Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
25:15 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากชาวฟีลิสเตียอาฆาตและแก้แค้นด้วยใจชั่วร้าย และมุ่งทำลายยูดาห์เพราะเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่โบราณ
  • 新标点和合本 - 主耶和华如此说:“因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们,
  • 和合本2010(上帝版-简体) - “主耶和华如此说:因非利士人报仇,就是心存轻蔑报仇;他们永怀仇恨,意图毁灭,
  • 和合本2010(神版-简体) - “主耶和华如此说:因非利士人报仇,就是心存轻蔑报仇;他们永怀仇恨,意图毁灭,
  • 当代译本 - “主耶和华说,‘非利士人心存仇恨,为了报世仇要毁灭犹大,
  • 圣经新译本 - 主耶和华这样说:“因为非利士人向犹大人报仇雪恨,心存轻蔑报仇雪恨,他们永远怀恨,要毁灭犹大,
  • 现代标点和合本 - “主耶和华如此说:因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们,
  • 和合本(拼音版) - 主耶和华如此说:“因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们。
  • New International Version - “This is what the Sovereign Lord says: ‘Because the Philistines acted in vengeance and took revenge with malice in their hearts, and with ancient hostility sought to destroy Judah,
  • New International Reader's Version - The Lord and King says, “Deep down inside them, the Philistines hated Judah. So the Philistines tried to get even with them. They had been Judah’s enemies for many years. So they tried to destroy them.”
  • English Standard Version - “Thus says the Lord God: Because the Philistines acted revengefully and took vengeance with malice of soul to destroy in never-ending enmity,
  • New Living Translation - “This is what the Sovereign Lord says: The people of Philistia have acted against Judah out of bitter revenge and long-standing contempt.
  • The Message - “God, the Master, says: Because the Philistines were so spitefully vengeful—all those centuries of stored-up malice!—and did their best to destroy Judah, therefore I, God, the Master, will oppose the Philistines and cut down the Cretans and anybody else left along the seacoast. Huge acts of vengeance, massive punishments! When I bring vengeance, they’ll realize that I am God.”
  • Christian Standard Bible - “‘This is what the Lord God says: Because the Philistines acted in vengeance and took revenge with deep contempt, destroying because of their perpetual hatred,
  • New American Standard Bible - ‘This is what the Lord God says: “Because the Philistines have acted in revenge, and have taken vengeance with malice in their souls to destroy with everlasting hostility,”
  • New King James Version - ‘Thus says the Lord God: “Because the Philistines dealt vengefully and took vengeance with a spiteful heart, to destroy because of the old hatred,”
  • Amplified Bible - ‘Thus says the Lord God, “Because the Philistines have acted revengefully and have taken vengeance [contemptuously] with malice in their hearts to destroy with everlasting hostility and hatred,”
  • American Standard Version - Thus saith the Lord Jehovah: Because the Philistines have dealt by revenge, and have taken vengeance with despite of soul to destroy with perpetual enmity;
  • King James Version - Thus saith the Lord God; Because the Philistines have dealt by revenge, and have taken vengeance with a despiteful heart, to destroy it for the old hatred;
  • New English Translation - “This is what the sovereign Lord says: ‘The Philistines have exacted merciless revenge, showing intense scorn in their effort to destroy Judah with unrelenting hostility.
  • World English Bible - “‘The Lord Yahweh says: “Because the Philistines have taken revenge, and have taken vengeance with contempt of soul to destroy with perpetual hostility;”
  • 新標點和合本 - 主耶和華如此說:「因非利士人向猶大人報仇,就是以恨惡的心報仇雪恨,永懷仇恨,要毀滅他們,
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 「主耶和華如此說:因非利士人報仇,就是心存輕蔑報仇;他們永懷仇恨,意圖毀滅,
  • 和合本2010(神版-繁體) - 「主耶和華如此說:因非利士人報仇,就是心存輕蔑報仇;他們永懷仇恨,意圖毀滅,
  • 當代譯本 - 「主耶和華說,『非利士人心存仇恨,為了報世仇要毀滅猶大,
  • 聖經新譯本 - 主耶和華這樣說:“因為非利士人向猶大人報仇雪恨,心存輕蔑報仇雪恨,他們永遠懷恨,要毀滅猶大,
  • 呂振中譯本 - 『永恆主這麼說: 非利士 人 對 猶大 人 既行了報仇的事,既 滿 心懷着輕蔑之意而報仇,以永存的仇恨心要毁滅 他們 ,
  • 現代標點和合本 - 「主耶和華如此說:因非利士人向猶大人報仇,就是以恨惡的心報仇雪恨,永懷仇恨,要毀滅他們,
  • 文理和合譯本 - 主耶和華曰、非利士人心存蔑視、而行報復、從其永憾、圖滅我民、
  • 文理委辦譯本 - 主耶和華曰、非利士人藏匿舊怨、中心叵測、以害我民、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主天主如是云、 非利士 人攻我民、狂傲復仇、欲翦滅之、乃從其舊恨、
  • Nueva Versión Internacional - «Así dice el Señor omnipotente: Los filisteos se vengaron con alevosía; con profundo desprecio intentaron destruir a Judá por causa de una antigua enemistad.
  • 현대인의 성경 - “나 주 여호와가 말한다. 블레셋 사람들이 옛날부터 복수하고자 앙심을 품고 악의와 적대감으로 유다를 멸망시키려고 하였다.
  • Новый Русский Перевод - Так говорит Владыка Господь: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иуду по давней вражде.
  • Восточный перевод - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
  • La Bible du Semeur 2015 - Voici ce que déclare le Seigneur, l’Eternel : Puisque les Philistins ont agi par vengeance, et qu’ils se sont vengés, le cœur plein de mépris, au point de tout détruire dans leur haine ancestrale,
  • リビングバイブル - 神である主はこう語ります。「ペリシテ人は昔からユダに恨みを抱き、復讐の念に燃えて攻めて来た。
  • Nova Versão Internacional - “Assim diz o Soberano, o Senhor: Uma vez que a Filístia agiu por vingança e com maldade no coração e, com antiga hostilidade, buscou destruir Judá,
  • Hoffnung für alle - »So spricht Gott, der Herr: Auch die Philister haben sich grausam an meinem Volk gerächt. Voller Hass und Verachtung wollten sie ihre Erzfeinde vernichten.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - “Đây là điều Chúa Hằng Hữu Chí Cao phán: Người Phi-li-tin đã báo thù với lòng nham hiểm và khinh miệt vì chuyện ghen ghét cũ để tiêu diệt Giu-đa.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​กล่าว​ว่า เพราะ​ฟีลิสเตีย​แก้​แค้น​ด้วย​จิต​ใจ​ที่​มุ่ง​ร้าย ต้อง​การ​ทำ​ให้​ยูดาห์​พินาศ​และ​เป็น​อริ​กัน​อย่าง​ไม่​จบ​สิ้น
交叉引用
  • สดุดี 83:7 - ชาวเกบาล อัมโมน อามาเลข ฟีลิสเตีย และไทระ
  • 1พงศาวดาร 7:21 - ซึ่งมีบุตรคือศาบาด ซึ่งมีบุตรคือชูเธลาห์ เอเซอร์และเอเลอัดถูกชาวพื้นเมืองของกัทฆ่าตายเมื่อจะไปยึดฝูงสัตว์ของคนเหล่านั้น
  • 1ซามูเอล 4:1 - และคนอิสราเอลทั้งปวงได้ฟังคำของซามูเอล ครั้งนั้นชนอิสราเอลออกไปรบกับชาวฟีลิสเตียและตั้งค่ายอยู่ที่เอเบนเอเซอร์ ส่วนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่อาเฟค
  • 1ซามูเอล 4:2 - ชาวฟีลิสเตียดาหน้าเข้าต่อสู้กับอิสราเอล เมื่อสงครามขยายออกไป อิสราเอลพ่ายแพ้ฟีลิสเตีย ถูกฆ่าตายไปประมาณสี่พันคนในสนามรบ
  • 1ซามูเอล 4:3 - เมื่อพวกทหารกลับมายังค่ายพัก บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลหารือกันว่า “ทำไมวันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้พวกเราแพ้พวกฟีลิสเตีย ให้เราอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจากชิโลห์มาที่นี่ เพื่อพระองค์ จะได้สถิตกับเราและช่วยเหลือเราจากมือของศัตรู”
  • 1ซามูเอล 4:4 - ฉะนั้นประชาชนจึงส่งคนไปที่ชิโลห์ เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ประทับระหว่างเครูบ โฮฟนีและฟีเนหัสบุตรของเอลีได้มาที่สนามรบพร้อมหีบพันธสัญญาของพระเจ้าด้วย
  • 1ซามูเอล 4:5 - เมื่อหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่ายพัก อิสราเอลทั้งปวงก็ตะโกนโห่ร้องเสียงดังปานแผ่นดินจะถล่มทลาย
  • 1ซามูเอล 4:6 - ชาวฟีลิสเตียได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมก็ถามกันว่า “เกิดอะไรขึ้นจึงมีเสียงตะโกนโห่ร้องทั่วค่ายพวกฮีบรู?” เมื่อรู้ว่าเป็นเพราะหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่ายพัก
  • เศคาริยาห์ 9:5 - อัชเคโลนจะเห็นแล้วหวาดกลัว กาซาจะทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เอโครนก็เช่นกันเพราะความหวังของมันอับเฉา กาซาจะสูญเสียกษัตริย์ และอัชเคโลนจะถูกทิ้งร้าง
  • เศคาริยาห์ 9:6 - ชนต่างชาติจะครอบครองอัชโดด และเราจะกำจัดความหยิ่งผยองของชาวฟีลิสเตีย
  • เศคาริยาห์ 9:7 - เราจะเอาเลือดออกจากปากของพวกเขา และเอาอาหารต้องห้ามออกจากซี่ฟันของพวกเขา บรรดาผู้เหลือรอดอยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา และจะกลายเป็นผู้นำในยูดาห์ และเอโครนจะเป็นเหมือนชาวเยบุส
  • เศคาริยาห์ 9:8 - แต่เราจะปกป้องนิเวศของเรา จากกองกำลังที่มาปล้นชิง ผู้กดขี่จะไม่มาย่ำยีบีฑาประชากรของเราอีก เพราะบัดนี้เรากำลังจับตาดูอยู่
  • 1ซามูเอล 13:1 - ซาอูลมีอายุได้สามสิบ ปีเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ และพระองค์ทรงปกครองอิสราเอลอยู่สี่สิบ สองปี
  • 1ซามูเอล 13:2 - ซาอูล เลือกอิสราเอลสามพันคน ให้สองพันคนอยู่กับพระองค์ที่มิคมาชและในแดนเทือกเขาแห่งเบธเอล ส่วนอีกหนึ่งพันคนอยู่กับโยนาธานที่เมืองกิเบอาห์ในเขตเบนยามิน คนอื่นที่เหลือให้กลับบ้านไป
  • 1ซามูเอล 13:3 - โยนาธานบุกโจมตีกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตียที่เมืองเกบา ชาวฟีลิสเตียได้ข่าวเรื่องนี้ แล้วซาอูลจึงสั่งให้เป่าแตรทั่วแดนและประกาศว่า “ชาวฮีบรูจงฟัง!”
