逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ตรัสว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราจะส่งเจ้าไปยังชนชาติอิสราเอล ไปยังชนชาติที่ชอบกบฏซึ่งได้ทรยศเรา เขากับบรรพบุรุษกบฏต่อเราจนถึงทุกวันนี้
- 新标点和合本 - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我,直到今日。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆我的国家,以色列人那里去,他们是悖逆我的。他们和他们的祖先违背我,直到今日。
- 和合本2010(神版-简体) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆我的国家,以色列人那里去,他们是悖逆我的。他们和他们的祖先违背我,直到今日。
- 当代译本 - “人子啊,我派你去那背叛我的国民以色列人那里。他们和他们的祖先至今仍背叛我。
- 圣经新译本 - 他对我说:“人子啊!我差派你到以色列人那里去,就是到那背叛我的叛逆国民那里去!他们和他们的列祖都得罪了我,直到今日。
- 现代标点和合本 - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我直到今日。
- 和合本(拼音版) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我,直到今日。
- New International Version - He said: “Son of man, I am sending you to the Israelites, to a rebellious nation that has rebelled against me; they and their ancestors have been in revolt against me to this very day.
- New International Reader's Version - He said, “Son of man, I am sending you to the people of Israel. That nation has refused to obey me. They have turned against me. They and their people of long ago have been against me to this day.
- English Standard Version - And he said to me, “Son of man, I send you to the people of Israel, to nations of rebels, who have rebelled against me. They and their fathers have transgressed against me to this very day.
- New Living Translation - “Son of man,” he said, “I am sending you to the nation of Israel, a rebellious nation that has rebelled against me. They and their ancestors have been rebelling against me to this very day.
- The Message - He said, “Son of man, I’m sending you to the family of Israel, a rebellious nation if there ever was one. They and their ancestors have fomented rebellion right up to the present. They’re a hard case, these people to whom I’m sending you—hardened in their sin. Tell them, ‘This is the Message of God, the Master.’ They are a defiant bunch. Whether or not they listen, at least they’ll know that a prophet’s been here. But don’t be afraid of them, son of man, and don’t be afraid of anything they say. Don’t be afraid when living among them is like stepping on thorns or finding scorpions in your bed. Don’t be afraid of their mean words or their hard looks. They’re a bunch of rebels. Your job is to speak to them. Whether they listen is not your concern. They’re hardened rebels.
- Christian Standard Bible - He said to me, “Son of man, I am sending you to the Israelites, to the rebellious pagans who have rebelled against me. The Israelites and their ancestors have transgressed against me to this day.
- New American Standard Bible - Then He said to me, “Son of man, I am sending you to the sons of Israel, to a rebellious people who have rebelled against Me; they and their fathers have revolted against Me to this very day.
- New King James Version - And He said to me: “Son of man, I am sending you to the children of Israel, to a rebellious nation that has rebelled against Me; they and their fathers have transgressed against Me to this very day.
- Amplified Bible - And He said to me, “I am sending you, son of man, to the children of Israel, to a rebellious people [in both the north and the south] that have rebelled against Me; they and their fathers have sinned and revolted against Me to this very day.
- American Standard Version - And he said unto me, Son of man, I send thee to the children of Israel, to nations that are rebellious, which have rebelled against me: they and their fathers have transgressed against me even unto this very day.
- King James Version - And he said unto me, Son of man, I send thee to the children of Israel, to a rebellious nation that hath rebelled against me: they and their fathers have transgressed against me, even unto this very day.
- New English Translation - He said to me, “Son of man, I am sending you to the house of Israel, to rebellious nations who have rebelled against me; both they and their fathers have revolted against me to this very day.
- World English Bible - He said to me, “Son of man, I send you to the children of Israel, to a nation of rebels who have rebelled against me. They and their fathers have transgressed against me even to this very day.
- 新標點和合本 - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆的國民以色列人那裏去。他們是悖逆我的,他們和他們的列祖違背我,直到今日。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆我的國家,以色列人那裏去,他們是悖逆我的。他們和他們的祖先違背我,直到今日。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆我的國家,以色列人那裏去,他們是悖逆我的。他們和他們的祖先違背我,直到今日。
- 當代譯本 - 「人子啊,我派你去那背叛我的國民以色列人那裡。他們和他們的祖先至今仍背叛我。
- 聖經新譯本 - 他對我說:“人子啊!我差派你到以色列人那裡去,就是到那背叛我的叛逆國民那裡去!他們和他們的列祖都得罪了我,直到今日。
- 呂振中譯本 - 他對我說:『人子啊,我差遣你去找背叛之國 以色列 人,就是背叛我的:他們和他們的列祖都悖逆了我、直到今天這日子。
- 現代標點和合本 - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆的國民以色列人那裡去。他們是悖逆我的,他們和他們的列祖違背我直到今日。
- 文理和合譯本 - 人子歟、我遣爾詣以色列人、彼乃悖逆之邦、悖逆乎我、彼與列祖、獲罪於我、迄至今日、
- 文理委辦譯本 - 曰、人子、我遣汝至以色列族、彼所行忤逆、自列祖迄今、干犯罪戾、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 諭我曰、人子、我遣爾就 以色列 人、即悖逆之族、悖逆我者、彼與其列祖獲罪於我、迄於今日、
- Nueva Versión Internacional - Me dijo: «Hijo de hombre, te voy a enviar a los israelitas. Es una nación rebelde que se ha sublevado contra mí. Ellos y sus antepasados se han rebelado contra mí hasta el día de hoy.
- 현대인의 성경 - 그는 나에게 이렇게 말씀하셨다. “사람의 아들아, 내가 너를 이스라엘 백성, 곧 나를 배반하는 민족에게 보낸다. 그들은 그 조상들처럼 범죄하여 오늘날까지도 나를 거역하고 있다.
- Новый Русский Перевод - Он сказал: – Сын человеческий, Я посылаю тебя к израильтянам, мятежному народу, который восстал против Меня; они сами и их предки были мятежниками против Меня до этого самого дня.
- Восточный перевод - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исраила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исраила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исроила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- La Bible du Semeur 2015 - Il me dit : Fils d’homme, je t’envoie vers les Israélites, vers cette foule de rebelles qui se sont révoltés contre moi. Jusqu’à ce jour, eux et leurs ancêtres se sont soulevés contre moi.
- リビングバイブル - 「人の子よ、あなたをイスラエルの国、すなわち、わたしに反逆している国に遣わす。彼らも、彼らの先祖も、この時までわたしに罪を犯し続けてきた。
- Nova Versão Internacional - Ele disse: “Filho do homem, vou enviá-lo aos israelitas, nação rebelde que se revoltou contra mim; até hoje eles e os seus antepassados têm se revoltado contra mim.
- Hoffnung für alle - »Du Mensch, ich sende dich zu den Israeliten, diesem widerspenstigen Volk, das sich immer wieder gegen mich auflehnt. Schon ihre Vorfahren haben sich von mir abgewandt, und daran hat sich bis heute nichts geändert.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa phán: “Hỡi con người, Ta sai con đến với dân tộc Ít-ra-ên, một dân tộc phản loạn đã phản bội chống lại Ta. Chúng và tổ phụ của chúng đã phạm tội với Ta cho đến ngày nay.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์กล่าวดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราส่งเจ้าไปยังชาวอิสราเอล ยังบรรดาประชาชาติที่ขัดขืนซึ่งได้ขัดขืนต่อคำบัญชาของเรา ทั้งพวกเขาและบรรพบุรุษของเขาได้กระทำบาปต่อเรามาจนถึงทุกวันนี้
交叉引用
- เนหะมีย์ 9:26 - “แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังและกบฏต่อพระองค์ ทอดทิ้งบทบัญญัติ สังหารบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ซึ่งเตือนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ พวกเขาหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- ลูกา 24:47 - และให้ประกาศการกลับใจใหม่และการอภัยบาปในพระนามของพระองค์แก่มวลประชาชาติเริ่มตั้งแต่ที่เยรูซาเล็ม
- ลูกา 24:48 - ท่านทั้งหลายคือพยานของสิ่งเหล่านี้
- อิสยาห์ 6:8 - แล้วข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะส่งผู้ใดไป? และใครจะไปเพื่อเรา?” ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงส่งข้าพระองค์ไปเถิด!”
