逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แล้วยาโคบก็สาบานว่า “ถ้าพระเจ้าจะอยู่กับข้าพเจ้า และจะคุ้มครองข้าพเจ้าเวลาข้าพเจ้าเดินทางไป และจะให้อาหารข้าพเจ้ารับประทาน ให้เสื้อผ้าข้าพเจ้านุ่งห่ม
- 新标点和合本 - 雅各许愿说:“ 神若与我同在,在我所行的路上保佑我,又给我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(上帝版-简体) - 雅各许愿说:“上帝若与我同在,在我所行的路上保佑我,给我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(神版-简体) - 雅各许愿说:“ 神若与我同在,在我所行的路上保佑我,给我食物吃,衣服穿,
- 当代译本 - 雅各许愿说:“如果上帝与我同在,一路保护我,供给我衣食,
- 圣经新译本 - 于是雅各许了一个愿说:“如果 神与我同在,在我所走的路上看顾我,赐我食物吃,给我衣服穿,
- 中文标准译本 - 然后雅各许了一个愿说:“如果耶和华 与我同在,在我所行的这路上保守我,又赐给我粮食吃、衣服穿,
- 现代标点和合本 - 雅各许愿说:“神若与我同在,在我所行的路上保佑我,又给我食物吃、衣服穿,
- 和合本(拼音版) - 雅各许愿说:“上帝若与我同在,在我所行的路上保佑我,又给我食物吃、衣服穿,
- New International Version - Then Jacob made a vow, saying, “If God will be with me and will watch over me on this journey I am taking and will give me food to eat and clothes to wear
- New International Reader's Version - Then Jacob made a promise. He said, “May God be with me. May he watch over me on this journey I’m taking. May he give me food to eat and clothes to wear.
- English Standard Version - Then Jacob made a vow, saying, “If God will be with me and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat and clothing to wear,
- New Living Translation - Then Jacob made this vow: “If God will indeed be with me and protect me on this journey, and if he will provide me with food and clothing,
- The Message - Jacob vowed a vow: “If God stands by me and protects me on this journey on which I’m setting out, keeps me in food and clothing, and brings me back in one piece to my father’s house, this God will be my God. This stone that I have set up as a memorial pillar will mark this as a place where God lives. And everything you give me, I’ll return a tenth to you.” * * *
- Christian Standard Bible - Then Jacob made a vow: “If God will be with me and watch over me during this journey I’m making, if he provides me with food to eat and clothing to wear,
- New American Standard Bible - Jacob also made a vow, saying, “If God will be with me and will keep me on this journey that I take, and give me food to eat and garments to wear,
- New King James Version - Then Jacob made a vow, saying, “If God will be with me, and keep me in this way that I am going, and give me bread to eat and clothing to put on,
- Amplified Bible - Then Jacob made a vow (promise), saying, “If God will be with me and will keep me on this journey that I take, and will give me food to eat and clothing to wear,
- American Standard Version - And Jacob vowed a vow, saying, If God will be with me, and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat, and raiment to put on,
