逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - คนน้องได้บุตรชายเช่นกัน และตั้งชื่อเขาว่า เบนอัมมี เขาเป็นบิดาต้นตระกูลของชาวอัมโมนมาจนถึงทุกวันนี้
- 新标点和合本 - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便‧亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 和合本2010(神版-简体) - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便‧亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 当代译本 - 小女儿也生了一个儿子,给他取名叫便·亚米 ,他是今天亚扪人的祖先。
- 圣经新译本 - 小女儿也生了一个儿子,给他起名叫便.亚米,就是现在亚扪人的始祖。
- 中文标准译本 - 至于小女儿,她也生了一个儿子,给他起名为便亚米,他就是今天亚扪子孙的始祖。
- 现代标点和合本 - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 和合本(拼音版) - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- New International Version - The younger daughter also had a son, and she named him Ben-Ammi ; he is the father of the Ammonites of today.
- New International Reader's Version - The younger daughter also had a son. She named him Ben-Ammi. He’s the father of the Ammonites of today.
- English Standard Version - The younger also bore a son and called his name Ben-ammi. He is the father of the Ammonites to this day.
- New Living Translation - When the younger daughter gave birth to a son, she named him Ben-ammi. He became the ancestor of the nation now known as the Ammonites.
- Christian Standard Bible - The younger also gave birth to a son, and she named him Ben-ammi. He is the father of the Ammonites of today.
- New American Standard Bible - As for the younger, she also gave birth to a son, and named him Ben-ammi; he is the father of the sons of Ammon to this day.
- New King James Version - And the younger, she also bore a son and called his name Ben-Ammi; he is the father of the people of Ammon to this day.
- Amplified Bible - The younger also gave birth to a son and named him Ben-ammi (son of my people); he is the father of the Ammonites to this day.
- American Standard Version - And the younger, she also bare a son, and called his name Ben-ammi: the same is the father of the children of Ammon unto this day.
- King James Version - And the younger, she also bare a son, and called his name Ben–ammi: the same is the father of the children of Ammon unto this day.
- New English Translation - The younger daughter also gave birth to a son and named him Ben-Ammi. He is the ancestor of the Ammonites of today.
- World English Bible - The younger also bore a son, and called his name Ben Ammi. He is the father of the children of Ammon to this day.
- 新標點和合本 - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便‧亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便‧亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 和合本2010(神版-繁體) - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便‧亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 當代譯本 - 小女兒也生了一個兒子,給他取名叫便·亞米 ,他是今天亞捫人的祖先。
- 聖經新譯本 - 小女兒也生了一個兒子,給他起名叫便.亞米,就是現在亞捫人的始祖。
- 呂振中譯本 - 小女兒也生個兒子,她給他起名叫 便亞米 ,就是今日 亞捫 人的始祖。
- 中文標準譯本 - 至於小女兒,她也生了一個兒子,給他起名為便亞米,他就是今天亞捫子孫的始祖。
- 現代標點和合本 - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 文理和合譯本 - 季女亦生子、命名便亞米、為亞捫族之祖、
- 文理委辦譯本 - 季女亦生子、命名便亞米、為亞捫族之祖。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 季女亦生子、命名 便亞米 、即今 亞捫 族之祖、
- Nueva Versión Internacional - La hija menor también tuvo un hijo, a quien llamó Ben Amí, padre de los actuales amonitas.
- 현대인의 성경 - 그리고 작은 딸도 아들을 낳아 이름을 벤 – 암미라고 지었으며 그는 오늘날 암몬 사람들의 조상이 되었다.
- Новый Русский Перевод - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми ; он – отец нынешних аммонитян.
- Восточный перевод - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми («сын моего народа»); он отец нынешних аммонитян.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми («сын моего народа»); он отец нынешних аммонитян.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми («сын моего народа»); он отец нынешних аммонитян.
- La Bible du Semeur 2015 - La cadette aussi eut un fils, qu’elle appela Ben-Ammi (Fils de mon parent) ; c’est l’ancêtre des Ammonites qui existent encore aujourd’hui.
- リビングバイブル - 妹の子はベン・アミという名で、アモン人の先祖です。
- Nova Versão Internacional - A mais nova também teve um filho e deu-lhe o nome de Ben-Ami ; este é o pai dos amonitas de hoje.