- อิสยาห์ 6:9 - พระองค์ตรัสว่า “จงไปบอกชนชาตินี้ว่า “‘จงฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่มีวันเข้าใจ ดูแล้วดูเล่าแต่จะไม่มีวันเห็น’
- อิสยาห์ 6:10 - จงทำให้จิตใจของชนชาตินี้ดื้อด้านไป ทำให้หูของพวกเขาตึง และปิดตาของพวกเขาเสีย มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู เข้าใจด้วยจิตใจ และหันกลับมาและได้รับการรักษาให้หาย”
- สดุดี 106:28 - พวกเขาเข้าเทียมแอกกับพระบาอัลที่เปโอร์ และรับประทานเครื่องเซ่นสังเวยแก่เหล่าเทพเจ้าอันไร้ชีวิต
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบเดือนที่ห้าของปีที่เจ็ดผู้อาวุโสของอิสราเอลบางคนมาร้องขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและมานั่งอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า
- เอเสเคียล 20:2 - แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้ามาถามเราหรือ? เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามอะไรเราฉันนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’
- เอเสเคียล 20:4 - “เจ้าจะพิพากษาพวกเขาหรือ? เจ้าจะพิพากษาพวกเขาหรือ บุตรมนุษย์เอ๋ย? ถ้าเช่นนั้น จงกล่าวโทษเรื่องความประพฤติอันน่าชิงชังของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:5 - จงบอกพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันที่เราเลือกอิสราเอล เราชูมือขึ้นกล่าวปฏิญาณแก่ลูกหลานของพงศ์พันธุ์ของยาโคบและแสดงตัวแก่พวกเขาในอียิปต์ เราชูมือขึ้นกล่าวกับพวกเขาว่า “เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:6 - ในวันนั้นเราปฏิญาณต่อพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากอียิปต์ไปสู่ดินแดนที่เราสรรหาให้พวกเขา เป็นดินแดนที่อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นดินแดนอันงดงามที่สุด
- เอเสเคียล 20:7 - และเรากล่าวแก่พวกเขาว่า “เจ้าทุกคน จงกำจัดเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ที่เจ้าหมายพึ่งและอย่าปล่อยตัวให้เป็นมลทินด้วยบรรดารูปเคารพของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”
- เอเสเคียล 20:8 - “ ‘แต่พวกเขาก็กบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา เขาไม่ได้กำจัดเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ที่ตนหมายพึ่ง ทั้งไม่ได้ละทิ้งรูปเคารพของอียิปต์ ฉะนั้นเราจึงได้ลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะอันรุนแรงลงเหนือพวกเขาในอียิปต์
- เอเสเคียล 20:9 - แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราทำสิ่งที่จะป้องกันไม่ให้นามของเราเป็นที่ลบหลู่ในสายตาของชนชาติทั้งหลายที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วย และที่ได้เห็นเราแสดงตัวแก่อิสราเอลโดยการนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์
- เอเสเคียล 20:10 - ฉะนั้นเราจึงนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ พาเข้าสู่ถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:11 - เรามอบกฎหมายของเราแก่เขา และให้พวกเขาเรียนรู้บทบัญญัติของเรา ซึ่งผู้ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัติเหล่านั้น
- เอเสเคียล 20:12 - และเราได้มอบวันสะบาโตแก่พวกเขา เป็นหมายสำคัญระหว่างเราทั้งสองฝ่าย เพื่อพวกเขาจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
- เอเสเคียล 20:13 - “ ‘ถึงอย่างนั้นชนชาติอิสราเอลก็กบฏต่อเราในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา แต่ละคนทิ้งบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัตินั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมองที่สุด ฉะนั้นเราจึงลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะลงเหนือพวกเขา และทำลายล้างพวกเขาในถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา
- เอเสเคียล 20:15 - และเราชูมือปฏิญาณในถิ่นกันดารว่าจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนซึ่งเรามอบให้ ดินแดนอันงดงามที่สุด อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง
- เอเสเคียล 20:16 - เนื่องจากพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เพราะจิตใจของเขาฝักใฝ่ในรูปเคารพ
- เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้นเราก็เหลียวแลพวกเขาด้วยความสงสาร ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา หรือให้พวกเขาถึงจุดจบในถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:18 - เรากล่าวแก่ลูกหลานของพวกเขาในถิ่นกันดารว่า “อย่าประพฤติตามกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษของเจ้า หรือทำตามบทบัญญัติของพวกเขา หรือทำตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:19 - เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และรักษาบทบัญญัติของเราอย่างถี่ถ้วน
- เอเสเคียล 20:20 - จงรักษาสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับเจ้า เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”
- เอเสเคียล 20:21 - “ ‘แต่ลูกหลานนั้นก็กบฏต่อเรา พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา ไม่ได้ใส่ใจรักษาบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ปฏิบัติตามจะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยบทบัญญัติเหล่านั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เราจึงลั่นวาจาไว้ว่าเราจะเทโทสะอันรุนแรงลงบนพวกเขาและระบายความโกรธต่อพวกเขาในถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:22 - แต่เราก็ยั้งมือไว้เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา
- เอเสเคียล 20:23 - และเราชูมือปฏิญาณต่อพวกเขาในถิ่นกันดารว่า เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปยังชนชาติและประเทศต่างๆ
- เอเสเคียล 20:24 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังบทบัญญัติของเรา แต่ได้ละทิ้งกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง ทั้งยังมีตากระสันหารูปเคารพทั้งหลายของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:25 - เราทิ้งพวกเขาไว้กับกฎเกณฑ์ที่ไม่ดีและกับบทบัญญัติซึ่งไม่ช่วยให้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้
- เอเสเคียล 20:26 - เราปล่อยให้พวกเขาเป็นมลทินโดยการถวายลูกหัวปีแก่รูปเคารพ เพื่อเราจะทำให้พวกเขาสยดสยอง พวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’
- เอเสเคียล 20:27 - “ฉะนั้น บุตรมนุษย์เอ๋ย จงบอกประชากรอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในเรื่องนี้บรรพบุรุษของพวกเจ้าก็ยังได้หมิ่นประมาทเราโดยการละทิ้งเรา
- เอเสเคียล 20:28 - เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนที่เราปฏิญาณไว้ว่าจะมอบให้พวกเขา และพวกเขาเห็นภูเขาสูงหรือต้นไม้ใบดก พวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาต่างๆ ถวายเครื่องหอมและเทเครื่องดื่มบูชา พวกเขาถวายเครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ ยั่วโทสะเรา
- เอเสเคียล 20:29 - เราจึงกล่าวแก่พวกเขาดังนี้ว่า สถานบูชาบนที่สูงที่พวกเจ้าไปนั้นคืออะไรกัน?’ ” (เขาจึงเรียกกันว่าบามาห์ ตราบจนทุกวันนี้)
- เอเสเคียล 20:30 - “ฉะนั้นจงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้าจะทำตัวเป็นมลทินแบบเดียวกับบรรพบุรุษ และกระสันหาเหล่าเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ของพวกเขาหรือ?