  • 1ซามูเอล 13:4 - ดังนั้นอิสราเอลทั้งปวงจึงได้ข่าวว่า “ซาอูลโจมตีกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตีย บัดนี้ชาวฟีลิสเตียเกลียดชังชาวอิสราเอลยิ่งนัก” ฉะนั้นเหล่าประชากรจึงรวมตัวกันมาสมทบกับซาอูลที่กิลกาล
  • 1ซามูเอล 13:5 - ชาวฟีลิสเตียรวมตัวกันมาสู้กับอิสราเอล มีรถม้าศึกสามพันคัน พลรถรบหกพันคน และมีทหารมากมายดุจเม็ดทรายที่ชายทะเล พวกเขายกมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทางตะวันออกของเบธอาเวน
  • 1ซามูเอล 13:6 - เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าสถานการณ์คับขันและกองทัพของตนถูกตีอย่างหนักก็ซ่อนตัวตามถ้ำ ตามสุมทุมพุ่มไม้ ตามซอกหิน และในหลุมในบ่อ
  • 1ซามูเอล 13:7 - บางคนก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดนหนีไปยังดินแดนของกาดและกิเลอาด ฝ่ายซาอูลยังคงอยู่ที่กิลกาล กองทหารทั้งหมดที่อยู่ด้วยพากันขวัญหนีดีฝ่อ
  • 1ซามูเอล 13:8 - ซาอูลรออยู่เจ็ดวันตามที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่เมื่อซามูเอลยังไม่มาที่กิลกาลและคนของซาอูลเริ่มแตกทัพ
  • 1ซามูเอล 13:9 - ซาอูลจึงสั่งว่า “จงนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชามา” แล้วซาอูลก็ถวายเครื่องเผาบูชา
  • 1ซามูเอล 13:10 - ทันทีที่ถวายเสร็จ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปต้อนรับ
  • 1ซามูเอล 13:11 - ซามูเอลถามว่า “ท่านทำอะไรลงไป?” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นไพร่พลกระจัดกระจายไป และท่านไม่ได้มาตามเวลาที่กำหนดไว้ ฝ่ายชาวฟีลิสเตียก็มาชุมนุมกันอยู่ที่มิคมาช
  • 1ซามูเอล 13:12 - ข้าพเจ้าคิดว่า ‘ชาวฟีลิสเตียจะลงมาถล่มเราที่กิลกาลแล้ว เราเองก็ยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย’ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงจำต้องถวายเครื่องเผาบูชา”
  • 1ซามูเอล 13:13 - ซามูเอลตำหนิว่า “ท่านทำตัวโง่เขลา ท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หากท่านได้ปฏิบัติตาม พระองค์คงจะสถาปนาอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป
  • 1ซามูเอล 13:14 - แต่บัดนี้อาณาจักรของท่านจะไม่ยืนยง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกคนที่พระองค์ทรงชอบพระทัยยิ่งนัก และทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้นำประชากรของพระองค์ เนื่องจากท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
  • 2ซามูเอล 8:1 - ต่อมาดาวิดทรงพิชิตชาวฟีลิสเตียอย่างราบคาบ พระองค์ยึดเมืองเมเธกอัมมาห์จากฟีลิสเตีย
  • 2ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังได้ทรงพิชิตชาวโมอับ จับเชลยนอนเรียงแถวบนพื้นแล้ววัดด้วยสายวัด ทุกๆ สองช่วงของสายวัดเชลยที่นอนอยู่ในสองช่วงนั้นจะถูกประหาร และจะไว้ชีวิตเชลยที่อยู่ในช่วงที่สาม ชาวโมอับจึงขึ้นแก่ดาวิดและต้องส่งเครื่องบรรณาการ
  • 2ซามูเอล 8:3 - ยิ่งกว่านั้นดาวิดยังทรงสู้รบกับกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์ เมื่อฮาดัดเอเซอร์เสด็จไปกู้อำนาจคืนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส
  • 2ซามูเอล 8:4 - ดาวิดทรงยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน พลรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ทรงตัดเอ็นขาม้าศึกทั้งหมด ยกเว้นม้าสำหรับเทียมรถหนึ่งร้อยตัว
  • 2ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสมาช่วยกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์แห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงสังหารพวกเขาไป 22,000 คน
  • 2ซามูเอล 8:6 - ทรงวางกำลังทหารไว้ในอาณาจักรอารัมแห่งดามัสกัส และชาวอารัมก็ขึ้นกับดาวิด และต้องส่งบรรณาการมาถวาย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
  • 2ซามูเอล 8:7 - ดาวิดทรงนำโล่ทองคำของบรรดานายทหารของฮาดัดเอเซอร์มายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดยังได้นำทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจากเมืองเทบาห์ และจากเมืองเบโรธัยของฮาดัดเอเซอร์มาด้วย
  • 2ซามูเอล 8:9 - เมื่อกษัตริย์โทอู แห่งเมืองฮามัทได้ข่าวว่าดาวิดทรงรบชนะทั้งกองทัพของฮาดัดเอเซอร์
  • 2ซามูเอล 8:10 - ก็ส่งโยรัม ราชโอรสมาถวายคำนับกษัตริย์ดาวิดและร่วมยินดีในชัยชนะเหนือฮาดัดเอเซอร์ เพราะฮาดัดเอเซอร์และโทอูเป็นศัตรูขับเคี่ยวกันมา โยรัมนำเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องทองสัมฤทธิ์มาถวายด้วย
  • 2ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดทรงถวายสิ่งเหล่านี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับเงินและทองซึ่งริบจากชนชาติต่างๆ ที่ดาวิดพิชิตคือ
  • 2ซามูเอล 8:12 - เอโดม โมอับ อัมโมน ฟีลิสเตีย และอามาเลข ตลอดจนของเชลยที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์
  • 2ซามูเอล 8:13 - และหลังจากที่ดาวิดทรงประหารชาวเอโดม ที่หุบเขาเกลือไป 18,000 คน ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดัง
  • 2ซามูเอล 8:14 - ดาวิดทรงวางกำลังทหารไว้ในเอโดม และชาวเอโดมทั้งปวงก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ( 1พศด.18:14-17 )
  • 2ซามูเอล 8:15 - ดาวิดทรงปกครองทั่วแดนอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเพื่อปวงประชากรของพระองค์
  • 2ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นอาลักษณ์หลวง
  • 2ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรอาห์เป็นราชเลขา
  • 2ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาดูแลพวกเคเรธีและคนเปเลท และบรรดาโอรสของดาวิดเป็นราชมนตรี
  • 1ซามูเอล 17:1 - ครั้งนั้นชาวฟีลิสเตียรวมพลมาสู้รบและชุมนุมกันที่โสโคห์ในยูดาห์ พวกเขาตั้งค่ายพักที่เอเฟสดัมมิมซึ่งอยู่ระหว่างโสโคห์กับอาเซคาห์
  • 1ซามูเอล 17:2 - ซาอูลและชนอิสราเอลมารวมพลและตั้งค่ายพักอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ ตั้งแนวรบประจันหน้ากับชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:3 - ชาวฟีลิสเตียยึดเนินเขาด้านหนึ่ง อิสราเอลยึดเนินเขาอีกด้านหนึ่ง มีหุบเขาคั่นกลาง
  • 1ซามูเอล 17:4 - ยอดนักรบชื่อโกลิอัทจากเมืองกัทออกมาจากค่ายฟีลิสเตีย เขาสูง 6 ศอกกับ 1 ฝ่ามือ
  • 1ซามูเอล 17:5 - เขาสวมหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์และสวมเสื้อเกราะทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 57 กิโลกรัม
  • 1ซามูเอล 17:6 - ใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์ มีหอกทองสัมฤทธิ์คล้องอยู่ที่บ่า
  • 1ซามูเอล 17:7 - ด้ามหอกเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกทำด้วยเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัม มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:8 - โกลิอัทยืนร้องท้าทหารอิสราเอลว่า “พวกเจ้าจะมาตั้งแถวสู้รบกันทำไม? ข้าก็เป็นฟีลิสเตีย ส่วนพวกเจ้าก็เป็นบริวารของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกคนหนึ่งลงมาสู้กับข้า
  • 1ซามูเอล 17:9 - ถ้าคนของเจ้าฆ่าข้าได้ พวกข้าจะยอมแพ้พวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าเขาได้ พวกเจ้าต้องยอมแพ้เป็นทาสรับใช้พวกข้า”
  • 1ซามูเอล 17:10 - ชาวฟีลิสเตียคนนั้นพูดว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพอิสราเอล! ส่งคนมาสู้กับข้าสิ”
  • 1ซามูเอล 17:11 - เมื่อซาอูลและชนอิสราเอลทั้งหมดได้ยินเช่นนี้ ก็พากันหวาดผวาและท้อแท้ใจ
  • 1ซามูเอล 17:12 - ฝ่ายดาวิดเป็นบุตรเจสซีชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ เจสซีมีบุตรชายแปดคน เขาก็ชราและมีอายุมากแล้วในสมัยที่ซาอูลเป็นกษัตริย์
  • 1ซามูเอล 17:13 - บุตรชายสามคนแรกของเจสซีที่ติดตามซาอูลไปรบมีดังนี้คือ เอลีอับบุตรหัวปี อาบีนาดับบุตรคนที่สอง และชัมมาห์บุตรคนที่สาม
  • 1ซามูเอล 17:14 - ดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้อง พี่ชายสามคนแรกติดตามซาอูลไป
  • 1ซามูเอล 17:15 - ส่วนดาวิดไปๆ มาๆ ระหว่างซาอูลกับการเลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
  • 1ซามูเอล 17:16 - ชาวฟีลิสเตียคนนี้มายืนร้องท้าเป็นประจำทุกเช้าเย็นตลอดสี่สิบวัน
  • 1ซามูเอล 17:17 - ฝ่ายเจสซีพูดกับดาวิดบุตรชายว่า “จงรีบเอาข้าวคั่วประมาณ 22 ลิตร กับขนมปังสิบก้อนนี้ไปให้พี่ชายของเจ้าที่ค่าย
  • 1ซามูเอล 17:18 - เอาเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้ผู้บังคับกอง ของพี่ๆ ด้วย จงดูว่าพวกพี่เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วนำข่าว จากพวกเขากลับมาบอกเราด้วย
  • 1ซามูเอล 17:19 - พวกเขาอยู่กับซาอูลและกองทัพอิสราเอลที่หุบเขาเอลาห์ระหว่างการสู้รบกับคนฟีลิสเตีย”
  • 1ซามูเอล 17:20 - ดาวิดทิ้งฝูงแกะไว้กับคนเลี้ยงอีกคนหนึ่ง แล้วออกเดินทางตามคำสั่งของเจสซีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นพร้อมด้วยของฝาก เขามาถึงค่ายพอดีกับที่กองทัพอิสราเอลกำลังจะยกออกไปสนามรบ มีเสียงตะโกนเสียงโห่ร้องออกศึก
  • 1ซามูเอล 17:21 - กองพลอิสราเอลและฟีลิสเตียต่างก็มาตั้งขบวนประจันหน้ากัน
  • 1ซามูเอล 17:22 - ดาวิดทิ้งข้าวของไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัมภาระ แล้ววิ่งออกไปที่แนวรบและทักทายพวกพี่ๆ
  • 1ซามูเอล 17:23 - ขณะกำลังคุยกับพวกพี่ๆ โกลิอัทยอดนักรบชาวฟีลิสเตียจากเมืองกัทก้าวออกจากแถวมายืนร้องท้าเช่นเคย และดาวิดก็ได้ยิน
  • 1ซามูเอล 17:24 - ทันทีที่เห็นโกลิอัทคนอิสราเอลก็พากันวิ่งหนีด้วยความกลัวยิ่งนัก
  • 1ซามูเอล 17:25 - คนอิสราเอลพูดกันว่า “เจ้าเห็นคนนี้ไหม? เขาออกมาสบประมาทอิสราเอลอยู่เป็นประจำ กษัตริย์จะประทานทรัพย์สินมากมายให้แก่คนที่ฆ่าเขาได้ และจะยกพระธิดาให้เป็นภรรยา ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของบิดาของเขาจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วย”
  • 1ซามูเอล 17:26 - ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ว่า “ผู้ที่ฆ่าฟีลิสเตียคนนี้และกู้หน้าให้อิสราเอลจะได้รับบำเหน็จอะไรบ้าง? ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้เป็นใครกัน ถึงบังอาจมาร้องท้ากองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่?”
  • 1ซามูเอล 17:27 - พวกเขาก็บอกซ้ำสิ่งที่พูดไปแล้วว่า “คนที่ฆ่าเขาสำเร็จจะได้รับสิ่งต่างๆ ดังกล่าว”
  • 1ซามูเอล 17:28 - เมื่อเอลีอับพี่ชายคนโตของดาวิดได้ยินดาวิดพูดกับคนนั้นก็โกรธ และถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวในถิ่นกันดารไว้ให้ใครดูแล? ข้ารู้ว่าเจ้าชอบคุยโวและรู้จักใจชั่วช้าของเจ้า นึกอยากมาดูเขารบกันล่ะสิ”
  • 1ซามูเอล 17:29 - ดาวิดตอบว่า “ข้าทำอะไรผิดหรือ? ถามดูไม่ได้หรือ?”