- King James Version - And Jacob vowed a vow, saying, If God will be with me, and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat, and raiment to put on,
- New English Translation - Then Jacob made a vow, saying, “If God is with me and protects me on this journey I am taking and gives me food to eat and clothing to wear,
- World English Bible - Jacob vowed a vow, saying, “If God will be with me, and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat, and clothing to put on,
- 新標點和合本 - 雅各許願說:「神若與我同在,在我所行的路上保佑我,又給我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 雅各許願說:「上帝若與我同在,在我所行的路上保佑我,給我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(神版-繁體) - 雅各許願說:「 神若與我同在,在我所行的路上保佑我,給我食物吃,衣服穿,
- 當代譯本 - 雅各許願說:「如果上帝與我同在,一路保護我,供給我衣食,
- 聖經新譯本 - 於是雅各許了一個願說:“如果 神與我同在,在我所走的路上看顧我,賜我食物吃,給我衣服穿,
- 呂振中譯本 - 雅各 許願說:『上帝如果與我同在,在我所走的這路上保護我,給我食物喫、衣服穿,
- 中文標準譯本 - 然後雅各許了一個願說:「如果耶和華 與我同在,在我所行的這路上保守我,又賜給我糧食吃、衣服穿,
- 現代標點和合本 - 雅各許願說:「神若與我同在,在我所行的路上保佑我,又給我食物吃、衣服穿,
- 文理和合譯本 - 雅各許願曰、如上帝偕我、佑我於所行之路、賜我以衣食、
- 文理委辦譯本 - 遂許願曰、如上帝眷佑我、庇護我、我所向往、賜以衣食、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雅各 許願曰、如天主在我所行之路眷祐我、庇護我、賜我衣食、
- Nueva Versión Internacional - Luego Jacob hizo esta promesa: «Si Dios me acompaña y me protege en este viaje que estoy haciendo, y si me da alimento y ropa para vestirme,
- 현대인의 성경 - 그러고서 야곱은 하나님께 맹세하며 말하였다. “만일 하나님이 나와 함께하셔서 이 여정에서 나를 지키시고 먹을 양식과 입을 옷을 주셔서
- Новый Русский Перевод - Затем Иаков дал клятву, сказав: – Если Бог будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- Восточный перевод - Затем Якуб дал клятву, сказав: – Если Всевышний будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Затем Якуб дал клятву, сказав: – Если Аллах будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Затем Якуб дал клятву, сказав: – Если Всевышний будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- La Bible du Semeur 2015 - Puis il fit le vœu suivant : Si Dieu est avec moi, s’il me protège au cours du voyage que je suis en train de faire, s’il me fournit de quoi manger et me vêtir,
- リビングバイブル - ヤコブは神に誓いました。「神様、もし主がこの旅で私を助け、守ってくださり、衣食にも不自由させず、
- Nova Versão Internacional - Então Jacó fez um voto, dizendo: “Se Deus estiver comigo, cuidar de mim nesta viagem que estou fazendo, prover-me de comida e roupa,
- Hoffnung für alle - Dann legte Jakob ein Gelübde ab: »Wenn der Herr mir beisteht und mich auf dieser Reise beschützt, wenn er mir genug Nahrung und Kleidung gibt
- Kinh Thánh Hiện Đại - Gia-cốp khấn nguyện: “Nếu Đức Chúa Trời ở với con, gìn giữ con trên đường con đang đi, cho con đủ ăn đủ mặc,
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แล้วยาโคบก็ปฏิญาณว่า “ถ้าพระเจ้าสถิตกับข้าพระองค์และดูแลปกป้องข้าพระองค์ตลอดการเดินทางครั้งนี้ ทั้งประทานอาหารให้ข้าพระองค์รับประทาน และประทานเสื้อผ้าให้ข้าพระองค์สวมใส่
