逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ครั้นแล้วซาโลมอนกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวว่า พระองค์จะพำนักอยู่ในเมฆอันมืดทึบ
- 新标点和合本 - 那时,所罗门说: “耶和华曾说他必住在幽暗之处。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 那时,所罗门说: “耶和华曾说要住在幽暗之处。
- 和合本2010(神版-简体) - 那时,所罗门说: “耶和华曾说要住在幽暗之处。
- 当代译本 - 那时,所罗门说: “耶和华啊, 你曾说你要住在密云中,
- 圣经新译本 - 那时所罗门说: “耶和华曾说他要住在幽暗之中。
- 中文标准译本 - 那时所罗门说: “耶和华曾说要居于幽暗之中,
- 现代标点和合本 - 那时所罗门说: “耶和华曾说他必住在幽暗之处。
- 和合本(拼音版) - 那时,所罗门说: “耶和华曾说他必住在幽暗之处,
- New International Version - Then Solomon said, “The Lord has said that he would dwell in a dark cloud;
- New International Reader's Version - Then Solomon said, “Lord, you have said you would live in a dark cloud.
- English Standard Version - Then Solomon said, “The Lord has said that he would dwell in thick darkness.
- New Living Translation - Then Solomon prayed, “O Lord, you have said that you would live in a thick cloud of darkness.
- The Message - Then Solomon said, God said he would dwell in a cloud, But I’ve built a temple most splendid, A place for you to live in forever.
- Christian Standard Bible - Then Solomon said: The Lord said he would dwell in total darkness,
- New American Standard Bible - Then Solomon said, “The Lord has said that He would dwell in the thick darkness.
- New King James Version - Then Solomon spoke: “The Lord said He would dwell in the dark cloud.
- Amplified Bible - Then Solomon said, “The Lord has said that He would dwell in the thick cloud.
- American Standard Version - Then spake Solomon, Jehovah hath said that he would dwell in the thick darkness.
- King James Version - Then said Solomon, The Lord hath said that he would dwell in the thick darkness.
- New English Translation - Then Solomon said, “The Lord has said that he lives in thick darkness.
- World English Bible - Then Solomon said, “Yahweh has said that he would dwell in the thick darkness.
- 新標點和合本 - 那時,所羅門說: 耶和華曾說他必住在幽暗之處。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 那時,所羅門說: 「耶和華曾說要住在幽暗之處。
- 和合本2010(神版-繁體) - 那時,所羅門說: 「耶和華曾說要住在幽暗之處。
- 當代譯本 - 那時,所羅門說: 「耶和華啊, 你曾說你要住在密雲中,
- 聖經新譯本 - 那時所羅門說: “耶和華曾說他要住在幽暗之中。
- 呂振中譯本 - 那時 所羅門 說: 『永恆主曾經說過他要居於暗霧之中。
- 中文標準譯本 - 那時所羅門說: 「耶和華曾說要居於幽暗之中,
- 現代標點和合本 - 那時所羅門說: 「耶和華曾說他必住在幽暗之處。
- 文理和合譯本 - 維時、所羅門曰、耶和華曾云、必居於幽深之處、
- 文理委辦譯本 - 所羅門曰、耶和華曾云、必居於幽深玄遠。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 維時 所羅門 曰、主曾云、必居玄秘之所、
- Nueva Versión Internacional - Entonces Salomón declaró: «Señor, tú has dicho que habitarías en la oscuridad de una nube,
- 현대인의 성경 - 그때 솔로몬이 이렇게 말하였다. “여호와여, 주께서는 캄캄한 구름 가운데 계 시겠다고 말씀하셨습니다.
- Новый Русский Перевод - И Соломон сказал: – Господь сказал, что будет обитать в густом облаке.
- Восточный перевод - И Сулейман сказал: – Вечный сказал, что будет обитать в густом облаке.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - И Сулейман сказал: – Вечный сказал, что будет обитать в густом облаке.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - И Сулаймон сказал: – Вечный сказал, что будет обитать в густом облаке.