  • 1ซามูเอล 17:30 - แล้วดาวิดเดินไปถามคนอื่นๆ อีกในเรื่องเดิม ก็ได้รับคำตอบอย่างเดียวกัน
  • 1ซามูเอล 17:31 - มีผู้ได้ยินคำพูดของดาวิดจึงไปทูลรายงานซาอูล พระองค์จึงให้คนไปตามตัวดาวิดมาเข้าเฝ้า
  • 1ซามูเอล 17:32 - ดาวิดทูลซาอูลว่า “อย่าให้ผู้ใดเสียขวัญเพราะชาวฟีลิสเตียคนนี้เลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปรบกับเขา”
  • 1ซามูเอล 17:33 - ซาอูลตรัสว่า “เจ้าออกไปสู้กับชาวฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นเพียงเด็ก ส่วนเขาเป็นนักรบมาตั้งแต่หนุ่ม”
  • 1ซามูเอล 17:34 - แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทดูแลแกะของบิดา เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาคาบแกะไปจากฝูง
  • 1ซามูเอล 17:35 - ข้าพระบาทจะไล่ตามฟาดฟันช่วยแกะนั้นออกมาจากปากของสิงโต หากมันหันมาเล่นงาน ข้าพระบาทก็จะกระชากขนของมัน ฟาดมัน และฆ่าเสีย
  • 1ซามูเอล 17:36 - ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าทั้งสิงโตและหมีมาแล้ว ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้จะเป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้น เพราะเขามาสบประมาทกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • 1ซามูเอล 17:37 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระบาทจากเขี้ยวเล็บของสิงโตและหมี จะช่วยข้าพระบาทจากมือชาวฟีลิสเตียผู้นี้” ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “ไปเถิด ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเจ้า”
  • 1ซามูเอล 17:38 - จากนั้นซาอูลก็ให้ดาวิดสวมเครื่องทรงของซาอูลเอง มีเสื้อเกราะและหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์
  • 1ซามูเอล 17:39 - ดาวิดสะพายดาบ ทับเสื้อเกราะ ลองเดินวนไปรอบๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับชุดแบบนี้มาก่อน ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทออกไปอย่างนี้ไม่ได้เพราะไม่เคยชิน” แล้วดาวิดก็ถอดชุดนั้นออก
  • 1ซามูเอล 17:40 - จากนั้นเขาหยิบไม้เท้าและไปเก็บหินเกลี้ยงห้าก้อนจากลำธารใส่ไว้ในย่ามของเขา ในมือถือสลิง เดินเข้าไปหาชาวฟีลิสเตียคนนั้น
  • 1ซามูเอล 17:41 - ขณะนั้นโกลิอัทเดินเข้ามาหาดาวิด มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:42 - เมื่อเห็นดาวิดซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มรูปหล่อผิวพรรณดี ก็นึกดูหมิ่น
  • 1ซามูเอล 17:43 - และกล่าวว่า “เห็นข้าเป็นหมาหรือไง ถึงได้ถือไม้เท้าออกมาหา?” แล้วก็แช่งด่าดาวิดโดยอ้างนามเทพเจ้าต่างๆ ของตน
  • 1ซามูเอล 17:44 - โกลิอัทพูดว่า “มาสิ เดี๋ยวข้าจะแล่เนื้อเจ้าให้นกกาและสัตว์ป่ากิน!”
  • 1ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่
  • 1ซามูเอล 17:46 - วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน วันนี้เราจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียให้นกกาและสัตว์ป่ากิน แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล
  • 1ซามูเอล 17:47 - คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จะทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”
  • 1ซามูเอล 17:48 - ขณะที่โกลิอัทเข้ามาใกล้เพื่อต่อสู้ ดาวิดก็วิ่งเข้าไปประจันหน้า
  • 1ซามูเอล 17:49 - เอามือล้วงลงไปในย่ามหยิบก้อนหินออกมาคล้องเข้ากับสลิง แล้วเหวี่ยงก้อนหินอัดเข้าที่หน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินฝังจมเข้าไป โกลิอัทล้มคว่ำลงกับพื้น
  • 1ซามูเอล 17:50 - เป็นอันว่าดาวิดพิชิตชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหิน แม้ไม่มีดาบแต่ก็ล้มเขาได้และฆ่าเขาเสีย
  • 1ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งขึ้นไปยืนบนร่างของเขา ดึงดาบของโกลิอัทออกจากฝักและฆ่าเขา แล้วก็ตัดศีรษะออกมา เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นวีรบุรุษของตนตายเสียแล้ว ก็หันหลังวิ่งหนีไป
  • 1ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลและยูดาห์จึงโห่ร้องมีชัย แล้วรุกไล่ฟีลิสเตียไปไกลถึงทางเข้าเมืองกัท และประตูเมืองเอโครน ศพชาวฟีลิสเตียเกลื่อนกลาดตลอดเส้นทางชาอาราอิมที่จะไปยังเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 1ซามูเอล 17:53 - หลังจากนั้นอิสราเอลก็กลับมาปล้นค่ายของชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:54 - ดาวิดนำศีรษะของโกลิอัทไปยังเยรูซาเล็ม และเก็บอาวุธของเขาไว้ในเต็นท์ของตน
  • 1ซามูเอล 17:55 - ขณะซาอูลทอดพระเนตรดาวิดออกไปสู้กับโกลิอัท พระองค์ตรัสถามแม่ทัพอับเนอร์ว่า “อับเนอร์ เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” อับเนอร์ทูลตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระบาทไม่ทราบฉันนั้น”
  • 1ซามูเอล 17:56 - ซาอูลตรัสว่า “ไปสืบมาสิว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร”
  • 1ซามูเอล 17:57 - ทันทีที่ดาวิดกลับจากสังหารโกลิอัท อับเนอร์นำตัวเขามาเข้าเฝ้าซาอูล ดาวิดยังหิ้วศีรษะของโกลิอัทอยู่
  • 1ซามูเอล 17:58 - ซาอูลตรัสถามว่า “พ่อหนุ่ม เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” ดาวิดทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นบุตรของเจสซีแห่งเบธเลเฮม ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท”
  • อาโมส 1:6 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากกาซาทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขากวาดต้อนคนทั้งชุมชนไปเป็นเชลย และขายให้แก่เอโดม
  • อาโมส 1:7 - เราจะส่งไฟมายังกำแพงเมืองกาซา ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน
  • อาโมส 1:8 - เราจะทำลายกษัตริย์แห่ง อัชโดด และทำลายผู้ถือคทาในอัชเคโลน เราจะตวัดมือฟาดเอโครน จวบจนชาวฟีลิสเตียคนสุดท้ายตายไป” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนั้น
  • เศฟันยาห์ 2:4 - กาซาจะถูกทิ้งร้าง และอัชเคโลนจะถูกปล่อยให้ปรักหักพัง ยามเที่ยงวันอัชโดดจะถูกกวาดล้างจนว่างเปล่า และเอโครนถูกถอนราก
  • เศฟันยาห์ 2:5 - ชาวเคเรธีเอ๋ย วิบัติแก่เจ้าผู้อาศัยอยู่ริมทะเล คานาอันดินแดนแห่งชาวฟีลิสเตียเอ๋ย พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวโทษเจ้าว่า “เราจะทำลายเจ้า ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
  • เศฟันยาห์ 2:6 - ดินแดนริมทะเลซึ่งชาวเคเรธี อาศัยอยู่ จะเป็นที่สำหรับคนเลี้ยงแกะและเป็นที่สำหรับคอกแกะ
  • เศฟันยาห์ 2:7 - ดินแดนนั้นจะตกเป็นของชนหยิบมือที่เหลือของยูดาห์ ที่นั่นพวกเขาจะพบทุ่งหญ้า ยามเย็นเขาจะนอนลง ในบ้านเรือนของอัชเคโลน พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจะทรงดูแลเขา และให้เขาคืนสู่สภาพดีอีกครั้ง
  • โยเอล 3:4 - “นี่แน่ะไทระและไซดอนกับภูมิภาคทั้งปวงของฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าจะเอาเรื่องกับเราว่าอย่างไร? เจ้าจะตอบสนองสิ่งที่เราทำไปหรือ? หากเจ้าแก้แค้น เราก็จะให้กรรมที่เจ้าก่อไว้ตกอยู่แก่เจ้าเองอย่างฉับพลันทันที
  • โยเอล 3:5 - เพราะเจ้ายึดเอาเงินและทองคำกับสมบัติล้ำค่าของเราไปไว้ที่วิหารต่างๆ ของเจ้า
  • โยเอล 3:6 - เจ้าขายชนยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้แก่ชาวกรีกเพื่อจะได้เนรเทศพวกเขาไปไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน
  • โยเอล 3:7 - “ดูเถิด เราจะกระตุ้นพวกเขาออกมาจากที่ต่างๆ ซึ่งเจ้าขายพวกเขาไป และเราจะให้กรรมที่เจ้าก่อไว้ตกอยู่แก่เจ้าเอง
  • โยเอล 3:8 - เราจะขายบุตรชายบุตรสาวของเจ้าให้แก่ชาวยูดาห์ ซึ่งจะขายต่อให้ชาวเสบา ชนชาติซึ่งอยู่ไกลลิบ” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
  • โยเอล 3:9 - จงประกาศในหมู่ประชาชาติดังนี้ว่า เตรียมรบเถิด! จงปลุกใจเหล่านักรบ! ให้พลรบทั้งปวงเข้ามาใกล้และบุกทันที
  • โยเอล 3:10 - จงเอาผาลไถนามาตีเป็นดาบ และตีขอลิดให้เป็นทวน ให้คนอ่อนแอพูดว่า “ฉันเข้มแข็ง!”
  • โยเอล 3:11 - ประชาชาติทั้งปวงจากรอบทิศเอ๋ย มาเร็วเถิด มาชุมนุมกันที่นั่น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงส่งนักรบของพระองค์ลงมาเถิด!
  • โยเอล 3:12 - “จงปลุกใจประชาชาติทั้งหลาย ให้รุดหน้ามายังหุบเขาเยโฮชาฟัท เพราะที่นั่นเราจะนั่งลงตัดสิน ประชาชาติทั้งปวงรอบทิศ
  • โยเอล 3:13 - จงแกว่งเคียว เพราะข้าวสุกพร้อมให้เกี่ยวแล้ว มาเถิด มาย่ำองุ่น เพราะบ่อย่ำองุ่นเต็มแล้ว และบ่อเก็บมีเหล้าองุ่นเต็มล้น ความชั่วร้ายของพวกเขามากมายนัก!”
  • โยเอล 3:14 - ผู้คนมากันมืดฟ้ามัวดิน ในหุบเขาแห่งการพิพากษา! เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว ในหุบเขาแห่งการพิพากษา
  • โยเอล 3:15 - ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะมืดมิดไป และดวงดาวจะอับแสง
  • โยเอล 3:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปล่งพระสุรเสียงกึกก้องจากศิโยน ทรงเปล่งพระสุรเสียงจากเยรูซาเล็ม แผ่นดินและผืนฟ้าจะสั่นสะท้าน แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นที่ลี้ภัยสำหรับประชากรของพระองค์ เป็นที่มั่นสำหรับประชากรอิสราเอล
  • โยเอล 3:17 - “เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า พำนักอยู่ในศิโยนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เยรูซาเล็มจะบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ คนต่างชาติจะไม่มาย่ำยีมันอีก
  • โยเอล 3:18 - “ในวันนั้นจะมีน้ำองุ่นหยดจากภูเขา และมีน้ำนมไหลมาจากเนินเขา ลำห้วยทั้งปวงของยูดาห์จะมีน้ำนอง ธารน้ำพุจะไหลออกมาจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า ให้ความชุ่มชื่นแก่หุบเขาต้นกระถินเทศ
  • โยเอล 3:19 - แต่อียิปต์จะเริศร้าง เอโดมกลายเป็นถิ่นกันดาร เพราะความอำมหิตที่ทำไว้กับชาวยูดาห์ พวกเขาทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดในดินแดนนั้น
  • โยเอล 3:20 - ยูดาห์และเยรูซาเล็มจะมีผู้อยู่อาศัย ตลอดไปทุกชั่วอายุ
  • โยเอล 3:21 - ความผิดที่พวกเขาทำให้โลหิตตกซึ่งเราไม่ได้อภัยให้นั้น เราจะให้อภัย” องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่ในศิโยน!
  • อิสยาห์ 9:12 - ชาวอารัมจากตะวันออก และชาวฟีลิสเตียจากตะวันตก อ้าปากกว้างกลืนอิสราเอลเสีย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่
  • 1ซามูเอล 21:1 - ดาวิดเดินทางไปพบปุโรหิตอาหิเมเลคที่เมืองโนบ อาหิเมเลคตัวสั่นเมื่อพบดาวิด เขาถามว่า “ทำไมท่านมาคนเดียว? ทำไมไม่มีใครมาด้วย?”
  • 1ซามูเอล 21:2 - ดาวิดตอบปุโรหิตอาหิเมเลคว่า “กษัตริย์รับสั่งให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติงานอย่างหนึ่ง ทรงกำชับข้าพเจ้าว่า ‘อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้’ ข้าพเจ้านัดกับพรรคพวกไว้แล้วว่าจะไปพบกันที่ไหน
  • 1ซามูเอล 21:3 - ว่าแต่ตอนนี้มีอะไรให้ข้าพเจ้ากินบ้างไหม? ขอขนมปังสักห้าก้อนหรืออะไรก็ได้ที่ท่านมี”
  • 1ซามูเอล 21:4 - ปุโรหิตตอบดาวิดว่า “เราไม่มีขนมปังธรรมดา มีแต่ขนมปังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเราคิดว่าพวกท่านจะกินได้ก็ต่อเมื่อคนของท่านไม่ได้หลับนอนกับหญิงใดตลอดช่วงนี้”
  • 1ซามูเอล 21:5 - ดาวิดตอบว่า “แน่นอน โดยปกติเมื่อ ออกปฏิบัติภารกิจก็จะกันพวกผู้หญิงให้ห่างอยู่แล้ว แม้ปฏิบัติหน้าที่ตามธรรมดาก็ยังรักษาตัวให้บริสุทธิ์ วันนี้ก็ยิ่งกว่านั้นอีก!”
  • 1ซามูเอล 21:6 - เนื่องจากไม่มีอาหารอื่นใดเลย ปุโรหิตจึงให้ขนมปังศักดิ์สิทธิ์แก่ดาวิดคือ ขนมปังเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งในวันนั้นเพิ่งจะนำขนมปังใหม่สดมาเปลี่ยน
  • 1ซามูเอล 21:7 - ขณะนั้นโดเอกชาวเอโดมหัวหน้าคนเลี้ยงสัตว์ของซาอูลอยู่ที่นั่นด้วย เพราะเขามีเหตุต้องอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 1ซามูเอล 21:8 - ดาวิดถามอาหิเมเลคว่า “มีหอกหรือดาบบ้างไหม? เนื่องจากพระราชกิจครั้งนี้เร่งด่วนมาก ข้าพเจ้ารีบร้อนจนไม่ได้เอาอาวุธติดมือมาเลย”
  • 1ซามูเอล 21:9 - ปุโรหิตตอบว่า “มีดาบของโกลิอัทชาวฟีลิสเตียซึ่งท่านฆ่าที่หุบเขาเอลาห์ห่ออยู่ในผ้าข้างหลังเอโฟด ถ้าท่านต้องการก็เอาไปได้เลย เพราะมีดาบเล่มนั้นอยู่เล่มเดียว” ดาวิดตอบว่า “ไม่มีดาบเล่มไหนเหมือนเล่มนั้นอีกแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าเถิด”
  • 1ซามูเอล 21:10 - ในวันนั้นดาวิดหนีจากซาอูลไปเฝ้ากษัตริย์อาคีชแห่งกัท
  • 1ซามูเอล 21:11 - แต่ข้าราชบริพารของอาคีชทูลว่า “นี่คือกษัตริย์ดาวิดของดินแดนนั้นไม่ใช่หรือ? คนนี้ไม่ใช่หรือที่ประชาชนร้องรำทำเพลงยกย่องว่า “‘ซาอูลฆ่าศัตรูนับพัน และดาวิดฆ่าศัตรูนับหมื่น’”
  • 1ซามูเอล 21:12 - ดาวิดจำถ้อยคำเหล่านี้ไว้ในใจ และหวาดกลัวกษัตริย์อาคีชแห่งกัทยิ่งนัก
  • 1ซามูเอล 21:13 - จึงแกล้งทำเป็นเสียสติต่อหน้าพวกเขา เอามือขีดข่วนประตู ปล่อยน้ำลายไหลยืดลงมาเลอะหนวดเครา
  • 1ซามูเอล 21:14 - อาคีชตรัสกับข้าราชบริพารว่า “ดูชายผู้นี้สิ! เขาเสียสติ! เหตุใดจึงนำเขามาพบเรา?
  • 1ซามูเอล 21:15 - ที่นี่ก็มีคนบ้ามากพอแล้ว ทำไมต้องเอาคนนี้เข้ามาในวังของเราด้วย?”
  • เยเรมีย์ 47:1 - พระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีมาถึงผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับชาวฟีลิสเตีย ก่อนที่ฟาโรห์จะบุกเมืองกาซา ความว่า
  • เยเรมีย์ 47:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงดูน้ำเอ่อล้นขึ้นในภาคเหนือ มันจะกลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยว หลากท่วมดินแดนและทุกสิ่งทุกอย่าง เมืองต่างๆ และผู้คนที่อาศัยอยู่ ประชาชนจะหวีดร้อง คนทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในดินแดนนั้นจะร่ำไห้
  • เยเรมีย์ 47:3 - เมื่อได้ยินเสียงควบม้า เสียงรถม้าศึกของข้าศึก และเสียงดังสนั่นของล้อรถ ผู้เป็นพ่อจะไม่หันมาช่วยลูกๆ ของตน มือของเขาอ่อนเปลี้ยไปหมด
  • เยเรมีย์ 47:4 - เพราะถึงเวลาแล้ว ที่จะทำลายล้างฟีลิสเตียทั้งหมด และกำจัดผู้รอดชีวิตทั้งปวง ซึ่งจะมาช่วยเมืองไทระกับไซดอน องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทำลายล้างชาวฟีลิสเตีย ชนหยิบมือที่เหลือจากชายฝั่งทะเลคัฟโทร์
  • เยเรมีย์ 47:5 - กาซาจะโกนศีรษะไว้ทุกข์ อัชเคโลนจะนิ่งเงียบ ชนหยิบมือที่เหลือแห่งที่ราบ เจ้าจะเชือดเนื้อเถือหนังตัวเองอีกนานเท่าไร?
  • เยเรมีย์ 47:6 - “เจ้าร้องว่า ‘ดาบขององค์พระผู้เป็นเจ้าเอ๋ย เมื่อไรหนอเจ้าจึงจะหยุดพัก? โปรดกลับเข้าไปในฝักเถิด นิ่งพักสงบเถิด’
  • เยเรมีย์ 47:7 - แต่ดาบนั้นจะสงบนิ่งได้อย่างไร ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชามัน ในเมื่อพระองค์ทรงสั่งมัน ให้มันฟาดฟันอัชเคโลนและชายฝั่งทะเล?”
  • ผู้วินิจฉัย 14:1 - แซมสันลงไปยังเมืองทิมนาห์ และเห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่ง
  • ผู้วินิจฉัย 14:2 - เมื่อเขากลับมาจึงบอกกับบิดามารดาว่า “ข้าพเจ้าเห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่งในทิมนาห์ ช่วยไปขอนางมาเป็นภรรยาของข้าพเจ้าด้วย”
  • ผู้วินิจฉัย 14:3 - บิดามารดาทักท้วงว่า “ไม่มีผู้หญิงในหมู่ญาติพี่น้องหรือคนชาติเดียวกับเราถูกใจเจ้าสักคนเลยหรือ? เจ้าจึงต้องไปหาภรรยาจากพวกชาวฟีลิสเตียซึ่งไม่ได้เข้าสุหนัต” แต่แซมสันพูดกับบิดาว่า “นางเป็นคนที่เหมาะกับข้าพเจ้า ช่วยไปขอนางมาให้ข้าพเจ้าเถิด”
  • ผู้วินิจฉัย 14:4 - (บิดามารดาของแซมสันไม่รู้ว่าการนี้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงหาโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับชาวฟีลิสเตียซึ่งขณะนั้นปกครองอิสราเอลอยู่)
  • ผู้วินิจฉัย 14:5 - แซมสันกับบิดามารดาลงไปที่ทิมนาห์ ขณะที่พวกเขามาถึงสวนองุ่นแห่งทิมนาห์ ทันใดนั้นมีสิงโตหนุ่มคำรามกระโจนเข้าใส่แซมสัน
  • ผู้วินิจฉัย 14:6 - พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาสถิตกับแซมสัน และประทานกำลังมหาศาลแก่เขา จนเขาสามารถฉีกสิงโตออกจากกันด้วยมือเปล่าราวกับจับลูกแพะฉีกเป็นสองซีก แต่แซมสันไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้บิดามารดาทราบ
  • ผู้วินิจฉัย 14:7 - เมื่อมาถึงทิมนาห์ เขาได้พูดคุยกับสาวคนนั้นและเขาชอบนาง
  • ผู้วินิจฉัย 14:8 - ต่อมาเมื่อแซมสันกลับไปอีกเพื่อแต่งงานกับนาง เขาแวะไปดูซากสิงโต ก็พบรวงผึ้งอยู่ในซากนั้นและมีน้ำผึ้งอยู่ด้วย
  • ผู้วินิจฉัย 14:9 - เขาจึงนำน้ำผึ้งติดตัวไปด้วย เดินไปกินไป เมื่อเขาไปพบบิดามารดา เขาก็เอาน้ำผึ้งให้บิดามารดากินด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าน้ำผึ้งนั้นมาจากซากสิงโต
  • ผู้วินิจฉัย 14:10 - ขณะที่บิดาไปดูตัวผู้หญิงคนนั้น แซมสันจัดงานเลี้ยงขึ้นที่นั่นตามธรรมเนียมเจ้าบ่าว
  • ผู้วินิจฉัย 14:11 - เมื่อผู้คนเห็นเขา พวกเขาก็เลือกชายหนุ่มสามสิบคนให้มาเป็นเพื่อนแซมสัน
  • ผู้วินิจฉัย 14:12 - แซมสันกล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “ขอให้เราทายปริศนาพวกเจ้าสักข้อหนึ่งเถิด ถ้าพวกเจ้าตอบได้ภายในงานเลี้ยงเจ็ดวันนี้ เราก็จะให้เสื้อผ้าลินินพร้อมเครื่องนุ่งห่มสามสิบชุด
  • ผู้วินิจฉัย 14:13 - แต่ถ้าตอบไม่ได้ พวกเจ้าก็ต้องเป็นฝ่ายยกเสื้อผ้าลินินพร้อมเครื่องนุ่งห่มสามสิบชุดให้เรา” พวกเขาจึงว่า “เอาเลย ทายมาสิ”
  • ผู้วินิจฉัย 14:14 - แซมสันจึงกล่าวว่า “อาหารออกมาจากผู้กิน ความหวานออกมาจากผู้มีกำลัง” ตลอดสามวันคนเหล่านั้นก็ยังแก้ปริศนาไม่ได้
  • ผู้วินิจฉัย 14:15 - ในวันที่สี่ พวกเขาจึงมาคาดคั้นภรรยาของแซมสันว่า “ไปตะล่อมเอาคำตอบจากสามีของเจ้ามาซิ ไม่อย่างนั้นเราจะเผาบ้านพ่อของเจ้าพร้อมกับตัวเจ้า มีอย่างหรือเชิญเรามาร่วมงานเลี้ยงนี้เพื่อจะให้เราหมดตัว?”
  • ผู้วินิจฉัย 14:16 - ภรรยาของแซมสันจึงร้องไห้ฟูมฟายมาหาแซมสันและกล่าวว่า “ท่านเกลียดฉัน! ท่านไม่ได้รักฉันจริงถึงได้ตั้งปริศนาทายคนของฉัน แล้วไม่บอกคำตอบแก่ฉัน” แซมสันตอบว่า “ขนาดพ่อกับแม่ของข้า ข้ายังไม่บอกเลย เรื่องอะไรข้าต้องบอกเจ้า”
  • 2พงศาวดาร 28:18 - ขณะเดียวกันชาวฟีลิสเตียก็ปล้นเมืองต่างๆ แถบเชิงเขากับในเนเกบแห่งยูดาห์และยึดครองเมืองเบธเชเมช อัยยาโลน เกเดโรท โสโค ทิมนาห์ และกิมโซกับหมู่บ้านโดยรอบของเมืองเหล่านี้
  • เยเรมีย์ 25:20 - ตลอดจนคนต่างด้าวทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น รวมทั้งกษัตริย์ทั้งปวงแห่งดินแดนอูสและแห่งฟีลิสเตีย (ผู้ครองอัชเคโลน กาซา เอโครน และประชาชนซึ่งเหลืออยู่ที่อัชโดด)
  • อิสยาห์ 14:29 - ชาวฟีลิสเตียทั้งปวงเอ๋ย อย่ากระหยิ่มยิ้มย่อง ว่าไม้เรียวที่ฟาดเจ้านั้นหักแล้ว จากรากเหง้าของงูตัวนั้นจะเกิดงูพิษ เป็นงูเห่าพิษร้ายซึ่งแว้งกัด
  • อิสยาห์ 14:30 - ผู้ยากไร้ที่สุดจะพบทุ่งหญ้า และคนขัดสนจะเอนกายลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะทำลายล้างรากเหง้าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร ซึ่งจะผลาญชีวิตพวกเจ้าที่เหลือรอด
  • อิสยาห์ 14:31 - ประตูเมืองเอ๋ย จงร้องไห้เถิด! นครเอ๋ย จงคร่ำครวญเถิด! ชาวฟีลิสเตียทั้งปวง จงกลัวจนหัวหดไป! ควันโขมงขึ้นจากทิศเหนือ และแถวต่างๆ ที่ดาหน้าเข้ามาไม่มีล้าหลังสักคนเดียว
  • เอเสเคียล 25:12 - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากเอโดมแก้แค้นพงศ์พันธุ์ยูดาห์อย่างโหดเหี้ยม และผิดมากที่ทำเช่นนั้น
  • เอเสเคียล 25:6 - เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าปรบมือกระทืบเท้า และกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยใจคิดร้ายต่อดินแดนอิสราเอล
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากชาวฟีลิสเตียอาฆาตและแก้แค้นด้วยใจชั่วร้าย และมุ่งทำลายยูดาห์เพราะเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่โบราณ
  • 新标点和合本 - 主耶和华如此说:“因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们,
  • 和合本2010(上帝版-简体) - “主耶和华如此说:因非利士人报仇,就是心存轻蔑报仇;他们永怀仇恨,意图毁灭,
  • 和合本2010(神版-简体) - “主耶和华如此说:因非利士人报仇,就是心存轻蔑报仇;他们永怀仇恨,意图毁灭,
  • 当代译本 - “主耶和华说,‘非利士人心存仇恨,为了报世仇要毁灭犹大,
  • 圣经新译本 - 主耶和华这样说:“因为非利士人向犹大人报仇雪恨,心存轻蔑报仇雪恨,他们永远怀恨,要毁灭犹大,
  • 现代标点和合本 - “主耶和华如此说:因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们,
  • 和合本(拼音版) - 主耶和华如此说:“因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们。
  • New International Version - “This is what the Sovereign Lord says: ‘Because the Philistines acted in vengeance and took revenge with malice in their hearts, and with ancient hostility sought to destroy Judah,
  • New International Reader's Version - The Lord and King says, “Deep down inside them, the Philistines hated Judah. So the Philistines tried to get even with them. They had been Judah’s enemies for many years. So they tried to destroy them.”
  • English Standard Version - “Thus says the Lord God: Because the Philistines acted revengefully and took vengeance with malice of soul to destroy in never-ending enmity,
  • New Living Translation - “This is what the Sovereign Lord says: The people of Philistia have acted against Judah out of bitter revenge and long-standing contempt.
  • The Message - “God, the Master, says: Because the Philistines were so spitefully vengeful—all those centuries of stored-up malice!—and did their best to destroy Judah, therefore I, God, the Master, will oppose the Philistines and cut down the Cretans and anybody else left along the seacoast. Huge acts of vengeance, massive punishments! When I bring vengeance, they’ll realize that I am God.”
  • Christian Standard Bible - “‘This is what the Lord God says: Because the Philistines acted in vengeance and took revenge with deep contempt, destroying because of their perpetual hatred,
  • New American Standard Bible - ‘This is what the Lord God says: “Because the Philistines have acted in revenge, and have taken vengeance with malice in their souls to destroy with everlasting hostility,”
  • New King James Version - ‘Thus says the Lord God: “Because the Philistines dealt vengefully and took vengeance with a spiteful heart, to destroy because of the old hatred,”
  • Amplified Bible - ‘Thus says the Lord God, “Because the Philistines have acted revengefully and have taken vengeance [contemptuously] with malice in their hearts to destroy with everlasting hostility and hatred,”
  • American Standard Version - Thus saith the Lord Jehovah: Because the Philistines have dealt by revenge, and have taken vengeance with despite of soul to destroy with perpetual enmity;
  • King James Version - Thus saith the Lord God; Because the Philistines have dealt by revenge, and have taken vengeance with a despiteful heart, to destroy it for the old hatred;
  • New English Translation - “This is what the sovereign Lord says: ‘The Philistines have exacted merciless revenge, showing intense scorn in their effort to destroy Judah with unrelenting hostility.
  • World English Bible - “‘The Lord Yahweh says: “Because the Philistines have taken revenge, and have taken vengeance with contempt of soul to destroy with perpetual hostility;”
  • 新標點和合本 - 主耶和華如此說:「因非利士人向猶大人報仇,就是以恨惡的心報仇雪恨,永懷仇恨,要毀滅他們,
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 「主耶和華如此說:因非利士人報仇,就是心存輕蔑報仇;他們永懷仇恨,意圖毀滅,
  • 和合本2010(神版-繁體) - 「主耶和華如此說:因非利士人報仇,就是心存輕蔑報仇;他們永懷仇恨,意圖毀滅,
  • 當代譯本 - 「主耶和華說,『非利士人心存仇恨,為了報世仇要毀滅猶大,
  • 聖經新譯本 - 主耶和華這樣說:“因為非利士人向猶大人報仇雪恨,心存輕蔑報仇雪恨,他們永遠懷恨,要毀滅猶大,
  • 呂振中譯本 - 『永恆主這麼說: 非利士 人 對 猶大 人 既行了報仇的事,既 滿 心懷着輕蔑之意而報仇,以永存的仇恨心要毁滅 他們 ,
  • 現代標點和合本 - 「主耶和華如此說:因非利士人向猶大人報仇,就是以恨惡的心報仇雪恨,永懷仇恨,要毀滅他們,
  • 文理和合譯本 - 主耶和華曰、非利士人心存蔑視、而行報復、從其永憾、圖滅我民、
  • 文理委辦譯本 - 主耶和華曰、非利士人藏匿舊怨、中心叵測、以害我民、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主天主如是云、 非利士 人攻我民、狂傲復仇、欲翦滅之、乃從其舊恨、
  • Nueva Versión Internacional - «Así dice el Señor omnipotente: Los filisteos se vengaron con alevosía; con profundo desprecio intentaron destruir a Judá por causa de una antigua enemistad.
  • 현대인의 성경 - “나 주 여호와가 말한다. 블레셋 사람들이 옛날부터 복수하고자 앙심을 품고 악의와 적대감으로 유다를 멸망시키려고 하였다.
  • Новый Русский Перевод - Так говорит Владыка Господь: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иуду по давней вражде.
  • Восточный перевод - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
  • La Bible du Semeur 2015 - Voici ce que déclare le Seigneur, l’Eternel : Puisque les Philistins ont agi par vengeance, et qu’ils se sont vengés, le cœur plein de mépris, au point de tout détruire dans leur haine ancestrale,
  • リビングバイブル - 神である主はこう語ります。「ペリシテ人は昔からユダに恨みを抱き、復讐の念に燃えて攻めて来た。
  • Nova Versão Internacional - “Assim diz o Soberano, o Senhor: Uma vez que a Filístia agiu por vingança e com maldade no coração e, com antiga hostilidade, buscou destruir Judá,
  • Hoffnung für alle - »So spricht Gott, der Herr: Auch die Philister haben sich grausam an meinem Volk gerächt. Voller Hass und Verachtung wollten sie ihre Erzfeinde vernichten.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - “Đây là điều Chúa Hằng Hữu Chí Cao phán: Người Phi-li-tin đã báo thù với lòng nham hiểm và khinh miệt vì chuyện ghen ghét cũ để tiêu diệt Giu-đa.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​กล่าว​ว่า เพราะ​ฟีลิสเตีย​แก้​แค้น​ด้วย​จิต​ใจ​ที่​มุ่ง​ร้าย ต้อง​การ​ทำ​ให้​ยูดาห์​พินาศ​และ​เป็น​อริ​กัน​อย่าง​ไม่​จบ​สิ้น
  • สดุดี 83:7 - ชาวเกบาล อัมโมน อามาเลข ฟีลิสเตีย และไทระ
  • 1พงศาวดาร 7:21 - ซึ่งมีบุตรคือศาบาด ซึ่งมีบุตรคือชูเธลาห์ เอเซอร์และเอเลอัดถูกชาวพื้นเมืองของกัทฆ่าตายเมื่อจะไปยึดฝูงสัตว์ของคนเหล่านั้น
  • 1ซามูเอล 4:1 - และคนอิสราเอลทั้งปวงได้ฟังคำของซามูเอล ครั้งนั้นชนอิสราเอลออกไปรบกับชาวฟีลิสเตียและตั้งค่ายอยู่ที่เอเบนเอเซอร์ ส่วนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่อาเฟค
  • 1ซามูเอล 4:2 - ชาวฟีลิสเตียดาหน้าเข้าต่อสู้กับอิสราเอล เมื่อสงครามขยายออกไป อิสราเอลพ่ายแพ้ฟีลิสเตีย ถูกฆ่าตายไปประมาณสี่พันคนในสนามรบ
  • 1ซามูเอล 4:3 - เมื่อพวกทหารกลับมายังค่ายพัก บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลหารือกันว่า “ทำไมวันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้พวกเราแพ้พวกฟีลิสเตีย ให้เราอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจากชิโลห์มาที่นี่ เพื่อพระองค์ จะได้สถิตกับเราและช่วยเหลือเราจากมือของศัตรู”
  • 1ซามูเอล 4:4 - ฉะนั้นประชาชนจึงส่งคนไปที่ชิโลห์ เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ประทับระหว่างเครูบ โฮฟนีและฟีเนหัสบุตรของเอลีได้มาที่สนามรบพร้อมหีบพันธสัญญาของพระเจ้าด้วย
  • 1ซามูเอล 4:5 - เมื่อหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่ายพัก อิสราเอลทั้งปวงก็ตะโกนโห่ร้องเสียงดังปานแผ่นดินจะถล่มทลาย
  • 1ซามูเอล 4:6 - ชาวฟีลิสเตียได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมก็ถามกันว่า “เกิดอะไรขึ้นจึงมีเสียงตะโกนโห่ร้องทั่วค่ายพวกฮีบรู?” เมื่อรู้ว่าเป็นเพราะหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่ายพัก
  • เศคาริยาห์ 9:5 - อัชเคโลนจะเห็นแล้วหวาดกลัว กาซาจะทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เอโครนก็เช่นกันเพราะความหวังของมันอับเฉา กาซาจะสูญเสียกษัตริย์ และอัชเคโลนจะถูกทิ้งร้าง
  • เศคาริยาห์ 9:6 - ชนต่างชาติจะครอบครองอัชโดด และเราจะกำจัดความหยิ่งผยองของชาวฟีลิสเตีย
  • เศคาริยาห์ 9:7 - เราจะเอาเลือดออกจากปากของพวกเขา และเอาอาหารต้องห้ามออกจากซี่ฟันของพวกเขา บรรดาผู้เหลือรอดอยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา และจะกลายเป็นผู้นำในยูดาห์ และเอโครนจะเป็นเหมือนชาวเยบุส
  • เศคาริยาห์ 9:8 - แต่เราจะปกป้องนิเวศของเรา จากกองกำลังที่มาปล้นชิง ผู้กดขี่จะไม่มาย่ำยีบีฑาประชากรของเราอีก เพราะบัดนี้เรากำลังจับตาดูอยู่
  • 1ซามูเอล 13:1 - ซาอูลมีอายุได้สามสิบ ปีเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ และพระองค์ทรงปกครองอิสราเอลอยู่สี่สิบ สองปี
  • 1ซามูเอล 13:2 - ซาอูล เลือกอิสราเอลสามพันคน ให้สองพันคนอยู่กับพระองค์ที่มิคมาชและในแดนเทือกเขาแห่งเบธเอล ส่วนอีกหนึ่งพันคนอยู่กับโยนาธานที่เมืองกิเบอาห์ในเขตเบนยามิน คนอื่นที่เหลือให้กลับบ้านไป
  • 1ซามูเอล 13:3 - โยนาธานบุกโจมตีกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตียที่เมืองเกบา ชาวฟีลิสเตียได้ข่าวเรื่องนี้ แล้วซาอูลจึงสั่งให้เป่าแตรทั่วแดนและประกาศว่า “ชาวฮีบรูจงฟัง!”
