逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เพราะเราไม่อาจทำสิ่งใดที่ขัดกับความจริงได้ แต่ทำเพื่อความจริงเท่านั้น
- 新标点和合本 - 我们凡事不能敌挡真理,只能扶助真理。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我们不能做任何对抗真理的事,只能维护真理。
- 和合本2010(神版-简体) - 我们不能做任何对抗真理的事,只能维护真理。
- 当代译本 - 因为我们不能抵挡真理,只能拥护真理。
- 圣经新译本 - 我们不能作什么事违背真理,只能维护真理。
- 中文标准译本 - 因为我们做任何事都不能抵挡真理,只能拥护真理。
- 现代标点和合本 - 我们凡事不能敌挡真理,只能扶助真理。
- 和合本(拼音版) - 我们凡事不能敌挡真理,只能扶助真理。
- New International Version - For we cannot do anything against the truth, but only for the truth.
- New International Reader's Version - I can’t do anything to stop the truth. I can only work for the truth.
- English Standard Version - For we cannot do anything against the truth, but only for the truth.
- New Living Translation - For we cannot oppose the truth, but must always stand for the truth.
- Christian Standard Bible - For we can’t do anything against the truth, but only for the truth.
- New American Standard Bible - For we cannot do anything against the truth, but only for the truth.
- New King James Version - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- Amplified Bible - For we can do nothing against the truth, but only for the truth [and the gospel—the good news of salvation].
- American Standard Version - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- King James Version - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- New English Translation - For we cannot do anything against the truth, but only for the sake of the truth.
- World English Bible - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- 新標點和合本 - 我們凡事不能敵擋真理,只能扶助真理。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我們不能做任何對抗真理的事,只能維護真理。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我們不能做任何對抗真理的事,只能維護真理。
- 當代譯本 - 因為我們不能抵擋真理,只能擁護真理。
- 聖經新譯本 - 我們不能作甚麼事違背真理,只能維護真理。
- 呂振中譯本 - 我們不能 作 甚麼事來違逆真理;我們只能擁護真理。
- 中文標準譯本 - 因為我們做任何事都不能抵擋真理,只能擁護真理。
- 現代標點和合本 - 我們凡事不能敵擋真理,只能扶助真理。
- 文理和合譯本 - 蓋我儕不能拒真理、乃輔真理、
- 文理委辦譯本 - 我所行者、非逆真理、乃順之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 蓋我儕不能逆真理、乃助真理、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 蓋吾人對抗真理、誠屬無力;惟擁護真理、則具有大能。
- Nueva Versión Internacional - Pues nada podemos hacer contra la verdad, sino a favor de la verdad.
- 현대인의 성경 - 우리는 진리를 거슬러 아무것도 할 수 없고 오직 진리만을 위해서 일하고 있습니다.
- Новый Русский Перевод - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- Восточный перевод - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- La Bible du Semeur 2015 - En effet, nous n’avons aucun pouvoir contre la vérité. C’est seulement pour la vérité que nous en avons.
- リビングバイブル - 私たちの務めは、いついかなる時にも、正しいことを勧めることであって、悪を望むことではありません。
- Nestle Aland 28 - οὐ γὰρ δυνάμεθά τι κατὰ τῆς ἀληθείας ἀλλ’ ὑπὲρ τῆς ἀληθείας.
- unfoldingWord® Greek New Testament - οὐ γὰρ δυνάμεθά τι κατὰ τῆς ἀληθείας, ἀλλὰ ὑπὲρ τῆς ἀληθείας.
- Nova Versão Internacional - Pois nada podemos contra a verdade, mas somente em favor da verdade.