- Hoffnung für alle - Auch die Jüngere bekam einen Sohn und nannte ihn Ben-Ammi (»Sohn meines Verwandten«). Er wurde der Stammvater der Ammoniter.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Cô em cũng sinh con trai và đặt tên Bên Am-mi. Ông là tổ phụ của dân tộc Am-môn ngày nay.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บุตรสาวคนเล็กก็มีบุตรชายคนหนึ่งด้วย นางตั้งชื่อเขาว่าเบนอัมมี เขาเป็นบรรพบุรุษของชาวอัมโมน ในปัจจุบัน
交叉引用
- เศฟันยาห์ 2:9 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลประกาศดังนี้ “ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ฉันใด โมอับจะเป็นเหมือนโสโดม และอัมโมนจะเป็นเหมือนโกโมราห์ แผ่นดินซึ่งมีแต่ต้นตำแยและบ่อเกลือ และเป็นที่รกร้างตลอดไป ชนชาติที่เหลือของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ จะปล้นสะดมพวกเขา และบรรดาผู้มีชีวิตรอดของประชาชาติของเรา จะยึดดินแดนพวกนั้นไว้”
- เนหะมีย์ 13:23 - ในครั้งโน้น ข้าพเจ้าเห็นชาวยิวที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงของอัชโดด อัมโมน และโมอับ
- เนหะมีย์ 13:24 - ครึ่งหนึ่งของจำนวนบุตรของพวกเขาพูดภาษาของอัชโดด และพูดภาษาของยูดาห์ไม่ได้ พูดได้แต่ภาษาของพวกเขาเท่านั้น
- เนหะมีย์ 13:25 - ข้าพเจ้าเผชิญหน้าพูดกับพวกเขา ทั้งสาปแช่งและลงมือลงไม้กับพวกเขาบางคน และถึงกับทึ้งผมพวกเขา และให้พวกเขาสาบานตนในพระนามของพระเจ้าโดยบอกว่า “พวกท่านจะไม่ยกลูกสาวของท่านให้แก่ลูกชายของพวกเขา หรือรับลูกสาวของพวกเขามาเป็นสะใภ้ของท่านหรือเป็นภรรยาของพวกท่านเอง
- เนหะมีย์ 13:26 - ซาโลมอนกษัตริย์ของอิสราเอลก็กระทำบาปเรื่องพวกผู้หญิงเหล่านั้นมิใช่หรือ ไม่มีกษัตริย์อื่นใดในบรรดาประชาชาติมากหลายที่เป็นเหมือนซาโลมอน และท่านเป็นที่รักของพระเจ้าของท่าน พระเจ้าแต่งตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์ปกครองทั่วทั้งอิสราเอล ถึงกระนั้น พวกผู้หญิงต่างชาติก็ยังทำให้ท่านกระทำบาป
- เนหะมีย์ 13:27 - เราควรจะฟังพวกท่าน และทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนั้น แสดงความไม่ภักดีต่อพระเจ้าของเราด้วยการแต่งงานกับหญิงต่างชาติอย่างนั้นหรือ”
- เนหะมีย์ 13:28 - บุตรคนหนึ่งของโยยาดา ผู้เป็นบุตรของเอลียาชีบหัวหน้ามหาปุโรหิต ซึ่งเป็นบุตรเขยของสันบาลลัทชาวโฮโรน ข้าพเจ้าขับไล่เขาไปจากข้าพเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 10:6 - ชาวอิสราเอลกระทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และบูชาพวกเทวรูปบาอัลและอัชโทเรท เทพเจ้าของอารัม เทพเจ้าของไซดอน เทพเจ้าของโมอับ เทพเจ้าของชาวอัมโมน และเทพเจ้าของชาวฟีลิสเตีย พวกเขาทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า และไม่นมัสการพระองค์