- La Bible du Semeur 2015 - Alors Salomon dit : L’Eternel a déclaré qu’il demeurerait dans un lieu obscur.
- リビングバイブル - その時、ソロモンは祈りました。 「主は、暗闇の中に住むと仰せになりました。 そこで私は、あなたのために神殿を建てました。 いつまでもここにお住みいただくためです。」
- Nova Versão Internacional - E Salomão exclamou: “O Senhor disse que habitaria numa nuvem escura!
- Hoffnung für alle - Salomo betete: »Du, Herr, hast gesagt, dass du im Dunkel einer Wolke wohnst.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Vua Sa-lô-môn liền cầu nguyện: “Lạy Chúa, Chúa đã phán rằng: Ngài sẽ ngự trong đám mây đen.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แล้วโซโลมอนตรัสว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ว่าพระองค์จะประทับในเมฆทึบ
交叉引用
- นาฮูม 1:3 - พระผู้เป็นเจ้าไม่โกรธง่ายและมีอานุภาพมาก และพระผู้เป็นเจ้าจะไม่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลไป วิถีทางของพระองค์อยู่ในพายุหมุนและลมพายุ และหมู่เมฆเป็นผงคลีจากเท้าของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:11 - แล้วพวกท่านก็เข้าไปใกล้ ยืนกันอยู่ที่เชิงเขา ขณะนั้นภูเขาลุกเป็นไฟ เปลวเพลิงพลุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในความมืด เมฆทึบ อีกทั้งมีความมืดมน
- เลวีนิติ 16:2 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงบอกอาโรนพี่ของเจ้าว่า อย่าเข้ามาในอภิสุทธิสถานที่อยู่ข้างหลังม่านกั้น ณ เบื้องหน้าฝาหีบแห่งการชดใช้บาปซึ่งอยู่บนหีบพันธสัญญาเวลาใดๆ ตามใจชอบ เขาจะได้ไม่ต้องตาย เพราะเราจะปรากฏอยู่ในเมฆเหนือฝาหีบแห่งการชดใช้บาป
- สดุดี 97:2 - หมู่เมฆและความมืดทึบล้อมโดยรอบพระองค์ ความชอบธรรมและความเป็นธรรมคือรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
- สดุดี 18:8 - ควันพลุ่งจากช่องจมูกของพระองค์ และไฟเผาผลาญออกจากปากของพระองค์ ถ่านลุกโพลงขึ้นเป็นเปลวไฟโชติช่วงจากพระองค์
- สดุดี 18:9 - พระองค์เบิกสวรรค์ลงมา เมฆดำอยู่ใต้เท้าพระองค์
- สดุดี 18:10 - พระองค์ขึ้นนั่งบนตัวเครูบ แล้วโผบิน พระองค์ล่องไปกับสายลมอย่างรวดเร็ว
- สดุดี 18:11 - พระองค์ใช้ความมืดกำบังดั่งปะรำปกโดยรอบพระองค์ เมฆฝนดำทะมึนในท้องฟ้า
- อพยพ 24:15 - โมเสสขึ้นภูเขาไป มีเมฆปกคลุมภูเขา
- อพยพ 24:16 - พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าสถิตบนภูเขาซีนาย เมฆปกคลุมภูเขาอยู่ 6 วัน พอวันที่เจ็ดพระองค์เรียกโมเสสจากก้อนเมฆ
- อพยพ 24:17 - บัดนี้พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่สายตาประชาชนชาวอิสราเอลดั่งเปลวไฟลุกโพลงที่ยอดภูเขา
- อพยพ 24:18 - โมเสสเดินเข้าไปในก้อนเมฆ ขึ้นเขาไป ท่านอยู่บนภูเขา 40 วัน 40 คืน
- ฮีบรู 12:18 - ท่านไม่ได้มาถึงภูเขาที่จับต้องได้ ซึ่งลุกไหม้เป็นไฟในความมืด อีกทั้งมีความมืดมนและลมพายุ
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:12 - ครั้นแล้วซาโลมอนกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวว่า พระองค์จะพำนักอยู่ในเมฆอันมืดทึบ
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:13 - ข้าพเจ้าได้สร้างพระตำหนักอันงามตระการถวายแด่พระองค์ เพื่อเป็นสถานที่ให้พระองค์พำนักตลอดไป”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:14 - แล้วกษัตริย์ก็หันมายังที่ประชุมของอิสราเอลซึ่งกำลังยืนอยู่ และให้พรแก่พวกเขา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:15 - ท่านกล่าวว่า “สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์ได้กระทำตามสัญญาด้วยวาจาที่ได้ให้แก่ดาวิดบิดาของเราด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ พระองค์กล่าวว่า
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:16 - ‘นับตั้งแต่วันที่เรานำอิสราเอลชนชาติของเราออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราไม่ได้เลือกเมืองใดจากเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล เพื่อสร้างตำหนักให้เป็นที่ยกย่องนามของเรา แต่เราเลือกดาวิดมาเป็นผู้ปกครองอิสราเอลชนชาติของเรา’
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:17 - ดาวิดบิดาของเราตั้งใจจะสร้างพระตำหนักเพื่อยกย่องพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:18 - แต่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับดาวิดบิดาของเราว่า ‘เพราะว่าเจ้าตั้งใจจะสร้างตำหนักเพื่อยกย่องนามของเรา ความตั้งใจของเจ้านั้นดี
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:19 - อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เจ้าที่จะเป็นผู้สร้างตำหนัก แต่บุตรของเจ้าที่จะเกิดแก่เจ้า จะเป็นผู้สร้างตำหนักเพื่อยกย่องนามของเรา’
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:20 - บัดนี้พระผู้เป็นเจ้าก็ได้กระทำตามสัญญา เพราะว่าเราได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งของดาวิดบิดาของเรา และนั่งครองบัลลังก์ของอิสราเอล อย่างที่พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้ และเราได้สร้างพระตำหนักเพื่อยกย่องพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:21 - และเราได้จัดที่ไว้ในนั้นสำหรับหีบพันธสัญญาซึ่งมีแผ่นพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์ทำไว้กับบิดาทั้งหลายของพวกเรา เมื่อครั้งที่พระองค์นำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:22 - ครั้นแล้วซาโลมอนก็ยืน ณ เบื้องหน้าแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าที่ประชุมของอิสราเอล และยกมือขึ้นสู่สวรรค์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:23 - และกล่าวว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เหมือนพระองค์ ทั้งในสวรรค์เบื้องบนหรือในโลกเบื้องล่าง พระองค์รักษาพันธสัญญา และแสดงความรักอันมั่นคงต่อบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ที่ดำเนินชีวิตในวิถีทางของพระองค์ด้วยใจจริง
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:24 - พระองค์ได้รักษาสัญญากับดาวิดบิดาของข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ได้สัญญาด้วยวาจาของพระองค์ และกระทำตามสัญญาด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ในวันนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:25 - ฉะนั้น บัดนี้ โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล โปรดรักษาสัญญาที่พระองค์ได้ให้แก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ บิดาของข้าพเจ้า ดังคำของพระองค์ที่ว่า ‘เจ้าจะไม่ขาดคนที่จะนั่งครองบัลลังก์ของอิสราเอล ณ เบื้องหน้าเรา หากบรรดาบุตรของเจ้าใส่ใจในวิถีทางของเขา ให้ดำเนินชีวิต ณ เบื้องหน้าเรา เหมือนกับที่เจ้าได้กระทำมา’
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:26 - ฉะนั้น โอ พระเจ้าของอิสราเอล ขอพระองค์ยืนยันคำที่พระองค์ได้กล่าวกับดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้เป็นบิดาของข้าพเจ้าด้วยเถิด
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:27 - แต่พระเจ้าจะพำนักอยู่ในโลกหรือ ดูเถิด สวรรค์เบื้องบนและฟ้าสวรรค์ที่อยู่เกินเอื้อมยังจำกัดพระองค์ไม่ได้ แล้วพระตำหนักที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้นมาหลังนี้จะเล็กน้อยกว่านั้นเพียงไร
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:28 - แต่กระนั้นพระองค์ยังสนใจคำอธิษฐานและคำวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ขอโปรดฟังเสียงร้องและคำอธิษฐานที่ผู้รับใช้ของพระองค์อธิษฐาน ณ เบื้องหน้าพระองค์ในวันนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:29 - ขอพระองค์เฝ้าดูพระตำหนักหลังนี้ตลอดทั้งวันและคืนเถิด นี่เป็นสถานที่ซึ่งพระองค์กล่าวถึงว่า ‘นามของเราจะเป็นที่ยกย่องที่นั่น’ ขอพระองค์ฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ เวลาที่เราหันหน้าอธิษฐานมาทางสถานที่แห่งนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:30 - และขอพระองค์ฟังคำขอร้องของผู้รับใช้ของพระองค์ และของอิสราเอลชนชาติของพระองค์เมื่อเขาหันหน้าอธิษฐานมาทางสถานที่แห่งนี้ และเมื่อพระองค์ได้ยินในสวรรค์ซึ่งเป็นที่พระองค์พำนัก ก็โปรดให้อภัยด้วยเถิด
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:31 - ถ้าหากว่าผู้ใดกระทำบาปต่อเพื่อนบ้านของตน และต้องให้คำสาบาน เวลาที่เขามาและสาบาน ณ เบื้องหน้าแท่นบูชาในพระตำหนักนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:32 - ก็ขอพระองค์ได้ยินในสวรรค์ ขอโปรดตอบและพิพากษาบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ลงโทษผู้ที่ทำผิดตามความผิดของเขา และโปรดช่วยให้ผู้บริสุทธิ์พิสูจน์ได้ว่าเขาไม่มีความผิด และพ้นข้อหาตามความบริสุทธิ์ของเขา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:33 - เวลาที่อิสราเอลชนชาติของพระองค์พ่ายแพ้ศัตรู เพราะพวกเขากระทำบาปต่อพระองค์ และหันกลับมาหาพระองค์ และยอมรับพระนามของพระองค์ เขาจะอธิษฐานและวิงวอนต่อพระองค์ในพระตำหนักนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:34 - ก็ขอพระองค์โปรดฟังจากสวรรค์ และให้อภัยบาปของอิสราเอลชนชาติของพระองค์ และนำพวกเขามายังแผ่นดินซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่บรรพบุรุษของพวกเขาอีก
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:35 - เมื่อฟ้าสวรรค์ปิดและไม่เอื้อฝนเนื่องจากพวกเขาได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าหากว่าพวกเขาอธิษฐานโดยหันมาทางสถานที่นี้ และยอมรับพระนามของพระองค์ และหยุดกระทำบาป หลังจากที่พระองค์ให้พวกเขารับทุกข์ทรมาน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:36 - ก็ขอพระองค์โปรดฟังจากสวรรค์ และให้อภัยบาปของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คืออิสราเอลชนชาติของพระองค์ เมื่อพระองค์สอนในวิถีทางที่ดีซึ่งพวกเขาควรดำเนิน แล้วพระองค์โปรดให้ฝนโปรยลงบนแผ่นดินซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ชนชาติของพระองค์เป็นมรดก
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:37 - ถ้าหากว่าเกิดทุพภิกขภัยในแผ่นดิน หรือเกิดภัยพิบัติ ลมร้อนแห้ง หรือเชื้อรา ตั๊กแตน หรือตัวบุ้ง ถ้าหากว่าศัตรูใช้กำลังล้อมพวกเขาในแผ่นดิน ที่ตามประตูเมือง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติหรือการเจ็บไข้ได้ป่วยใดๆ ก็ตาม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:38 - ถ้าหากว่าผู้ใดหรืออิสราเอลชนชาติของพระองค์อธิษฐานหรือวิงวอนในเรื่องใดก็ตาม เมื่อแต่ละคนทราบความทุกข์ใจของตน และเขาเหยียดมือออกมาทางพระตำหนักนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:39 - ก็ขอพระองค์ฟังจากสวรรค์ซึ่งเป็นที่พำนักของพระองค์ และโปรดให้อภัย และตอบสนอง และกระทำต่อพวกเขาตามความประพฤติของแต่ละคน (เพราะว่าพระองค์ผู้เดียว พระองค์ทราบถึงจิตใจของมนุษย์ทั้งปวง)
