผืนแผ่นดิน และความอุดมสมบูรณ์จากพื้นพสุธา และด้วยความโปรดปรานจากพระองค์ผู้ประทับในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ขอให้พรทั้งปวงนี้มาเหนือโยเซฟ เหนือเจ้านายในหมู่พี่น้อง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - ผู้ทรงไว้ซึ่งศักดาดุจลูกวัวหนุ่มหัวปี เขาสัตว์ของเขาคือเขาของวัวป่า เขาจะขวิดประชาชาติทั้งหลายด้วยเขาสัตว์เหล่านั้น แม้ประชาชาติที่อยู่สุดปลายแผ่นดินโลก นี่แหละคือชนเอฟราอิมนับหมื่น และชนมนัสเสห์นับพัน”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18 - เขากล่าวถึงเผ่าเศบูลุนว่า “จงร่าเริงยินดีเถิด เศบูลุนเอ๋ย เมื่อท่านออกไป และท่านอิสสาคาร์เอ๋ย จงร่าเริงยินดีในเต็นท์ของท่าน
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:19 - พวกเขาจะเรียกประชากรมาชุมนุมที่ภูเขา และถวายเครื่องบูชาแห่งความชอบธรรมที่นั่น เขาจะเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์แห่งท้องทะเล เฉลิมฉลองทรัพย์สมบัติที่ซ่อนไว้ในหาดทราย”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:20 - เขากล่าวถึงเผ่ากาดว่า “ขอถวายสรรเสริญแด่พระองค์ผู้ทรงขยายอาณาจักรของกาด! กาดมีชีวิตอยู่เยี่ยงราชสีห์ ซึ่งฉีกทึ้งแขนหรือศีรษะ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:21 - เขาเลือกดินแดนดีเยี่ยมที่สุดไว้เป็นของตนเอง ส่วนที่เป็นของผู้นำถูกสงวนไว้สำหรับเขา เมื่อบรรดาหัวหน้าของประชาชนมาชุมนุมกัน เขาทำให้ลุล่วงตามพระประสงค์อันชอบธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้า และตามพระวินิจฉัยเกี่ยวกับอิสราเอล”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:22 - เขากล่าวถึงเผ่าดานว่า “ดานเหมือนลูกสิงห์ โลดแล่นออกมาจากบาชาน”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 - เขากล่าวถึงเผ่านัฟทาลีว่า “นัฟทาลีอิ่มเอิบด้วยความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า และเต็มเปี่ยมด้วยพระพรของพระองค์ เขาจะครอบครองไปทางใต้ถึงทะเลสาบ”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:24 - เขากล่าวถึงเผ่าอาเชอร์ว่า “อาเชอร์เป็นลูกที่ได้รับพรมากที่สุด ขอให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของพี่ๆ น้องๆ และให้เขาล้างเท้าด้วยน้ำมัน
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:25 - ดาลประตูของท่านจะเป็นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ และพลังวังชาของท่านจะอยู่คู่คืนวันของท่าน
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - “ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระเจ้าแห่งเยชูรุน ผู้ประทับอยู่บนฟ้าสวรรค์เพื่อช่วยท่าน ผู้ประทับเหนือเมฆด้วยพระบารมีของพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:27 - พระเจ้าองค์นิรันดร์เป็นที่ลี้ภัยของท่าน และเบื้องล่างคืออ้อมแขนอันนิรันดร์ พระองค์จะทรงขับไล่เหล่าศัตรูออกไปให้พ้นหน้าท่าน ตรัสว่า ‘จงทำลายพวกเขาเสีย!’
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:28 - ฉะนั้นอิสราเอลจะอาศัยอยู่โดยสวัสดิภาพ ธารน้ำพุของยาโคบมั่นคง ในดินแดนแห่งข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ ที่ซึ่งฟ้าสวรรค์หยาดรินน้ำค้างลงมา
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:29 - อิสราเอลเอ๋ย! พระพรนี้มีแก่ท่าน ใครเล่าเสมอเหมือนท่าน? ชนชาติซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้รอด พระองค์ทรงเป็นโล่และเป็นผู้ช่วยท่าน และทรงเป็นดาบอันรุ่งโรจน์ของท่าน ศัตรูของท่านจะก้มหัวให้ท่าน และท่านจะย่ำบนที่สูง ของเขา”
  • กันดารวิถี 34:14 - เพราะเผ่ารูเบน กาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้รับมรดกของตนแล้ว
  • กันดารวิถี 34:15 - สองเผ่าและครึ่งเผ่านี้ได้รับดินแดนทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนแห่งเยรีโคเป็นมรดก”
  • กันดารวิถี 34:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
  • กันดารวิถี 34:17 - “ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ที่จะทำหน้าที่จัดสรรมรดกในดินแดนคือ ปุโรหิตเอเลอาซาร์ โยชูวาบุตรนูน
  • กันดารวิถี 34:18 - และผู้นำซึ่งได้รับแต่งตั้งจากแต่ละเผ่า เพื่อช่วยแบ่งสรรดินแดนนั้น
  • กันดารวิถี 34:19 - รายชื่อของพวกเขา ได้แก่ คาเลบบุตรเยฟุนเนห์ จากเผ่ายูดาห์
  • กันดารวิถี 34:20 - เชมูเอลบุตรอัมมีฮูด จากเผ่าสิเมโอน
  • กันดารวิถี 34:21 - เอลีดาดบุตรคิสโลน จากเผ่าเบนยามิน
  • กันดารวิถี 34:22 - บุคคีบุตรโยกลี ผู้นำจากเผ่าดาน
  • กันดารวิถี 34:23 - ฮันนีเอลบุตรเอโฟด ผู้นำจากเผ่ามนัสเสห์บุตรโยเซฟ
  • กันดารวิถี 34:24 - เคมูเอลบุตรชิฟทาน ผู้นำจากเผ่าเอฟราอิมบุตรโยเซฟ
  • กันดารวิถี 34:25 - เอลีซาฟานบุตรปารนาค ผู้นำจากเผ่าเศบูลุน
  • กันดารวิถี 34:26 - ปัลทีเอลบุตรอัสซาน ผู้นำจากเผ่าอิสสาคาร์
  • กันดารวิถี 34:27 - อาหิฮูดบุตรเชโลมี ผู้นำจากเผ่าอาเชอร์
  • กันดารวิถี 34:28 - เปดาเฮลบุตรอัมมีฮูด ผู้นำจากเผ่านัฟทาลี”
  • กันดารวิถี 2:3 - ด้านตะวันออกของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่ายูดาห์ภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคือนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
  • กันดารวิถี 2:4 - จำนวนพล 74,600 คน
  • กันดารวิถี 2:5 - ถัดมาเป็นที่ตั้งค่ายของเผ่าอิสสาคาร์ ผู้นำคือเนธันเอลบุตรศุอาร์
  • กันดารวิถี 2:6 - จำนวนพล 54,400 คน
  • กันดารวิถี 2:7 - จากนั้นได้แก่เผ่าเศบูลุน ผู้นำคือเอลีอับบุตรเฮโลน
  • กันดารวิถี 2:8 - จำนวนพล 57,400 คน
  • กันดารวิถี 2:9 - รวมพลแนวรบด้านเผ่ายูดาห์ตามหมู่เหล่าของพวกเขาได้ 186,400 คน กลุ่มนี้จะเคลื่อนกำลังออกไปเป็นกลุ่มแรก
  • กันดารวิถี 2:10 - ด้านใต้ของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่ารูเบนภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคือเอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
  • กันดารวิถี 2:11 - จำนวนพล 46,500 คน
  • กันดารวิถี 2:12 - ถัดมาคือเผ่าสิเมโอน ผู้นำคือเชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
  • กันดารวิถี 2:13 - จำนวนพล 59,300 คน
  • กันดารวิถี 2:14 - ถัดมาคือเผ่ากาด ผู้นำคือเอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
  • กันดารวิถี 2:15 - จำนวนพล 45,650 คน
  • กันดารวิถี 2:16 - รวมพลแนวรบด้านเผ่ารูเบนตามหมู่เหล่าของพวกเขาได้ 151,450 คน กลุ่มนี้จะเคลื่อนกำลังเป็นกลุ่มที่สอง
  • กันดารวิถี 2:17 - ส่วนเต็นท์นัดพบและค่ายของเผ่าเลวีจะตั้งอยู่กลางค่าย พวกเขาจะเคลื่อนออกตามลำดับเดียวกับการตั้งค่าย แต่ละกลุ่มอยู่ในตำแหน่งของตนเองภายใต้ธงประจำกองของตน