- ผู้วินิจฉัย 10:7 - ดังนั้นความโกรธของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นตรงสู่อิสราเอล และพระองค์ให้พวกเขาตกอยู่ในมือของชาวฟีลิสเตียและชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 10:8 - พวกเขาบีบคั้นและบีบบังคับชาวอิสราเอลในปีนั้น นับเวลาได้ 18 ปีที่พวกเขาได้บีบบังคับชาวอิสราเอลทุกคนที่อยู่โพ้นแม่น้ำจอร์แดนบนแผ่นดินของชาวอาโมร์ในกิเลอาด
- ผู้วินิจฉัย 10:9 - ชาวอาโมร์ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปต่อสู้กับยูดาห์ เบนยามิน และพงศ์พันธุ์ของเอฟราอิม จนทำให้อิสราเอลเป็นทุกข์ยิ่งนัก
- ผู้วินิจฉัย 10:10 - ชาวอิสราเอลจึงร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า พลางร้องว่า “พวกเรากระทำบาปต่อพระองค์ เพราะเราได้ทอดทิ้งพระเจ้าของเรา และบูชาพวกเทวรูปบาอัล”
- ผู้วินิจฉัย 10:11 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับชาวอิสราเอลว่า “เราไม่ได้ช่วยให้เจ้ารอดจากชาวอียิปต์และชาวอาโมร์ ชาวอัมโมน และจากชาวฟีลิสเตียหรอกหรือ
- ผู้วินิจฉัย 10:12 - ชาวไซดอน ชาวอามาเลข และชาวมาโอนก็ได้บีบบังคับพวกเจ้า เจ้าได้ร้องเรียกถึงเรา และเราก็ได้ช่วยเจ้าให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 10:13 - เจ้าก็ยังทอดทิ้งเรา ไปบูชาบรรดาเทพเจ้า ฉะนั้นเราจะไม่ช่วยเจ้าให้รอดอีก
- ผู้วินิจฉัย 10:14 - ไปร้องเรียกถึงบรรดาเทพเจ้าที่เจ้าเลือก ให้พวกเขาช่วยเจ้าให้รอดในยามทุกข์เถิด”
- ผู้วินิจฉัย 10:15 - ชาวอิสราเอลพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “พวกเราได้กระทำบาป พระองค์โปรดกระทำต่อเราตามที่เห็นว่าดี ขอเพียงพระองค์ช่วยพวกเราให้พ้นในวันนี้เถิด”
- ผู้วินิจฉัย 10:16 - แล้วพวกเขาก็กำจัดบรรดาเทพเจ้าต่างชาติไปเสีย และนมัสการพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทนต่อความทุกข์ของอิสราเอลไม่ได้อีกแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 10:17 - ชาวอัมโมนถูกเรียกให้เตรียมทัพ และตั้งค่ายที่กิเลอาด ชาวอิสราเอลก็มารวมตัวกัน และตั้งค่ายที่มิสปาห์
- ผู้วินิจฉัย 10:18 - บรรดาผู้นำของชาวกิเลอาดพูดต่อกันและกันว่า “ใครก็ตามที่เป็นคนแรกที่ต่อสู้กับชาวอัมโมน ก็ให้คนนั้นเป็นหัวหน้าของทุกคนในกิเลอาด”
- อิสยาห์ 11:14 - แต่พวกเขาจะโฉบลงบนไหล่ของพวกฟีลิสเตียทางตะวันตก และพวกเขาจะปล้นประชาชนทางตะวันออก พวกเขาจะโจมตีเอโดมและโมอับ และชาวอัมโมนจะเชื่อฟังพวกเขา
- 2 ซามูเอล 10:1 - หลังจากนั้น กษัตริย์ของชาวอัมโมนก็สิ้นชีวิต และฮานูนบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน
- 2 ซามูเอล 10:2 - ดาวิดกล่าวว่า “เราจะกระทำต่อฮานูนบุตรของนาหาชด้วยความเมตตา เช่นเดียวกับที่บิดาของท่านได้กระทำต่อเรา” ดังนั้น ดาวิดจึงให้บรรดาผู้รับใช้ของท่านไปแสดงความเสียใจต่อฮานูนเรื่องบิดา และผู้รับใช้ของดาวิดจึงมายังดินแดนของชาวอัมโมน