交叉引用
- อิสยาห์ 19:21 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ชาวอียิปต์รู้จักพระองค์ ในวันนั้น ชาวอียิปต์จะรู้จักพระผู้เป็นเจ้า และนมัสการด้วยเครื่องสักการะและของถวาย พวกเขาจะให้คำสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติตามนั้นด้วย
- 1 ซามูเอล 14:24 - ในวันนั้นชาวอิสราเอลสู้รบอย่างหนัก ซาอูลจึงทำให้ประชาชนถือคำสาบานว่า “ใครก็ตามรับประทานอาหารก่อนจะถึงเย็น และก่อนเราแก้แค้นพวกศัตรูของเรา ก็ขอให้ถูกสาปแช่ง” ดังนั้นจึงไม่มีทหารคนใดลิ้มรสอาหาร
- 1 ซามูเอล 1:28 - ฉะนั้นฉันถวายตัวเขาให้แด่พระผู้เป็นเจ้า ตราบที่เขามีชีวิต ฉันถวายเขาให้เป็นของพระผู้เป็นเจ้า” และเขาก็ก้มกราบนมัสการพระผู้เป็นเจ้าที่นั่น
- สดุดี 116:14 - ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์
- สดุดี 119:106 - ข้าพเจ้าได้ให้คำสาบานและยืนยันแล้วว่า จะรักษาคำสั่งอันชอบธรรมของพระองค์
- ปฐมกาล 28:15 - ดูเถิด เราอยู่กับเจ้า และจะคุ้มครองเจ้าไม่ว่าเจ้าจะไปไหน และจะนำเจ้ากลับมายังดินแดนนี้ เพราะเราจะไม่จากเจ้าไปจนกว่าเราจะกระทำสิ่งที่เราได้สัญญาไว้เสียก่อน”
- กิจการของอัครทูต 18:18 - เปาโลอยู่ต่อที่เมืองโครินธ์สักพักนึ่ง แล้วจึงจากพวกพี่น้องไป โดยแล่นเรือไปยังแคว้นซีเรีย ปริสสิลลาและอาควิลลาก็ไปด้วย ก่อนที่ท่านจะไป ก็ได้ตัดผมที่เมืองเคนเครียตามที่ท่านได้สาบานไว้
- สดุดี 22:25 - คำสรรเสริญของข้าพเจ้าในที่ประชุมใหญ่มาจากพระองค์ ข้าพเจ้าจะทำตามคำสัญญาต่อหน้าบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
- สดุดี 56:12 - โอ พระเจ้า ข้าพเจ้าจะถวายสิ่งที่ข้าพเจ้าได้สัญญาไว้กับพระองค์ ข้าพเจ้าจะมอบของถวายแห่งการขอบคุณแด่พระองค์
- 1 ซามูเอล 1:11 - และนางสัญญาว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา ถ้าพระองค์จะกรุณาแลเห็นความทุกข์ใจของผู้รับใช้ของพระองค์จริงๆ และระลึกถึงข้าพเจ้า และไม่ลืมผู้รับใช้ของพระองค์ จะให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้บุตรชาย ข้าพเจ้าจะถวายตัวเขาให้แด่พระผู้เป็นเจ้าจนตลอดชีวิตของเขา และมีดโกนจะไม่แตะศีรษะของเขาเลย”
- สดุดี 76:11 - จงทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า ให้ทุกคนที่อยู่รายรอบพระองค์ นำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่องค์ผู้น่าเกรงขาม
- กันดารวิถี 6:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 6:2 - “จงบอกชาวอิสราเอลว่า ‘ถ้าชายหรือหญิงต้องการสาบานตนอย่างเจาะจง ซึ่งเป็นคำสาบานของชาวนาศีร์เพื่อถวายตัวแด่พระผู้เป็นเจ้า
- กันดารวิถี 6:3 - เขาต้องงดเหล้าองุ่นและสุรา เขาต้องไม่ดื่มน้ำส้มสายชูที่กลั่นจากเหล้าองุ่นหรือสุรา ไม่ดื่มน้ำองุ่น ไม่รับประทานองุ่นทั้งสดหรือแห้ง
- กันดารวิถี 6:4 - ตลอดเวลาที่ถวายตัว เขาจะไม่รับประทานสิ่งที่กลั่นจากเถาองุ่นไม่ว่าจะเป็นเมล็ดหรือเปลือกองุ่นก็ตาม
- กันดารวิถี 6:5 - ตลอดเวลาของคำสาบานที่เขาถวายตัว จะไม่มีมีดโกนแตะต้องศีรษะของเขาตราบจนระยะถวายตัวแด่พระผู้เป็นเจ้าจะจบสิ้นแล้ว เขาต้องบริสุทธิ์ เขาต้องไว้ผมยาว