  • กันดารวิถี 2:18 - ด้านตะวันตกของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่าเอฟราอิมภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคือเอลีชามาบุตรอัมมีฮูด
  • กันดารวิถี 2:19 - จำนวนพล 40,500 คน
  • กันดารวิถี 2:20 - ถัดมาคือเผ่ามนัสเสห์ ผู้นำคือกามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
  • กันดารวิถี 2:21 - จำนวนพล 32,200 คน
  • กันดารวิถี 2:22 - ถัดมาคือเผ่าเบนยามิน ผู้นำคืออาบีดันบุตรกิเดโอนี
  • กันดารวิถี 2:23 - จำนวนพล 35,400 คน
  • กันดารวิถี 2:24 - รวมพลในแนวรบด้านเผ่าเอฟราอิมตามหมู่เหล่าของพวกเขาได้ 108,100 คน พวกเขาจะเคลื่อนพลเป็นกลุ่มที่สาม
  • กันดารวิถี 2:25 - ด้านเหนือของพลับพลาเป็นที่ตั้งค่ายของหมู่เหล่าดานภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา ผู้นำคืออาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
  • กันดารวิถี 2:26 - จำนวนพล 62,700 คน
  • กันดารวิถี 2:27 - ถัดมาคือเผ่าอาเชอร์ ผู้นำคือปากีเอลบุตรโอคราน
  • กันดารวิถี 2:28 - จำนวนพล 41,500 คน
  • กันดารวิถี 2:29 - ถัดมาคือเผ่านัฟทาลี ผู้นำคืออาหิราบุตรเอนัน
  • กันดารวิถี 2:30 - จำนวนพล 53,400 คน
  • กันดารวิถี 2:31 - รวมพลในแนวรบด้านเผ่าดานได้ 157,600 คน เวลาเดินทางจะอยู่รั้งท้ายขบวนภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา
  • กันดารวิถี 2:32 - ทั้งหมดนี้คือชนอิสราเอลนับตามครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ในค่าย ตามหมู่เหล่ามีจำนวนทั้งสิ้น 603,550 คน
  • กันดารวิถี 2:33 - ทั้งนี้ไม่นับคนเลวีรวมกับชนอิสราเอลอื่นๆ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาแก่โมเสส
  • เอเสเคียล 48:1 - “นี่คือรายชื่อของเผ่าต่างๆ คือที่ชายแดนด้านเหนือ ดานจะได้รับส่วนหนึ่งตามเส้นทางเฮทโลนถึงเลโบฮามัท และฮาซาร์เอนัน และพรมแดนด้านเหนือของดามัสกัส ถัดจากฮามัทจะเป็นส่วนของเขตแดนจากด้านตะวันออกไปด้านตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:2 - “อาเชอร์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของดานจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:3 - “นัฟทาลีจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของอาเชอร์จากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:4 - “มนัสเสห์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของนัฟทาลีจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:5 - “เอฟราอิมจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของมนัสเสห์จากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:6 - “รูเบนจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของเอฟราอิมจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:7 - “ยูดาห์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของรูเบนจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:8 - “ถัดจากเขตแดนของยูดาห์จากตะวันออกถึงตะวันตกจะเป็นส่วนพิเศษที่เจ้าต้องถวาย ซึ่งมีความกว้าง 25,000 คิวบิท ความยาวจากตะวันออกถึงตะวันตกจะเท่ากับส่วนของแต่ละเผ่า สถานนมัสการจะอยู่ที่ศูนย์กลางของส่วนนี้
  • เอเสเคียล 48:9 - “ส่วนพิเศษซึ่งเจ้าจะต้องถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านี้ยาว 25,000 คิวบิทและกว้าง 10,000 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:10 - ต่อไปนี้เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์สำหรับบรรดาปุโรหิต มีความยาววัดขึ้นไปทางเหนือ 25,000 คิวบิท ความกว้างด้านตะวันตก 10,000 คิวบิท ความกว้างด้านตะวันออก 10,000 คิวบิท และความยาวทางทิศใต้ 25,000 คิวบิท โดยมีสถานนมัสการขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นศูนย์กลาง
  • เอเสเคียล 48:11 - ที่ส่วนนี้สำหรับปุโรหิตเชื้อสายศาโดกที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ ซึ่งซื่อสัตย์ในการปรนนิบัติรับใช้เรา ไม่ได้หลงผิดไปเหมือนชนเลวีอื่นๆ เมื่อครั้งชนอิสราเอลหลงไปจากพระเจ้า
  • เอเสเคียล 48:12 - ที่ส่วนนี้เป็นของขวัญพิเศษซึ่งยกให้แก่พวกเขา เป็นส่วนที่บริสุทธิ์ที่สุดในเขตศักดิ์สิทธิ์ติดกับเขตแดนของชนเลวี
  • เอเสเคียล 48:13 - “ใกล้กับเขตปุโรหิตนั้น เป็นที่ดินส่วนของชนเลวียาว 25,000 คิวบิท และกว้าง 10,000 คิวบิท ความยาวทั้งหมดของมันจะเป็น 25,000 คิวบิทและกว้าง 10,000 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:14 - ที่ดินนั้นห้ามซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน เป็นผืนดินที่ดีเยี่ยม อย่าให้ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นเลย เพราะเป็นที่บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เอเสเคียล 48:15 - “ส่วนที่เหลือซึ่งกว้าง 5,000 คิวบิท ยาว 25,000 คิวบิท เป็นที่สาธารณประโยชน์ของเมืองนั้น เป็นที่สำหรับบ้านเรือนและทุ่งหญ้า ตัวเมืองอยู่ใจกลาง
  • เอเสเคียล 48:16 - เมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสคือกว้างยาวด้านละ 4,500 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:17 - ที่โล่งสำหรับเป็นทุ่งหญ้าอยู่รอบเมือง แต่ละด้านทั้งสี่ทิศมีระยะด้านละ 250 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:18 - เนื้อที่ที่เหลือติดกับเขตศักดิ์สิทธิ์ ความยาวคู่ขนานกัน วัดทางตะวันออกได้ 10,000 คิวบิท วัดทางตะวันตกได้ 10,000 คิวบิท ผลผลิตที่ได้จากแผ่นดินนี้ใช้เป็นอาหารสำหรับผู้ทำงานในตัวเมือง
  • เอเสเคียล 48:19 - คนงานจากตัวเมืองที่ทำไร่ไถนาบนที่ดินผืนนี้มาจากอิสราเอลทุกเผ่า
  • เอเสเคียล 48:20 - ที่ดินส่วนนี้ทั้งหมดจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 25,000 คิวบิท นี่เป็นของถวายพิเศษที่เจ้าจะกันไว้เป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับที่ดินของเมืองนี้ด้วย
  • เอเสเคียล 48:21 - “ส่วนที่เหลืออยู่สองด้านของเขตศักดิ์สิทธิ์และบริเวณของตัวเมืองจะเป็นของเจ้านาย กินเนื้อที่ไปทางตะวันออกจากระยะ 25,000 คิวบิทของเขตศักดิ์สิทธิ์ไปถึงชายแดนตะวันออก และไปทางตะวันตกจากระยะ 25,000 คิวบิทไปยังชายแดนด้านตะวันตก ทั้งสองบริเวณนี้ซึ่งความยาวคู่ขนานกับที่ดินของเผ่าต่างๆ เป็นของเจ้านาย โดยมีเขตศักดิ์สิทธิ์กับสถานนมัสการของพระวิหารอยู่ที่ใจกลาง
  • เอเสเคียล 48:22 - ฉะนั้นที่ดินของชนเลวี และบริเวณของตัวเมืองจะอยู่ตรงกลางพื้นที่ซึ่งเป็นของเจ้านาย ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของยูดาห์กับของเบนยามิน