- เอเสเคียล 20:31 - เมื่อเจ้าเซ่นสังเวยโดยให้ลูกชายของเจ้าเป็นเครื่องบูชาในกองไฟ เจ้าก็ยังคงปล่อยตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพตราบจนทุกวันนี้ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราควรยอมให้เจ้ามาถามเราหรือ? พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามเราฉันนั้น
- เอเสเคียล 20:32 - “ ‘เจ้ากล่าวว่า “เราอยากเป็นเหมือนประชาชาติ เหมือนชนชาติต่างๆ ในโลกที่ปรนนิบัติไม้และหิน” แต่สิ่งที่เจ้าคิดหมายไว้ในใจจะไม่มีวันเป็นไปได้
- เอเสเคียล 20:33 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะปกครองเจ้าด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่เหยียดออก และด้วยโทสะที่ระบายลงมาฉันนั้น
- เอเสเคียล 20:34 - เราจะนำเจ้ามาจากชาติต่างๆ และรวบรวมเจ้าออกมาจากนานาประเทศที่เจ้าถูกทำให้กระจัดกระจายไปด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่เหยียดออก และด้วยโทสะที่ระบายลงมา
- เอเสเคียล 20:35 - เราจะนำเจ้าเข้าสู่ถิ่นกันดารของชนชาติต่างๆ และเราจะพิพากษาลงโทษเจ้าซึ่งๆ หน้าที่นั่น
- เอเสเคียล 20:36 - เราพิพากษาบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นกันดารของอียิปต์อย่างไร เราจะพิพากษาเจ้าอย่างนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:37 - เราจะนับเจ้าขณะเจ้าผ่านไปใต้คทาของเรา และจะนำเจ้าเข้าสู่ข้อผูกมัดแห่งพันธสัญญา
- เอเสเคียล 20:38 - เราจะชำระและแยกเจ้าออกมาจากบรรดาผู้ที่กบฏและทรยศเรา แม้ว่าเราจะนำคนเหล่านั้นออกมาจากดินแดนที่เขาอาศัยอยู่ แต่เขาจะไม่ได้เข้าในแผ่นดินอิสราเอล เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
- เอเสเคียล 20:39 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ฝ่ายเจ้าจงไปปรนนิบัติรูปเคารพต่างๆ ของเจ้าเถิด เจ้าทุกคนนี่แหละ! แต่ภายหลังเจ้าจะฟังเราอย่างแน่นอน และไม่ลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเราด้วยของถวายและรูปเคารพทั้งหลายของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 20:40 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดจะปรนนิบัติเราบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา บนภูเขาสูงแห่งอิสราเอล เราจะยอมรับพวกเขาที่นั่น เราประสงค์เครื่องบูชาและของถวายที่คัดมาอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ทุกอย่างของเจ้า
- เอเสเคียล 20:41 - เราจะรับเจ้าไว้เป็นเครื่องหอมเมื่อเรานำเจ้าออกมาจากประชาชาติต่างๆ และรวบรวมเจ้าออกมาจากนานาประเทศที่เราทำให้เจ้ากระจัดกระจายออกไปนั้น เราจะแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของเราในหมู่พวกเจ้าต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย
- เอเสเคียล 20:42 - เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเรานำเจ้าเข้าสู่ดินแดนอิสราเอล คือดินแดนที่เราได้ชูมือขึ้นปฏิญาณไว้ว่าจะยกให้แก่บรรพบุรุษของเจ้า
- เอเสเคียล 20:43 - เจ้าจะหวนระลึกถึงความประพฤติและการกระทำทุกอย่างที่เจ้าทำให้ตัวเองเป็นมลทินที่นั่น และเจ้าจะเกลียดตัวเองเพราะความชั่วร้ายทั้งปวงที่เจ้าได้ทำลงไป
- เอเสเคียล 20:44 - วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเราจัดการกับเจ้าโดยเห็นแก่นามของเรา ไม่ใช่ตามวิถีชั่วร้ายและความประพฤติอันเสื่อมทรามของเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’ ”
- เอเสเคียล 20:45 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 20:46 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปยังทิศใต้ กล่าวตำหนิเมืองทางใต้และพยากรณ์กล่าวโทษป่าไม้ของแดนใต้
- เอเสเคียล 20:47 - จงกล่าวแก่ป่าไม้แดนใต้ว่า ‘จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรากำลังจะจุดไฟเผาเจ้า ซึ่งจะเผาผลาญต้นไม้ทุกต้นของเจ้า ทั้งที่เขียวสดและเหี่ยวแห้ง เปลวไฟลุกจ้าจะไม่ดับ และทุกใบหน้าจากทิศใต้ไปถึงทิศเหนือจะถูกไฟนั้นแผดเผา
- เอเสเคียล 20:48 - ทุกๆ คนจะเห็นว่า เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้จุดไฟนั้น มันจะไม่ดับลง’ ”
- เอเสเคียล 20:49 - แล้วข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต! พวกเขากำลังกล่าวเกี่ยวกับข้าพเจ้าว่า ‘เขาเพียงแต่กำลังกล่าวคำอุปมาไม่ใช่หรือ?’ ”
- เยเรมีย์ 44:21 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงจดจำและคิดถึงเครื่องหอมต่างๆ ที่ท่านกับบรรพบุรุษ ตลอดจนกษัตริย์และข้าราชการกับประชาชนถวายในเมืองต่างๆ ของยูดาห์และตามถนนหนทางในเยรูซาเล็มหรือ?
- 2พงศาวดาร 36:15 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขาได้ส่งทูตของพระองค์มาเตือนพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ทรงสงสารประชากรและที่ประทับของพระองค์
- 2พงศาวดาร 36:16 - แต่เหล่าประชากรก็เยาะเย้ยบรรดาทูตของพระเจ้า ลบหลู่พระดำรัสของพระองค์ และหมิ่นประมาทผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย จนพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อประชากรของพระองค์จนไม่อาจระงับยับยั้งได้อีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:1 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 16:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงประจันหน้ากับเยรูซาเล็มเพราะเรื่องการกระทำอันน่าชิงชังของนาง
- เอเสเคียล 16:3 - และจงกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสแก่เยรูซาเล็มดังนี้ว่า บรรพบุรุษและชาติกำเนิดของเจ้าอยู่ในดินแดนคานาอัน บิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์และมารดาเป็นชาวฮิตไทต์
- เอเสเคียล 16:4 - วันที่เจ้าเกิดมา ไม่มีใครตัดสายสะดือให้ ไม่มีใครอาบน้ำให้สะอาด ไม่มีใครเอาเกลือถูตัวหรือเอาผ้าอ้อมพันให้
- เอเสเคียล 16:5 - ไม่มีใครเหลียวแลสงสารเจ้า หรือเมตตาพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้า เจ้ากลับถูกทิ้งไว้กลางทุ่ง เพราะวันที่เจ้าเกิดมา เจ้าก็เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์
- เอเสเคียล 16:6 - “ ‘แล้วเราผ่านไปเห็นเจ้าดิ้นไปมาเนื้อตัวโชกเลือด เราก็พูดกับเจ้าซึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ว่า “จงมีชีวิตอยู่!”
- เอเสเคียล 16:7 - เราจะทำให้เจ้าเจริญเติบโตเหมือนต้นไม้กลางทุ่ง เจ้าเติบใหญ่จนกลายเป็นสาว ทรวงอกเต่งตึงขึ้นและผมก็ยาว แต่เจ้าก็ยังล่อนจ้อนและเปลือยอยู่
- เอเสเคียล 16:8 - “ ‘ต่อมาเมื่อเราผ่านไปและมองดูเจ้า ก็เห็นว่าเจ้าโตพอที่จะมีความรักแล้ว เราจึงคลี่มุมชายเสื้อของเราคลุมกายเจ้า และปกปิดความเปลือยเปล่าของเจ้าไว้ เราให้คำปฏิญาณและได้ทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:9 - “ ‘เราได้อาบน้ำให้เจ้า ชำระล้างเลือดจากตัวเจ้าและเอาน้ำมันชโลมให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:10 - เราเอาชุดปักและรองเท้าหนังสวมให้เจ้า ให้เจ้าแต่งกายด้วยผ้าลินินเนื้อดี คลุมกายเจ้าด้วยอาภรณ์ราคาแพง
- เอเสเคียล 16:11 - เราตกแต่งเจ้าด้วยเพชรนิลจินดา สวมกำไลมือและสร้อยคอให้
- เอเสเคียล 16:12 - ใส่ห่วงจมูก ตุ้มหู และสวมมงกุฎงามให้
- เอเสเคียล 16:13 - เจ้าจึงงดงามด้วยทองคำและเงิน เสื้อผ้าอาภรณ์ของเจ้าทำด้วยผ้าลินินเนื้อดี ผ้าราคาแพง และผ้าปัก อาหารของเจ้าคือแป้งละเอียด น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอก เจ้ากลายเป็นคนสวยงามมากและรุ่งโรจน์ขึ้นเป็นราชินี
- เอเสเคียล 16:14 - และชื่อเสียงของเจ้าก็เลื่องลือไปในหมู่ประชาชาติเนื่องด้วยความสวยงามของเจ้า เพราะความโอ่อ่าตระการที่เรามอบให้นั้นทำให้เจ้างามเพียบพร้อม พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:15 - “ ‘แต่เจ้าวางใจในความงามของตัวเอง และใช้ชื่อเสียงของเจ้าทำตัวเป็นหญิงโสเภณี เจ้าโปรยเสน่ห์ให้ทุกคนที่ผ่านไปมาและทอดกายให้เขา
- เอเสเคียล 16:16 - เจ้าเอาอาภรณ์บางส่วนของเจ้าไปทำให้สถานบูชาบนที่สูงมีสีสันฉูดฉาด ที่ซึ่งเจ้าใช้ขายเนื้อขายตัว สิ่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้นและไม่น่าเป็นไปได้
- เอเสเคียล 16:17 - เจ้ายังเอาเพชรนิลจินดาชั้นเลิศซึ่งเรามอบให้ และเครื่องประดับเงินและทองคำของเราไปสร้างรูปเคารพเพศชายสำหรับตน และทำการแพศยากับรูปเคารพเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:18 - และเจ้านำผ้าปักของเจ้าไปสวมให้รูปเคารพ เอาน้ำมันกับเครื่องหอมของเราไปบูชาต่อหน้ามัน
- เอเสเคียล 16:19 - ทั้งอาหารที่เราให้เจ้าคือแป้งละเอียด น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง เจ้าก็เอาไปถวายเป็นเครื่องหอมบูชาต่อหน้าพระเหล่านั้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:20 - “ ‘และเจ้าถึงกับจับลูกชายลูกสาวที่เจ้าคลอดออกมาเพื่อเราไปเซ่นสังเวยเป็นอาหารแก่รูปเคารพต่างๆ การแพศยานอกใจของเจ้ายังไม่พออีกหรือ?