- กันดารวิถี 6:6 - ตลอดเวลาถวายตัวแด่พระผู้เป็นเจ้า เขาจะต้องไม่เฉียดใกล้คนตาย
- กันดารวิถี 6:7 - ไม่ว่าจะเป็นบิดา มารดา หรือพี่น้องชายหญิงของเขา เขาต้องไม่ทำตนให้มีมลทินเพราะการตายของญาติเหล่านั้น เพราะเขาถวายตัวแด่พระเจ้าของเขาทั้งชีวิต
- กันดารวิถี 6:8 - ตลอดเวลาถวายตัวของเขา เขาบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า
- กันดารวิถี 6:9 - ถ้ามีผู้ใดตายกะทันหันต่อหน้าต่อตาเขา เขาทำให้ศีรษะที่เขาอุทิศเป็นมลทิน เขาก็ต้องโกนศีรษะในวันชำระตัว เขาต้องโกนศีรษะในวันที่เจ็ด
- กันดารวิถี 6:10 - และในวันที่แปดเขาต้องนำนกเขา 2 ตัวหรือนกพิราบหนุ่ม 2 ตัวมาให้ปุโรหิตที่ประตูกระโจมที่นัดหมาย
- กันดารวิถี 6:11 - ปุโรหิตจะถวายตัวหนึ่งเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป ส่วนอีกตัวเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปให้แก่เขา เพราะเขากระทำบาปที่อยู่กับคนตาย และเขาจะทำให้ศีรษะของเขาบริสุทธิ์ในวันเดียวกันนั้น
- กันดารวิถี 6:12 - เขาจะอุทิศตนในวันถวายตัวแด่พระผู้เป็นเจ้า เขาต้องนำแกะตัวผู้ 1 ตัวอายุ 1 ปีเป็นของถวายเพื่อไถ่โทษ ฉะนั้นวันถวายตัวที่ผ่านมาไม่นับเพราะเขามีมลทินในระยะนั้น
- กันดารวิถี 6:13 - เมื่อวันถวายตัวของเขาจบสิ้นแล้ว กฎสำหรับชาวนาศีร์มีดังนี้คือ ให้นำตัวเขามายังประตูกระโจมที่นัดหมาย
- กันดารวิถี 6:14 - เขาต้องนำเครื่องสักการะมาถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า คือลูกแกะตัวผู้ 1 ตัวที่ปราศจากตำหนิอายุ 1 ปีเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย แกะสาว 1 ตัวที่ปราศจากตำหนิอายุ 1 ปีเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป แกะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิเป็นของถวายเพื่อสามัคคีธรรม
- กันดารวิถี 6:15 - พร้อมด้วยเครื่องธัญญบูชาของพวกเขา และเครื่องดื่มบูชา ขนมปังไร้เชื้อ 1 ตะกร้า อบด้วยแป้งชั้นเยี่ยมผสมน้ำมัน และขนมปังกรอบไร้เชื้อทาน้ำมัน
- กันดารวิถี 6:16 - ปุโรหิตจะต้องถวายสิ่งเหล่านี้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และเขาจะถวายเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปและสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย
- กันดารวิถี 6:17 - เขาจะต้องถวายขนมปังไร้เชื้อจากตะกร้า และแกะตัวผู้เป็นของถวายเพื่อสามัคคีธรรมแด่พระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชา
- กันดารวิถี 6:18 - ชาวนาศีร์ต้องโกนศีรษะที่เขาอุทิศแล้วที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย เขาจะต้องโยนผมทิ้งในไฟใต้ของถวายเพื่อสามัคคีธรรม
- กันดารวิถี 6:19 - หลังจากชาวนาศีร์ได้โกนศีรษะที่เขาถวายเสร็จแล้ว ปุโรหิตจะต้องยื่นเนื้อสันขาหน้าของแกะตัวผู้ที่ต้มแล้ว พร้อมด้วยขนมไร้เชื้อ 1 ก้อน และขนมปังกรอบไร้เชื้อ 1 แผ่นจากตะกร้าให้เขารับไว้ในมือ
- กันดารวิถี 6:20 - แล้วปุโรหิตจะโบกของถวายเหล่านี้ขึ้นลง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องโบกอันบริสุทธิ์ซึ่งเป็นของปุโรหิต พร้อมด้วยส่วนอกที่โบกถวายและต้นขาที่ถวายแล้ว จากนั้นชาวนาศีร์ก็ดื่มเหล้าองุ่นได้
- สดุดี 116:18 - ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์
- กิจการของอัครทูต 23:12 - เช้าวันรุ่งขึ้นชาวยิวได้วางแผนการร้าย และสาบานว่าจะไม่กินหรือดื่มจนกว่าจะฆ่าเปาโลก่อน
- กิจการของอัครทูต 23:13 - คนที่เกี่ยวข้องกับแผนการนี้มีกว่า 40 คน
- กิจการของอัครทูต 23:14 - เขาทั้งหลายไปหาพวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ และกล่าวว่า “เราทุกคนได้สาบานตัวกันอย่างจริงจังว่า จะไม่กินอะไรเลยจนกว่าจะฆ่าเปาโลสำเร็จ
- กิจการของอัครทูต 23:15 - บัดนี้พวกท่านและศาสนสภาขอร้องให้ผู้บังคับกองพันนำตัวเขามาหาท่าน ราวกับว่าท่านจะพิจารณาคดีเขาโดยการสอบสวนอย่างรอบคอบ และพวกเราพร้อมที่จะฆ่าเขาก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี่”
- สดุดี 61:5 - โอ พระเจ้า เพราะพระองค์ได้ยินคำสาบานของข้าพเจ้า พระองค์จึงมอบมรดกของผู้ที่ยำเกรงพระนามของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
- ปัญญาจารย์ 5:1 - จงก้าวเท้าของท่านอย่างระมัดระวังเมื่อท่านไปยังพระตำหนักของพระเจ้า และเข้าไปใกล้เพื่อเงี่ยหูฟังดีกว่าการมอบเครื่องสักการะเหมือนบรรดาคนโง่เขลา เพราะพวกเขาไม่ทราบว่าตนกระทำสิ่งชั่วร้ายอยู่
- ปัญญาจารย์ 5:2 - อย่าด่วนพูด และอย่าใจร้อนให้คำมั่น ณ เบื้องหน้าพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าอยู่บนสวรรค์ และท่านอยู่บนโลก ฉะนั้นต้องไม่พูดมากเกินไป
- ปัญญาจารย์ 5:3 - ยามท่านมีเรื่องยุ่งเกี่ยวมาก ท่านก็จะฝัน ยามท่านพูดมาก ท่านก็แสดงความโง่เขลา
- ปัญญาจารย์ 5:4 - เมื่อท่านให้คำสัญญาต่อพระเจ้า ก็อย่าชักช้าที่จะทำตามนั้น เพราะว่าพระองค์ไม่พอใจคนโง่เขลา จงปฏิบัติตามที่ท่านสัญญาไว้
- ปัญญาจารย์ 5:5 - ท่านไม่ตั้งคำสัญญาจะดีกว่าสัญญาแล้วไม่กระทำตาม
- ปัญญาจารย์ 5:6 - อย่าให้คำพูดของท่านเป็นเหตุให้ท่านกระทำบาป และท่านจะได้ไม่ต้องพูดกับทูตสวรรค์ทีหลังว่า ท่านพลาดพลั้งไปแล้ว ทำไมท่านจึงทำให้พระเจ้าโกรธเพราะคำพูดของท่าน และทำลายทุกสิ่งที่ท่านลงแรงทำ
- ปัญญาจารย์ 5:7 - เพราะการที่ท่านฝันมากและพูดพร่ำหลายคำนับว่าเป็นสิ่งไร้ค่า แต่พระเจ้าเป็นผู้ที่ท่านต้องเกรงกลัว
- กันดารวิถี 21:2 - ครั้นแล้วอิสราเอลก็สาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า “ถ้าพระองค์มอบชนชาตินี้ไว้ในมือข้าพเจ้าจริงๆ ข้าพเจ้าจะทำลายบ้านเมืองของพวกเขาจนราบคาบ”
- กันดารวิถี 21:3 - พระผู้เป็นเจ้าฟังคำขอของอิสราเอลและมอบชาวคานาอันให้ อิสราเอลจึงทำลายประชาชนและบ้านเมืองจนราบคาบ และเรียกชื่อสถานที่นั้นว่า โฮร์มาห์
- สดุดี 132:2 - ท่านสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า และสัญญาต่อองค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบอย่างไรบ้าง
- ผู้วินิจฉัย 11:30 - และเยฟธาห์ให้คำสัญญาต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า “ถ้าหากว่าพระองค์จะมอบชาวอัมโมนไว้ในมือของข้าพเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 11:31 - แล้วผู้ใดก็ตามที่ออกมาจากประตูบ้านของข้าพเจ้า มาพบข้าพเจ้าเวลาที่ข้าพเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยจากชาวอัมโมน ผู้นั้นจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า และข้าพเจ้าจะมอบให้เป็นของถวาย”