  • เอเสเคียล 48:23 - “สำหรับเผ่าต่างๆ ที่เหลือ เบนยามินจะได้รับส่วนหนึ่ง ที่ดินของเขาจะทอดยาวจากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:24 - “สิเมโอนจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของเบนยามินจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:25 - “อิสสาคาร์จะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของสิเมโอนจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:26 - “เศบูลุนจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของอิสสาคาร์จากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:27 - “กาดจะได้รับส่วนหนึ่ง จะมีเขตแดนติดกับดินแดนของเศบูลุนจากตะวันออกถึงตะวันตก
  • เอเสเคียล 48:28 - “อาณาเขตด้านใต้ของกาด คือจากทามาร์มุ่งลงทางใต้ ถึงห้วงน้ำเมรีบาห์คาเดช แล้วไปตามลำน้ำแห่งอียิปต์ถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • เอเสเคียล 48:29 - “จงแบ่งสรรปันส่วนดินแดนตามนี้แก่เผ่าต่างๆ ของอิสราเอล เพื่อเป็นมรดกตกทอดของเขา และนี่เป็นส่วนของพวกเขา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
  • เอเสเคียล 48:30 - “ต่อไปนี้เป็นประตูเมืองของนครนั้น เริ่มจากทางเหนือซึ่งยาว 4,500 คิวบิท
  • เอเสเคียล 48:31 - ประตูต่างๆ ของเมืองนี้ตั้งชื่อตามเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล สามประตูทางด้านเหนือได้แก่ ประตูรูเบน ประตูยูดาห์ และประตูเลวี
  • เอเสเคียล 48:32 - “ทางด้านตะวันออกซึ่งยาว 4,500 คิวบิท มีสามประตูคือ ประตูโยเซฟ ประตูเบนยามิน และประตูดาน
  • เอเสเคียล 48:33 - “ทางด้านใต้ซึ่งวัดได้ 4,500 คิวบิท มีสามประตูคือ ประตูสิเมโอน ประตูอิสสาคาร์ และประตูเศบูลุน
  • เอเสเคียล 48:34 - “ด้านตะวันตกซึ่งยาว 4,500 คิวบิท มีสามประตูคือ ประตูกาด ประตูอาเชอร์ และประตูนัฟทาลี
  • เอเสเคียล 48:35 - “วัดระยะรอบเมืองได้ 18,000 คิวบิท “และนับแต่นี้ไปนครนั้นจะได้ชื่อว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตที่นี่’ ”
  • วิวรณ์ 7:4 - แล้วข้าพเจ้าได้ยินว่าจำนวนผู้รับการประทับตราคือ 144,000 คนจากทุกเผ่าของอิสราเอล
  • วิวรณ์ 7:5 - จากเผ่ายูดาห์ 12,000 คน ได้รับการประทับตรา จากเผ่ารูเบน 12,000 คน จากเผ่ากาด 12,000 คน
  • วิวรณ์ 7:6 - จากเผ่าอาเชอร์ 12,000 คน จากเผ่านัฟทาลี 12,000 คน จากเผ่ามนัสเสห์ 12,000 คน
  • วิวรณ์ 7:7 - จากเผ่าสิเมโอน 12,000 คน จากเผ่าเลวี 12,000 คน จากเผ่าอิสสาคาร์ 12,000 คน
  • วิวรณ์ 7:8 - จากเผ่าเศบูลุน 12,000 คน จากเผ่าโยเซฟ 12,000 คน จากเผ่าเบนยามิน 12,000 คน
  • กันดารวิถี 7:12 - ในวันแรกนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับแห่งเผ่ายูดาห์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:13 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรม ทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:14 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัม บรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:15 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:16 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:17 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัว สำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
  • กันดารวิถี 7:18 - วันที่สอง เนธันเอลบุตรศุอาร์ผู้นำเผ่าอิสสาคาร์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:19 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:20 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:21 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:22 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:23 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเนธันเอลบุตรศุอาร์
  • กันดารวิถี 7:24 - วันที่สาม เอลีอับบุตรเฮโลนผู้นำเผ่าเศบูลุนนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:25 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:26 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:27 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:28 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:29 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลีอับบุตรเฮโลน
  • กันดารวิถี 7:30 - วันที่สี่ เอลีซูร์บุตรเชเดเออร์ผู้นำเผ่ารูเบนนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:31 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:32 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:33 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:34 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:35 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
  • กันดารวิถี 7:36 - วันที่ห้า เชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัยผู้นำเผ่าสิเมโอนนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:37 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:38 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:39 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:40 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:41 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
  • กันดารวิถี 7:42 - วันที่หก เอลียาสาฟบุตรเดอูเอลผู้นำเผ่ากาดนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:43 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:44 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:45 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:46 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:47 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
  • กันดารวิถี 7:48 - วันที่เจ็ด เอลีชามาบุตรอัมมีฮูดผู้นำเผ่าเอฟราอิมนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:49 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:50 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:51 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:52 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:53 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากเอลีชามาบุตรอัมมีฮูด
  • กันดารวิถี 7:54 - วันที่แปด กามาลิเอลบุตรเปดาซูร์ผู้นำเผ่ามนัสเสห์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:55 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:56 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:57 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:58 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:59 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากกามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