- 2 ซามูเอล 10:3 - แต่บรรดาเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ของชาวอัมโมนพูดกับฮานูนเจ้านายของตนว่า “ท่านคิดหรือว่า ที่ดาวิดให้คนมาแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อท่านนั้น เป็นการให้เกียรติบิดาของท่าน พวกผู้รับใช้ของดาวิดมาเพื่อสำรวจดูเมืองและสอดแนม เพื่อจะล้มล้างเมืองมิใช่หรือ”
- 2 ซามูเอล 10:4 - ดังนั้นฮานูนจึงให้คนโกนเคราพวกทหารรับใช้ของดาวิดแต่ละคนออกเพียงครึ่งหนึ่ง และตัดเครื่องแต่งกายที่ตรงกลางจากสะโพกลงมา และส่งพวกเขากลับไป
- 2 ซามูเอล 10:5 - เมื่อมีคนรายงานเรื่องแก่ดาวิด ท่านก็ให้คนไปพบกับพวกเขา เพราะชายเหล่านั้นอับอายมาก กษัตริย์กล่าวว่า “จงพักอยู่ที่เยรีโค จนกว่าเคราของพวกเจ้าจะขึ้นแล้วจึงกลับมา”
- 2 ซามูเอล 10:6 - เมื่อชาวอัมโมนเห็นว่าพวกเขาได้กลับกลายเป็นที่น่ารังเกียจของดาวิด ชาวอัมโมนจึงไปว่าจ้างชาวอารัมจากเมืองเบธเรโหบ และชาวอารัมจากเมืองโศบาห์ เป็นทหารราบ 20,000 คน และกษัตริย์แห่งมาอาคาห์กับผู้ชาย 1,000 คน และผู้ชายจากเมืองโทบ 12,000 คน
- 2 ซามูเอล 10:7 - เมื่อดาวิดทราบเช่นนั้น ท่านจึงบัญชาให้โยอาบและทหารกล้าจากกองทัพทั้งหมดยกทัพไป
- 2 ซามูเอล 10:8 - ฝ่ายชาวอัมโมนก็เดินทัพออกมาประจำตำแหน่งรบของตนที่ทางเข้าประตูเมือง ส่วนชาวอารัมจากโศบาห์และเรโหบ และคนของโทบและมาอาคาห์ก็แยกไปตั้งทัพอยู่ในที่โล่งห่างจากตัวเมือง
- 2 ซามูเอล 10:9 - เมื่อโยอาบเห็นว่าสงครามครั้งนี้เขาถูกขนาบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เขาจึงเลือกนักรบที่ดีที่สุดของอิสราเอลจำนวนหนึ่ง และจัดทัพให้ต่อสู้กับชาวอารัม
- 2 ซามูเอล 10:10 - นักรบที่เหลือก็จัดให้อยู่ในบังคับของอาบีชัยน้องชายของตน เขาก็ให้ทหารตั้งทัพสู้กับชาวอัมโมน
- 2 ซามูเอล 10:11 - เขาพูดว่า “ถ้าหากว่าชาวอารัมมีกำลังแข็งแกร่งเกินเรา ท่านจะได้ช่วยเราได้ แต่ถ้าชาวอัมโมนแข็งแกร่งเกินท่าน เราก็จะมาช่วยท่าน
- 2 ซามูเอล 10:12 - จงกล้าหาญเถิด และพวกเราควรจะกล้าหาญเพื่อคนของพวกเราและเพื่อเมืองทั้งหลายของพระเจ้าของเรา และขอพระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งที่พระองค์เห็นสมควร”
- 2 ซามูเอล 10:13 - ดังนั้นโยอาบและคนที่อยู่กับเขาขยับเข้าใกล้ประจัญศึกกับชาวอารัม และชาวอารัมก็ถอยหนีไปต่อหน้าต่อตาเขา
- 2 ซามูเอล 10:14 - ครั้นชาวอัมโมนเห็นว่าชาวอารัมหนีไป พวกเขาจึงถอยหนีไปต่อหน้าอาบีชัยเช่นกัน และเข้าไปในเมือง แล้วโยอาบก็กลับจากการสู้รบกับชาวอัมโมน และมายังเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 10:15 - เมื่อชาวอารัมเห็นว่าพวกตนพ่ายแพ้อิสราเอลแล้ว จึงได้รวบรวมคนเข้าด้วยกัน
- 2 ซามูเอล 10:16 - ฮาดัดเอเซอร์ให้ชาวอารัมที่อยู่โพ้นแม่น้ำยูเฟรติสออกมา พวกเขามาถึงเมืองเฮลาม โดยมีโชบัคผู้บังคับกองพันทหารของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้นำ