- เอเสเคียล 16:21 - เจ้าถึงต้องเข่นฆ่าลูกๆ ของเรา และเผาพวกเขา เพื่อบูชายัญแก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:22 - ตลอดการกระทำอันน่าชิงชังและการแพศยานอกใจของเจ้า เจ้าไม่ได้ระลึกถึงวัยเยาว์ของเจ้า เมื่อเจ้าเปลือยเปล่าตัวล่อนจ้อนและดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในกองเลือดเลย
- เอเสเคียล 16:23 - “ ‘วิบัติ วิบัติแก่เจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น นอกเหนือจากความชั่วร้ายทั้งหมดของเจ้าแล้ว
- เอเสเคียล 16:24 - เจ้ายังได้สร้างเนินสูงให้ตัวเองและสร้างสถานบูชาที่สูงตระหง่านไว้ที่ลานชุมชนทุกแห่ง
- เอเสเคียล 16:25 - เจ้าสร้างสถานบูชาอันสูงตระหง่านไว้ที่หัวถนนทุกสาย และทำให้ความงามของตนลดค่าลง โดยพลีกายให้ทุกคนที่ผ่านไปมาด้วยความสำส่อนมากยิ่งขึ้น
- เอเสเคียล 16:26 - เจ้าแพศยาคบชู้กับชาวอียิปต์เพื่อนบ้านผู้มากด้วยราคะ และยั่วยุโทสะของเราด้วยความสำส่อนที่ทวีขึ้นของเจ้า
- เอเสเคียล 16:27 - ฉะนั้นเราจึงเหยียดมือของเราออกต่อสู้กับเจ้า และลดพรมแดนของเจ้า เรายกเจ้าให้ความโลภโมโทสันของศัตรูของเจ้าคือบรรดาชาวฟีลิสเตีย ผู้ตกตะลึงในความประพฤติอันลามกต่ำทรามของเจ้า
- เอเสเคียล 16:28 - เจ้ายังแพศยาคบชู้กับชาวอัสซีเรียอีกด้วย เพราะเจ้าไม่อิ่มในกาม และแม้หลังจากนั้นเจ้าก็ยังไม่หนำใจ
- เอเสเคียล 16:29 - แล้วเจ้าก็ทวีความสำส่อนมากยิ่งขึ้น โดยเล่นชู้กับบาบิโลน ดินแดนแห่งพ่อค้าวาณิช แต่ถึงขนาดนี้แล้วเจ้าก็ยังไม่จุใจ
- เอเสเคียล 16:30 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า ทำไมเจ้าช่างอ่อนไหวใจง่ายจนทำสิ่งต่างๆ ถึงเพียงนี้ ทำตัวเป็นหญิงแพศยาหน้าด้าน!
- เอเสเคียล 16:31 - เมื่อเจ้าสร้างเนินต่างๆ ไว้ที่หัวถนน และสถานบูชาที่สูงตระหง่านในลานชุมชนทุกแห่ง เจ้าก็ยังต่างจากหญิงโสเภณีก็ตรงที่เจ้าไม่แยแสค่าจ้าง
- เอเสเคียล 16:32 - “ ‘เจ้าคือภรรยาแพศยา! เจ้าชื่นชอบคนแปลกหน้ายิ่งกว่าสามีของตนเอง
- เอเสเคียล 16:33 - หญิงโสเภณีทุกคนได้รับค่าจ้าง แต่เจ้าให้ของกำนัลแก่ชู้รักทั้งปวง ให้สินบนจ้างเขามาหาเจ้าจากทุกหนทุกแห่ง เพื่อสนองราคะตัณหาของเจ้า
- เอเสเคียล 16:34 - ฉะนั้นในการแพศยาของเจ้า เจ้าจึงแตกต่างจากโสเภณีอื่นๆ คือไม่มีใครตามจีบเอาใจเจ้า เจ้าแตกต่างมากเพราะว่าเจ้ายอมจ่ายค่าจ้าง แต่ไม่ได้อะไรตอบแทน
- เอเสเคียล 16:35 - “ ‘ฉะนั้นหญิงแพศยาเอ๋ย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า!
- เอเสเคียล 16:36 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าโปรยหว่านราคะตัณหา และเผยความเปลือยเปล่าของตนโดยการสำส่อนกับชู้รักทั้งหลาย และเนื่องจากรูปเคารพอันน่าชิงชังของเจ้า รวมถึงการเซ่นสังเวยเลือดลูกๆ ของเจ้าแก่พระเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:37 - ฉะนั้นเราจะรวบรวมชู้รักทุกคนที่เจ้าชื่นชอบ ทั้งผู้ที่เจ้ารักและผู้ที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมเขาจากทุกด้านมาเล่นงานเจ้า เราจะริบทุกสิ่งจากเจ้าไปต่อหน้าพวกเขา และพวกเขาทุกคนจะเห็นความเปลือยเปล่าของเจ้า
- เอเสเคียล 16:38 - เราจะตัดสินลงโทษเจ้าในฐานะผู้หญิงที่ล่วงประเวณีและฆ่าคน เราจะทำให้เจ้าโชกเลือดด้วยความกริ้วและความหึงหวงของเรา
- เอเสเคียล 16:39 - แล้วเราจะมอบเจ้าแก่บรรดาชู้รักของเจ้า พวกเขาจะทลายเนินสูง และทำลายสถานบูชาที่สูงตระหง่านของเจ้า พวกเขาจะทำให้เจ้าล่อนจ้อน และริบเอาเพชรนิลจินดาสวยๆ งามๆ ไป และเปลื้องอาภรณ์ของเจ้าออก ทิ้งเจ้าไว้ให้เปลือยเปล่า
- เอเสเคียล 16:40 - พวกเขาจะยกขบวนมาสู้กับเจ้า ซึ่งจะขว้างก้อนหินใส่เจ้าและจะฟาดฟันเจ้าออกเป็นชิ้นๆ ด้วยดาบของพวกเขา
- เอเสเคียล 16:41 - พวกเขาจะเผาบ้านเรือนของเจ้า และลงโทษเจ้าต่อหน้าต่อตาผู้หญิงมากมาย เราจะยุติการแพศยาของเจ้าและเจ้าจะไม่จ่ายค่าจ้างให้บรรดาชู้รักของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:42 - เมื่อนั้นโทสะที่เรามีต่อเจ้าจะยุติลง และความหึงหวงของเราจะหันเหไปจากเจ้า เราจะสงบอารมณ์และจะไม่โกรธอีก
- เอเสเคียล 16:43 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เพราะเจ้าไม่ได้ระลึกถึงวัยเยาว์ของเจ้า แต่ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งทั้งหมดนี้ แน่นอนเราจะตอบแทนเจ้าให้สาสมกับสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าไม่ได้เพิ่มความลามกต่ำทรามเข้ากับการกระทำอันน่าชิงชังทั้งหลายของเจ้าหรอกหรือ?