  • กันดารวิถี 7:60 - วันที่เก้า อาบีดันบุตรกิเดโอนีผู้นำเผ่าเบนยามินนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:61 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:62 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:63 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:64 - แพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:65 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากอาบีดันบุตรกิเดโอนี
  • กันดารวิถี 7:66 - วันที่สิบ อาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัยผู้นำเผ่าดานนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:67 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:68 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:69 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:70 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:71 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากอาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
  • กันดารวิถี 7:72 - วันที่สิบเอ็ด ปากีเอลบุตรโอครานผู้นำเผ่าอาเชอร์นำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:73 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:74 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:75 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:76 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:77 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากปากีเอลบุตรโอคราน
  • กันดารวิถี 7:78 - วันที่สิบสอง อาหิราบุตรเอนันผู้นำเผ่านัฟทาลีนำของมาถวาย ได้แก่
  • กันดารวิถี 7:79 - จานเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินหนึ่งใบหนักประมาณ 800 กรัม ทั้งจานและชามใส่แป้งละเอียดเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นธัญบูชา
  • กันดารวิถี 7:80 - จานทองคำหนึ่งใบหนักประมาณ 110 กรัมบรรจุเครื่องหอม
  • กันดารวิถี 7:81 - วัวหนุ่มหนึ่งตัว แกะผู้หนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
  • กันดารวิถี 7:82 - แพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:83 - วัวผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบห้าตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชา นี่คือของถวายจากอาหิราบุตรเอนัน
  • กันดารวิถี 7:84 - สิ่งเหล่านี้คือของถวายจากบรรดาผู้นำอิสราเอล เพื่อการถวายแท่นบูชาเมื่อแท่นบูชาได้รับการเจิมคือ จานเงินสิบสองใบ อ่างประพรมทำจากเงินสิบสองใบ และจานทองคำสิบสองใบ
  • กันดารวิถี 7:85 - จานเงินแต่ละใบหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อ่างประพรมทำจากเงินแต่ละใบหนักประมาณ 800 กรัม รวมแล้วหนักประมาณ 28 กิโลกรัม
  • กันดารวิถี 7:86 - จานทองคำบรรจุเครื่องหอมสิบสองใบแต่ละใบหนักประมาณ 110 กรัม รวมแล้วหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม
  • กันดารวิถี 7:87 - สัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องเผาบูชาทั้งหมดมีวัวหนุ่มสิบสองตัว แกะผู้สิบสองตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบสิบสองตัวพร้อมด้วยเครื่องธัญบูชา มีแพะผู้สิบสองตัวใช้สำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • กันดารวิถี 7:88 - สัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องสันติบูชาทั้งหมดมีวัวผู้ 24 ตัว แกะผู้ 60 ตัว แพะผู้ 60 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบ 60 ตัว ทั้งหมดนี้คือของถวายเพื่อการถวายแท่นบูชาหลังจากแท่นบูชาได้รับการเจิม
  • กันดารวิถี 7:89 - เมื่อโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าเขาได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับเขาจากพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญาระหว่างเครูบทั้งสอง พระองค์ได้ตรัสกับเขาจากที่นั่น
  • 2ซามูเอล 16:21 - อาหิโธเฟลจึงทูลว่า “ขอทรงไปหลับนอนกับบรรดาสนมของราชบิดาซึ่งเฝ้าวังอยู่ แล้วอิสราเอลทั้งปวงจะได้ทราบว่าฝ่าพระบาททรงเป็นที่เกลียดชังของราชบิดายิ่งนัก เพื่อคนของฝ่าพระบาทจะได้มีใจฮึกเหิมยิ่งขึ้น”
  • 2ซามูเอล 16:22 - ฉะนั้นพวกเขาจึงตั้งเต็นท์ขึ้นบนดาดฟ้าของวัง ให้อับซาโลมเข้าไปนอนกับบรรดาสนมของราชบิดาต่อหน้าต่อตาอิสราเอลทั้งปวง
  • ปฐมกาล 30:5 - นางได้ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่เขา
  • ปฐมกาล 30:6 - แล้วราเชลกล่าวว่า “พระเจ้าทรงตัดสินให้ฉันชนะ พระองค์ทรงสดับฟังคำวิงวอนของฉันและประทานลูกชายแก่ฉัน” เพราะเหตุนี้นางจึงตั้งชื่อเขาว่าดาน
  • ปฐมกาล 30:7 - แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่งและคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:8 - แล้วราเชลกล่าวว่า “ฉันได้ต่อสู้กับพี่สาวอย่างหนักมาตลอดและฉันก็ชนะแล้ว” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่านัฟทาลี
  • ปฐมกาล 30:9 - เมื่อเลอาห์เห็นว่าตนไม่มีลูกอีก จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:10 - ศิลปาห์ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:11 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “โชคดีอะไรอย่างนี้!” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ากาด
  • ปฐมกาล 30:12 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็ให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองแก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:13 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “ฉันสุขใจจริงๆ! พวกผู้หญิงจะเรียกฉันว่าเป็นสุข” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอาเชอร์
  • ปฐมกาล 30:14 - วันหนึ่งในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่ทุ่งนาและพบต้นดูดาอิม จึงนำมาให้เลอาห์ผู้เป็นมารดา ราเชลพูดกับเลอาห์ว่า “ขอดูดาอิมของลูกชายพี่ให้ฉันบ้างเถิด”
  • ปฐมกาล 30:15 - แต่เลอาห์ตอบนางว่า “เจ้าเอาสามีของฉันไปยังไม่พออีกหรือ? แล้วยังจะมาเอาดูดาอิมของลูกฉันอีกหรือ?” ราเชลกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ยาโคบไปนอนกับพี่คืนนี้ได้ แลกกับดูดาอิมของลูกชายพี่”
  • ปฐมกาล 30:16 - เย็นวันนั้นเมื่อยาโคบกลับมาจากทุ่งนา เลอาห์ก็ออกไปพบและพูดว่า “ท่านต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันเอาดูดาอิมของลูกเป็นสินจ้างแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง
  • ปฐมกาล 30:17 - พระเจ้าทรงฟังเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนที่ห้า
  • ปฐมกาล 30:18 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานรางวัลให้ฉันเพราะฉันได้ยกสาวใช้ให้สามี” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอิสสาคาร์
  • ปฐมกาล 30:19 - เลอาห์ได้ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรชายคนที่หกให้แก่ยาโคบ
  • ปฐมกาล 30:20 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานของขวัญล้ำค่าแก่ฉัน คราวนี้สามีจะยกย่องฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้แก่เขาถึงหกคน” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเศบูลุน
  • ปฐมกาล 30:21 - ต่อมาภายหลัง นางได้คลอดบุตรสาวคนหนึ่งและตั้งชื่อว่าดีนาห์
  • ปฐมกาล 30:22 - แล้วพระเจ้าทรงระลึกถึงราเชล พระองค์ทรงฟังนางและให้นางมีบุตร
  • ปฐมกาล 30:23 - นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “พระเจ้าทรงลบล้างความอับอายของฉันแล้ว”
  • ปฐมกาล 30:24 - นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง”
  • วิวรณ์ 21:14 - กำแพงนครนั้นมีสิบสองฐานและบนฐานเหล่านั้นจารึกชื่ออัครทูตทั้งสิบสองคนของพระเมษโปดก
  • กันดารวิถี 1:20 - จากวงศ์วานของรูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอล ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อทีละคนตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:21 - จำนวนพลจากเผ่ารูเบน 46,500 คน
  • กันดารวิถี 1:22 - จากวงศ์วานของสิเมโอน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อทีละคนตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:23 - จำนวนพลจากเผ่าสิเมโอน 59,300 คน
  • กันดารวิถี 1:24 - จากวงศ์วานของกาด ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:25 - จำนวนพลจากเผ่ากาด 45,650 คน
  • กันดารวิถี 1:26 - จากวงศ์วานของยูดาห์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:27 - จำนวนพลจากเผ่ายูดาห์ 74,600 คน
  • กันดารวิถี 1:28 - จากวงศ์วานของอิสสาคาร์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:29 - จำนวนพลจากเผ่าอิสสาคาร์ 54,400 คน
  • กันดารวิถี 1:30 - จากวงศ์วานของเศบูลุน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:31 - จำนวนพลจากเผ่าเศบูลุน 57,400 คน
  • กันดารวิถี 1:32 - จากวงศ์วานของเอฟราอิมบุตรโยเซฟ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:33 - จำนวนพลจากเผ่าเอฟราอิม 40,500 คน
  • กันดารวิถี 1:34 - จากวงศ์วานของมนัสเสห์บุตรโยเซฟ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:35 - จำนวนพลจากเผ่ามนัสเสห์ 32,200 คน
  • กันดารวิถี 1:36 - จากวงศ์วานของเบนยามิน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:37 - จำนวนพลจากเผ่าเบนยามิน 35,400 คน
  • กันดารวิถี 1:38 - จากวงศ์วานของดาน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:39 - จำนวนพลจากเผ่าดาน 62,700 คน
  • กันดารวิถี 1:40 - จากวงศ์วานของอาเชอร์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:41 - จำนวนพลจากเผ่าอาเชอร์ 41,500 คน
  • กันดารวิถี 1:42 - จากวงศ์วานของนัฟทาลี ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:43 - จำนวนพลจากเผ่านัฟทาลี 53,400 คน
  • กันดารวิถี 1:44 - ทั้งหมดนี้คือจำนวนผู้ชายที่โมเสส อาโรนและผู้นำทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอลได้นับไว้ แต่ละคนเป็นตัวแทนครอบครัวของเขา
  • กันดารวิถี 1:45 - คือผู้ชายอิสราเอลอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ร่วมทัพได้ ได้ถูกนับไว้ตามครอบครัวของเขา
  • กันดารวิถี 1:46 - รวมทั้งสิ้น 603,550 คน
  • ปฐมกาล 49:1 - ยาโคบจึงเรียกบุตรชายทั้งหมดมากล่าวว่า “ล้อมวงกันเข้ามาเถิด เราจะบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าในภายภาคหน้า
  • ปฐมกาล 49:2 - “จงล้อมวงกันเข้ามาฟังเรา ลูกๆ ของยาโคบเอ๋ย มาฟังอิสราเอลพ่อของเจ้าเถิด
  • ปฐมกาล 49:3 - “รูเบน เจ้าเป็นลูกหัวปีของเรา เจ้าเป็นอำนาจและเป็นผลแรกแห่งพละกำลังของเรา เจ้าเป็นยอดแห่งเกียรติยศและพลังอำนาจ
  • ปฐมกาล 49:4 - แต่เจ้าบ้าระห่ำเหมือนน้ำเชี่ยว เจ้าจะไม่ได้เป็นยอดอีกต่อไป เพราะเจ้าล่วงล้ำเข้าไปถึงเตียงของพ่อ เข้าไปถึงที่นอนของเรา และทำให้ที่นั่นแปดเปื้อนมลทิน
  • ปฐมกาล 49:5 - “สิเมโอนกับเลวีเป็นพี่น้องกัน ดาบ ของพวกเขาเป็นอาวุธเพื่อทำการอำมหิต
  • ปฐมกาล 49:6 - อย่าให้เราเป็นพวกเดียวกันกับเขา อย่าให้เราเข้าร่วมในที่ชุมนุมของพวกเขา เพราะพวกเขาฆ่าคนเมื่อพวกเขาโกรธ และตัดเอ็นขาวัวผู้เล่นตามความพอใจของเขา
  • ปฐมกาล 49:7 - คำสาปแช่งจะตกอยู่แก่ความโกรธกริ้วอันเหี้ยมเกรียมของเขา และตกอยู่แก่ความเดือดดาลอันโหดร้ายของเขา! เราจะทำให้พวกเขาปะปนไปทั่วดินแดนของยาโคบ และให้พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:8 - “ยูดาห์ เอ๋ย พี่น้องของเจ้าจะสรรเสริญเจ้า มือของเจ้าจะขย้ำที่คอของศัตรู พี่น้องร่วมสายโลหิตจะก้มกราบเจ้า
  • ปฐมกาล 49:9 - ยูดาห์เอ๋ย เจ้าคือลูกสิงโต ลูกของเราเอ๋ย เจ้ากลับมาจากกินเหยื่อ เขาหมอบลงเหมือนราชสีห์ เขาเอนลงอย่างนางสิงห์ ใครจะกล้าไปแหย่เขาได้?
  • ปฐมกาล 49:10 - คทาจะไม่พ้นจากมือของยูดาห์ อำนาจปกครองจะไม่ขาดไปจากเชื้อสายของเขา จนกว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงจะมาถึง บรรดาชนชาติจะเชื่อฟังผู้นั้น
  • ปฐมกาล 49:11 - เขาจะผูกลาไว้ที่เถาองุ่น ผูกลูกลาไว้ที่กิ่งที่ดีที่สุด เขาจะซักล้างอาภรณ์ของตนในเหล้าองุ่น ซักเสื้อผ้าในน้ำองุ่นสีเลือด
  • ปฐมกาล 49:12 - ตาของเขาแวววาวกว่าเหล้าองุ่น ฟันของเขาขาวยิ่งกว่าน้ำนม
  • ปฐมกาล 49:13 - “เศบูลุนจะอาศัยอยู่ริมฝั่งทะเล และกลายเป็นท่าเทียบเรือ ชายแดนของเขาจะขยายไปจนจดไซดอน
  • ปฐมกาล 49:14 - “อิสสาคาร์เป็นเหมือนลาที่แข็งแรง นอนลงทั้งที่แบกถุงสัมภาระทั้งสองอยู่
  • ปฐมกาล 49:15 - เมื่อเขาเห็นว่าที่พักพิงดี และแผ่นดินน่าอภิรมย์เพียงไร เขาก็จะย่อบ่าของตนลงแบกภาระ และยอมเป็นทาสรับใช้
  • ปฐมกาล 49:16 - “ดาน จะให้ความเป็นธรรมแก่พลเมืองของตน เหมือนให้แก่เผ่าอื่นๆ ในอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:17 - เขาจะเป็นเหมือนงูตามริมทาง เหมือนงูพิษที่อยู่ตามถนน มันจะฉกส้นเท้าม้า ให้คนขี่ตกจากหลังม้า
  • ปฐมกาล 49:18 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์รอคอยการช่วยกู้ของพระองค์
  • ปฐมกาล 49:19 - “กองโจรจะเข้าโจมตีกาด แต่กาดจะโต้ตอบและดักตีส้นเท้าคนเหล่านั้น
  • ปฐมกาล 49:20 - “อาหารของอาเชอร์อุดมสมบูรณ์ เขาจะเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศที่คู่ควรกับกษัตริย์
  • ปฐมกาล 49:21 - “นัฟทาลีเป็นกวางตัวเมียที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ ตกลูกอ่อนน่ารักมากมาย
  • ปฐมกาล 49:22 - “โยเซฟเป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผล เป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผลอยู่ใกล้น้ำพุ กิ่งเถาของมันเลื้อยข้ามกำแพง
  • ปฐมกาล 49:23 - พลธนูโจมตีเขาด้วยความเคียดแค้น ยิงเข้าใส่เขาด้วยใจเกลียดชัง
  • ปฐมกาล 49:24 - แต่ธนูของเขานิ่งไม่สั่นไหว แขนของเขาแข็งแรงไม่อ่อนล้า เนื่องด้วยพระหัตถ์ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ เนื่องด้วยพระผู้เลี้ยง พระศิลาของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:25 - เนื่องด้วยพระเจ้าของบิดาเจ้าผู้ทรงช่วยเจ้า เนื่องด้วยองค์ทรงฤทธิ์ผู้ทรงอวยพรเจ้า ด้วยพรแห่งสวรรค์เบื้องบน พรแห่งที่ลึกเบื้องล่าง พรแห่งอ้อมอกและครรภ์
  • ปฐมกาล 49:26 - พรจากบิดาของเจ้ายิ่งใหญ่ กว่าพรแห่งภูเขาดึกดำบรรพ์ กว่า ความอุดมแห่งเนินเขาเก่าแก่ ขอพระพรเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ อยู่บนกระหม่อมของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลาง พี่น้องของเจ้า
  • ปฐมกาล 49:27 - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • ปฐมกาล 49:28 - ทั้งหมดนี้คืออิสราเอลสิบสองเผ่า และนี่เป็นคำพูดของยาโคบบิดาของพวกเขาเมื่ออวยพรลูกๆ โดยให้พรแต่ละคนตามที่เขาเห็นควร
  • กันดารวิถี 26:57 - ต่อไปนี้คือเผ่าเลวีนับตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเกอร์โชนจากเกอร์โชน ตระกูลโคฮาทจากโคฮาท ตระกูลเมรารีจากเมรารี
  • กันดารวิถี 26:58 - ต่อไปนี้ก็คือตระกูลของเลวีด้วย ได้แก่ ตระกูลลิบนี ตระกูลเฮโบรน ตระกูลมาห์ลี ตระกูลมูชี ตระกูลโคราห์ (โคฮาทเป็นบรรพบุรุษของอัมราม
  • กันดารวิถี 26:59 - ภรรยาของอัมรามชื่อโยเคเบดผู้เป็นเชื้อสายของเลวี ซึ่งเป็นบุตรสาวของชาวเลวี ที่เกิดในอียิปต์ อัมรามมีบุตรชายคืออาโรนกับโมเสส และบุตรสาวชื่อมิเรียม
  • กันดารวิถี 26:60 - อาโรนมีบุตรชื่อ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์
  • กันดารวิถี 26:61 - แต่นาดับและอาบีฮูสิ้นชีวิตไปเมื่อครั้งจุดไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า)
  • กันดารวิถี 26:62 - จำนวนผู้ชายทั้งหมดในตระกูลเลวีอายุหนึ่งเดือนขึ้นไปนับได้ 23,000 คน แต่ไม่ได้นับรวมเข้าในสำมะโนประชากรของอิสราเอล เพราะชาวเลวีไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเหมือนตระกูลอื่นๆ
  • 1พงศาวดาร 2:1 - บุตรของอิสราเอล ได้แก่ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
  • 1พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ( นรธ.4:18-22 ; มธ.1:3-6 )
  • กันดารวิถี 1:5 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้นำที่จะมาช่วยเจ้าได้แก่ จากเผ่ารูเบนคือ เอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
  • กันดารวิถี 1:6 - จากเผ่าสิเมโอนคือ เชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
  • กันดารวิถี 1:7 - จากเผ่ายูดาห์คือ นาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
  • กันดารวิถี 1:8 - จากเผ่าอิสสาคาร์คือ เนธันเอลบุตรศุอาร์
  • กันดารวิถี 1:9 - จากเผ่าเศบูลุนคือ เอลีอับบุตรเฮโลน
  • กันดารวิถี 1:10 - จากบุตรของโยเซฟคือ จากเผ่าเอฟราอิมคือ เอลีชามาบุตรอัมมีฮูด จากเผ่ามนัสเสห์คือ กามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
  • กันดารวิถี 1:11 - จากเผ่าเบนยามินคือ อาบีดันบุตรกิเดโอนี
  • กันดารวิถี 1:12 - จากเผ่าดานคือ อาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
  • กันดารวิถี 1:13 - จากเผ่าอาเชอร์คือ ปากีเอลบุตรโอคราน
  • กันดารวิถี 1:14 - จากเผ่ากาดคือ เอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
  • กันดารวิถี 1:15 - จากเผ่านัฟทาลีคือ อาหิราบุตรเอนัน”
  • อพยพ 1:1 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อบุตรชายของอิสราเอล ซึ่งติดตามยาโคบไปยังอียิปต์พร้อมด้วยครอบครัวของเขา
  • อพยพ 1:2 - ได้แก่ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์
  • อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
  • อพยพ 1:4 - ดาน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
  • อพยพ 1:5 - วงศ์วานของยาโคบที่เข้าไปในอียิปต์กับเขานับได้ทั้งหมดเจ็ดสิบคน ส่วนโยเซฟอยู่ที่นั่นแล้ว
  • อพยพ 6:14 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อหัวหน้าครอบครัว ต่างๆ ของพวกเขา รูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอลมีบุตรชายชื่อ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลรูเบน
  • อพยพ 6:15 - สิเมโอนมีบุตรชายชื่อ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ และชาอูล ซึ่งมารดาเป็นหญิงชาวคานาอัน คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลสิเมโอน
  • อพยพ 6:16 - ต่อไปนี้คือรายชื่อบุตรชายของเลวีตามลำดับวงศ์ของเขาได้แก่ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี เลวีมีอายุได้ 137 ปี
  • 1พงศาวดาร 27:16 - เจ้าหน้าที่ปกครองเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลมีดังต่อไปนี้ เผ่ารูเบนมีเอลีเอเซอร์บุตรศิครีปกครอง เผ่าสิเมโอนมีเชฟาทิยาห์บุตรมาอาคาห์ปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:17 - เผ่าเลวีมีฮาชาบิยาห์บุตรเคมูเอลปกครอง วงศ์วานของอาโรนมีศาโดกปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:18 - เผ่ายูดาห์มีเอลีฮูพี่ชายของดาวิดปกครอง เผ่าอิสสาคาร์มีอมรีบุตรมีคาเอลปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:19 - เผ่าเศบูลุนมีอิชมัยอาห์บุตรโอบาดีห์ปกครอง เผ่านัฟทาลีมีเยรีโมทบุตรอัสรีเอลปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:20 - เผ่าเอฟราอิมมีโฮเชยาบุตรอาซาซิยาห์ปกครอง เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่ามีโยเอลบุตรเปดายาห์ปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:21 - เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าในกิเลอาดมีอิดโดบุตรเศคาริยาห์ปกครอง เผ่าเบนยามินมียาอาซีเอลบุตรอับเนอร์ปกครอง
  • 1พงศาวดาร 27:22 - เผ่าดานมีอาซาเรลบุตรเยโรฮัมปกครอง คนเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • 1พงศาวดาร 12:23 - ต่อไปนี้เป็นจำนวนพลรบที่มาสมทบกับดาวิดที่เมืองเฮโบรน เพื่อจะตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์แทนซาอูล ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้แล้ว
  • 1พงศาวดาร 12:24 - มีนักรบจากยูดาห์ 6,800 คน มีโล่และหอกพร้อม
  • 1พงศาวดาร 12:25 - มีนักรบพร้อมออกศึกจากสิเมโอน 7,100 คน
  • 1พงศาวดาร 12:26 - จากเลวี 4,600 คน
  • 1พงศาวดาร 12:27 - รวมเยโฮยาดาซึ่งเป็นหัวหน้าในครอบครัวของอาโรนพร้อมกับคน 3,700 คน
  • 1พงศาวดาร 12:28 - และศาโดกนักรบหนุ่มผู้กล้าหาญพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 22 คนจากครอบครัวของเขา
  • 1พงศาวดาร 12:29 - จากเบนยามินญาติพี่น้องของซาอูลมี 3,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เคยภักดีต่อฝ่ายซาอูลมาก่อน
  • 1พงศาวดาร 12:30 - มีนักรบกล้าหาญจากเอฟราอิม 20,800 คน ล้วนมีชื่อเสียงในตระกูลของตน
  • 1พงศาวดาร 12:31 - เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าส่งคนมาตามรายชื่อที่ระบุไว้ 18,000 คน เพื่อตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์
  • 1พงศาวดาร 12:32 - มีหัวหน้าตระกูลจากอิสสาคาร์ 200 คน พร้อมทั้งญาติที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคนที่เข้าใจจังหวะเวลา และรู้ว่าอิสราเอลควรทำอย่างไร
  • 1พงศาวดาร 12:33 - มีนักรบเจนศึกจากเศบูลุน 50,000 คน พร้อมออกศึกโดยใช้อาวุธทุกชนิดและมีความภักดีต่อดาวิดอย่างแน่วแน่
  • 1พงศาวดาร 12:34 - มีเจ้าหน้าที่จากนัฟทาลี 1,000 คน และทหาร 37,000 คน ถือโล่และหอก
  • 1พงศาวดาร 12:35 - จากดานมี 28,600 คน พร้อมออกศึก
  • 1พงศาวดาร 12:36 - มีทหารเจนศึกจากอาเชอร์ 40,000 คน พร้อมรบ
  • 1พงศาวดาร 12:37 - ชนเผ่ารูเบน กาด และมนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าจากฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 120,000 คน มีอาวุธทุกชนิด
  • 1พงศาวดาร 12:38 - ทั้งหมดนี้เป็นนักรบที่สมัครใจออกศึก พวกเขามายังเมืองเฮโบรน ตั้งใจเต็มที่ที่จะเชิญดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล ชาวอิสราเอลอื่นๆ ทั้งหมดก็พร้อมใจกันที่จะตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์
  • 1พงศาวดาร 12:39 - พวกเขากินเลี้ยงร่วมกับดาวิดเป็นเวลาสามวัน เพราะครอบครัวของพวกเขาได้จัดเตรียมเสบียงมาให้
  • 1พงศาวดาร 12:40 - ทั้งยังมีประชาชนทั้งใกล้และไกลเช่น อิสสาคาร์ เศบูลุน และนัฟทาลี นำอาหารบรรทุกมาบนลา อูฐ ล่อ และวัว นอกจากนั้นได้นำสิ่งของมากมายมาร่วมงานฉลองนี้ได้แก่ แป้ง มะเดื่ออัด ขนมลูกเกด เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะมีความชื่นชมยินดีในอิสราเอล
  • ปฐมกาล 46:8 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อบุตรชายของอิสราเอล (ยาโคบและพงศ์พันธุ์ของเขา) ผู้ไปอียิปต์ ได้แก่ รูเบน บุตรชายหัวปีของยาโคบ
  • ปฐมกาล 46:9 - บุตรของรูเบนได้แก่ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี
  • ปฐมกาล 46:10 - บุตรของสิเมโอนได้แก่ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ และชาอูลบุตรชายที่เกิดจากหญิงชาวคานาอัน
  • ปฐมกาล 46:11 - บุตรของเลวีได้แก่ เกอร์โชน โคฮาท และ เมรารี
  • ปฐมกาล 46:12 - บุตรของยูดาห์ได้แก่ เอร์ โอนัน เชลาห์ เปเรศ และเศราห์ (แต่เอร์และโอนันได้สิ้นชีวิตแล้วในคานาอัน) บุตรของเปเรศได้แก่ เฮสโรน และฮามูล
  • ปฐมกาล 46:13 - บุตรของอิสสาคาร์ได้แก่ โทลา ปูอาห์ ยาชูบ และชิมโรน
  • ปฐมกาล 46:14 - บุตรของเศบูลุนได้แก่ เสเรด เอโลน และยาเลเอล
  • ปฐมกาล 46:15 - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางเลอาห์ซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบในปัดดานอารัมนอกเหนือจากดีนาห์บุตรี รวมบุตรชายหญิงทั้งสิ้น 33 คน
  • ปฐมกาล 46:16 - บุตรของกาดได้แก่ เซโฟน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อาโรดี และอาเรลี
  • ปฐมกาล 46:17 - บุตรของอาเชอร์ได้แก่ อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และเบรีอาห์ กับเสราห์น้องสาวของพวกเขา บุตรของเบรีอาห์คือ เฮเบอร์และมัลคีเอล
  • ปฐมกาล 46:18 - คนเหล่านี้คือลูกหลานของยาโคบทางสายนางศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ซึ่งลาบันผู้เป็นบิดายกให้นาง รวมทั้งสิ้น 16 คน
  • ปฐมกาล 46:19 - บุตรของราเชลภรรยาของยาโคบได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • ปฐมกาล 46:20 - โยเซฟมีบุตรชายในอียิปต์สองคนคือ มนัสเสห์และเอฟราอิม ทั้งคู่เกิดจากนางอาเสนัทบุตรสาวของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งเมืองโอน
  • ปฐมกาล 46:21 - บุตรชายของเบนยามิน ได้แก่ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
  • ปฐมกาล 46:22 - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางราเชลซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบ รวมทั้งสิ้น 14 คน
  • ปฐมกาล 46:23 - บุตรของดาน ได้แก่ หุชิม
  • ปฐมกาล 46:24 - บุตรของนัฟทาลี ได้แก่ ยาซีเอล กูนี เยเซอร์ และชิลเลม
  • ปฐมกาล 46:25 - คนเหล่านี้คือลูกหลานของยาโคบทางสายนางบิลฮาห์ซึ่งลาบันยกให้แก่ราเชลบุตรีรวมทั้งสิ้น 7 คน
  • ปฐมกาล 46:26 - รวมจำนวนคนที่ไปอียิปต์พร้อมกับยาโคบเฉพาะเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของเขา ไม่รวมบุตรสะใภ้นับได้ 66 คน
  • ปฐมกาล 46:27 - นับบุตรชายของโยเซฟอีก 2 คน ที่อียิปต์ รวมคนในครอบครัวยาโคบที่ไปอียิปต์มี 70 คน
  • ปฐมกาล 29:31 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นว่ายาโคบไม่ได้รักเลอาห์ พระองค์จึงทรงให้นางมีบุตร แต่ราเชลเป็นหมัน
  • ปฐมกาล 29:32 - เลอาห์ก็ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางตั้งชื่อให้เขาว่ารูเบน เนื่องจากนางกล่าวว่า “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นความทุกข์ยากของฉัน บัดนี้สามีจะรักฉันแน่”
  • ปฐมกาล 29:33 - แล้วนางก็ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินว่าฉันไม่เป็นที่รัก พระองค์จึงประทานลูกชายคนนี้ให้ฉันด้วย” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าสิเมโอน
  • ปฐมกาล 29:34 - นางได้ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “ในที่สุดสามีจะมาผูกพันอยู่กับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายสามคนให้แก่เขา” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเลวี
  • ปฐมกาล 29:35 - นางได้ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “คราวนี้ฉันจะสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ายูดาห์ แล้วนางก็หยุดให้กำเนิดบุตร
  • กันดารวิถี 26:5 - วงศ์วานของรูเบนบุตรหัวปีของอิสราเอลได้แก่ ตระกูลฮาโนคจากฮาโนค ตระกูลปัลลูจากปัลลู