- 2 ซามูเอล 10:17 - เมื่อมีคนรายงานเรื่องแก่ดาวิด ท่านก็รวบรวมอิสราเอลเข้าด้วยกัน และข้ามแม่น้ำจอร์แดน มาจนถึงเฮลาม ชาวอารัมตั้งทัพของตนปะทะกับดาวิด และพวกเขาก็สู้รบกับท่าน
- 2 ซามูเอล 10:18 - และชาวอารัมก็ถอยหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดฆ่าสารถีชาวอารัม 700 คน และทหารราบ 40,000 คน และโชบัคผู้บังคับกองพันทหารบาดเจ็บสาหัสและสิ้นชีวิตที่นั่น
- 2 ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ทั้งปวงที่ขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์เห็นว่าตนพ่ายแพ้อิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงยอมสงบศึกกับอิสราเอล และขึ้นกับพวกเขา ดังนั้นชาวอารัมจึงไม่กล้าช่วยเหลือชาวอัมโมนอีกต่อไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 2:9 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเราว่า ‘อย่าไปก่อกวนโมอับหรือก่อเรื่องสู้รบกับพวกเขา เพราะเราจะไม่ให้แผ่นดินของพวกเขาตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่เจ้า เพราะเราได้ให้เมืองอาร์เป็นกรรมสิทธิ์แก่ลูกหลานของโลท’
- เนหะมีย์ 13:1 - ในวันนั้น เขาทั้งหลายอ่านจากหนังสือของโมเสสให้ประชาชนฟัง และพบที่เขียนว่า ชาวอัมโมนและชาวโมอับไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปร่วมในการชุมนุมของพระเจ้า
- เนหะมีย์ 13:2 - เพราะพวกเขาไม่ให้อาหารและน้ำแก่ชาวอิสราเอล แต่กลับจ้างบาลาอัมให้ต่อต้าน และสาปแช่งพวกเขา แต่พระเจ้าของพวกเราเปลี่ยนคำสาปแช่งให้เป็นพระพร
- เนหะมีย์ 13:3 - ทันทีที่ประชาชนได้ยินกฎบัญญัติ พวกเขาก็แยกชาวต่างชาติออกจากชาวอิสราเอล
- เฉลยธรรมบัญญัติ 23:3 - อย่าให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงคนของพวกเขารุ่นต่อๆ ไปจน 10 ชั่วอายุคนก็อย่าให้เข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาล
- 1 ซามูเอล 11:1 - นาหาชชาวอัมโมนขึ้นไป และใช้กำลังล้อมเมืองยาเบชกิเลอาด บรรดาชายชาวยาเบชจึงพูดกับนาหาชว่า “ทำพันธสัญญากับพวกเรา และเราจะยอมรับใช้ท่าน”
- 1 ซามูเอล 11:2 - แต่นาหาชชาวอัมโมนตอบว่า “เราจะทำพันธสัญญากับพวกเจ้า ก็ต่อเมื่อเราได้ควักตาขวาของเจ้าทุกคนออกเสียก่อน จะได้เป็นที่น่าอับอายต่ออิสราเอลทั้งปวง”
- 1 ซามูเอล 11:3 - บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของยาเบชพูดกับนาหาชว่า “ให้เวลาพวกเรา 7 วัน เราจะได้ให้ผู้ส่งข่าวไปให้ทั่วอิสราเอล ถ้าไม่มีใครมาช่วยชีวิตพวกเรา เราก็จะยอมจำนนต่อท่าน”
- 1 ซามูเอล 11:4 - เมื่อบรรดาผู้ส่งข่าวมายังกิเบอาห์เมืองของซาอูล และรายงานข้อตกลงกับประชาชน ทุกคนจึงส่งเสียงร้องไห้
- 1 ซามูเอล 11:5 - พอดีกับเวลาที่ซาอูลกำลังต้อนฝูงโคกลับมาจากทุ่ง ท่านถามว่า “ประชาชนเป็นอะไรไป ทำไมจึงร้องไห้กัน” พวกเขาจึงบอกให้ท่านฟังเรื่องพวกผู้ชายของยาเบช
- 1 ซามูเอล 11:6 - ครั้นซาอูลได้ยินเรื่อง ท่านก็เปี่ยมด้วยอานุภาพแห่งพระวิญญาณของพระเจ้า และท่านโกรธมาก
- 1 ซามูเอล 11:7 - ท่านเอาโคคู่หนึ่งมาตัดออกเป็นท่อนๆ และใช้ผู้ส่งข่าวส่งไปให้ทั่วอิสราเอล พร้อมกับประกาศว่า “จะเกิดเรื่องแบบนี้กับฝูงโคของทุกคนที่ไม่ติดตามซาอูลและซามูเอล” และประชาชนก็เกิดหวาดกลัวพระผู้เป็นเจ้า และต่างก็ร่วมใจกันออกมา
- 1 ซามูเอล 11:8 - เมื่อซาอูลตรวจพลที่เบเซก นับจำนวนชายชาวอิสราเอลได้ 300,000 คน และชายชาวยูดาห์ 30,000 คน
- 1 ซามูเอล 11:9 - พวกเขาบอกผู้ส่งข่าวที่มาว่า “จงไปบอกพวกผู้ชายของยาเบชกิเลอาดว่า ‘พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงวัน จะมีคนมาช่วยชีวิตพวกท่าน’” เมื่อบรรดาผู้ส่งข่าวไปรายงานเรื่องนี้แก่พวกผู้ชายของยาเบช พวกเขาก็ยินดียิ่งนัก
- 1 ซามูเอล 11:10 - พวกเขาบอกชาวอัมโมนว่า “พรุ่งนี้พวกเราจะยอมจำนนต่อท่าน และท่านจะทำอย่างไรกับเราก็ได้ตามที่ท่านเห็นว่าสมควร”
- 1 ซามูเอล 11:11 - วันรุ่งขึ้นซาอูลแบ่งพลของท่านออกเป็น 3 กอง ช่วงเวลาก่อนฟ้าสาง พวกเขาบุกเข้าไปในค่ายของชาวอัมโมน และฆ่าฟันพวกเขาจนกระทั่งเที่ยงวัน พวกที่มีชีวิตรอดต่างหนีเตลิดเปิดเปิง ตัวใครตัวมัน
- 1 ซามูเอล 11:12 - แล้วประชาชนพูดกับซามูเอลว่า “ใครเป็นคนที่พูดว่า ‘ซาอูลจะปกครองพวกเราอย่างนั้นหรือ’ นำชายพวกนั้นมาให้เรา และเราจะฆ่าให้ตาย”
- 1 ซามูเอล 11:13 - แต่ซาอูลกล่าวว่า “วันนี้จะไม่มีการฆ่าใครตาย เพราะวันนี้พระผู้เป็นเจ้าได้ช่วยอิสราเอลให้รอดพ้นแล้ว”
- 1 ซามูเอล 11:14 - และซามูเอลพูดกับประชาชนว่า “ไปกันเถิด ไปกิลกาลกัน และยืนยันความเป็นกษัตริย์ของซาอูล”
- 1 ซามูเอล 11:15 - ดังนั้นประชาชนทั้งปวงจึงไปยังกิลกาล และยืนยัน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าว่าซาอูลเป็นกษัตริย์ พวกเขาได้มอบของถวายเพื่อสามัคคีธรรม ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า ซาอูลและชาวอิสราเอลทั้งปวงจึงได้มีงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่
- สดุดี 83:4 - พวกเขาพูดว่า “มาเถิด มาทำลายประชาชาติของเขา และชื่ออิสราเอลจะไม่เป็นที่นึกถึงอีกต่อไป”
- สดุดี 83:5 - เพราะพวกเขารวมหัวกันคบคิด และสัญญาว่าจะต่อต้านพระองค์
- สดุดี 83:6 - คือกระโจมของเอโดมและชาวอิชมาเอล ชาวโมอับและฮาการ์
- สดุดี 83:7 - เกบาล อัมโมน และอามาเลข ฟีลิสเตีย กับผู้อยู่อาศัยของไทระ
- สดุดี 83:8 - อัสซีเรียก็ร่วมกับพวกเขาด้วย พวกนี้กลับมาเป็นกำลังให้ลูกหลานของโลท เซล่าห์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 2:19 - เมื่อเจ้าเข้าไปใกล้พรมแดนของลูกหลานชาวอัมโมนก็อย่าก่อกวนหรือก่อเรื่องสู้รบกับพวกเขา เพราะเราจะไม่ให้แผ่นดินของพวกเขาตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่เจ้า เพราะเราได้ให้แก่ลูกหลานของโลทเป็นกรรมสิทธิ์แล้ว’