- เอเสเคียล 16:44 - “ ‘ทุกคนที่ยกภาษิตมากล่าว จะกล่าวถึงเจ้าด้วยภาษิตที่ว่า “แม่เป็นอย่างไร ลูกสาวก็เป็นอย่างนั้น”
- เอเสเคียล 16:45 - เจ้าเป็นลูกแท้ๆ ของแม่เจ้า ผู้เกลียดชังสามีกับลูกๆ ของตน และเจ้าเป็นน้องแท้ๆ ของพี่สาวเจ้า ผู้เกลียดชังสามีกับลูกๆ ของตน แม่ของเจ้าเป็นชาวฮิตไทต์และพ่อของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์
- เอเสเคียล 16:46 - พี่สาวของเจ้าคือสะมาเรียผู้อาศัยอยู่ทางเหนือกับลูกสาวทั้งหลายของนาง น้องสาวของเจ้าคือโสโดมซึ่งอาศัยอยู่ทางใต้กับลูกสาวทั้งหลายของนาง
- เอเสเคียล 16:47 - เจ้าไม่เพียงแต่ดำเนินในวิถีทางอันชั่วร้ายของพวกเขา และเลียนแบบการกระทำอันน่าชิงชังของพวกเขาเท่านั้น แต่ไม่นานวิถีทั้งปวงของเจ้าก็ต่ำทรามยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก
- เอเสเคียล 16:48 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด โสโดมน้องสาวของเจ้ากับลูกๆ ของนางยังไม่เคยทำสิ่งที่เจ้ากับลูกสาวทั้งหลายของเจ้าทำลงไปฉันนั้น
- เอเสเคียล 16:49 - “ ‘บัดนี้โสโดมน้องสาวของเจ้ามีบาปคือ นางกับลูกๆ ที่หยิ่งยโสได้รับการบำรุงบำเรอเกินขนาดและไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอันใด พวกเขาไม่ช่วยเหลือคนยากจนขัดสน
- เอเสเคียล 16:50 - เขาจองหองและทำสิ่งที่น่าชิงชังต่อหน้าเรา ฉะนั้นเราจึงกำจัดพวกเขาไปตามที่เจ้าได้เห็นแล้ว
- เอเสเคียล 16:51 - สะมาเรียทำบาปไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเจ้า เจ้าทำสิ่งที่น่าชิงชังยิ่งกว่าที่พวกเขาทำ การกระทำทั้งสิ้นของเจ้าพลอยทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรมขึ้น
- เอเสเคียล 16:52 - เจ้าจงทนรับความอับอายขายหน้าไป เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูดีกว่า เนื่องจากบาปของเจ้าชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเป็นฝ่ายชอบธรรม ฉะนั้นจงละอายแก่ใจและทนรับความอัปยศอดสูของเจ้าไปเถิด เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรม
- เอเสเคียล 16:53 - “ ‘แต่เราจะคืนความรุ่งโรจน์ให้แก่โสโดมกับบรรดาลูกสาวของนาง คืนให้แก่สะมาเรียกับบรรดาลูกสาวของนาง และคืนความรุ่งโรจน์ให้แก่เจ้าด้วย
- เอเสเคียล 16:54 - เพื่อเจ้าจะทนรับความอับอายขายหน้าและละอายใจในสิ่งทั้งปวงที่พวกเจ้าทำลงไป ซึ่งเป็นการปลอบประโลมพวกเขา
- เอเสเคียล 16:55 - แล้วพี่สาวน้องสาวของเจ้าคือ โสโดมกับลูกๆ และสะมาเรียกับลูกๆ จะคืนสู่สภาพเดิม และเจ้ากับลูกๆ ก็จะคืนสู่สภาพเดิมด้วย
- เอเสเคียล 16:56 - เจ้าไม่ยอมแม้แต่จะเอ่ยถึงโสโดมน้องสาวของเจ้าในวันแห่งความหยิ่งผยองของเจ้า
- เอเสเคียล 16:57 - ก่อนหน้าความชั่วร้ายของเจ้าจะถูกเปิดโปง ถึงอย่างนั้นตอนนี้เจ้าก็ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามโดยธิดาทั้งหลายแห่งเอโดม และเพื่อนบ้านทั้งปวงของนาง รวมทั้งธิดาทั้งหลายของชาวฟีลิสเตีย คือคนทั้งปวงรอบตัวเจ้าก็ดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้า
- เอเสเคียล 16:58 - เจ้าจะต้องทนรับผลจากความลามกต่ำทราม และการกระทำอันน่าชิงชังของเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:59 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะจัดการกับเจ้าอย่างสาสม เพราะเจ้าลบหลู่ดูหมิ่นคำปฏิญาณของเราโดยละเมิดพันธสัญญา
- เอเสเคียล 16:60 - ถึงกระนั้นเราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้าเมื่อครั้งเจ้ายังเยาว์วัย และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า
- เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและละอายใจ เมื่อเรายกพี่สาวน้องสาวของเจ้าให้เป็นลูกสาวของเจ้า แต่ไม่ใช่ตามพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้นเราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
- เอเสเคียล 16:63 - เมื่อนั้นเราจะลบล้างมลทินบาปให้เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าจะจำได้และละอายใจ ไม่กล้าปริปากอีกเลยเนื่องจากความละอายของเจ้า’ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”
- เยเรมีย์ 25:3 - ตลอด 23 ปีตั้งแต่ปีที่สิบสามแห่งรัชกาลโยสิยาห์โอรสของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์จนถึงวันนี้ ได้มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าเรื่อยๆ และข้าพเจ้าก็ถ่ายทอดให้พวกท่านฟังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ท่านก็ไม่ยอมฟัง
- เยเรมีย์ 25:4 - และถึงแม้องค์พระผู้เป็นเจ้าส่งบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกท่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกท่านก็ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมใส่ใจ
- เยเรมีย์ 25:5 - พวกเขากล่าวว่า “พวกเจ้าแต่ละคน จงหันกลับจากวิถีและความประพฤติชั่วร้ายเถิด แล้วเจ้าจะอยู่ในดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้ายกให้เจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไปได้
- เยเรมีย์ 25:6 - อย่าไปติดตาม ปรนนิบัติ นมัสการพระอื่นๆ อย่ายั่วให้เราโกรธด้วยสิ่งที่มือของเจ้าเองสร้างขึ้น แล้วเราก็จะไม่ทำอันตรายเจ้า”
- เยเรมีย์ 25:7 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา และยั่วให้เราโกรธโดยสิ่งที่มือของเจ้าสร้างขึ้น เจ้ารนหาทุกข์ภัยมาใส่ตัว”
- เยเรมีย์ 26:2 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงยืนอยู่ที่ลานพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าและประกาศแก่ชาวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ซึ่งมานมัสการที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงแจ้งทุกสิ่งตามที่เราสั่ง อย่าเว้นแม้แต่คำเดียว
- เยเรมีย์ 26:3 - บางทีพวกเขาอาจจะรับฟังและหันจากทางชั่วของตน แล้วเราจะอดใจไว้ไม่นำภัยพิบัติมายังเขาตามที่เราคิดเพราะความชั่วที่พวกเขาได้ทำ
- เยเรมีย์ 26:4 - จงบอกพวกเขาว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า หากเจ้าไม่ฟังคำของเราและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราซึ่งเราตั้งไว้ต่อหน้าเจ้า
- เยเรมีย์ 26:5 - และหากเจ้าไม่ยอมฟังคำผู้รับใช้ของเราคือเหล่าผู้เผยพระวจนะซึ่งเราได้ส่งมาเตือนเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า (แม้ว่าเจ้าไม่ฟัง)
- เยเรมีย์ 26:6 - เมื่อนั้นเราจะทำลายพระนิเวศแห่งนี้เหมือนที่เราได้ทำลายพลับพลาแห่งชิโลห์และเราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นที่สาปแช่งในหมู่ประชาชาติทั่วโลก’ ”