- Hoffnung für alle - Gegen Gottes Wahrheit können wir ohnehin nichts ausrichten, wir können nur für sie eintreten.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Vì chúng tôi tôn trọng chân lý, không bao giờ làm điều gì sai quấy.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เพราะเราไม่สามารถกระทำสิ่งใดที่แย้งกับความจริง แต่ทำเพื่อความจริงเท่านั้น
交叉引用
- 2พงศ์กษัตริย์ 1:9 - แล้วพระองค์ทรงใช้นายทหารคนหนึ่งพร้อมด้วยทหารห้าสิบนายไปหาเอลียาห์ นายทหารขึ้นไปพบเอลียาห์ซึ่งนั่งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง และกล่าวกับเขาว่า “คนของพระเจ้า กษัตริย์ตรัสว่า ‘จงลงมาเถิด!’ ”
- 2พงศ์กษัตริย์ 1:10 - เอลียาห์ตอบนายทหารผู้นั้นว่า “หากเราเป็นคนของพระเจ้า ขอให้ไฟตกลงมาจากสวรรค์เผาผลาญเจ้าและทหารทั้งห้าสิบนายของเจ้า!” ไฟก็ตกลงมาเผาผลาญนายทหารและคนของเขาวอดวาย
- 2พงศ์กษัตริย์ 1:11 - กษัตริย์จึงส่งนายทหารอีกคนพร้อมด้วยทหารห้าสิบนายมา นายทหารกล่าวกับเอลียาห์ว่า “คนของพระเจ้า กษัตริย์ตรัสว่า ‘จงลงมาทันที!’ ”
- 2พงศ์กษัตริย์ 1:12 - เอลียาห์ตอบว่า “หากเราเป็นคนของพระเจ้า ขอให้ไฟตกลงมาจากสวรรค์เผาผลาญเจ้าและทหารห้าสิบนายของเจ้า!” แล้วไฟจากพระเจ้าก็ลงมาจากสวรรค์เผานายทหารและทหารทั้งห้าสิบนายวอดวาย
- 2พงศ์กษัตริย์ 1:13 - กษัตริย์จึงส่งนายทหารกับทหารอีกห้าสิบนายมาเป็นครั้งที่สาม คราวนี้นายทหารคุกเข่าลงอ้อนวอนต่อหน้าเอลียาห์ว่า “ข้าแต่คนของพระเจ้า โปรดไว้ชีวิตข้าพเจ้าและคนทั้งห้าสิบคนซึ่งเป็นผู้รับใช้ของท่าน!
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:28 - มีคายาห์ประกาศว่า “หากฝ่าพระบาทกลับมาอย่างปลอดภัย ก็แสดงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ตรัสผ่านทางข้าพเจ้า” แล้วเขากล่าวอีกว่า “ทุกคนจงจำคำพูดของข้าพเจ้าไว้!” ( 2พศด.18:28-34 )
- 2โครินธ์ 13:10 - ด้วยเหตุนี้เองระหว่างที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ ข้าพเจ้าจึงเขียนสิ่งเหล่านี้ถึงท่าน เพื่อเมื่อข้าพเจ้ามาถึงจะได้ไม่ต้องใช้อำนาจอย่างเข้มงวดกับท่าน อำนาจซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าเพื่อสร้างท่านขึ้น ไม่ใช่เพื่อทำลายท่านลง
- 2พงศ์กษัตริย์ 2:23 - จากที่นั่นเอลีชาเดินทางไปยังเบธเอล ระหว่างทางมีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งออกมาจากเมืองนั้น มาถากถางล้อเลียนเขาว่า “ออกไปให้พ้น เจ้าคนหัวล้าน! ออกไปให้พ้น เจ้าคนหัวล้าน!”
- 2พงศ์กษัตริย์ 2:24 - เอลีชาจึงหันกลับมามอง และสาปแช่งพวกเขาในพระนามของพระยาห์เวห์ แล้วมีแม่หมีสองตัวออกจากป่ามาฆ่าพวกเขาตายไป 42 คน
- 2พงศ์กษัตริย์ 2:25 - จากนั้นเอลีชาไปยังภูเขาคารเมล และจากที่นั่นกลับมายังสะมาเรีย
- กันดารวิถี 16:28 - โมเสสกล่าวว่า “โดยวิธีนี้ท่านทั้งหลายจะได้รู้กันว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ให้ข้าพเจ้าทำสิ่งต่างๆ ทั้งหมดนี้ และข้าพเจ้าไม่ได้ทำไปตามความคิดของข้าพเจ้าเอง
- กันดารวิถี 16:29 - หากคนเหล่านี้ตายไปอย่างปกติวิสัยอันเกิดแก่มนุษย์ ก็แสดงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงใช้ข้าพเจ้ามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่หากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำการอัศจรรย์ และพื้นธรณีแยกออกกลืนคนเหล่านี้ พร้อมทั้งข้าวของทุกอย่างของเขาและพวกเขาลงไปสู่แดนมรณาทั้งเป็น ท่านทั้งหลายก็จะได้รู้ว่าคนเหล่านี้ได้ลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:31 - ทันทีที่โมเสสพูดจบ พื้นธรณีก็แยกออกตรงบริเวณที่โคราห์กับพวกยืนอยู่
- กันดารวิถี 16:32 - สูบเอาพวกเขา ทั้งคนในครัวเรือนและคนของเขาทุกคน ตลอดจนทรัพย์สมบัติทุกอย่างของเขาลงไป
- กันดารวิถี 16:33 - คนเหล่านี้ลงไปสู่แดนมรณาทั้งเป็น พร้อมกับทุกสิ่งที่เขาครอบครอง แล้วพื้นแผ่นดินก็กลบฝังพวกเขาจนพินาศหายไปจากชุมชน
- กันดารวิถี 16:34 - ประชากรอิสราเอลพากันหนีกระเจิดกระเจิงเพราะเสียงร้องของคนเหล่านั้น พลางร้องว่า “ธรณีกำลังจะสูบพวกเราไปด้วยแล้ว!”