  • กันดารวิถี 26:6 - ตระกูลเฮสโรนจากเฮสโรน ตระกูลคารมีจากคารมี
  • กันดารวิถี 26:7 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของรูเบน นับได้ 43,730 คน
  • กันดารวิถี 26:8 - บุตรชายของปัลลูคือเอลีอับ
  • กันดารวิถี 26:9 - และบุตรชายของเอลีอับคือ เนมูเอล ดาธาน และอาบีรัม ดาธานและอาบีรัมนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของชุมชนซึ่งได้กบฏต่อโมเสสและต่ออาโรน และเป็นพรรคพวกของโคราห์เมื่อเขากบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • กันดารวิถี 26:10 - พื้นธรณีแยกออกและสูบพวกเขาลงไปพร้อมกับโคราห์ และพรรคพวกของเขา 250 คนถูกไฟคลอกตาย และนั่นเป็นเครื่องเตือนเหล่าประชากร
  • กันดารวิถี 26:11 - แต่เชื้อสายโคราห์ไม่ได้สูญสิ้นไป
  • กันดารวิถี 26:12 - วงศ์วานของสิเมโอนแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเนมูเอลจากเนมูเอล ตระกูลยามีนจากยามีน ตระกูลยาคีนจากยาคีน
  • กันดารวิถี 26:13 - ตระกูลเศราห์จากเศราห์ และตระกูลชาอูลจากชาอูล
  • กันดารวิถี 26:14 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของสิเมโอน นับได้ 22,200 คน
  • กันดารวิถี 26:15 - วงศ์วานของกาดแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเศโฟนจากเศโฟน ตระกูลฮักกีจากฮักกี ตระกูลชูนีจากชูนี
  • กันดารวิถี 26:16 - ตระกูลโอสนีจากโอสนี ตระกูลเอรีจากเอรี
  • กันดารวิถี 26:17 - ตระกูลอาโรดี จากอาโรดี และตระกูลอาเรลีจากอาเรลี
  • กันดารวิถี 26:18 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของกาด นับได้ 40,500 คน
  • กันดารวิถี 26:19 - เอร์และโอนันบุตรชายของยูดาห์เสียชีวิตที่คานาอัน
  • กันดารวิถี 26:20 - วงศ์วานของยูดาห์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเชลาห์จากเชลาห์ ตระกูลเปเรศจากเปเรศ ตระกูลเศราห์จากเศราห์
  • กันดารวิถี 26:21 - วงศ์วานของเปเรศ ได้แก่ ตระกูลเฮสโรนจากเฮสโรน และตระกูลฮามูลจากฮามูล
  • กันดารวิถี 26:22 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของยูดาห์ นับได้ 76,500 คน
  • กันดารวิถี 26:23 - วงศ์วานของอิสสาคาร์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลโทลาจากโทลา ตระกูลปูวาห์จากปูวาห์
  • กันดารวิถี 26:24 - ตระกูลยาชูบจากยาชูบ และตระกูลชิมโรนจากชิมโรน
  • กันดารวิถี 26:25 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของอิสสาคาร์ นับได้ 64,300 คน
  • กันดารวิถี 26:26 - วงศ์วานของเศบูลุน แยกตามตระกูลได้แก่ ตระกูลเสเรดจากเสเรด ตระกูลเอโลนจากเอโลน และตระกูลยาเลเอลจากยาเลเอล
  • กันดารวิถี 26:27 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเศบูลุน นับได้ 60,500 คน
  • กันดารวิถี 26:28 - วงศ์วานของโยเซฟแยกตามตระกูลนับตามมนัสเสห์และเอฟราอิมคือ
  • กันดารวิถี 26:29 - วงศ์วานของมนัสเสห์ ได้แก่ ตระกูลมาคีร์จากมาคีร์ (มาคีร์เป็นบิดาของกิเลอาด) ตระกูลกิเลอาดจากกิเลอาด
  • กันดารวิถี 26:30 - วงศ์วานของกิเลอาด ได้แก่ ตระกูลอีเยเซอร์จากอีเยเซอร์ ตระกูลเฮเลคจากเฮเลค
  • กันดารวิถี 26:31 - ตระกูลอัสรีเอลจากอัสรีเอล ตระกูลเชเคมจากเชเคม
  • กันดารวิถี 26:32 - ตระกูลเชมิดาจากเชมิดา และตระกูลเฮเฟอร์จากเฮเฟอร์
  • กันดารวิถี 26:33 - (เศโลเฟหัดบุตรเฮเฟอร์ไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรสาวได้แก่ มาห์ลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และทีรซาห์)
  • กันดารวิถี 26:34 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของมนัสเสห์ นับได้ 52,700 คน
  • กันดารวิถี 26:35 - วงศ์วานของเอฟราอิมแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลชูเธลาห์จากชูเธลาห์ ตระกูลเบเคอร์จากเบเคอร์ ตระกูลทาหานจากทาหาน
  • กันดารวิถี 26:36 - วงศ์วานของชูเธลาห์คือ ตระกูลเอรานจากเอราน
  • กันดารวิถี 26:37 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเอฟราอิมนับได้ 32,500 คน ทั้งหมดนี้คือวงศ์วานของโยเซฟแยกตามตระกูล
  • กันดารวิถี 26:38 - วงศ์วานของเบนยามินแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเบลาจากเบลา ตระกูลอัชเบลจากอัชเบล ตระกูลอาหิรัมจากอาหิรัม
  • กันดารวิถี 26:39 - ตระกูลชูฟาม จากชูฟาม และตระกูลหุฟามจากหุฟาม
  • กันดารวิถี 26:40 - วงศ์วานของเบลาทางอาร์ดและนาอามาน ได้แก่ ตระกูลอาร์ดจากอาร์ด และตระกูลนาอามานจากนาอามาน
  • กันดารวิถี 26:41 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเบนยามิน นับได้ 45,600 คน
  • กันดารวิถี 26:42 - วงศ์วานของดานแยกตามตระกูลคือ ตระกูลชูฮัมจากชูฮัม นี่คือตระกูลของดาน
  • กันดารวิถี 26:43 - ทั้งหมดล้วนอยู่ในตระกูลชูฮัม รวม 64,400 คน
  • กันดารวิถี 26:44 - วงศ์วานของอาเชอร์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลอิมนาห์จากอิมนาห์ ตระกูลอิชวีจากอิชวี ตระกูลเบรียาห์จากเบรียาห์
  • กันดารวิถี 26:45 - และวงศ์วานของตระกูลเบรียาห์ ได้แก่ ตระกูลเฮเบอร์จากเฮเบอร์ ตระกูลมัลคีเอลจากมัลคีเอล
  • กันดารวิถี 26:46 - (อาเชอร์มีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อเสราห์)
  • กันดารวิถี 26:47 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของอาเชอร์นับได้ 53,400 คน
  • กันดารวิถี 26:48 - วงศ์วานของนัฟทาลีแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลยาเซเอลจากยาเซเอล ตระกูลกูนีจากกูนี
  • กันดารวิถี 26:49 - ตระกูลเยเซอร์จากเยเซอร์ ตระกูลชิลเลมจากชิลเลม
  • กันดารวิถี 26:50 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของนัฟทาลีนับได้ 45,400 คน
  • กันดารวิถี 26:51 - รวมพลอิสราเอลทั้งหมดได้ 601,730 คน
  • เลวีนิติ 18:8 - “ ‘อย่าทำให้บิดาอับอายขายหน้าโดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของบิดา
  • 2ซามูเอล 20:3 - เมื่อดาวิดเสด็จมาถึงวังในเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงกักตัวสนมทั้งสิบซึ่งทรงทิ้งไว้ให้คอยรักษาวังนั้นไว้ที่ตำหนักแห่งหนึ่ง และให้ได้รับการเลี้ยงดูตามความต้องการ แต่กษัตริย์ไม่ได้รับเป็นสนมอีกต่อไป นางสนมเหล่านั้นจึงถูกกักอยู่ในฐานะแม่ม่ายจนวันตาย
  • 1โครินธ์ 5:1 - มีข่าวแจ้งว่าในพวกท่านมีการผิดศีลธรรมทางเพศ ชนิดที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่ในหมู่คนต่างศาสนา ก็คือคนหนึ่งเอาภรรยาของบิดามาเป็นภรรยาของตน
  • 1พงศาวดาร 5:1 - รูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอล (เนื่องจากทำให้เตียงสมรสของบิดาเป็นมลทิน สิทธิบุตรหัวปีของเขาจึงตกอยู่แก่บุตรของโยเซฟผู้เป็นบุตรของอิสราเอล บันทึกลำดับวงศ์ตระกูลจึงไม่ได้เอ่ยถึงรูเบนในฐานะบุตรหัวปี
圣经
资源
计划
奉献