- มาระโก 12:2 - เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวเขาส่งคนรับใช้มาหาผู้เช่าเพื่อรับส่วนแบ่งของผลผลิตจากสวนองุ่น
- มาระโก 12:3 - แต่พวกผู้เช่าก็จับคนรับใช้นั้นทุบตีและไล่ให้กลับไปมือเปล่า
- มาระโก 12:4 - เขาจึงส่งคนรับใช้อีกคนหนึ่งมาก็ถูกพวกนั้นฟาดหัวและทำให้อับอายขายหน้า
- มาระโก 12:5 - เจ้าของยังส่งอีกคนหนึ่งมา พวกเขาก็ฆ่าคนนั้นเสีย เจ้าของส่งคนอื่นๆ มาอีกหลายคน บางคนก็ถูกทุบตี บางคนก็ถูกฆ่า
- สดุดี 106:16 - ในค่ายพักนั้น พวกเขาเริ่มอิจฉาโมเสส และเริ่มริษยาอาโรนผู้ซึ่งได้รับการชำระและแยกไว้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 106:17 - ธรณีจึงแยกออกและกลืนดาธาน มันฝังอาบีรัมกับพวก
- สดุดี 106:18 - ไฟปะทุขึ้นในหมู่สมัครพรรคพวกของเขา เปลวไฟเผาผลาญเหล่าคนชั่ว
- สดุดี 106:19 - ที่ภูเขาโฮเรบ พวกเขาได้สร้างเทวรูปลูกวัว และกราบไหว้รูปเคารพซึ่งหล่อขึ้นจากโลหะ
- สดุดี 106:20 - พวกเขาแลกองค์ผู้ทรงเกียรติสิริของพวกเขา กับรูปปั้นของวัวที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้เขารอด ผู้ได้ทรงกระทำพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
- เอสรา 9:7 - นับแต่สมัยบรรพบุรุษจวบจนบัดนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความผิดใหญ่หลวง เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกับกษัตริย์และเหล่าปุโรหิตตกเป็นเหยื่อคมดาบ ตกเป็นเชลยถูกย่ำยีและถูกปล้นชิง ได้รับความอัปยศอดสูโดยน้ำมือของบรรดากษัตริย์ต่างชาติดังเช่นทุกวันนี้
- สดุดี 106:32 - ที่แหล่งน้ำเมรีบาห์ก็เช่นกัน พวกเขาทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ และทำให้โมเสสเดือดร้อนไปด้วย
- สดุดี 106:33 - เพราะพวกเขากบฏต่อพระวิญญาณของพระเจ้า โมเสสจึงหลุดปากกล่าววาจาเผ็ดร้อน
- สดุดี 106:34 - ทั้งพวกเขาไม่ได้ทำลายชนชาติต่างๆ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา
- สดุดี 106:35 - แต่พวกเขาผสมปนเปอยู่กับคนต่างชาติ และรับเอาขนบธรรมเนียมของเขาเหล่านั้น
- สดุดี 106:36 - พวกเขานมัสการรูปเคารพของคนเหล่านั้น ซึ่งกลายเป็นกับดักของพวกเขา
- สดุดี 106:37 - พวกเขาเซ่นสังเวยลูกชายลูกสาวของตน แก่ภูติผีปีศาจ
- สดุดี 106:38 - พวกเขาทำให้โลหิตบริสุทธิ์หลั่งริน คือโลหิตของลูกชายลูกสาวของตน ซึ่งพวกเขาเซ่นสังเวยแก่บรรดารูปเคารพของคานาอัน ทำให้แผ่นดินเป็นมลทินด้วยเลือด
- สดุดี 106:39 - พวกเขาทำตัวให้แปดเปื้อนมลทินด้วยสิ่งที่พวกเขาทำ ด้วยพฤติกรรมเยี่ยงโสเภณี
- สดุดี 106:40 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงพระพิโรธเหล่าประชากรของพระองค์ และทรงชิงชังผู้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์
- เอเสเคียล 23:1 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 23:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย มีพี่น้องสองสาวร่วมมารดา
- เอเสเคียล 23:3 - ทั้งคู่กลายเป็นโสเภณีอยู่ในอียิปต์ ทำตัวแพศยาตั้งแต่สาวรุ่น หน้าอกของนางทั้งสองถูกเคล้าคลึง และอกพรหมจารีของนางถูกกอดรัดในดินแดนนั้น
- เอเสเคียล 23:4 - พี่สาวชื่อโอโฮลาห์ น้องสาวคือโอโฮลีบาห์ ทั้งสองเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา และให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวหลายคน โอโฮลาห์คือสะมาเรีย ส่วนโอโฮลีบาห์คือเยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 23:5 - “โอโฮลาห์เริ่มขายตัวตั้งแต่นางยังเป็นของเรา นางกระสันหาชู้รักของนาง คือเหล่านักรบอัสซีเรีย
- เอเสเคียล 23:6 - ซึ่งล้วนเป็นหนุ่มหล่อเหลา แต่งกายชุดสีน้ำเงิน มีทั้งผู้ว่าการ แม่ทัพ และทหารม้า
- เอเสเคียล 23:7 - นางทอดกายเยี่ยงโสเภณีแก่บรรดาผู้ทรงอำนาจของอัสซีเรีย และปล่อยตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพทั้งปวงของทุกคนที่นางกระสันหา
- เอเสเคียล 23:8 - นางไม่ได้ละทิ้งการแพศยาที่นางเริ่มขึ้นในอียิปต์ เมื่อนางยังเป็นสาวรุ่นมีคนหลับนอนกับนาง กอดจูบอกพรหมจารีของนางและระบายราคะตัณหาแก่นาง
- เอเสเคียล 23:9 - “ฉะนั้นเราจึงมอบนางแก่ชาวอัสซีเรีย ชู้รักซึ่งนางกระสันหา
- เอเสเคียล 23:10 - เขาเหล่านั้นได้ปอกลอกนางจนล่อนจ้อนและฆ่านางด้วยดาบ จับลูกๆ ของนางไป นางถูกลงทัณฑ์และกลายเป็นคำเปรียบเปรยในหมู่ผู้หญิง
- เอเสเคียล 23:11 - “โอโฮลีบาห์น้องสาวของนางเห็นเช่นนี้แล้ว กลับทำตัวเลวทรามยิ่งกว่าพี่สาวเสียอีก ในเรื่องราคะตัณหาและการขายตัว
- เอเสเคียล 23:12 - นางก็เช่นเดียวกันไปกระสันหาชาวอัสซีเรีย ทั้งผู้ว่าการ แม่ทัพ นักรบในเครื่องแบบ ทหารม้าผู้โอ่อ่า ล้วนเป็นหนุ่มหล่อเหลา
- เอเสเคียล 23:13 - เราเห็นว่านางก็แปดเปื้อนมลทินด้วย ทั้งสองคนเดินตามรอยเดียวกัน
- เอเสเคียล 23:14 - “แต่การแพศยาของโอโฮลีบาห์ยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีก นางเห็นภาพวาดสีแดงของชาวเคลเดีย บนผนัง
- เอเสเคียล 23:15 - คาดเข็มขัด คาดผ้าพลิ้วสะบัดบนศีรษะ มองดูเหมือนพลรถรบบาบิโลน ชาวพื้นเมืองของเคลเดีย
- เอเสเคียล 23:16 - ทันทีที่นางเห็นก็ลุ่มหลงพวกเขา และถึงกับส่งทูตไปหาเขาในเคลเดีย
- เอเสเคียล 23:17 - ชาวบาบิโลนจึงมาหานางถึงเตียงรัก และทำให้นางแปดเปื้อนด้วยราคะของพวกเขา หลังจากที่นางเป็นมลทินเพราะพวกเขาแล้ว นางก็เบือนหน้าหนีจากพวกเขาด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์
- เอเสเคียล 23:18 - เมื่อนางทำตัวแพศยาต่อไปอย่างโจ่งแจ้ง และเปิดเผยความเปลือยเปล่าของนาง เราก็เบือนหน้าหนีจากนางด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ เหมือนที่เราได้หันหน้าหนีจากพี่สาวของนาง
- เอเสเคียล 23:19 - ถึงกระนั้นนางยิ่งสำส่อนเหลวแหลกมากขึ้น เมื่อระลึกถึงวัยสาวขณะเป็นโสเภณีอยู่ในอียิปต์
- เอเสเคียล 23:20 - ที่นั่นนางกระสันหาชู้รักทั้งหลายของนางผู้ซึ่งอวัยวะเพศเหมือนของลาและอสุจิเหมือนของม้า
- เอเสเคียล 23:21 - ดังนี้แหละ เจ้าจึงโหยหาความเหลวแหลกในวัยสาวเมื่อครั้งอยู่ในอียิปต์ ที่อกของเจ้าถูกกอดรัดและทรวงอกสาวของเจ้าถูกเคล้าคลึง
- เอเสเคียล 23:22 - “ฉะนั้นโอโฮลีบาห์เอ๋ย พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะเร่งเร้าบรรดาชู้รักซึ่งเจ้าเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจนั้นมาสู้กับเจ้าจากทุกด้าน
- เอเสเคียล 23:23 - ชาวบาบิโลน ชาวเคลเดียทั้งปวง ชายชาวเปโขดและโชอากับโคอา กับชาวอัสซีเรียทั้งปวงที่เป็นหนุ่มหล่อเหลา ทั้งผู้ว่าการและแม่ทัพ พลรถรบ ชนชั้นสูงทั้งหมดจะขี่ม้ามา