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:40 - เพื่อพวกเขาจะเกรงกลัวพระองค์ ตลอดเวลาที่พวกเขาอาศัยอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระองค์มอบให้แก่บรรพบุรุษของพวกเรา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:41 - ในทำนองเดียวกัน เมื่อชาวต่างแดนซึ่งไม่ใช่อิสราเอลชนชาติของพระองค์มาจากดินแดนแสนไกล เพราะพระนามของพระองค์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:42 - (เพราะเขาจะได้ยินถึงพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ อานุภาพและพลานุภาพของพระองค์ และสิ่งที่พระองค์กระทำ) เมื่อเขามาและอธิษฐานมาทางพระตำหนักนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:43 - ขอพระองค์ฟังจากสวรรค์ซึ่งเป็นที่พำนักของพระองค์ และโปรดทำตามที่ชาวต่างแดนทั้งปวงร้องขอต่อพระองค์ เพื่อชนชาติทั้งปวงบนโลกจะได้รู้จักพระนามของพระองค์ และเกรงกลัวพระองค์ อย่างที่อิสราเอลชนชาติของพระองค์รู้จัก และพวกเขาจะทราบว่าพระตำหนักที่ข้าพเจ้าสร้างหลังนี้ได้รับเรียกว่าเป็นของพระองค์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:44 - ถ้าหากว่าชนชาติของพระองค์ออกศึกสู้กับศัตรู ไม่ว่าที่ใดก็ตาม และพวกเขาอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า โดยหันมาทางเมืองที่พระองค์ได้เลือก และพระตำหนักที่ข้าพเจ้าได้สร้างเพื่อพระนามของพระองค์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:45 - ก็ขอพระองค์ฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนของพวกเขาในสวรรค์ และช่วยเหลือพวกเขา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:46 - ถ้าหากว่าพวกเขาทำบาปต่อพระองค์ เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใดที่ไม่ทำบาป พระองค์จะโกรธกริ้วพวกเขา และให้ศัตรูจับตัวพวกเขาไปเป็นเชลยในดินแดนของศัตรูที่อยู่ไกลหรือใกล้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:47 - แต่ถ้าพวกเขามีใจสำนึกได้เมื่ออยู่ในดินแดนที่ตนถูกจับไปเป็นเชลย โดยการกลับใจและขอร้องพระองค์จากดินแดนนั้น กล่าวว่า ‘พวกเราได้กระทำบาป ประพฤติผิด และกระทำตัวเลวทราม’
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:48 - ถ้าหากว่าพวกเขากลับใจอย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิต ในดินแดนของศัตรูที่จับพวกเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์โดยหันมาทางแผ่นดินของพวกเขา ซึ่งพระองค์มอบให้แก่บรรพบุรุษ เมืองที่พระองค์ได้เลือก และพระตำหนักที่ข้าพเจ้าสร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:49 - ก็ขอพระองค์โปรดฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนในสวรรค์ซึ่งเป็นที่พำนักของพระองค์ และช่วยเหลือพวกเขา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:50 - และให้อภัยชนชาติของพระองค์ ที่ได้ทำบาปต่อพระองค์ และละเมิดกฎในทุกข้อซึ่งขัดต่อพระองค์ โปรดเมตตาพวกเขาต่อหน้าศัตรูที่จับไปเป็นเชลย เพื่อศัตรูจะได้เมตตาพวกเขาด้วย
- อพยพ 20:21 - ประชาชนยืนอยู่ห่างๆ ในขณะที่โมเสสเดินเข้าไปใกล้ความมืดมิดที่พระเจ้าสถิต