- กันดารวิถี 16:35 - และมีไฟจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเผาผลาญคน 250 คนที่กำลังเผาเครื่องหอมถวาย
- 1โครินธ์ 5:4 - เมื่อท่านประชุมกันในพระนามพระเยซูเจ้าของเราและใจของข้าพเจ้าอยู่ร่วมกับท่านด้วยพร้อมทั้งฤทธิ์อำนาจของพระเยซูเจ้าของเรา
- 1โครินธ์ 5:5 - จงมอบคนนั้นไว้กับซาตาน เพื่อวิสัยบาปของเขา จะถูกทำลายและจิตวิญญาณของเขาจะรอดได้ในวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:3 - ดังนั้นหลังจากอดอาหารและอธิษฐานแล้วพวกเขาจึงวางมือบนเขาทั้งสองแล้วส่งออกไป
- กิจการของอัครทูต 13:4 - พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงส่งเขาทั้งสองลงมาที่เมืองเซลูเคียและนั่งเรือจากที่นั่นมายังเกาะไซปรัส
- กิจการของอัครทูต 13:5 - เมื่อมาถึงเมืองซาลามิสพวกเขาก็ประกาศพระวจนะของพระเจ้าในธรรมศาลาของพวกยิว ยอห์นก็อยู่เป็นผู้ช่วยของพวกเขาด้วย
- กิจการของอัครทูต 13:6 - พวกเขาเดินทางไปทั่วเกาะจนมาถึงเมืองปาโฟส ที่นั่นพวกเขาพบนักคาถาอาคมชาวยิว ซึ่งเป็นผู้พยากรณ์เท็จชื่อบารเยซู
- กิจการของอัครทูต 13:7 - เขาเป็นคนของผู้ตรวจการเสอร์จีอัสพอลัส ผู้ตรวจการคนนี้เป็นคนเฉลียวฉลาด เขาส่งคนมาตามบารนาบัสกับเซาโลไปพบเพราะต้องการฟังพระวจนะของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:8 - แต่เอลีมาสนักคาถาอาคม (เพราะชื่อของเขาหมายความว่าอย่างนั้น) ขัดขวางและพยายามดึงผู้ตรวจการให้หันเหจากความเชื่อ
- กิจการของอัครทูต 13:9 - แล้วเซาโลผู้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเปาโลเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์มองตรงไปที่เอลีมาสและกล่าวว่า
- กิจการของอัครทูต 13:10 - “เจ้าเป็นลูกของมารร้ายเป็นศัตรูต่อทุกสิ่งที่ถูกต้อง! เจ้ามีแต่ความหลอกลวงและเล่ห์เพทุบาย เจ้าจะไม่หยุดบิดเบือนวิถีอันถูกต้องขององค์พระผู้เป็นเจ้าเลยหรือ?
- กิจการของอัครทูต 13:11 - บัดนี้พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับเจ้า เจ้าจะตาบอดมองไม่เห็นแสงตะวันตลอดช่วงหนึ่ง” ทันใดนั้นความมืดมัวเกิดแก่เอลีมาสและเขาต้องคลำหาคนให้จูงมือไป
- กิจการของอัครทูต 13:12 - เมื่อผู้ตรวจการเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เชื่อเพราะอัศจรรย์ใจในคำสอนเกี่ยวกับองค์พระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 4:28 - สิ่งที่พวกเขาได้ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ฤทธานุภาพและพระดำริของพระองค์ได้กำหนดไว้ก่อนแล้วว่าจะเกิดขึ้น
- กิจการของอัครทูต 4:29 - บัดนี้ พระองค์เจ้าข้า ขอทรงพิจารณาคำข่มขู่ของเขา และขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์สามารถกล่าวพระวจนะของพระองค์ด้วยใจกล้าหาญอย่างมาก
- กิจการของอัครทูต 4:30 - ขอทรงเหยียดพระหัตถ์ออกรักษาโรคและกระทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ต่างๆ โดยพระนามของพระเยซูผู้รับใช้บริสุทธิ์ของพระองค์เถิด”
- สุภาษิต 26:2 - คำแช่งด่าที่ไร้เหตุก็ไม่ส่งผล ก็เหมือนนกกระจอกหรือนกนางแอ่นบินร่อนไปมาไร้จุดหมาย
- มาระโก 16:17 - ผู้ที่เชื่อจะมีหมายสำคัญดังนี้คือ เขาทั้งหลายจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาใหม่ๆ
- มาระโก 16:18 - เขาจะจับงูด้วยมือเปล่า และเมื่อดื่มพิษร้ายเขาจะไม่เป็นอันตรายเลย เขาจะวางมือให้คนเจ็บคนป่วยและคนเหล่านั้นจะหายโรค”
- มาระโก 16:19 - เมื่อองค์พระเยซูเจ้าตรัสจบแล้วพระองค์ก็ทรงถูกรับขึ้นสู่สวรรค์และประทับนั่งที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 5:1 - มีชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียกับสัปฟีราภรรยาของเขาก็ได้ขายที่ดินผืนหนึ่งด้วย
- กิจการของอัครทูต 5:2 - เขาได้เก็บเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อตนเองซึ่งภรรยาของเขาก็รู้ดีแต่นำเงินที่เหลือมาวางแทบเท้าของอัครทูต
- กิจการของอัครทูต 5:3 - แล้วเปโตรจึงกล่าวว่า “อานาเนียเอ๋ย เหตุใดซาตานจึงครอบงำใจของท่าน จนท่านมุสาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์และเก็บเงินค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้เพื่อตัวท่านเอง?
- กิจการของอัครทูต 5:4 - ก่อนที่จะขายที่ดินนี้เป็นของท่านไม่ใช่หรือ? เมื่อขายแล้วเงินก็อยู่ในอำนาจของท่านไม่ใช่หรือ? อะไรหนอทำให้ท่านคิดทำเช่นนี้? ท่านไม่ได้มุสาต่อมนุษย์แต่มุสาต่อพระเจ้า”
- กิจการของอัครทูต 5:5 - เมื่ออานาเนียได้ยินเช่นนี้ก็ล้มลงสิ้นชีวิต คนทั้งปวงที่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเกรงกลัวยิ่งนัก
- กิจการของอัครทูต 5:6 - แล้วพวกคนหนุ่มจึงออกมาห่อศพเขาและนำออกไปฝัง
- กิจการของอัครทูต 5:7 - หลังจากนั้นราวสามชั่วโมงภรรยาของเขาก็เข้ามาโดยที่ยังไม่ทราบสิ่งที่เกิดขึ้น
- กิจการของอัครทูต 5:8 - เปโตรถามนางว่า “จงบอกเราเถิด ท่านกับอานาเนียขายที่ดินได้เงินเท่านี้หรือ?” นางตอบว่า “ใช่ ได้เท่านี้เจ้าค่ะ”
- กิจการของอัครทูต 5:9 - เปโตรจึงกล่าวกับนางว่า “เหตุใดท่านจึงเห็นพ้องกันที่จะลองดีกับพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้า? ดูเถิด! เท้าของบรรดาผู้ฝังศพสามีของท่านก็อยู่ที่ประตูและพวกเขาจะหามท่านออกไปด้วย”
- กิจการของอัครทูต 5:10 - ทันใดนั้นเองนางก็ล้มลงสิ้นชีพแทบเท้าเปโตร เมื่อเห็นว่านางตายแล้วพวกคนหนุ่มก็เข้ามาหามศพออกไปฝังข้างสามีของนาง
- กิจการของอัครทูต 5:11 - ทั่วทั้งคริสตจักรและคนทั้งปวงที่ได้ยินเหตุการณ์เหล่านี้พากันเกรงกลัวยิ่งนัก
- ลูกา 9:49 - ยอห์นทูลว่า “พระอาจารย์ พวกข้าพระองค์เห็นชายคนหนึ่งขับผีออกในพระนามของพระองค์และพวกเราพยายามห้ามเขา เพราะเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มของเรา”
- ลูกา 9:50 - พระเยซูตรัสว่า “อย่าห้ามเขาเลย เพราะผู้ใดก็ตามที่ไม่ได้ต่อต้านท่าน ก็อยู่ฝ่ายท่าน”
- ลูกา 9:51 - เมื่อใกล้ถึงเวลาที่พระเยซูจะทรงถูกรับขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ทรงตั้งพระทัยที่จะไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
- ลูกา 9:52 - และพระองค์ทรงส่งคนไปล่วงหน้า พวกเขาก็เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรีย เพื่อเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อมสำหรับพระองค์
- ลูกา 9:53 - แต่ผู้คนที่นั่นไม่ต้อนรับพระองค์ เพราะทรงมุ่งหน้าไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
- ลูกา 9:54 - เมื่อยากอบกับยอห์นสาวกของพระองค์เห็นเช่นนี้ก็ทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงต้องการให้พวกข้าพระองค์ขอไฟจากสวรรค์ลงมาทำลายพวกเขาหรือไม่ ?”
- ลูกา 9:55 - แต่พระเยซูทรงหันมาตำหนิพวกเขา
- ลูกา 9:56 - แล้ว พวกเขาพากันไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง ( มธ.8:19-22 )
- 1ทิโมธี 1:20 - ในหมู่คนเหล่านี้ได้แก่ฮีเมเนอัสกับอเล็กซานเดอร์ ซึ่งข้าพเจ้ามอบไว้แก่ซาตานเพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะไม่หมิ่นประมาทพระเจ้า
- มาระโก 9:39 - พระเยซูตรัสว่า “อย่าห้ามเขาเลย ไม่มีใครหรอกที่ทำการอัศจรรย์ในนามของเราแล้วครู่ต่อมาก็พูดไม่ดีเกี่ยวกับเรา
- 2โครินธ์ 10:8 - เพราะถึงแม้ว่าเราอวดมากไปสักหน่อยเรื่องสิทธิอำนาจที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เราในการ เสริมสร้างท่านขึ้นมาแทนที่จะฉุดท่านลง ข้าพเจ้าก็ไม่ละอายในข้อนั้น
- สุภาษิต 21:30 - ไม่มีสติปัญญา หรือวิจารณญาณ หรือแผนการใดๆ ที่ต่อต้านพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้
- ฮีบรู 2:3 - แล้วเราจะรอดพ้นไปได้อย่างไรหากเราละเลยความรอดอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้? แรกสุดองค์พระผู้เป็นเจ้าเองทรงประกาศความรอดนี้ และบรรดาผู้ได้ยินจากพระองค์ได้ยืนยันแก่เราทั้งหลาย
- ฮีบรู 2:4 - พระเจ้าเองก็ทรงรับรองด้วยหมายสำคัญ การอัศจรรย์ และปาฏิหาริย์ต่างๆ และของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งโปรดประทานตามพระประสงค์ของพระองค์
- กิจการของอัครทูต 19:11 - พระเจ้าทรงกระทำการอัศจรรย์ที่พิเศษกว่าปกติผ่านทางเปาโล
- กิจการของอัครทูต 19:12 - กระทั่งเมื่อนำผ้าเช็ดหน้ากับผ้ากันเปื้อนที่แตะถูกตัวเขาไปวางบนตัวคนเจ็บป่วย คนเหล่านั้นก็จะหายโรคและวิญญาณชั่วก็ออกไปจากเขา
- กิจการของอัครทูต 19:13 - ชาวยิวบางคนไปตามที่ต่างๆ แล้วขับไล่วิญญาณชั่วโดยพยายามออกพระนามขององค์พระเยซูเจ้าเหนือคนที่ถูกผีสิง พวกเขาจะสั่งว่า “ในพระนามพระเยซูซึ่งเปาโลประกาศ เราสั่งเจ้าให้ออกมา”
- กิจการของอัครทูต 19:14 - บุตรชายเจ็ดคนของเสวาหัวหน้าปุโรหิตชาวยิวก็ทำเช่นนี้
- กิจการของอัครทูต 19:15 - วันหนึ่งวิญญาณชั่วตอบพวกเขาว่า “พระเยซูน่ะข้ารู้จักและข้าก็เคยได้ยินเรื่องเปาโลแต่พวกเจ้าเป็นใครกัน?”
- กิจการของอัครทูต 19:16 - แล้วคนที่มีวิญญาณชั่วสิงก็กระโจนเข้าใส่และเอาชนะพวกเขาทั้งหมด คนนั้นทุบตีพวกเขาจนต้องเผ่นหนีจากบ้านทั้งๆ ที่เปลือยกายและเลือดไหล
- กิจการของอัครทูต 19:17 - เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูชาวยิวและชาวกรีกในเมืองเอเฟซัสพวกเขาทั้งปวงพากันเกรงกลัวจับใจและพระนามขององค์พระเยซูเจ้าก็เป็นที่ยกย่องอย่างสูง