- สดุดี 61:8 - แล้วข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เสมอไป ขณะที่ข้าพเจ้าทำตามคำสัญญาอยู่ทุกวัน
- เนหะมีย์ 9:1 - ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนี้ ประชาชนอิสราเอลอดอาหาร และนุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ และมาชุมนุมกัน มีฝุ่นผงบนศีรษะ
- เนหะมีย์ 9:2 - ชาวอิสราเอลแยกตนออกจากชาวต่างชาติ และยืนสารภาพบาปทั้งของตนและของบรรพบุรุษ
- เนหะมีย์ 9:3 - เขาทั้งหลายยืนขึ้นอ่านจากหนังสือกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา นานถึง 3 ชั่วโมง จากนั้นก็สารภาพและนมัสการพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขาอีก 3 ชั่วโมง
- เนหะมีย์ 9:4 - ชาวเลวีที่ยืนบนขั้นบันไดคือ เยชูอา บานี ขัดมีเอล เช-บานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานี และเคนานี และพวกเขาร้องเสียงดังต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:5 - เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เช-บานิยาห์ และเปธาหิยาห์ ซึ่งเป็นชาวเลวี ก็พูดว่า “จงลุกขึ้นยืน และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จากนิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล สรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องเหนือพระพรและคำสรรเสริญทั้งปวง
- เนหะมีย์ 9:6 - พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระองค์เพียงผู้เดียว พระองค์ได้สร้างฟ้าสวรรค์ สวรรค์อันสูงสุดพร้อมด้วยหมู่ดาวทั้งปวง แผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น ทะเลและทุกสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านั้น พระองค์ให้ชีวิตแก่สิ่งทั้งปวง และหมู่ดาวก็นมัสการพระองค์
- เนหะมีย์ 9:7 - พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้เลือกอับราม และนำท่านออกไปจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย และตั้งชื่อท่านว่า อับราฮัม
- เนหะมีย์ 9:8 - พระองค์พบว่าท่านมีใจภักดี ณ เบื้องหน้าพระองค์ และทำพันธสัญญากับท่าน เพื่อมอบดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิต ชาวอาโมร์ ชาวเปริส ชาวเยบุส และชาวเกอร์กาช ให้แก่ผู้สืบเชื้อสายของท่าน และพระองค์ได้รักษาคำสัญญา เพราะพระองค์มีความชอบธรรม
- เนหะมีย์ 9:9 - และพระองค์เห็นความทุกข์ทรมานของบรรพบุรุษของเราในอียิปต์ และได้ยินเสียงร้องของพวกเขาที่ทะเลแดง
- เนหะมีย์ 9:10 - และแสดงปรากฏการณ์และสิ่งมหัศจรรย์ต่อต้านฟาโรห์และบรรดาผู้รับใช้ และประชาชนทั้งปวงในแผ่นดินของเขา เพราะพระองค์ทราบว่า พวกเขาประพฤติด้วยความยโสต่อบรรพบุรุษของเรา และพระองค์ทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ อย่างที่เป็นมาจนถึงทุกวันนี้
- เลวีนิติ 27:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า
- เลวีนิติ 27:2 - “จงกล่าวแก่ชาวอิสราเอลว่า ‘เมื่อใครเจาะจงสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า เรื่องการตั้งค่าบุคคล
- เลวีนิติ 27:3 - จงให้เป็นไปตามนี้คือ ชายใดมีอายุระหว่าง 20-60 ปีมีค่าเป็นเงินหนัก 50 เชเขลตามมาตราน้ำหนักของสถานที่บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 27:4 - ถ้าผู้นั้นเป็นหญิง เธอจะมีค่าเป็นเงินหนัก 30 เชเขล
- เลวีนิติ 27:5 - ผู้ใดมีอายุระหว่าง 5-20 ปี ถ้าเป็นชาย เขามีค่าเป็นเงินหนัก 20 เชเขล และ 10 เชเขลถ้าเป็นหญิง
- เลวีนิติ 27:6 - ผู้ใดมีอายุระหว่าง 1 เดือนถึง 5 ปี ถ้าเป็นชายจะมีค่าเป็นเงินหนัก 5 เชเขล และ 3 เชเขลถ้าเป็นหญิง
- เลวีนิติ 27:7 - ผู้ใดมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ถ้าเป็นชายจะมีค่าเป็นเงินหนัก 15 เชเขล และ 10 เชเขลถ้าเป็นหญิง
- เลวีนิติ 27:8 - และถ้าผู้ใดยากจนเกินที่จะจ่ายตามราคาที่กำหนดไว้ ก็ให้เขานำคนนั้นมาหาปุโรหิต และปุโรหิตจะตั้งค่าให้ใหม่ตามกำลังของคนที่สาบานตน
- เลวีนิติ 27:9 - ถ้าคำสาบานเป็นสัตว์เลี้ยงซึ่งเขาจะมอบแด่พระผู้เป็นเจ้า ทุกสิ่งที่เขามอบแด่พระผู้เป็นเจ้าก็จะบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 27:10 - เขาจะไม่นำสิ่งใดมาทดแทนหรือเปลี่ยนตัว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ดีแทนสัตว์ไม่ดี หรือสัตว์ไม่ดีแทนสัตว์ดี แต่ถ้าเขาจะเปลี่ยนสัตว์ตัวหนึ่งเป็นอีกตัวหนึ่ง ทั้งตัวเดิมและตัวที่เปลี่ยนจะบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 27:11 - แต่ถ้าเป็นสัตว์ไม่สะอาดตามพิธีกรรมซึ่งไม่เหมาะเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ให้เขานำสัตว์นั้นมายังปุโรหิต
- เลวีนิติ 27:12 - และปุโรหิตจะตั้งค่าว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร และจะเป็นไปตามค่าที่ปุโรหิตกำหนด
- เลวีนิติ 27:13 - ถ้าเขาต้องการไถ่สัตว์คืน เขาจะต้องเพิ่มค่าให้อีกหนึ่งส่วนห้าของค่าที่กำหนดไว้
- เลวีนิติ 27:14 - เมื่อชายใดถวายบ้านของตนแด่พระผู้เป็นเจ้า ปุโรหิตจะตั้งค่าว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร และจะเป็นไปตามค่าที่ปุโรหิตกำหนด
- เลวีนิติ 27:15 - และถ้าคนที่ถวายบ้านต้องการไถ่คืน เขาต้องเพิ่มค่าอีกหนึ่งส่วนห้าของค่าที่กำหนดไว้ และบ้านก็จะเป็นของเขา
- เลวีนิติ 27:16 - ถ้าชายใดถวายที่ดินส่วนหนึ่งที่เป็นมรดกตกทอดถึงเขาแด่พระผู้เป็นเจ้า ค่าที่ดินขึ้นอยู่กับเมล็ดที่ใช้หว่านในนา หว่านเมล็ดข้าวบาร์เลย์ได้จำนวน 1 โฮเมอร์มีค่าเท่ากับเงินหนัก 50 เชเขล
- เลวีนิติ 27:17 - ถ้าเขาถวายที่นาของเขาในวาระฉลองครบรอบ 50 ปี เขาจะได้ราคาเต็มตามที่กำหนดไว้
- เลวีนิติ 27:18 - แต่ถ้าเขาถวายที่นาหลังจากระยะฉลองครบรอบ 50 ปี ปุโรหิตจะคำนวณค่าตามปีที่เหลือจนถึงปีฉลองครบรอบ 50 ปี ค่าที่ได้ตั้งไว้ก็จะลดและหักออก
- เลวีนิติ 27:19 - ถ้าคนที่ถวายที่นาต้องการไถ่คืน เขาต้องเพิ่มเงินหนึ่งส่วนห้าของราคาที่กำหนดไว้ และบ้านก็จะเป็นของเขา
- เลวีนิติ 27:20 - แต่ถ้าเขาไม่ต้องการไถ่ที่นาคืน หรือถ้าเขาขายที่ให้คนอื่น เขาจะไถ่ที่นี้คืนอีกไม่ได้
- เลวีนิติ 27:21 - แต่เมื่อถึงเวลาที่ที่นาจะถูกคืนในวาระฉลองครบรอบ 50 ปี ที่นั้นจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า เป็นเช่นที่นาที่ถวายแล้ว ปุโรหิตจะได้รับเป็นเจ้าของ