- เอเสเคียล 23:24 - พวกเขาจะมาสู้รบกับเจ้าโดยมีอาวุธ รถม้าศึก ขบวนเกวียน และกองทัพใหญ่ เขาจะตั้งฐานรบเพื่อสู้กับเจ้ารอบด้าน โดยมีโล่ใหญ่น้อยและหมวกเกราะ เราจะมอบเจ้าให้เขาลงโทษ เขาจะลงทัณฑ์เจ้าตามเกณฑ์ของเขา
- เอเสเคียล 23:25 - เราจะนำโทสะอันหึงหวงของเรามาจัดการกับเจ้า พวกเขาจะเล่นงานเจ้าด้วยความเกรี้ยวกราด เขาจะตัดหูตัดจมูกของเจ้า ส่วนผู้ที่เหลืออยู่จะตายด้วยคมดาบ เขาจะจับตัวลูกชายลูกสาวของเจ้าไป และพวกเจ้าที่เหลืออยู่จะถูกเผาผลาญด้วยไฟ
- เอเสเคียล 23:26 - เขาจะเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ และเพชรนิลจินดางดงามออกจากกายของเจ้า
- เอเสเคียล 23:27 - เราจะยุติความลามกต่ำทรามและการแพศยาซึ่งเจ้าเริ่มขึ้นในอียิปต์ เจ้าจะไม่เหลียวแลสิ่งเหล่านี้ด้วยความปรารถนาหรือระลึกถึงอียิปต์อีกเลย
- เอเสเคียล 23:28 - “เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรากำลังจะมอบเจ้าไว้ในเงื้อมมือของบรรดาผู้ที่เจ้าเกลียดชังและเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ
- เอเสเคียล 23:29 - เขาจะจัดการกับเจ้าด้วยความเกลียดชังและปล้นชิงทุกอย่างที่เจ้าลงแรงทำ เขาจะทิ้งเจ้าไว้ให้เปลือยเปล่าและล่อนจ้อน และความอัปยศจากการขายตัวของเจ้าจะถูกเปิดโปง
- เอเสเคียล 23:30 - ความสำส่อนและความมักมากของเจ้าได้นำเหตุร้ายนี้มายังเจ้า เพราะเจ้าหลงใหลชนชาติต่างๆ และปล่อยตัวเป็นมลทินเนื่องด้วยรูปเคารพของเขา
- เอเสเคียล 23:31 - เจ้าเดินตามรอยพี่สาวของเจ้า ฉะนั้นเราจะเอาถ้วยเหล้าของพี่สาวเจ้าใส่ในมือของเจ้า
- เอเสเคียล 23:32 - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “เจ้าจะดื่มจากถ้วยของพี่สาวของเจ้า เป็นถ้วยใหญ่และลึก ถ้วยนั้นจะนำความอัปยศและการเย้ยหยันมาให้ เป็นถ้วยที่จุได้มากมาย
- เอเสเคียล 23:33 - เจ้าจะเมามายและเต็มไปด้วยความโศกสลด ถ้วยของสะมาเรียพี่สาวของเจ้า ถ้วยแห่งความพินาศและเริศร้าง
- เอเสเคียล 23:34 - เจ้าจะดื่มและซดจนเกลี้ยง เจ้าจะฟาดมันแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เจ้าจะตีอกชกตัวด้วยความทุกข์ระทม เราได้ลั่นวาจาไว้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 23:35 - “เหตุฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าได้ลืมเราและเหวี่ยงเราไปข้างหลัง เจ้าจึงต้องรับผลอันเนื่องมาจากความสำส่อนและการแพศยาของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:36 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะพิพากษาโทษโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์หรือไม่? ฉะนั้นจงประณามพฤติกรรมอันน่าชิงชังของนางทั้งสอง
- เอเสเคียล 23:37 - เพราะนางได้ล่วงประเวณีและมือของนางเปื้อนเลือด นางล่วงประเวณีโดยการเซ่นไหว้รูปเคารพ ถึงกับจับลูกๆ ซึ่งพวกนางคลอดให้เรานั้นบูชายัญ แก่พระทั้งหลาย
- เอเสเคียล 23:38 - พวกนางได้ทำแก่เราถึงเพียงนี้ คือในเวลาเดียวกันก็ทำให้สถานนมัสการของเราเป็นมลทินและทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง
- เอเสเคียล 23:39 - ในวันที่พวกนางเซ่นสังเวยลูกๆ แก่รูปเคารพ นางก็เข้ามาในสถานนมัสการของเรา และทำให้นิเวศของเราเป็นมลทิน นั่นคือสิ่งที่พวกนางได้ทำในนิเวศของเรา
- เอเสเคียล 23:40 - “นางถึงกับส่งผู้สื่อสารไปเสาะหาผู้ชายจากแดนไกล และเมื่อคนเหล่านั้นมาถึง นางก็อาบน้ำชำระกายเพื่อเขา ทาตาและสวมเพชรนิลจินดา
- เอเสเคียล 23:41 - นางนั่งบนตั่งอันงามโอ่อ่า มีโต๊ะอยู่ตรงหน้าซึ่งใช้วางเครื่องหอมและน้ำมันที่เป็นของเรา
- เอเสเคียล 23:42 - “เสียงของพวกเสเพลดังอยู่รอบตัวนาง คนซาเบียน ถูกนำมาจากถิ่นกันดารพร้อมกับคนงาน เขาสวมกำไลคล้องแขนของหญิงนั้นกับน้องสาว และสวมมงกุฎงามบนศีรษะของนาง
- เอเสเคียล 23:43 - เราจึงกล่าวถึงนางผู้ทรุดโทรมไปเพราะการคบชู้ว่า ‘ก็ให้พวกเขาทำแก่นางเยี่ยงโสเภณี เพราะนางเป็นได้แค่นี้แหละ’
- เอเสเคียล 23:44 - และเขาก็หลับนอนกับนางเหมือนที่หลับนอนกับโสเภณี เขาหลับนอนกับโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์ผู้สำส่อนนี้
- เอเสเคียล 23:45 - แต่ผู้ชอบธรรมจะตัดสินพวกนางให้รับโทษทัณฑ์ของหญิงผู้ล่วงประเวณีและทำให้โลหิตตก เพราะพวกนางทำตัวแพศยาคบชู้และมือเปื้อนเลือด
- เอเสเคียล 23:46 - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า จงนำฝูงชนมาสู้กับพวกนาง และมอบพวกนางให้แก่ความอกสั่นขวัญแขวนและการปล้นชิง
- เอเสเคียล 23:47 - ฝูงชนนั้นจะเอาหินขว้างและฆ่าพวกนางด้วยดาบ เขาจะฆ่าลูกชายลูกสาวของนาง และเผาบ้านเรือนของพวกนางหมดสิ้น
- เอเสเคียล 23:48 - “ดังนี้แหละเราจะยุติความสำส่อนในดินแดนนี้เพื่อผู้หญิงทุกคนจะรับคำเตือน และไม่เอาเยี่ยงอย่างเจ้าทั้งสองพี่น้อง
- เอเสเคียล 23:49 - เจ้าจะทนรับโทษทัณฑ์แห่งความสำส่อน และผลลัพธ์จากบาปเรื่องรูปเคารพ แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต”
- เยเรมีย์ 7:2 - “จงยืนที่ทางเข้าพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าและประกาศว่า “‘ชนยูดาห์ทั้งปวงซึ่งผ่านเข้าประตูเหล่านี้เพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- กันดารวิถี 32:13 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอล และทรงกระทำให้เขาทั้งหลายเร่ร่อนในถิ่นกันดารตลอดสี่สิบปี ตราบจนคนในชั่วอายุนั้นที่ทำชั่วในสายพระเนตรของพระองค์ตายหมด
- กันดารวิถี 32:14 - “แต่นี่พวกท่านเชื้อไม่ทิ้งแถว เดินตามรอยบรรพบุรุษ ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งขึ้น
- เนหะมีย์ 9:16 - “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้แต่ขณะที่พวกเขาได้หล่อเทวรูปลูกวัวขึ้นสำหรับตนและประกาศว่า ‘นี่คือพระเจ้าผู้พาเราออกมาจากอียิปต์’ หรือขณะที่พวกเขาหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
- ยอห์น 20:21 - พระเยซูตรัสอีกว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด! พระบิดาได้ทรงส่งเรามาฉันใดเราก็ส่งพวกท่านไปฉันนั้น”
- ยอห์น 20:22 - เมื่อตรัสดังนั้นแล้วพระองค์ทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเขาพร้อมทั้งตรัสว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด
- กิจการของอัครทูต 7:51 - “ท่านเหล่าประชากรผู้หัวแข็ง ผู้มีจิตใจและหูที่ไม่ได้เข้าสุหนัต! ท่านก็เป็นเหมือนบรรพบุรุษของท่าน พวกท่านต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์เสมอ!