  • 1ซามูเอล 13:4 - ดังนั้นอิสราเอลทั้งปวงจึงได้ข่าวว่า “ซาอูลโจมตีกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตีย บัดนี้ชาวฟีลิสเตียเกลียดชังชาวอิสราเอลยิ่งนัก” ฉะนั้นเหล่าประชากรจึงรวมตัวกันมาสมทบกับซาอูลที่กิลกาล
  • 1ซามูเอล 13:5 - ชาวฟีลิสเตียรวมตัวกันมาสู้กับอิสราเอล มีรถม้าศึกสามพันคัน พลรถรบหกพันคน และมีทหารมากมายดุจเม็ดทรายที่ชายทะเล พวกเขายกมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทางตะวันออกของเบธอาเวน
  • 1ซามูเอล 13:6 - เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าสถานการณ์คับขันและกองทัพของตนถูกตีอย่างหนักก็ซ่อนตัวตามถ้ำ ตามสุมทุมพุ่มไม้ ตามซอกหิน และในหลุมในบ่อ
  • 1ซามูเอล 13:7 - บางคนก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดนหนีไปยังดินแดนของกาดและกิเลอาด ฝ่ายซาอูลยังคงอยู่ที่กิลกาล กองทหารทั้งหมดที่อยู่ด้วยพากันขวัญหนีดีฝ่อ
  • 1ซามูเอล 13:8 - ซาอูลรออยู่เจ็ดวันตามที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่เมื่อซามูเอลยังไม่มาที่กิลกาลและคนของซาอูลเริ่มแตกทัพ
  • 1ซามูเอล 13:9 - ซาอูลจึงสั่งว่า “จงนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชามา” แล้วซาอูลก็ถวายเครื่องเผาบูชา
  • 1ซามูเอล 13:10 - ทันทีที่ถวายเสร็จ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปต้อนรับ
  • 1ซามูเอล 13:11 - ซามูเอลถามว่า “ท่านทำอะไรลงไป?” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นไพร่พลกระจัดกระจายไป และท่านไม่ได้มาตามเวลาที่กำหนดไว้ ฝ่ายชาวฟีลิสเตียก็มาชุมนุมกันอยู่ที่มิคมาช
  • 1ซามูเอล 13:12 - ข้าพเจ้าคิดว่า ‘ชาวฟีลิสเตียจะลงมาถล่มเราที่กิลกาลแล้ว เราเองก็ยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย’ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงจำต้องถวายเครื่องเผาบูชา”
  • 1ซามูเอล 13:13 - ซามูเอลตำหนิว่า “ท่านทำตัวโง่เขลา ท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หากท่านได้ปฏิบัติตาม พระองค์คงจะสถาปนาอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป
  • 1ซามูเอล 13:14 - แต่บัดนี้อาณาจักรของท่านจะไม่ยืนยง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกคนที่พระองค์ทรงชอบพระทัยยิ่งนัก และทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้นำประชากรของพระองค์ เนื่องจากท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
  • 2ซามูเอล 8:1 - ต่อมาดาวิดทรงพิชิตชาวฟีลิสเตียอย่างราบคาบ พระองค์ยึดเมืองเมเธกอัมมาห์จากฟีลิสเตีย
  • 2ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังได้ทรงพิชิตชาวโมอับ จับเชลยนอนเรียงแถวบนพื้นแล้ววัดด้วยสายวัด ทุกๆ สองช่วงของสายวัดเชลยที่นอนอยู่ในสองช่วงนั้นจะถูกประหาร และจะไว้ชีวิตเชลยที่อยู่ในช่วงที่สาม ชาวโมอับจึงขึ้นแก่ดาวิดและต้องส่งเครื่องบรรณาการ
  • 2ซามูเอล 8:3 - ยิ่งกว่านั้นดาวิดยังทรงสู้รบกับกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์ เมื่อฮาดัดเอเซอร์เสด็จไปกู้อำนาจคืนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส
  • 2ซามูเอล 8:4 - ดาวิดทรงยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน พลรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ทรงตัดเอ็นขาม้าศึกทั้งหมด ยกเว้นม้าสำหรับเทียมรถหนึ่งร้อยตัว
  • 2ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสมาช่วยกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์แห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงสังหารพวกเขาไป 22,000 คน
  • 2ซามูเอล 8:6 - ทรงวางกำลังทหารไว้ในอาณาจักรอารัมแห่งดามัสกัส และชาวอารัมก็ขึ้นกับดาวิด และต้องส่งบรรณาการมาถวาย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
  • 2ซามูเอล 8:7 - ดาวิดทรงนำโล่ทองคำของบรรดานายทหารของฮาดัดเอเซอร์มายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดยังได้นำทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจากเมืองเทบาห์ และจากเมืองเบโรธัยของฮาดัดเอเซอร์มาด้วย
  • 2ซามูเอล 8:9 - เมื่อกษัตริย์โทอู แห่งเมืองฮามัทได้ข่าวว่าดาวิดทรงรบชนะทั้งกองทัพของฮาดัดเอเซอร์
  • 2ซามูเอล 8:10 - ก็ส่งโยรัม ราชโอรสมาถวายคำนับกษัตริย์ดาวิดและร่วมยินดีในชัยชนะเหนือฮาดัดเอเซอร์ เพราะฮาดัดเอเซอร์และโทอูเป็นศัตรูขับเคี่ยวกันมา โยรัมนำเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องทองสัมฤทธิ์มาถวายด้วย
  • 2ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดทรงถวายสิ่งเหล่านี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับเงินและทองซึ่งริบจากชนชาติต่างๆ ที่ดาวิดพิชิตคือ
  • 2ซามูเอล 8:12 - เอโดม โมอับ อัมโมน ฟีลิสเตีย และอามาเลข ตลอดจนของเชลยที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์
  • 2ซามูเอล 8:13 - และหลังจากที่ดาวิดทรงประหารชาวเอโดม ที่หุบเขาเกลือไป 18,000 คน ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดัง
  • 2ซามูเอล 8:14 - ดาวิดทรงวางกำลังทหารไว้ในเอโดม และชาวเอโดมทั้งปวงก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ( 1พศด.18:14-17 )
  • 2ซามูเอล 8:15 - ดาวิดทรงปกครองทั่วแดนอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเพื่อปวงประชากรของพระองค์
  • 2ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นอาลักษณ์หลวง
  • 2ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรอาห์เป็นราชเลขา
  • 2ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาดูแลพวกเคเรธีและคนเปเลท และบรรดาโอรสของดาวิดเป็นราชมนตรี
  • 1ซามูเอล 17:1 - ครั้งนั้นชาวฟีลิสเตียรวมพลมาสู้รบและชุมนุมกันที่โสโคห์ในยูดาห์ พวกเขาตั้งค่ายพักที่เอเฟสดัมมิมซึ่งอยู่ระหว่างโสโคห์กับอาเซคาห์
  • 1ซามูเอล 17:2 - ซาอูลและชนอิสราเอลมารวมพลและตั้งค่ายพักอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ ตั้งแนวรบประจันหน้ากับชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:3 - ชาวฟีลิสเตียยึดเนินเขาด้านหนึ่ง อิสราเอลยึดเนินเขาอีกด้านหนึ่ง มีหุบเขาคั่นกลาง
  • 1ซามูเอล 17:4 - ยอดนักรบชื่อโกลิอัทจากเมืองกัทออกมาจากค่ายฟีลิสเตีย เขาสูง 6 ศอกกับ 1 ฝ่ามือ
  • 1ซามูเอล 17:5 - เขาสวมหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์และสวมเสื้อเกราะทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 57 กิโลกรัม
  • 1ซามูเอล 17:6 - ใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์ มีหอกทองสัมฤทธิ์คล้องอยู่ที่บ่า
  • 1ซามูเอล 17:7 - ด้ามหอกเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกทำด้วยเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัม มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:8 - โกลิอัทยืนร้องท้าทหารอิสราเอลว่า “พวกเจ้าจะมาตั้งแถวสู้รบกันทำไม? ข้าก็เป็นฟีลิสเตีย ส่วนพวกเจ้าก็เป็นบริวารของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกคนหนึ่งลงมาสู้กับข้า
  • 1ซามูเอล 17:9 - ถ้าคนของเจ้าฆ่าข้าได้ พวกข้าจะยอมแพ้พวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าเขาได้ พวกเจ้าต้องยอมแพ้เป็นทาสรับใช้พวกข้า”
  • 1ซามูเอล 17:10 - ชาวฟีลิสเตียคนนั้นพูดว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพอิสราเอล! ส่งคนมาสู้กับข้าสิ”
  • 1ซามูเอล 17:11 - เมื่อซาอูลและชนอิสราเอลทั้งหมดได้ยินเช่นนี้ ก็พากันหวาดผวาและท้อแท้ใจ
  • 1ซามูเอล 17:12 - ฝ่ายดาวิดเป็นบุตรเจสซีชาวถิ่นเอฟราธาห์จากเบธเลเฮมในเขตยูดาห์ เจสซีมีบุตรชายแปดคน เขาก็ชราและมีอายุมากแล้วในสมัยที่ซาอูลเป็นกษัตริย์
  • 1ซามูเอล 17:13 - บุตรชายสามคนแรกของเจสซีที่ติดตามซาอูลไปรบมีดังนี้คือ เอลีอับบุตรหัวปี อาบีนาดับบุตรคนที่สอง และชัมมาห์บุตรคนที่สาม
  • 1ซามูเอล 17:14 - ดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้อง พี่ชายสามคนแรกติดตามซาอูลไป
  • 1ซามูเอล 17:15 - ส่วนดาวิดไปๆ มาๆ ระหว่างซาอูลกับการเลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
  • 1ซามูเอล 17:16 - ชาวฟีลิสเตียคนนี้มายืนร้องท้าเป็นประจำทุกเช้าเย็นตลอดสี่สิบวัน
  • 1ซามูเอล 17:17 - ฝ่ายเจสซีพูดกับดาวิดบุตรชายว่า “จงรีบเอาข้าวคั่วประมาณ 22 ลิตร กับขนมปังสิบก้อนนี้ไปให้พี่ชายของเจ้าที่ค่าย
  • 1ซามูเอล 17:18 - เอาเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้ผู้บังคับกอง ของพี่ๆ ด้วย จงดูว่าพวกพี่เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วนำข่าว จากพวกเขากลับมาบอกเราด้วย
  • 1ซามูเอล 17:19 - พวกเขาอยู่กับซาอูลและกองทัพอิสราเอลที่หุบเขาเอลาห์ระหว่างการสู้รบกับคนฟีลิสเตีย”
  • 1ซามูเอล 17:20 - ดาวิดทิ้งฝูงแกะไว้กับคนเลี้ยงอีกคนหนึ่ง แล้วออกเดินทางตามคำสั่งของเจสซีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นพร้อมด้วยของฝาก เขามาถึงค่ายพอดีกับที่กองทัพอิสราเอลกำลังจะยกออกไปสนามรบ มีเสียงตะโกนเสียงโห่ร้องออกศึก
  • 1ซามูเอล 17:21 - กองพลอิสราเอลและฟีลิสเตียต่างก็มาตั้งขบวนประจันหน้ากัน
  • 1ซามูเอล 17:22 - ดาวิดทิ้งข้าวของไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัมภาระ แล้ววิ่งออกไปที่แนวรบและทักทายพวกพี่ๆ
  • 1ซามูเอล 17:23 - ขณะกำลังคุยกับพวกพี่ๆ โกลิอัทยอดนักรบชาวฟีลิสเตียจากเมืองกัทก้าวออกจากแถวมายืนร้องท้าเช่นเคย และดาวิดก็ได้ยิน
  • 1ซามูเอล 17:24 - ทันทีที่เห็นโกลิอัทคนอิสราเอลก็พากันวิ่งหนีด้วยความกลัวยิ่งนัก
  • 1ซามูเอล 17:25 - คนอิสราเอลพูดกันว่า “เจ้าเห็นคนนี้ไหม? เขาออกมาสบประมาทอิสราเอลอยู่เป็นประจำ กษัตริย์จะประทานทรัพย์สินมากมายให้แก่คนที่ฆ่าเขาได้ และจะยกพระธิดาให้เป็นภรรยา ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของบิดาของเขาจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วย”
  • 1ซามูเอล 17:26 - ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ว่า “ผู้ที่ฆ่าฟีลิสเตียคนนี้และกู้หน้าให้อิสราเอลจะได้รับบำเหน็จอะไรบ้าง? ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้เป็นใครกัน ถึงบังอาจมาร้องท้ากองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่?”
  • 1ซามูเอล 17:27 - พวกเขาก็บอกซ้ำสิ่งที่พูดไปแล้วว่า “คนที่ฆ่าเขาสำเร็จจะได้รับสิ่งต่างๆ ดังกล่าว”
  • 1ซามูเอล 17:28 - เมื่อเอลีอับพี่ชายคนโตของดาวิดได้ยินดาวิดพูดกับคนนั้นก็โกรธ และถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวในถิ่นกันดารไว้ให้ใครดูแล? ข้ารู้ว่าเจ้าชอบคุยโวและรู้จักใจชั่วช้าของเจ้า นึกอยากมาดูเขารบกันล่ะสิ”
  • 1ซามูเอล 17:29 - ดาวิดตอบว่า “ข้าทำอะไรผิดหรือ? ถามดูไม่ได้หรือ?”
  • 1ซามูเอล 17:30 - แล้วดาวิดเดินไปถามคนอื่นๆ อีกในเรื่องเดิม ก็ได้รับคำตอบอย่างเดียวกัน
  • 1ซามูเอล 17:31 - มีผู้ได้ยินคำพูดของดาวิดจึงไปทูลรายงานซาอูล พระองค์จึงให้คนไปตามตัวดาวิดมาเข้าเฝ้า
  • 1ซามูเอล 17:32 - ดาวิดทูลซาอูลว่า “อย่าให้ผู้ใดเสียขวัญเพราะชาวฟีลิสเตียคนนี้เลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปรบกับเขา”
  • 1ซามูเอล 17:33 - ซาอูลตรัสว่า “เจ้าออกไปสู้กับชาวฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นเพียงเด็ก ส่วนเขาเป็นนักรบมาตั้งแต่หนุ่ม”
  • 1ซามูเอล 17:34 - แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทดูแลแกะของบิดา เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาคาบแกะไปจากฝูง
  • 1ซามูเอล 17:35 - ข้าพระบาทจะไล่ตามฟาดฟันช่วยแกะนั้นออกมาจากปากของสิงโต หากมันหันมาเล่นงาน ข้าพระบาทก็จะกระชากขนของมัน ฟาดมัน และฆ่าเสีย
  • 1ซามูเอล 17:36 - ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าทั้งสิงโตและหมีมาแล้ว ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้จะเป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้น เพราะเขามาสบประมาทกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • 1ซามูเอล 17:37 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระบาทจากเขี้ยวเล็บของสิงโตและหมี จะช่วยข้าพระบาทจากมือชาวฟีลิสเตียผู้นี้” ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “ไปเถิด ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเจ้า”
  • 1ซามูเอล 17:38 - จากนั้นซาอูลก็ให้ดาวิดสวมเครื่องทรงของซาอูลเอง มีเสื้อเกราะและหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์
  • 1ซามูเอล 17:39 - ดาวิดสะพายดาบ ทับเสื้อเกราะ ลองเดินวนไปรอบๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับชุดแบบนี้มาก่อน ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทออกไปอย่างนี้ไม่ได้เพราะไม่เคยชิน” แล้วดาวิดก็ถอดชุดนั้นออก
  • 1ซามูเอล 17:40 - จากนั้นเขาหยิบไม้เท้าและไปเก็บหินเกลี้ยงห้าก้อนจากลำธารใส่ไว้ในย่ามของเขา ในมือถือสลิง เดินเข้าไปหาชาวฟีลิสเตียคนนั้น
  • 1ซามูเอล 17:41 - ขณะนั้นโกลิอัทเดินเข้ามาหาดาวิด มีคนแบกโล่เดินนำหน้า
  • 1ซามูเอล 17:42 - เมื่อเห็นดาวิดซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มรูปหล่อผิวพรรณดี ก็นึกดูหมิ่น
  • 1ซามูเอล 17:43 - และกล่าวว่า “เห็นข้าเป็นหมาหรือไง ถึงได้ถือไม้เท้าออกมาหา?” แล้วก็แช่งด่าดาวิดโดยอ้างนามเทพเจ้าต่างๆ ของตน
  • 1ซามูเอล 17:44 - โกลิอัทพูดว่า “มาสิ เดี๋ยวข้าจะแล่เนื้อเจ้าให้นกกาและสัตว์ป่ากิน!”
  • 1ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่
  • 1ซามูเอล 17:46 - วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน วันนี้เราจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียให้นกกาและสัตว์ป่ากิน แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล
  • 1ซามูเอล 17:47 - คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จะทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”
  • 1ซามูเอล 17:48 - ขณะที่โกลิอัทเข้ามาใกล้เพื่อต่อสู้ ดาวิดก็วิ่งเข้าไปประจันหน้า
  • 1ซามูเอล 17:49 - เอามือล้วงลงไปในย่ามหยิบก้อนหินออกมาคล้องเข้ากับสลิง แล้วเหวี่ยงก้อนหินอัดเข้าที่หน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินฝังจมเข้าไป โกลิอัทล้มคว่ำลงกับพื้น
  • 1ซามูเอล 17:50 - เป็นอันว่าดาวิดพิชิตชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหิน แม้ไม่มีดาบแต่ก็ล้มเขาได้และฆ่าเขาเสีย
  • 1ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งขึ้นไปยืนบนร่างของเขา ดึงดาบของโกลิอัทออกจากฝักและฆ่าเขา แล้วก็ตัดศีรษะออกมา เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นวีรบุรุษของตนตายเสียแล้ว ก็หันหลังวิ่งหนีไป
  • 1ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลและยูดาห์จึงโห่ร้องมีชัย แล้วรุกไล่ฟีลิสเตียไปไกลถึงทางเข้าเมืองกัท และประตูเมืองเอโครน ศพชาวฟีลิสเตียเกลื่อนกลาดตลอดเส้นทางชาอาราอิมที่จะไปยังเมืองกัทและเมืองเอโครน
  • 1ซามูเอล 17:53 - หลังจากนั้นอิสราเอลก็กลับมาปล้นค่ายของชาวฟีลิสเตีย
  • 1ซามูเอล 17:54 - ดาวิดนำศีรษะของโกลิอัทไปยังเยรูซาเล็ม และเก็บอาวุธของเขาไว้ในเต็นท์ของตน
  • 1ซามูเอล 17:55 - ขณะซาอูลทอดพระเนตรดาวิดออกไปสู้กับโกลิอัท พระองค์ตรัสถามแม่ทัพอับเนอร์ว่า “อับเนอร์ เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” อับเนอร์ทูลตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระบาทไม่ทราบฉันนั้น”
  • 1ซามูเอล 17:56 - ซาอูลตรัสว่า “ไปสืบมาสิว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร”
  • 1ซามูเอล 17:57 - ทันทีที่ดาวิดกลับจากสังหารโกลิอัท อับเนอร์นำตัวเขามาเข้าเฝ้าซาอูล ดาวิดยังหิ้วศีรษะของโกลิอัทอยู่
  • 1ซามูเอล 17:58 - ซาอูลตรัสถามว่า “พ่อหนุ่ม เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?” ดาวิดทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นบุตรของเจสซีแห่งเบธเลเฮม ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท”
  • อาโมส 1:6 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากกาซาทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขากวาดต้อนคนทั้งชุมชนไปเป็นเชลย และขายให้แก่เอโดม
  • อาโมส 1:7 - เราจะส่งไฟมายังกำแพงเมืองกาซา ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน
  • อาโมส 1:8 - เราจะทำลายกษัตริย์แห่ง อัชโดด และทำลายผู้ถือคทาในอัชเคโลน เราจะตวัดมือฟาดเอโครน จวบจนชาวฟีลิสเตียคนสุดท้ายตายไป” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนั้น
  • เศฟันยาห์ 2:4 - กาซาจะถูกทิ้งร้าง และอัชเคโลนจะถูกปล่อยให้ปรักหักพัง ยามเที่ยงวันอัชโดดจะถูกกวาดล้างจนว่างเปล่า และเอโครนถูกถอนราก
  • เศฟันยาห์ 2:5 - ชาวเคเรธีเอ๋ย วิบัติแก่เจ้าผู้อาศัยอยู่ริมทะเล คานาอันดินแดนแห่งชาวฟีลิสเตียเอ๋ย พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวโทษเจ้าว่า “เราจะทำลายเจ้า ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
  • เศฟันยาห์ 2:6 - ดินแดนริมทะเลซึ่งชาวเคเรธี อาศัยอยู่ จะเป็นที่สำหรับคนเลี้ยงแกะและเป็นที่สำหรับคอกแกะ
  • เศฟันยาห์ 2:7 - ดินแดนนั้นจะตกเป็นของชนหยิบมือที่เหลือของยูดาห์ ที่นั่นพวกเขาจะพบทุ่งหญ้า ยามเย็นเขาจะนอนลง ในบ้านเรือนของอัชเคโลน พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจะทรงดูแลเขา และให้เขาคืนสู่สภาพดีอีกครั้ง
  • โยเอล 3:4 - “นี่แน่ะไทระและไซดอนกับภูมิภาคทั้งปวงของฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าจะเอาเรื่องกับเราว่าอย่างไร? เจ้าจะตอบสนองสิ่งที่เราทำไปหรือ? หากเจ้าแก้แค้น เราก็จะให้กรรมที่เจ้าก่อไว้ตกอยู่แก่เจ้าเองอย่างฉับพลันทันที
  • โยเอล 3:5 - เพราะเจ้ายึดเอาเงินและทองคำกับสมบัติล้ำค่าของเราไปไว้ที่วิหารต่างๆ ของเจ้า
  • โยเอล 3:6 - เจ้าขายชนยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้แก่ชาวกรีกเพื่อจะได้เนรเทศพวกเขาไปไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน
  • โยเอล 3:7 - “ดูเถิด เราจะกระตุ้นพวกเขาออกมาจากที่ต่างๆ ซึ่งเจ้าขายพวกเขาไป และเราจะให้กรรมที่เจ้าก่อไว้ตกอยู่แก่เจ้าเอง
  • โยเอล 3:8 - เราจะขายบุตรชายบุตรสาวของเจ้าให้แก่ชาวยูดาห์ ซึ่งจะขายต่อให้ชาวเสบา ชนชาติซึ่งอยู่ไกลลิบ” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
  • โยเอล 3:9 - จงประกาศในหมู่ประชาชาติดังนี้ว่า เตรียมรบเถิด! จงปลุกใจเหล่านักรบ! ให้พลรบทั้งปวงเข้ามาใกล้และบุกทันที
  • โยเอล 3:10 - จงเอาผาลไถนามาตีเป็นดาบ และตีขอลิดให้เป็นทวน ให้คนอ่อนแอพูดว่า “ฉันเข้มแข็ง!”
  • โยเอล 3:11 - ประชาชาติทั้งปวงจากรอบทิศเอ๋ย มาเร็วเถิด มาชุมนุมกันที่นั่น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงส่งนักรบของพระองค์ลงมาเถิด!
  • โยเอล 3:12 - “จงปลุกใจประชาชาติทั้งหลาย ให้รุดหน้ามายังหุบเขาเยโฮชาฟัท เพราะที่นั่นเราจะนั่งลงตัดสิน ประชาชาติทั้งปวงรอบทิศ
  • โยเอล 3:13 - จงแกว่งเคียว เพราะข้าวสุกพร้อมให้เกี่ยวแล้ว มาเถิด มาย่ำองุ่น เพราะบ่อย่ำองุ่นเต็มแล้ว และบ่อเก็บมีเหล้าองุ่นเต็มล้น ความชั่วร้ายของพวกเขามากมายนัก!”
  • โยเอล 3:14 - ผู้คนมากันมืดฟ้ามัวดิน ในหุบเขาแห่งการพิพากษา! เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว ในหุบเขาแห่งการพิพากษา
  • โยเอล 3:15 - ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะมืดมิดไป และดวงดาวจะอับแสง
  • โยเอล 3:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปล่งพระสุรเสียงกึกก้องจากศิโยน ทรงเปล่งพระสุรเสียงจากเยรูซาเล็ม แผ่นดินและผืนฟ้าจะสั่นสะท้าน แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นที่ลี้ภัยสำหรับประชากรของพระองค์ เป็นที่มั่นสำหรับประชากรอิสราเอล
  • โยเอล 3:17 - “เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า พำนักอยู่ในศิโยนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เยรูซาเล็มจะบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ คนต่างชาติจะไม่มาย่ำยีมันอีก
  • โยเอล 3:18 - “ในวันนั้นจะมีน้ำองุ่นหยดจากภูเขา และมีน้ำนมไหลมาจากเนินเขา ลำห้วยทั้งปวงของยูดาห์จะมีน้ำนอง ธารน้ำพุจะไหลออกมาจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า ให้ความชุ่มชื่นแก่หุบเขาต้นกระถินเทศ
  • โยเอล 3:19 - แต่อียิปต์จะเริศร้าง เอโดมกลายเป็นถิ่นกันดาร เพราะความอำมหิตที่ทำไว้กับชาวยูดาห์ พวกเขาทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดในดินแดนนั้น
  • โยเอล 3:20 - ยูดาห์และเยรูซาเล็มจะมีผู้อยู่อาศัย ตลอดไปทุกชั่วอายุ
  • โยเอล 3:21 - ความผิดที่พวกเขาทำให้โลหิตตกซึ่งเราไม่ได้อภัยให้นั้น เราจะให้อภัย” องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่ในศิโยน!
  • อิสยาห์ 9:12 - ชาวอารัมจากตะวันออก และชาวฟีลิสเตียจากตะวันตก อ้าปากกว้างกลืนอิสราเอลเสีย ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่
  • 1ซามูเอล 21:1 - ดาวิดเดินทางไปพบปุโรหิตอาหิเมเลคที่เมืองโนบ อาหิเมเลคตัวสั่นเมื่อพบดาวิด เขาถามว่า “ทำไมท่านมาคนเดียว? ทำไมไม่มีใครมาด้วย?”
  • 1ซามูเอล 21:2 - ดาวิดตอบปุโรหิตอาหิเมเลคว่า “กษัตริย์รับสั่งให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติงานอย่างหนึ่ง ทรงกำชับข้าพเจ้าว่า ‘อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้’ ข้าพเจ้านัดกับพรรคพวกไว้แล้วว่าจะไปพบกันที่ไหน
  • 1ซามูเอล 21:3 - ว่าแต่ตอนนี้มีอะไรให้ข้าพเจ้ากินบ้างไหม? ขอขนมปังสักห้าก้อนหรืออะไรก็ได้ที่ท่านมี”
  • 1ซามูเอล 21:4 - ปุโรหิตตอบดาวิดว่า “เราไม่มีขนมปังธรรมดา มีแต่ขนมปังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเราคิดว่าพวกท่านจะกินได้ก็ต่อเมื่อคนของท่านไม่ได้หลับนอนกับหญิงใดตลอดช่วงนี้”
  • 1ซามูเอล 21:5 - ดาวิดตอบว่า “แน่นอน โดยปกติเมื่อ ออกปฏิบัติภารกิจก็จะกันพวกผู้หญิงให้ห่างอยู่แล้ว แม้ปฏิบัติหน้าที่ตามธรรมดาก็ยังรักษาตัวให้บริสุทธิ์ วันนี้ก็ยิ่งกว่านั้นอีก!”
  • 1ซามูเอล 21:6 - เนื่องจากไม่มีอาหารอื่นใดเลย ปุโรหิตจึงให้ขนมปังศักดิ์สิทธิ์แก่ดาวิดคือ ขนมปังเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งในวันนั้นเพิ่งจะนำขนมปังใหม่สดมาเปลี่ยน
  • 1ซามูเอล 21:7 - ขณะนั้นโดเอกชาวเอโดมหัวหน้าคนเลี้ยงสัตว์ของซาอูลอยู่ที่นั่นด้วย เพราะเขามีเหตุต้องอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 1ซามูเอล 21:8 - ดาวิดถามอาหิเมเลคว่า “มีหอกหรือดาบบ้างไหม? เนื่องจากพระราชกิจครั้งนี้เร่งด่วนมาก ข้าพเจ้ารีบร้อนจนไม่ได้เอาอาวุธติดมือมาเลย”
  • 1ซามูเอล 21:9 - ปุโรหิตตอบว่า “มีดาบของโกลิอัทชาวฟีลิสเตียซึ่งท่านฆ่าที่หุบเขาเอลาห์ห่ออยู่ในผ้าข้างหลังเอโฟด ถ้าท่านต้องการก็เอาไปได้เลย เพราะมีดาบเล่มนั้นอยู่เล่มเดียว” ดาวิดตอบว่า “ไม่มีดาบเล่มไหนเหมือนเล่มนั้นอีกแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าเถิด”
  • 1ซามูเอล 21:10 - ในวันนั้นดาวิดหนีจากซาอูลไปเฝ้ากษัตริย์อาคีชแห่งกัท
  • 1ซามูเอล 21:11 - แต่ข้าราชบริพารของอาคีชทูลว่า “นี่คือกษัตริย์ดาวิดของดินแดนนั้นไม่ใช่หรือ? คนนี้ไม่ใช่หรือที่ประชาชนร้องรำทำเพลงยกย่องว่า “‘ซาอูลฆ่าศัตรูนับพัน และดาวิดฆ่าศัตรูนับหมื่น’”
  • 1ซามูเอล 21:12 - ดาวิดจำถ้อยคำเหล่านี้ไว้ในใจ และหวาดกลัวกษัตริย์อาคีชแห่งกัทยิ่งนัก
  • 1ซามูเอล 21:13 - จึงแกล้งทำเป็นเสียสติต่อหน้าพวกเขา เอามือขีดข่วนประตู ปล่อยน้ำลายไหลยืดลงมาเลอะหนวดเครา
  • 1ซามูเอล 21:14 - อาคีชตรัสกับข้าราชบริพารว่า “ดูชายผู้นี้สิ! เขาเสียสติ! เหตุใดจึงนำเขามาพบเรา?
  • 1ซามูเอล 21:15 - ที่นี่ก็มีคนบ้ามากพอแล้ว ทำไมต้องเอาคนนี้เข้ามาในวังของเราด้วย?”
  • เยเรมีย์ 47:1 - พระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีมาถึงผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับชาวฟีลิสเตีย ก่อนที่ฟาโรห์จะบุกเมืองกาซา ความว่า
  • เยเรมีย์ 47:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงดูน้ำเอ่อล้นขึ้นในภาคเหนือ มันจะกลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยว หลากท่วมดินแดนและทุกสิ่งทุกอย่าง เมืองต่างๆ และผู้คนที่อาศัยอยู่ ประชาชนจะหวีดร้อง คนทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในดินแดนนั้นจะร่ำไห้
  • เยเรมีย์ 47:3 - เมื่อได้ยินเสียงควบม้า เสียงรถม้าศึกของข้าศึก และเสียงดังสนั่นของล้อรถ ผู้เป็นพ่อจะไม่หันมาช่วยลูกๆ ของตน มือของเขาอ่อนเปลี้ยไปหมด
  • เยเรมีย์ 47:4 - เพราะถึงเวลาแล้ว ที่จะทำลายล้างฟีลิสเตียทั้งหมด และกำจัดผู้รอดชีวิตทั้งปวง ซึ่งจะมาช่วยเมืองไทระกับไซดอน องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทำลายล้างชาวฟีลิสเตีย ชนหยิบมือที่เหลือจากชายฝั่งทะเลคัฟโทร์
  • เยเรมีย์ 47:5 - กาซาจะโกนศีรษะไว้ทุกข์ อัชเคโลนจะนิ่งเงียบ ชนหยิบมือที่เหลือแห่งที่ราบ เจ้าจะเชือดเนื้อเถือหนังตัวเองอีกนานเท่าไร?
  • เยเรมีย์ 47:6 - “เจ้าร้องว่า ‘ดาบขององค์พระผู้เป็นเจ้าเอ๋ย เมื่อไรหนอเจ้าจึงจะหยุดพัก? โปรดกลับเข้าไปในฝักเถิด นิ่งพักสงบเถิด’
  • เยเรมีย์ 47:7 - แต่ดาบนั้นจะสงบนิ่งได้อย่างไร ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชามัน ในเมื่อพระองค์ทรงสั่งมัน ให้มันฟาดฟันอัชเคโลนและชายฝั่งทะเล?”
  • ผู้วินิจฉัย 14:1 - แซมสันลงไปยังเมืองทิมนาห์ และเห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่ง
  • ผู้วินิจฉัย 14:2 - เมื่อเขากลับมาจึงบอกกับบิดามารดาว่า “ข้าพเจ้าเห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่งในทิมนาห์ ช่วยไปขอนางมาเป็นภรรยาของข้าพเจ้าด้วย”
  • ผู้วินิจฉัย 14:3 - บิดามารดาทักท้วงว่า “ไม่มีผู้หญิงในหมู่ญาติพี่น้องหรือคนชาติเดียวกับเราถูกใจเจ้าสักคนเลยหรือ? เจ้าจึงต้องไปหาภรรยาจากพวกชาวฟีลิสเตียซึ่งไม่ได้เข้าสุหนัต” แต่แซมสันพูดกับบิดาว่า “นางเป็นคนที่เหมาะกับข้าพเจ้า ช่วยไปขอนางมาให้ข้าพเจ้าเถิด”
  • ผู้วินิจฉัย 14:4 - (บิดามารดาของแซมสันไม่รู้ว่าการนี้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงหาโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับชาวฟีลิสเตียซึ่งขณะนั้นปกครองอิสราเอลอยู่)
  • ผู้วินิจฉัย 14:5 - แซมสันกับบิดามารดาลงไปที่ทิมนาห์ ขณะที่พวกเขามาถึงสวนองุ่นแห่งทิมนาห์ ทันใดนั้นมีสิงโตหนุ่มคำรามกระโจนเข้าใส่แซมสัน
  • ผู้วินิจฉัย 14:6 - พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาสถิตกับแซมสัน และประทานกำลังมหาศาลแก่เขา จนเขาสามารถฉีกสิงโตออกจากกันด้วยมือเปล่าราวกับจับลูกแพะฉีกเป็นสองซีก แต่แซมสันไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้บิดามารดาทราบ
  • ผู้วินิจฉัย 14:7 - เมื่อมาถึงทิมนาห์ เขาได้พูดคุยกับสาวคนนั้นและเขาชอบนาง
  • ผู้วินิจฉัย 14:8 - ต่อมาเมื่อแซมสันกลับไปอีกเพื่อแต่งงานกับนาง เขาแวะไปดูซากสิงโต ก็พบรวงผึ้งอยู่ในซากนั้นและมีน้ำผึ้งอยู่ด้วย
  • ผู้วินิจฉัย 14:9 - เขาจึงนำน้ำผึ้งติดตัวไปด้วย เดินไปกินไป เมื่อเขาไปพบบิดามารดา เขาก็เอาน้ำผึ้งให้บิดามารดากินด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าน้ำผึ้งนั้นมาจากซากสิงโต
  • ผู้วินิจฉัย 14:10 - ขณะที่บิดาไปดูตัวผู้หญิงคนนั้น แซมสันจัดงานเลี้ยงขึ้นที่นั่นตามธรรมเนียมเจ้าบ่าว
  • ผู้วินิจฉัย 14:11 - เมื่อผู้คนเห็นเขา พวกเขาก็เลือกชายหนุ่มสามสิบคนให้มาเป็นเพื่อนแซมสัน
  • ผู้วินิจฉัย 14:12 - แซมสันกล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “ขอให้เราทายปริศนาพวกเจ้าสักข้อหนึ่งเถิด ถ้าพวกเจ้าตอบได้ภายในงานเลี้ยงเจ็ดวันนี้ เราก็จะให้เสื้อผ้าลินินพร้อมเครื่องนุ่งห่มสามสิบชุด
  • ผู้วินิจฉัย 14:13 - แต่ถ้าตอบไม่ได้ พวกเจ้าก็ต้องเป็นฝ่ายยกเสื้อผ้าลินินพร้อมเครื่องนุ่งห่มสามสิบชุดให้เรา” พวกเขาจึงว่า “เอาเลย ทายมาสิ”
  • ผู้วินิจฉัย 14:14 - แซมสันจึงกล่าวว่า “อาหารออกมาจากผู้กิน ความหวานออกมาจากผู้มีกำลัง” ตลอดสามวันคนเหล่านั้นก็ยังแก้ปริศนาไม่ได้
  • ผู้วินิจฉัย 14:15 - ในวันที่สี่ พวกเขาจึงมาคาดคั้นภรรยาของแซมสันว่า “ไปตะล่อมเอาคำตอบจากสามีของเจ้ามาซิ ไม่อย่างนั้นเราจะเผาบ้านพ่อของเจ้าพร้อมกับตัวเจ้า มีอย่างหรือเชิญเรามาร่วมงานเลี้ยงนี้เพื่อจะให้เราหมดตัว?”
  • ผู้วินิจฉัย 14:16 - ภรรยาของแซมสันจึงร้องไห้ฟูมฟายมาหาแซมสันและกล่าวว่า “ท่านเกลียดฉัน! ท่านไม่ได้รักฉันจริงถึงได้ตั้งปริศนาทายคนของฉัน แล้วไม่บอกคำตอบแก่ฉัน” แซมสันตอบว่า “ขนาดพ่อกับแม่ของข้า ข้ายังไม่บอกเลย เรื่องอะไรข้าต้องบอกเจ้า”
  • 2พงศาวดาร 28:18 - ขณะเดียวกันชาวฟีลิสเตียก็ปล้นเมืองต่างๆ แถบเชิงเขากับในเนเกบแห่งยูดาห์และยึดครองเมืองเบธเชเมช อัยยาโลน เกเดโรท โสโค ทิมนาห์ และกิมโซกับหมู่บ้านโดยรอบของเมืองเหล่านี้
  • เยเรมีย์ 25:20 - ตลอดจนคนต่างด้าวทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น รวมทั้งกษัตริย์ทั้งปวงแห่งดินแดนอูสและแห่งฟีลิสเตีย (ผู้ครองอัชเคโลน กาซา เอโครน และประชาชนซึ่งเหลืออยู่ที่อัชโดด)
  • อิสยาห์ 14:29 - ชาวฟีลิสเตียทั้งปวงเอ๋ย อย่ากระหยิ่มยิ้มย่อง ว่าไม้เรียวที่ฟาดเจ้านั้นหักแล้ว จากรากเหง้าของงูตัวนั้นจะเกิดงูพิษ เป็นงูเห่าพิษร้ายซึ่งแว้งกัด
  • อิสยาห์ 14:30 - ผู้ยากไร้ที่สุดจะพบทุ่งหญ้า และคนขัดสนจะเอนกายลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะทำลายล้างรากเหง้าของเจ้าด้วยการกันดารอาหาร ซึ่งจะผลาญชีวิตพวกเจ้าที่เหลือรอด
  • อิสยาห์ 14:31 - ประตูเมืองเอ๋ย จงร้องไห้เถิด! นครเอ๋ย จงคร่ำครวญเถิด! ชาวฟีลิสเตียทั้งปวง จงกลัวจนหัวหดไป! ควันโขมงขึ้นจากทิศเหนือ และแถวต่างๆ ที่ดาหน้าเข้ามาไม่มีล้าหลังสักคนเดียว
  • เอเสเคียล 25:12 - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากเอโดมแก้แค้นพงศ์พันธุ์ยูดาห์อย่างโหดเหี้ยม และผิดมากที่ทำเช่นนั้น
  • เอเสเคียล 25:6 - เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าปรบมือกระทืบเท้า และกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยใจคิดร้ายต่อดินแดนอิสราเอล
圣经
资源
计划
奉献