- เลวีนิติ 27:22 - ถ้าเขาถวายที่นาแด่พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นที่ดินซึ่งเขาซื้อเองและไม่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมา
- เลวีนิติ 27:23 - ปุโรหิตจะคำนวณค่าโดยนับจำนวนปีจนถึงวาระฉลองครบรอบ 50 ปี ชายผู้นั้นจะมอบเงินตามค่าที่กำหนดในวันนั้นซึ่งนับว่าเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 27:24 - ในวาระฉลองครบรอบ 50 ปี ต้องคืนที่นาให้แก่เจ้าของเดิม ให้แก่ผู้รับที่นาเป็นมรดก
- เลวีนิติ 27:25 - ค่าที่กำหนดไว้ทุกแห่งจะเป็นไปตามมาตราน้ำหนักเงินของสถานที่บริสุทธิ์ 1 เชเขล หนัก 20 เก-ราห์
- เลวีนิติ 27:26 - อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้ใดถวายลูกตัวแรกของสัตว์เลี้ยงได้ เพราะลูกตัวแรกเป็นของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าจะเป็นโคหรือแกะ ก็เป็นของพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 27:27 - และถ้าเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาด เขาจะไถ่คืนโดยเพิ่มค่าอีกหนึ่งส่วนห้าของค่าที่กำหนดไว้ หรือถ้าไม่ไถ่สัตว์คืน ก็ขายตามค่าที่กำหนดไว้
- เลวีนิติ 27:28 - แต่ถ้าผู้ใดมอบสิ่งที่เขามีอยู่ให้แด่พระผู้เป็นเจ้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือที่นาที่เป็นมรดก เขาจะขายหรือไถ่คืนไม่ได้ ทุกสิ่งที่มอบให้แล้วบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก
- เลวีนิติ 27:29 - ไม่มีมนุษย์ใดที่ถูกกำหนดให้พินาศ แล้วจะไถ่คืนได้ เขาจะต้องถูกสังหาร
- เลวีนิติ 27:30 - หนึ่งในสิบของพืชผลที่ได้จากแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพืชจากนาหรือผลไม้จากต้นก็ดี เป็นของพระผู้เป็นเจ้า และบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 27:31 - ถ้าผู้ใดต้องการไถ่หนึ่งส่วนสิบของตน เขาจะต้องเพิ่มค่าขึ้นอีกหนึ่งส่วนห้าด้วย
- เลวีนิติ 27:32 - หนึ่งในสิบจากฝูงโคและฝูงแพะแกะ หนึ่งในสิบของสัตว์ทุกตัวที่ลอดใต้ไม้เท้าของผู้เลี้ยงจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 27:33 - เจ้าของจะต้องไม่เลือกว่าสัตว์ดีหรือไม่ดี และไม่สามารถเปลี่ยนตัวสัตว์ได้ แต่ถ้าเขาเปลี่ยนตัวสัตว์ ทั้งตัวเดิมและตัวที่เปลี่ยนจะต้องเป็นของพระผู้เป็นเจ้า และจะไถ่คืนไม่ได้’”
- เลวีนิติ 27:34 - สิ่งเหล่านี้เป็นพระบัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาโมเสสไว้สำหรับชาวอิสราเอลบนภูเขาซีนาย
- ยอห์น 1:16 - จากความบริบูรณ์ของพระองค์ เราทุกคนจะได้รับพระคุณเพิ่มแล้วเพิ่มอีกเสมอไป
- สดุดี 66:13 - ข้าพเจ้าจะนำสัตว์ที่เผาเป็นของถวายมายังพระตำหนักของพระองค์ ข้าพเจ้าจะถวายสิ่งที่ได้สัญญาไว้
- ปฐมกาล 31:13 - เราเป็นพระเจ้าที่ปรากฏแก่เจ้าที่เบธเอล เจ้าได้เจิมเสาหลัก และได้สาบานกับเราไว้ บัดนี้จงลุกขึ้น เจ้าจงไปจากดินแดนนี้ กลับไปยังดินแดนที่เจ้าเกิด’”
- 1 ทิโมธี 6:8 - ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้า ก็ให้เราพอใจกับสิ่งเหล่านั้น
- 2 ซามูเอล 15:8 - เพราะว่าผู้รับใช้ของท่านได้ให้คำสัญญาขณะอยู่ที่เมืองเกชูร์ในอารัมว่า ‘ถ้าพระผู้เป็นเจ้าจะนำข้าพเจ้ากลับมายังเมืองเยรูซาเล็มอย่างแน่แท้แล้ว ข้าพเจ้าจะนมัสการพระผู้เป็นเจ้า’”