- โรม 10:15 - และถ้าไม่มีใครส่งเขาไป เขาจะประกาศได้อย่างไร? ตามที่มีเขียนไว้ว่า “เท้าของผู้นำข่าวดีมาช่างงดงามยิ่งนัก!”
- เยเรมีย์ 1:7 - แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อย่าพูดว่า ‘ข้าพระองค์ยังเด็กเกินไป’ เจ้าต้องไปพบทุกคนที่เราใช้เจ้าไป ไม่ว่าเราสั่งอย่างไร เจ้าต้องพูดไปตามนั้น
- เอเสเคียล 3:4 - แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย บัดนี้จงไปหาพงศ์พันธุ์อิสราเอล และกล่าวถ้อยคำของเราให้พวกเขาฟัง
- เอเสเคียล 3:5 - เราไม่ได้ส่งเจ้าไปหาชนชาติที่พูดภาษายากๆ และเจ้าฟังไม่เข้าใจ แต่ให้ไปหาชนชาติอิสราเอล
- เอเสเคียล 3:6 - เราไม่ได้ส่งเจ้าไปหาชนชาติต่างๆ ที่พูดภาษายากๆ และเจ้าฟังไม่เข้าใจ แน่ทีเดียว หากเราส่งเจ้าไปหาคนพวกนั้น พวกเขายังจะรับฟัง
- เอเสเคียล 3:7 - ส่วนพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่ยอมฟังเจ้าเพราะพวกเขาไม่เต็มใจจะฟังเรา เนื่องจากพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดนั้นใจแข็งดื้อด้าน
- เอเสเคียล 3:8 - แต่เราจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งและมุ่งมั่นพอๆ กับพวกเขา
- กันดารวิถี 20:10 - เขากับอาโรนเรียกประชากรมารวมกันที่หน้าศิลา และโมเสสพูดกับพวกเขาว่า “ฟังนะ เจ้าพวกกบฏ เราจะต้องเอาน้ำออกจากศิลานี้ให้พวกเจ้าหรือ?”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:27 - ขอทรงระลึกถึงอับราฮัม อิสอัค และยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์ โปรดทรงมองข้ามความดื้อรั้นหัวแข็ง ความชั่วร้าย และบาปของคนเหล่านี้
- เนหะมีย์ 9:33 - ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายนั้น พระองค์ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ขณะที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิด
- เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ ผู้นำ ปุโรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจพระบัญชาและพระดำรัสเตือนของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:35 - แม้ขณะที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา ได้ชื่นชมความดีเลิศที่ทรงมีต่อพวกเขาในดินแดนอันกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ที่ทรงประทาน พวกเขาไม่ได้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์หรือหันจากทางชั่วของพวกเขา
- เยเรมีย์ 16:11 - เจ้าจงบอกพวกเขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า ‘เพราะบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ละทิ้งเราไปปรนนิบัตินมัสการพระต่างๆ พวกเขาได้ทอดทิ้งเราและไม่ได้รักษาบทบัญญัติของเรา
- เยเรมีย์ 16:12 - แต่พวกเจ้าประพฤติเลวทรามยิ่งกว่าบรรพบุรุษเสียอีก ดูเถิด เจ้าต่างก็ทำตามใจดื้อดึงถือทิฐิชั่วของตนแทนที่จะเชื่อฟังเรา
- เยเรมีย์ 36:2 - “จงเอาหนังสือม้วนมาเขียนทุกถ้อยคำของเราที่เกี่ยวกับอิสราเอล ยูดาห์ และชนชาติอื่นๆ ทั้งปวง ตั้งแต่ครั้งที่เราเริ่มพูดกับเจ้าในรัชกาลโยสิยาห์จนถึงเดี๋ยวนี้
- 2พงศ์กษัตริย์ 17:17 - เขาถึงกับเอาลูกชายลูกสาวของตนเผาบูชายัญ เขาใช้ไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถา ปล่อยตัวทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าและยั่วยุพระพิโรธของพระองค์
- 2พงศ์กษัตริย์ 17:18 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งนักและขับไล่เขาออกไปให้พ้นพระพักตร์ เหลืออยู่แต่เพียงเผ่ายูดาห์
- 2พงศ์กษัตริย์ 17:19 - แม้แต่ยูดาห์เองก็ไม่ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา แต่ทำตามอิสราเอล
- 2พงศ์กษัตริย์ 17:20 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงละทิ้งชนชาติอิสราเอลทั้งหมด พระองค์ทรงลงโทษเขาและมอบเขาไว้ในมือของผู้ปล้นชิง ตราบจนทรงขจัดเขาออกไปให้พ้นพระพักตร์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ท่านกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมาตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้จักท่านแล้ว
- ดาเนียล 9:5 - ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาป ทำชั่วและกบฏต่อพระองค์ หันหนีจากบทบัญญัติและพระบัญชาของพระองค์
- ดาเนียล 9:6 - ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งกล่าวในพระนามของพระองค์แก่บรรดากษัตริย์ เจ้านาย บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนประชากรของแผ่นดิน
- ดาเนียล 9:7 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงชอบธรรม แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และปวงชนอิสราเอลทั้งใกล้และไกลในประเทศต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไป เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:8 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนบรรดากษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษต้องอัปยศอดสูเพราะได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:9 - องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงให้อภัย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายกบฏต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:10 - ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ประทานผ่านทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์
- ดาเนียล 9:11 - อิสราเอลทั้งปวงได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของพระองค์ และหลงเตลิดไป ไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ “ฉะนั้นคำสาปแช่งและโทษทัณฑ์ทั้งปวงซึ่งบันทึกไว้ในบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงตกแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:12 - พระองค์ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วว่าจะนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มายังข้าพระองค์ทั้งหลายและผู้ครอบครอง ทั่วใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสมอเหมือนที่เกิดกับเยรูซาเล็ม
- ดาเนียล 9:13 - ภัยพิบัติทั้งปวงนี้เกิดกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่บันทึกไว้แล้วในบทบัญญัติของโมเสส ถึงกระนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้แสวงหาความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยหันกลับจากบาป และไม่ได้ใส่ใจในความจริงของพระองค์เลย
- 1ซามูเอล 8:7 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงฟังทุกสิ่งที่พวกเขาบอกเถิด เพราะพวกเขาไม่ได้ทอดทิ้งเจ้าแต่ทอดทิ้งเรา และไม่ต้องการให้เราเป็นกษัตริย์ของพวกเขา
- 1ซามูเอล 8:8 - นับตั้งแต่เราพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์จวบจนบัดนี้ พวกเขาทอดทิ้งเราอยู่เสมอและหันไปปรนนิบัติพระอื่นๆ พวกเขาก็กำลังทำกับเจ้าอย่างเดียวกัน
- เยเรมีย์ 3:25 - ให้ข้าพระองค์ทั้งหลายนอนลงด้วยความอับอาย และเอาความอัปยศอดสูคลุมกาย ทั้งข้าพระองค์ทั้งหลายและบรรพบุรุษ ได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ตั้งแต่ข้าพระองค์ทั้งหลายยังเยาว์วัยตราบจนบัดนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย”